รอยแค้นซ่อนรอยรัก EP. 06 ปัญหาไม่มีทางจบ (2)

1361 Words
กฤษดาสบตาหญิงสาวตรงหน้าอย่างระงับอารมณ์เต็มที่ ชายหนุ่มอยากจะบีบคอหญิงสาวให้ตายไปเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ทำไม่ได้ “ตกลงเธอจะไม่ยอมทำตามที่ฉันบอกใช่ไหม กรธิดา” “ใช่ ฉันก็ยอมมากับคุณแล้วไง จะเอายังไงกับฉันอีก” กรธิดาถามเสียงกร้าวด้วยความโกรธ ยังไม่เคยมีใครกล้าบังคับเธอถึงขนาดนี้เลย แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใคร ถึงขนาดกล้ามาบังคับทำร้ายจิตใจเธอ “ฉันขอยื่นคำขาด เธอจะต้องไปกับคุณพิมเขา ฉันให้เวลาเธอสองชั่วโมง ไม่งั้นฉันเอาเธอตายแน่ เข้าใจไหม” กฤษดาโกรธอย่างลืมตัว เขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนนิสัยแย่เหมือนกรธิดาเลย ชายหนุ่มก้าวไม่ถึงสามก้าวก็ประชิดตัวผู้หญิงที่เขาเห็นว่าดื้อรั้นและนิสัยเสียอย่างร้ายกาจ เขาจับไหล่บางพร้อมกับบีบด้วยความโกรธ กรธิดานิ่วหน้าด้วยความเจ็บเมื่อชายหนุ่มบีบหัวไหล่ ก่อนจะเปลี่ยนความเจ็บเป็นความโกรธ เจ็บจนน้ำตาแทบไหล แต่หญิงสาวก็กลั้นเอาไว้ด้วยความหยิ่งทระนง และเปลี่ยนความอ่อนแอเป็นความโกรธ “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ได้ยินไหม บอกให้ปล่อย นายกฤษดา” กรธิดาตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ เงยหน้าสบตาอีกฝ่ายด้วยความแค้น กฤษดาเห็นแววตาที่หญิงสาวสบตากับเขาแล้ว ชายหนุ่มถึงกับอึ้งและแปลกใจ เขาไม่เคยเห็นแววตาแบบนี้จากผู้หญิงคนนี้เลยสักครั้ง ถึงจะทะเลาะกันมาหลายครั้งแล้วก็ตาม ‘แววตาแบบนี้เขาเคยเห็นที่ไหน แล้วยังสรรพนามที่ยัยเฉิ่มเรียกเขาเมื่อกี้อีก’ ชายหนุ่มพยายามคิดแต่เขาก็นึกไม่ออก แล้วสายตาคมก็ก้มลงมองมือของตัวเองที่บีบหัวไหล่อีกฝ่ายเอาไว้ เขารู้แล้วว่าทำไมหญิงสาวถึงได้มองเขาด้วยแววตาแบบนั้น กรธิดาจ้องมองชายหนุ่มแบบไม่หลบตา เธอไม่อยากใช้แววตาแบบนี้ เพราะเธอรู้ดีว่านี่คือแววตาแห่งความเกลียดชังและเจ็บแค้นอย่างมากมาย อย่างที่เธอไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง “คุณอยากให้ฉันปรับปรุงตัวเองมากนักใช่ไหม ได้ ฉันจะทำอย่างที่คุณต้องการ แล้วก็เลิกยุ่งกับชีวิตฉันสักที ถ้าให้ดี ออกไปจากชีวิตฉันได้ยิ่งดี อ้อ...แล้วอีกอย่าง ฉันจะพยายามติดต่อน้องสาวคุณให้เร็วที่สุด ฉันก็เบื่อเต็มทีแล้วเหมือนกัน แค่นี้ใช่ไหมที่คุณอยากได้” หญิงสาวก้มลงหยิบเสื้อแขนยาวปิดหัวไหล่ เงยหน้ามองชายหนุ่มที่เธอเกลียดอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง กฤษดายืนนิ่งอยู่อย่างนั้นด้วยความเสียใจเมื่อรู้ว่าตนเองทำเกินไป แต่จะให้เขาทำอย่างไร ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าเถียงเขาฉอดๆ เหมือนผู้หญิงคนนี้เลย เพราะแบบนี้หรือเปล่า เขาจึงทำใจยอมรับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้...เธอต้องยอมอ่อนข้อให้เขาสิ ไม่ใช่มาแข็งข้อกับเขาแบบนี้ แล้วยังแววตาเมื่อครู่ที่หญิงสาวมองเขาอีก เขาเคยเห็นแววตาแบบนี้ที่ไหน ทำไมถึงได้คุ้นเหลือเกิน แต่กลับนึกไม่ออก ////////////////////////////////// กฤษดานึกถึงใบหน้าอ่อนเยาว์ของหญิงสาว...เขารู้สึกคุ้นกับใบหน้านั้นเหลือเกิน แต่ไม่รู้ว่าเขาเคยเห็นที่ไหน ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ทันทีเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น เขาล้วงมือลงไปในลิ้นชักหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่คุ้นตา “ว่าไงไอ้พล ตอนนี้แกอยู่ไหน” “แกอย่าถามฉันได้ไหมวะ ว่าแต่ตอนนี้แกว่างหรือเปล่าไอ้กฤษ” อัครพลถามเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงกึ่งลำบากใจ “แกจะบอกฉันว่าตอนนี้ยัยริสาอยู่กับแกใช่ไหม” อัครพลเงียบไปเมื่อเพื่อนถามในสิ่งที่เขากังวล เพราะไม่อยากทะเลาะกับเพื่อนในเรื่องนี้ ยัยตัวแสบก็ไม่ยอมกลับท่าเดียว ทั้งที่เขาก็พยายามกล่อมจนสุดความสามารถแล้ว “ฉัน...” “ไม่เป็นไรหรอกไอ้พล” กฤษดานิ่งไปครู่หนึ่ง “ฉันฝากดูแลยัยริสาด้วยก็แล้วกัน ถ้าริสาอยู่กับแก ฉันจะได้หมดห่วงเสียที บางทีฉันอาจจะมีเวลาทำอะไรบางอย่าง ฉันอยากรู้ว่า ระหว่างฉันกับกรธิดาเคยมีปัญหาอะไรกัน” “แกแน่ใจเหรอไอ้กฤษ” อัครพลถามเพื่อนกลับอย่างเป็นห่วง เขาอยากรู้เหมือนกัน หากเพื่อนคนนี้ของเขารู้ว่ากรธิดาเป็นใคร แล้วกฤษดาจะทำยังไง “แน่ใจหรือวะ” กฤษดาถามกลับย่างสงสัยในน้ำเสียงของเพื่อน “ เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอก ฉันขอให้แกจัดการเรื่องนี้สำเร็จนะโว้ย แต่ฉันเชื่อนะว่า ถ้าแกได้ใกล้ชิดคุณผึ้งเหมือนกับฉันและริสา ฉันเชื่อว่าแกจะเปลี่ยนความคิดหรืออคติที่แกเคยมีต่อเขา” อัครพลบอก เขาสัมผัสได้ถึงความน่ารักและอบอุ่นจากหญิงสาวผู้นั้น “ฉันจะพยายาม แกก็ดูแลน้องสาวฉันดีๆ ก็แล้วกัน” “แกไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะดูแลน้องสาวแกอย่างสุดความสามารถ” “ขอบใจ” หลังจากตัดสายจากเพื่อนรัก อัครพลก็หันมามองหญิงสาวที่เดินเข้ามาหาอย่างขำๆ จะไม่ให้ขำได้อย่างไร แม่สาวน้อยของเขาเดินถือถุงใส่อาหารและเสื้อผ้าพะรุงพะรังออกมาจากห้างสรรพสินค้า ใบหน้าตาบูดบึ้ง เหงื่อไหลเต็มขมับ /////////////////// กฤษดานั่งงุ่นง่านอยู่ในห้องด้วยความเบื่อหน่าย ไม่เข้าใจว่าทำไมป่านนี้แล้วกรธิดายังไม่กลับมาเสียที ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะลุกจากโต๊ะ ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นก่อน “ฮัลโหล” ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้บอกอะไร กฤษดาก็ชิงกรอกเสียงลงไปก่อนอย่างไม่สบอารมณ์ และดูเหมือนอีกฝ่ายจะรู้ว่าตอนนี้อารมณ์ของเจ้านายหนุ่มนั้นเป็นอย่างไร จึงได้แต่ตอบแบบเกรงๆ “ทำไมยังไม่กลับกันมาอีกคุณพิม” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงกร้าว “คุณผึ้งเธออยากทานข้าวก่อนน่ะค่ะ ท่านประธานมีอะไรหรือเปล่าคะ” พิมญดาบอกด้วยความสงสัย “ทานข้าว แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันมาเดี๋ยวนี้” กฤษดาถาม พาลโกรธหญิงสาวที่เลขาสาวเอ่ยถึง “อยู่ที่ร้านอร่อยซีฟู้ดค่ะ” “อย่าให้คุณผึ้งไปไหน คุณดูแลให้ดี ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ แล้วอยู่ห้างอะไร” “ห้างพารากอนค่ะ” “โอเค แค่นี้แหละ จำที่ผมสั่งได้ไหม” “ค่ะ อย่าให้คุณผึ้งไปไหน จนกว่าท่านประธานจะไปถึง” พิมญดาได้แต่ถอนหายใจเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ เห็นทีสิ่งที่เธอคิดคงจะเป็นจริง เจ้านายหนุ่มของเธอกับสาวน้อยผู้นี้คงมีเรื่องทะเลาะกันอย่างแน่นอน หรือบางทีหญิงสาวอาจจะงอนเจ้านายหนุ่มก็เป็นไปได้ กฤษดาสบตากรธิดาด้วยความแปลกใจ หน้าตาแบบนี้เขาเคยเจอที่ไหนเขานึกไม่ออก แต่ยอมรับว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาตอนนี้สวยน่ารัก...ดูอ่อนหวาน ทั้งที่ความจริงนั้นแตกต่างจากสิ่งที่เขาเห็น ชายหนุ่มก้าวเท้าเดินตรงไปยังโต๊ะที่สองสาวนั่งอยู่ “ทำไมถึงไม่รีบกลับ” “แล้วทำไมฉันจะต้องเชื่อฟังคุณด้วย” กรธิดาตอบด้วยน้ำเสียงกร้าวไม่แพ้กัน “เฮ้อ...ท่านประธานคะ นี่ก็เย็นแล้ว ดิฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ” พิมญดาบอก เมื่อเห็นว่าเจ้านายและหญิงสาวเริ่มจะทะเลาะกันอีกแล้ว “โอเค คุณพิม ผมขอบคุณมากที่ช่วยดูแลคุณผึ้ง” “งั้นดิฉันขอตัวนะคะ ท่านประธาน คุณผึ้ง” พิมญดาบอกทั้งคู่ ก่อนจะเดินออกมาจากร้านอาหารด้วยความขบขัน เพราะไม่เคยเห็นเจ้านายหนุ่มยืนทะเลาะกับผู้หญิงคนไหน ส่วนใหญ่มีแต่ผู้หญิงคอยตามตอแยเจ้านายหนุ่มทั้งนั้น เพิ่งจะมีผู้หญิงคนนี้แหละที่แสดงออกชัดเจนว่ารังเกียจเจ้านายหนุ่มของเธอ /////////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD