bc

จับเจ้ามาเป็นฮูหยิน

book_age4+
419
FOLLOW
2.5K
READ
reincarnation/transmigration
HE
time-travel
brave
royalty/noble
billionairess
bxg
lighthearted
addiction
like
intro-logo
Blurb

ตงฟางลี่หยาง แม่ทัพหนุ่มแห่งแคว้นเทียนหยวน

หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความด้านชาและเต็มไปด้วยความแค้น

ที่ฝังแน่นอยู่ภายในใจที่รอวันชำระแค้นกับอดีตสหายเก่า

หากแต่หัวใจที่เต็มไปด้วยความด้านชา

กลับปรากฏหมอหญิงจากสกุลหลิง

ผู้มาจากยุคปัจจุบัน ผุดขึ้นอยู่ภายในหัวใจ

หยกบุบผานำเธอให้มาพบกับแม่ทัพจอมโหด

และหลิงลี่ย่านางคือสตรีที่แม่ทัพหนุ่มต้องตามจับเธอ !!!

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 บทนำ 1.1
คริสต์ศักราช 2018 เที่ยวบินปักกิ่ง-ตุนหวง เมืองตุนหวงตั้งอยู่ในเขตมณฑลกานซู่ ซึ่งอยู่แถบทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน บริเวณนี้มีการตั้งหลักปักฐานมาตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์ฮั่น และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาประมาณ 2,000 ปี เดิมถูกเรียกว่าเมืองสีทอง เป็นทางผ่านที่สำคัญของเส้นทางสายไหมในยุคโบราณ และถูกป้องกันการรุกรานจากชนเผ่านอกด่านด้วยกำแพงเมืองจีน เขตตุนหวงอยู่ใกล้กับทะเลทรายดังนั้นสภาพอากาศในเวลากลางวันจึงร้อนระอุ หากแต่ในเวลากลางคืนจะหนาวจัดและจะมีหิมะตกในทะเลทรายเมื่อถึงฤดูหนาว ภายในบริเวณแผ่นดินสีทองเหลืองอร่าม กินเนื้อที่เป็นอาณาบริเวณอย่างกว้างขวาง มองไปแห่งหนใดเห็นแต่เม็ดทรายร้อนระอุไกลจนสุดฟากฟ้าและสุดเอื้อมสายตาเลยทีเดียว แผ่นดินแห้งแล้ง ร้อนระอุเต็มไปด้วยความร้อนที่แผดเผากลางทะเลทราย และภายใต้ความแห้งแล้งของแผ่นดินสีทองดังกล่าว ใจกลางทะเลทรายมีทะเลสาบพระจันทร์ซึ่งมีรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยวปรากฏอยู่ และอยู่มานานนับหลายพันปี ในอดีตกาลทะเลสาบดังกล่าวถูกผู้คนในยุคสมัยโบราณเรียกว่าบึงพระจันทร์ ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวมีชื่อภาษจีนว่า เย่ว์หยาเฉวียน ตั้งอยู่ณ.เมืองตุนหวง มณฑลกานซู บริเวณทางภาคตะวันตกของจีน ลักษณะของทะเลสาบมีรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว ถูกล้อมรอบด้วยเนินทราย และอีกหนึ่งความน่าสนใจของสถานที่แห่งนี้นั่นก็คือ ปรากฎการณ์พิเศษของทิศทางกระแสลม ซึ่งจะไม่พัดลงล่าง กลับพัดขึ้นบนเสมอ ทรายจึงไม่ทับถมแหล่งน้ำ ตามหลักทฤษฎีกลศาสตร์อากาศ ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวจึงไม่ถูกกลืนหายไป ท่ามกลางเนินทรายสูงประหนึ่งขุนเขาสูง เมืองตุนหวง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกานซู ทางภาคตะวันตกของจีน เป็นเมืองวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของจีน ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมและยังเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญจากจีนไปยังเขตซีอวี้ เอเชียกลางและยุโรป และเคยเป็นชุมทางการค้าที่เจริญรุ่งเรืองในอดีต ตุนหวง ในฐานะเป็นมรดกวัฒนธรรมที่ล้ำค่าแห่งหนึ่งในโลกของจีน ไม่เพียงแต่เป็นจุดแวะพักสำคัญแห่งหนึ่งบนเส้นทางสายไหม ยังเป็นแหล่งบรรจบที่มีความสำคัญของอารยธรรมจีนกับอารยธรรมตะวันตก ตุนหวงลือชื่อในด้านถ้ำหินตุนหวงกับงานจิตรกรรมผนังถ้ำตุนหวง ซึ่งเป็นที่ตั้งของมรดกโลก เช่น ถ้ำมั่วเกาคู ด่านอวี้เหมินกวน และด่านหยังกวนของกำแพงเมืองจีนในสมัยราชวงศ์ฮั่น แม้ว่าจะมีดินแดนที่ติดทะเลทรายก็ตามแต่ท่ามกลางเนินทรายสูงและอากาศที่ร้อนระอุ กลับมีสถานที่ท่องเที่ยวเกิดขึ้นมากมายอยู่ภายในเขตเมืองตุนหวง นอกจากทะเลสาบพระจันทร์แล้วยังมี ถ้ำมั่วเกา ซึ่งได้ถูกสร้างขึ้นในสมัย “เฉียนฉินแห่งสิบหกประเทศ” ราวๆ ค.ศ.300-400 และได้ผ่านมาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุค 16 ประเทศ (ช่วงสามก๊กตอนปลาย) , เป่ยเฉา, สุ่ย, ถัง, ห้าราชวงศ์, ซีเซี่ย, หยวน (มองโกล) ได้มีการก่อสร้าง และทำนุบำรุง มาไม่อย่างหยุดหย่อนทำให้ขนาดของสถานที่นี้มีขนาดใหญ่มาก ปัจจุบันมีถ้ำอยู่ถึง 492 แห่งและมีภาพฝาผนัง 45000 ตารางเมตร รูปปั้นดินลงสี 2415 องค์ ถือเป็นสถานที่เก็บวัตถุโบราณล้ำค่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเนินทรายหมิงซาซาน เทือกเขาทะเลทรายที่มีความยาวจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก 40 กิโลเมตร จากทิศเหนือไปทิศใต้ 20 กิโลเมตร ยอดเขามีความสูงประมาณ 100 เมตร ทรายมีสีสันต่างกัน 5 สี คือ สีแดง เหลือง เขียว ขาว ดำ ที่มาของภูเขาหมิงซาซานแปลว่าภูเขาทรายร้องไห้ ตามตำนานเล่าว่าเคยมีกองทัพ 2 กองทัพกำลังสู้รบกันอยู่และในขณะนั้นได้เกิดพายุทรายพัดกระหน่ำ จึงทำให้ทั้ง 2 กองทัพถูกฝังทั้งเป็นภายใต้กองทราย ปัจจุบันภูเขาหมิงซาซานเป็นจุดท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองตุนหวง สามารถขี่อูฐชมทะเลทรายที่กว้างใหญ่ เดินตามกันเป็นทิวแถวไปตามสันทรายที่โค้งไปมา ภูเขาทรายดูเป็นประกายเมื่อต้องแสงอาทิตย์ตัดกับฟ้าสวยสีครามใสจนทำให้ประทับใจไม่รู้ลืมเลยทีเดียว ว้าว! เสียงอุทานดังออกมาจากร่างของหญิงสาวใบหน้าสวยคม ดวงตาหวานซึ้งเมื่อเธออ่านรายละเอียดผ่านทางหน้าจอมือถือเกี่ยวกับความเป็นมาของเมืองที่เป็นจุดหมายปลายทางของการเดินทางมาในครั้งนี้ของเธอ “ไม่น่าเชื่อเลยว่าตุนหวงจะมีสถานที่เที่ยวไม่แพ้เมืองอื่นๆ เลย ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองที่อยู่ติดกับทะเลทรายแต่กลับมีสถานที่เที่ยวแปลกตาและไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ในสถานที่ทั้งแห้งและร้อนแทบบ้าแบบนั้น ว่าแต่พี่สามอยู่ในเมืองนี้ได้มาตั้งนานสองนาน มันก็จะต้องมีอะไรพิเศษอย่างแน่นอนเพราะคนอย่างพี่สามไม่มีทางลงที่จะทุนอะไรและต้องพบกับการขาดทุนเป็นแน่”หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ภายในใจ มือเรียวทัชหน้าจอปิดการทำงานของมือถือ ก่อนจะเริ่มสังเกตเห็นว่าเบาะนั่งที่อยู่ติดกับเธอฝั่งทางเดินนั้นกลับว่างเปล่า ไม่มีผู้โดยสารมานั่งประจำแต่อย่างใด “ที่นั่งติดกับเราว่างอย่างนั้นเหรอ แต่ตอนเรากำลังซื้อตั๋วเครื่องบินเจ้าหน้าที่บอกว่าที่นั่งเบาะนี้มีคนซื้อที่นั่งตรงนี้ไปแล้วไม่ใช่เหรอ”หญิงสาวพึมพำอย่างสงสัย ก่อนจะเหลือบสายตาเห็นร่างอรชรอ้อนแอ่นของพนักงานต้อนรับบนเที่ยวบินกำลังเดินตรงมาที่หญิงสาว ราวกับล่วงรู้ว่าลี่ย่ากำลังขอความช่วยเหลือ “คุณผู้หญิงมีอะไรให้ช่วยไหมคะ”พนักงานคนดังกล่าวเอ่ยถามทันทีที่เดินมาถึง “แหม...เหมือนมีญาณวิเศษเลยว่าเรากำลังจะถามอะไรพอดีเลย”หญิงสาวรำพึงในใจก่อนจะเอ่ยขึ้น “ที่นั่งตรงเบาะนี้คนที่ซื้อตั๋วตกลงไม่มานั่งแล้วเหรอคะ”หญิงสาวถามด้วยความอยากรู้ พนักงานต้อนรับคนดังกล่าวระบายยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะเอ่ยตอบกลับมา “ที่นั่งตรงนี้ไม่มีคนนั่งแล้วค่ะ เลื่อนตั๋วการเดินทางไปเป็นพรุ่งนี้แทน ก็เลยทำให้ที่นั่งตรงนี้ว่างลง” อ่อ...เสียงที่บ่งบอกว่าเข้าใจถึงสาเหตุดังกล่าวนั้นยาวออกมาในลักษณะยานคางก่อนจะเอ่ยขึ้น “ขอบคุณมากนะคะ ถ้าเช่นนั้นเบาะนั่งว่างแบบนี้จะได้วางของใช้ส่วนตัวที่นำติดตัวมาได้ ไม่ต้องเอาไปเก็บไว้ด้านบน”หญิงสาวบอกกลับไป “ตามสบายเลยค่ะ คุณผู้หญิงต้องการให้นำสัมภาระจากช่องเก็บด้านบนมาวางไว้บนเบาะเลยไหมคะ”พนักงานคนดังกล่าวพูดพลางส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “ต้องการอย่างมากเลยค่ะ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ”หญิงสาวกล่าวขอบคุณด้วยความดีใจพร้อมยกสองมือรับสัมภาระของเธอจากพนักงานต้อนรับ นำมาวางไว้บนเบาะนั่งก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ขอบคุณนะคะที่ช่วย”เธอกล่าวขอบคุณกลับไปพร้อมร่างสูงโปร่งของพนักงานต้อนรับก้าวเดินต่อไปเพื่อคอยดูแลผู้โดยสารคนอื่นๆ หลังจากช่วยเหลือหญิงสาวเป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางรอยยิ้มแย้มเยือนของหญิงสาว เริ่มทยอยนำกระเป๋าเป้และกระเป๋าใส่โน๊ตบุ้คนำมาจัดเรียงวางไว้บนเบาะนั่งให้เรียบร้อยก่อนจะเหลือบสายตาไปเห็นสร้อยหยกสีขาวที่ห้อยคล้องติดอยู่กับตะขอซิปกระเป๋าใส่โน๊ตบุ้คปรากฏอยู่ตรงหน้าหญิงสาวอยู่ในเวลานี้ “เฮ้ย! สร้อยหยกสีขาวของใครกันเนี่ย...ทำไมมาห้อยอยู่ในกระเป๋าใส่โน๊ตบุ้คของเราได้อย่างไง”เธอพูดพลางยกมือเกาศีรษะของตัวเอง ก่อนจะเอื้อมมือปลดสร้อยหยกที่ห้อยอยู่กับกระเป๋าใส่โน๊ตบุ้คพร้อมนำขึ้นมาสำรวจตรวจตราอย่างละเอียดถี่ถ้วน “ตัวสร้อยก็เป็นหยกสีขาวแผ่นหยกก็สีขาว รูปร่างแบบนี้น่าจะเป็นเพราะหยกถูกแบ่งออกเป็นสองชิ้นเสียมากกว่าแตกหักเอง เพราะว่าส่วนที่ถูกแบ่งออกไปนั้นเรียบเนียนเสมอกันทักส่วนเลย น่าจะถูกแบ่งออกจากกันด้วยความตั้งใจให้เป็นสองชิ้นเสียมากกว่า ว่าแต่ตัวอักษรที่แกะอยู่บนหยกอ่านไม่ออกเลยแฮะ ดูคล้ายตัวอักษรโบราณ”หญิงสาวพูดพลางจับจ้องแผ่นหยกที่มีเพียงครึ่งซีกอยู่บนมือพร้อมกับภาพบางอย่างจู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาให้เห็น พรึบ! ภาพเบื้องหน้าคือท้องทะเลทรายอันเวิ้งว้างจนสุดลูกหูลูกตาปรากฏออกมาให้เห็น ก่อนจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นเมืองโบราณที่ไหนสักแห่ง ซึ่งลี่ย่าเองก็ไม่อาจรู้ได้ แต่ภาพที่เห็นอยู่ในเวลานี้เต็มไปด้วยกลุ่มควันขาวและเปลวเพลิงสีส้มแสด และบริเวณพื้นดินปรากฏศพมากมายทั้งชาย หญิง คนชราและไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กทารกนอนตายเกลื่อนเมือง พรึบ! ภาพดังกล่าวดับวูบลงไปโดยพลันพร้อมเสียงบ่นพึมพำดังลอดออกมาเบาๆ

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ขังรัก

read
17.7K
bc

Passionate Love รักสุดใจนายขี้อ่อย 20+

read
31.8K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
14.2K
bc

เมียลับอุ้มรัก

read
77.8K
bc

หัวใจซ่อนรัก(เฮียเดย์)

read
29.4K
bc

รอยแค้นแห่งรัก

read
52.4K
bc

My Sister น้องสาว... ที่รัก

read
6.6K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook