ตอนที่ 10 หยกบุบผา1.1

1847 Words
วันรุ่งขึ้น ภายในห้องผู้จัดการโรงแรม พรึบ!!!! ประตูห้องผู้จัดการถูกเปิดออกกว้าง พร้อมกับร่างสมส่วนของหญิงสาวใบหน้าคมเฉี่ยวแฝงความเซ็กซี่ร้ายกาจ ก้าวเดินเข้ามาภายในห้องทำงาน ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าเธอกำลังใกล้ตายอยู่ในเวลานี้ “โอ้ยยย! อากาศทำไมถึงได้ร้อนอะไรแบบนี้นะ ออกไปข้างนอกแป๋บเดียวตัวแทบจะไหม้อยู่แล้ว”เธอบ่นไม่รู้วาย “น้องห้า! น้องห้า!”เสียงของพี่ชายร้องเรียกเอ็ดอึงอยู่ด้านนอก “หนูอยู่ในห้องนี้พี่สาม!!!”หญิงสาวเปิดประตูห้องพร้อมตะโกนบอกคนเป็นพี่ไล่หลัง ร่างสูงโปร่งของหลิงฉางอี้หันกลับมามองทันที ครั้นได้ยินเสียงของน้องสาวก่อนจะรีบเดินตรงดิ่งเข้าไปหา ด้วยสีหน้าที่มองแล้วไม่รู้ว่าตื่นตกใจหรือตื่นเต้นกันแน่ จนทำให้หลิงลี่ย่าต้องเอ่ยถามสวนกลับไป “พี่สามเป็นอะไร ทำไมหน้าตาตื่นแบบนั้น มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นเหรอ...หรือว่าพี่สะใภ้จะคลอดแล้ว”หญิงสาวถามกลับไปรัวเป็นปืนกลเลยทีเดียว ก่อนจะเห็นฉางอี้พยักหน้าขึ้นลงติดต่อกันเป็นการยอมรับ “จู่ๆ ก็มีอาการเจ็บท้องตอนตีห้า แรกๆ ก็นึกว่าเจ็บเตือนแต่ตอนนี้น้ำคร่ำแตกแล้ว พี่ต้องจะรีบพาไปโรงพยาบาลด่วนเลย แต่วันนี้พี่มีงานสำคัญที่รับเอาไว้และรับเงินมาแล้วบางส่วน เหลือแต่ส่งมอบงานและให้ผู้ว่าจ้างตรวจงาน ลงนามในเอกสารรับมอบงาน หลังจากนั้นเงินงวดสุดท้ายของค่าเงินจำนวนห้าล้านหยวนก็จะอนุมัติโอนเข้าบัญชี”ฉางอี้บอกกลับไปพร้อมเสียงของคนเป็นน้องพูดสวนขึ้นมาทันที “ถ้าพี่สามไว้ใจลี่ย่าหนูขออาสาจะไปดูแลงานแทนพี่สามให้เองค่ะ ถึงแม้ว่าหนูจะไม่ถนัดงานบริหารเสียเท่าไรแต่ก็คงไม่เหนือบ่ากว่าแรง”หญิงสาวอาสาโดยไม่เสียเวลาคิด และนั่นทำให้ฉางอี้มองหน้าน้องสาวของเขาอยู่เพียงครู่พร้อมเอ่ยขึ้น “ขอบใจมากน้องห้าที่จะไปทำงานแทนพี่ ถ้าเช่นนั้นพี่จะบอกรายละเอียดของงานที่จะต้องไปทำแทน และอีกอย่างงานนี้ต้องไปนอนค้างกลางทะเลทรายสองคืน”สิ้นเสียงของฉางอี้ หา!!!! หลิงลี่ย่าอุทานออกมาจนสุดเสียงครั้นได้ยินพี่ชายบอกกลับมาเช่นนั้น “งานของพี่ต้องไปค้างในทะเลทรายด้วยเหรอ หนูนึกว่างานอยู่ในตุนหวงเสียอีก โอโห่! งานนี้ต้องไหม้เกรียมเป็นขนมปังปิ้งแน่ๆ เลย ทำไมจะต้องอุตริสร้างอะไรก็ไม่รู้กลางทะเลทรายแบบนั้นด้วยนะ ร้อนจะตายชัก”หญิงสาวบ่นขึ้นมาทันใด “มันหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกน้องห้า เพราะทะเลสาบพระจันทร์ที่อยู่กลางทะเลทรายมีชื่อเสียงมาก ใครๆ ก็อยากมาเที่ยวชมทั้งนั้น นักท่องเที่ยวมาเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย”ฉางอี้บอกน้องสาวกลับไป และนั่นทำให้คนเป็นน้องตาโตเท่าไข่ห่านขึ้นมาทันใดครั้นได้ยินเช่นนั้น “งานของพี่สามอยู่ที่ทะเลสาบพระจันทร์อย่างนั้นเหรอ โอโห่! ไป! ไป! หนูอยากไปทะเลสาบพระจันทร์พอดีเลยพี่สาม ไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะว่าพี่สามไปรับงานที่ทะเลสาบพระจันทร์ มีคนสร้างโรงแรมติดกับทะเลสาบอย่างนั้นเหรอพี่สาม”ลี่ย่าถามกลับไปด้วยความอยากรู้ “จะมีใครยิ่งใหญ่ไปสร้างโรงแรมติดกับทะเลสาบแบบนั้นได้เล่า ในเมื่อรัฐบาลประกาศเป็นพื้นที่ทำการอนุรักษ์และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศ สิ่งปลูกสร้างที่เกิดขึ้นเป็นของทางการทั้งหมด วิหารเจ้าแม่ ศาลเจ้าพญามังกรหรือแม้กระทั่งหอน้ำพุหยก ล้วนเป็นการก่อสร้างตามนโยบายของทางการทั้งนั้นแหละ มีผู้รับเหมามารับงานเป็นช่วงๆ รับผิดชอบในส่วนงานตามความถนัด งานที่พี่รับผิดชอบคือวิหารเจ้าแม่” อ่อ...ลี่ย่าส่งเสียงงึมงำอยู่ในลำคอว่าเธอเข้าใจกับสิ่งที่พี่ชายกำลังบอก ก่อนจะก้มหน้าก้มตาฟังรายละเอียดของงานที่จะต้องไปทำแทนพี่ชายของเธอ และจะต้องออกเดินทางในวันนี้เพื่อรอส่งมอบงานให้กับตัวแทนของทางการที่จะเดินทางมาตรวจงานในวันพรุ่งนี้ ด้วยเพราะการเดินทางเข้าทะเลทรายไปที่ทะเลสาบนั้นใช่ว่าจะไม่ใช้เวลา ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวหรือเย่ว์หยาเฉวียน (Yueyaquan Crescent Lake) อยู่ห่างจากเมืองตุนหวงไปเพียง 5 กิโลเมตร ในมณฑลกานซู ทางภาคตะวันตกของประเทศจีน การเดินทางไปนั้นต้องนั่งรถขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือ 4WD เข้าไปเท่านั้น ซึ่งจะพบกับทะเลสาบรูปร่างคล้ายพระจันทร์เสี้ยว ถูกล้อมรอบไปด้วยเนินทราย ที่มีความยาว 300 เมตร ความกว้าง 50 เมตร และมีความลึกถึง 5 เมตร ทางทิศใต้เป็นที่ตั้งของวิหารเจ้าแม่ ศาลเจ้าพญามังกร รวมไปถึงหอน้ำพุหยก อีกทั้งบริเวณโดยรอบยังรายล้อมไปด้วยต้นไป๋หลาง ทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวแห่งนี้จะมีปรากฎการณ์พิเศษนั่นก็คือ ทิศทางของกระแสลมที่ไม่เคยพัดลงด้านล่าง แต่กลับพัดขึ้นด้านบนอยู่เสมอตามหลักทฤษฎีกลศาสตร์อากาศ และด้วยเหตุนี้เองทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว จึงไม่เคยถูกเม็ดทรายถมจนหายไป รวมถึงเรื่องน่าอัศจรรย์อีกอย่างก็คือ พื้นที่ราบระหว่างหุบเขานั้น เมื่อมีลมพัดผ่านเนินทรายจะมีปรากฏการณ์เสียง จึงได้ชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หมิงซา”หรือ“ทรายร้อง”นั่นเอง ความลึกสุดของทะเลสาบที่ถูกวัดได้คือ 7.5 เมตร เมื่อปี 1960 แต่หลังจากผ่านไปนานกว่า 40 ปี น้ำกลับตื้นเขินขึ้นเรื่อยๆ จนลึกเพียง 0.9 เมตร ในปี 2006 ทางการจีนจึงเริ่มเข้ามาช่วยเหลือในการฟื้นฟูสภาพทะเลสาบให้ดีดังเดิมและส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และในเวลานี้รถขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งเดินทางมาจากโรงแรมตุนหวง บูทิคโฮเทล ได้เดินทางมาถึงทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในขณะที่เบื้องหน้าสิ่งปลูกสร้างตามนโยบายของรัฐบาลได้เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย ระบบน้ำและระบบไฟ ซึ่งใช้พลังงานแสงอาทิตย์นำมาผลิตทำให้เห็นสายน้ำพวยพุ่งออกมาอย่างอัตโนมัติเพื่อรดน้ำ บรรดาไม้ยืนต้นและไม้ดอกตลอดจนพืชสีเขียวมากมายที่นำมาปลูกภายในทะเลสาบพระจันทร์ “ว้าว! นี่นะเหรอทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยว...สวยจังเลย กลางวันร้อนระอุแบบนี้ยังสวยขนาดนี้ กลางคืนจะสวยขนาดไหนเนี่ย ว่าแต่ไหนละที่พัก...เราจะต้องพักค้างคืนในทะเลทรายตั้งสองคืน แล้วจะไปพักตรงไหน”หลิงลี่ย่าพูดพลางยกมือขึ้นคลึงแผ่นหยกที่สวมติดคออยู่ในเวลานั้นไปมา ก่อนจะเอ่ยถามผู้ช่วยของพี่ชายเธอที่กำลังสาละวนยกอุปกรณ์มากมายออกมาจากตัวรถอยู่ในเวลานั้น “พี่ผู้ช่วยค่ะตกลงคืนนี้เราจะต้องนอนค้างคืนตรงไหนอย่างนั้นเหรอ หรือว่าไปนอนค้างในวิหารเจ้าแม่ที่บริษัทสร้างเสร็จแล้วและจะทำการส่งมอบให้กับทางรัฐบาล”หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ ท่ามกลางเสียงหัวเราะเบาๆ อยู่ในลำคอ “ไม่ใช่หรอกครับคุณลี่ย่า พวกเราทำแบบนั้นไม่ได้เลย สิ่งเดียวที่สามารถใช้ได้คือห้องน้ำภายในวิหารเท่านั้น และที่ถามว่าจะนอนค้างที่ไหน คำตอบก็คือนอนค้างคืนกันในรถนี่แหละครับ เพราะว่ารถคันนี้เป็นรถแคมป์ปิ้งใช้สำหรับการเดินทางที่มีอุปกรณ์ในการนอนค้างคืนได้ทุกสถานที่ ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าตัวรถจะใหญ่กว่ารถขับเคลื่อนสี่ล้อทั่วไป ผมกับเจ้านายนอนค้างคืนกลางทะเลทรายแบบนี้บ่อยครับ เวลามาควบคุมดูแลงานการก่อสร้าง” คำตอบดังกล่าวทำให้หญิงสาวยืนนิ่งงันไปชั่วขณะเลยทีเดียวครั้นได้ยินเช่นนั้น “ป้าดดด!!! ชีวิตของลี่ย่าไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมานอนกลางทะเลทราย แบบผจญภัยตั้งแคมป์เหมือนกองคาราวานไม่มีผิดเพี้ยน แต่จะว่าไปก็ถือว่าได้เปลี่ยนบรรยากาศไปอีกแบบ จากนอนโรงแรมมานอนเล่นชมดาวกลางทะเลทรายแบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ”หญิงสาวพูดพลางดึงพัดลมจิ๋วออกจากกระเป๋าสะพายของเธอ พร้อมกดทำงานให้พัดพาความเย็นขึ้นมาทันใด “คุณลี่ย่ารอผมติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการนอนค้างคืนหน่อยนะครับ ประมาณสองชั่วโมงก็เสร็จแล้ว”ผู้ช่วยของพี่ชายบอกหญิงสาวพร้อมเสียงของหลิงลี่ย่าถามสวนกลับไป “แล้วเราจะอาบน้ำกันอย่างไงคะ ตอนนี้บอกเลยว่าเหนียวตัวไปหมดเลย อากาศก็ร้อนระอุมากด้วยแล้วก็ตอนนี้อยากเข้าห้องน้ำมากเลยคะ”หญิงสาวบอกจุดประสงค์ของเธอ “บริเวณนี้จะมีห้องน้ำเคลื่อนที่สำหรับมีไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว แต่ว่าจะห่างจากทะเลสาบตั้งอยู่ตรงบริเวณทางเข้าเลยครับ แต่คุณลี่ย่าไม่ต้องห่วง พวกเราสามารถใช้ห้องน้ำในวิหารเจ้าแม่ได้ครับ นี่ครับกุญแจสำหรับไขห้องน้ำ ห้องนั้นสามารถอาบน้ำได้เจ้านายทำเอาไว้เป็นพิเศษแยกจากห้องน้ำอื่นๆ เสร็จก่อนห้องแรกเลยเพราะว่าถ้าไม่มีห้องน้ำจะลำบากมากเวลาอยู่กลางทะเลทรายและต้องควบคุมงานไปด้วย เจ้านายจึงลงมือสร้างห้องน้ำก่อนเป็นอันดับแรก”กล่าวพร้อมยื่นกุญแจห้องน้ำให้กับหญิงสาวเพื่อให้เธอไปทำธุระส่วนตัว หลิงลี่ย่ายื่นมือรับกุญแจจากผู้ช่วยของพี่ชายเอาไว้ทันที พร้อมเสียงของเขาเอ่ยขึ้น “ผมขอแนะนำให้คุณลี่ย่า อาบน้ำชำระร่างกายเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยนะครับเพราะอีกไม่นานพระอาทิตย์ก็จะตกดินแล้ว เพราะที่นี่พระอาทิตย์ตกเร็วมาก และอากาศตอนกลางคืนในทะเลทรายจะหนาวจัดมากแตกต่างจากกลางวัน แล้วก็นี่ครับ”กล่าวพร้อมยื่นบางอย่างส่งให้กับหญิงสาว “อะไรเหรอค่ะพี่ผู้ช่วย”ลี่ย่าถามกลับไปอย่างสงสัยระคนแปลกใจ “ผ้าคลุมครับ ป้องกันแสงแดด ฝุ่นทรายและอากาศที่เย็นจัดได้ทุกอย่าง จะเห็นได้ว่าชาวทะเลทรายจะมีผ้าคลุมผืนใหญ่ติดตัวอยู่ตลอดเวลาด้วยเหตุผลนี้แหละครับ” “อ่อ..เป็นแบบนี้นี่เองลี่ย่าเข้าใจแล้วค่ะพี่ผู้ช่วย ขอบคุณมากนะคะ ถ้าเช่นนั้นลี่ย่าจะจัดการให้เสร็จเลยในคราวเดียวกัน แล้วกลับมานอนเอาแรงพักผ่อน”หญิงสาวพูดพลางรีบหยิบกระเป๋าเป้ซึ่งบรรจุเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวของเธอเดินออกจากบริเวณจุดจอดรถมุ่งหน้าไปทะเลสาบพระจันทร์เสี้ยวที่อยู่เบื้องหน้าในขณะนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD