ข้าวส่งข้อความไปหาชายหนุ่มเพื่อรายงานว่าตัวเองถึงห้องเรียบร้อยปลอดภัย ไม่อย่างนั้นเขาจะโกรธถ้าเกิดว่าเธอเผลอลืมบอกเขา
‘ถึงแล้วนะคะพี่ภูมิ’
เธอวางโทรศัพท์ลงก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายของตัวเองให้สบายจากนั้นก็มาหุงข้าวทำอาหารเย็น เธอคงไม่ออกไปข้างนอกแล้วแต่ถ้าพี่ภูมิอยู่ด้วยเขาจะเป็นคนพาออกไป
“ทำอะไรกินดีน้า ผัดเปรี้ยวหวานแล้วกัน”
เมื่อนึกได้ดังนั้นเธอก็เปิดตู้เย็นเตรียมวัตถุดิบต่างๆ และทางด้านของภูมิเขาออกจากบ้านเดินทางมาถึงคอนโดของหญิงสาวก็รีบเดินขึ้นไปหาเธอทันที
แกร๊ก แอ๊ด
ชายหนุ่มใช้คีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปข้างใน เขามองหาหญิงคนรักและได้กลิ่นหอมๆมาจากในครัวจึงรีบเดินตรงไปหาทันที เมื่อมาถึงก็เจอคนรักกำลังทำอาหารอยู่ เขาเดินไปสวมกอดเอวหญิงสาวไว้หลวมๆ ข้าวสะดุ้งอย่างตกใจก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“พี่ภูมิตกใจหมด นึกว่าโจรเข้าห้อง”
“โจรอะไรหล่อขนาดนี้คะ ทำอะไรอยู่ทำเผื่อพี่มั้ยเนี่ย”
เขามองเมนูตรงหน้าอย่างสงสัย ลืมโทรศัพท์มาบอกเธอก่อนเพราะฉะนั้นถ้าไม่ทำเผื่อก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่
“ไม่ได้ทำเผื่อเลยค่ะแต่ว่าทำเยอะน่าจะพอกินด้วยกัน พี่ภูมิบอกข้าวว่าจะกลับไปนอนที่บ้านแล้วอยู่ๆทำไมถึงมาที่นี่”
เธอปิดเตาแก๊สก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มอย่างสงสัย เขาโอบเอวเธอไว้ก่อนจะยิ้มออกมาทันที
“พี่มีเรื่องจะคุยกับหนูค่ะ”
“เรื่องอะไรคะ”
เธอเอ่ยถามพร้อมลูบแก้มชายหนุ่มอย่างอ่อนโยน ท่าทางจะวิ่งขึ้นมาแน่นอนถึงได้เหงือซึมขนาดนี้
“ถ้าหนูว่างเมื่อไหร่คุณพ่อชวนให้ไปทานข้าวด้วยกันนะ ท่านอยากเจอ”
ข้าวมองชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยเชื่อ ปกติคนรวยเขารับกันไม่ค่อยได้หรอกนะที่ลูกมีแฟนฐานะปานกลาง และยิ่งพี่ภูมิเป็นลูกชายของท่านนายกรัฐมนตรีแล้วล่ะก็…
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิคะ ท่านบอกว่าให้พามาแนะนำให้รู้จัก พี่บอกแล้วว่าท่านไม่ว่าอะไรแถมยังสนับสนุนอีก ท่านบอกว่าแค่เราสองคนรักและหวังดีต่อกันแค่นี้ก็ดีมากแล้วสำหรับชีวิตคู่ ส่วนเรื่องอื่นมันก็แค่ส่วนประกอบเท่านั้น”
เขากุมมือหญิงสาวขึ้นมาไว้แนบอกก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าจริงจังมาก เขารักเธอมากและจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เสียเธอไป
“ฟังพี่นะข้าว เรื่องครอบครัวพี่ตัดปัญหาไปได้เลย ท่านไม่ห้ามเราสองคนและยินดีที่จะให้แต่งงานกัน แต่ว่าหนูต้องไปเจอพ่อพี่ก่อน พี่รักเรามากนะพี่จริงใจและอยากที่จะมีข้าวอยู่ในชีวิตในทุกๆวัน ไปเจอพ่อกับพี่นะ”
ข้าวยิ้มออกมาก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย ถ้าเขาพูดมาขนาดนี้เธอต้องตามใจอยู่แล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเธอมั่นใจว่าเขาจะปกป้องเธอได้
“ค่ะ ข้าวจะไปเจอคุณพ่อของพี่ภูมิค่ะ”
“น่ารักที่สุด หลังจากเจอพ่อพี่เสร็จเราค่อยหาเวลาไปเยี่ยมพ่อกับแม่ของข้าวกัน ไม่ได้ไปเจอนานแล้วเดี๋ยวท่านจะเข้าใจผิดคิดว่าพี่ทิ้งข้าว”
หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็หลุดขำออกมาทันที เธอโชคดีที่เขาพยายามเข้าหาครอบครัวและแสดงออกว่ารักและจะดูแลเธออย่างดีที่สุด คุณพ่อกับคุณแม่ของเธอรักพี่ภูมิเหมือนลูกชายคนหนึ่ง เขาเป็นคนไม่ถือตัวและดีกับครอบครัวของเธอมาก
“ท่านถามหาอยู่ค่ะ ข้าวก็บอกไปว่าพี่ภูมิงานยุ่งมากก็เลยไม่ได้ไปเยี่ยม”
“ไว้พี่จะโทรไปหาท่านดีกว่า จะได้สบายใจว่าพี่ยังรักและดูแลลูกสาวของท่านอย่างดีที่สุด”
“ขอบคุณนะคะพี่ภูมิที่พยายามทำเพื่อความรักของเรามากขนาดนี้”
เธอมองชายหนุ่มอย่างซาบซึ้งใจ เขาคือสิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีคุณค่าและมีความสุข ภูมิลูบผมหญิงสาวอย่างเอ็นดูก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวา
“พี่รักข้าวที่สุด ไหนทำกับข้าวเผื่อพี่ด้วยสิหิวมากเลยเนี่ย ขอกินผัดเปรี้ยวหวานด้วยนะ”
“ได้ค่ะไปนั่งรอที่โต๊ะเลยเดี๋ยวข้าวตักไปให้”
เธอดันตัวชายหนุ่มให้ไปนั่งลงที่โต๊ะก่อนจะหันไปหยิบจานมาตักข้าวแล้วก็กับข้าวไปวางให้เขาที่โต๊ะ ทั้งสองคนนั่งทานข้าวด้วยกันคุยกันไปอย่างมีความสุข เชื่อมั้ยว่าแปดปีที่คบกันแทบจะทะเลาะกันน้อยมาก
‘คงเป็นเพราะต่างฝ่ายต่างเข้าใจในความเป็นตัวเองของกันและกัน…’
หลายวันผ่านไป…
และสุดท้ายเธอก็ต้องเอาแฟ้มงานเดิมพี่ภูมิทำให้ไปเสนอผู้จัดการเหมือนเดิม เสียเวลาที่เธอต้องไปนั่งแก้ไขแต่ว่าไม่เป็นอะไรถือว่าได้ทำตามคำสั่งของหัวหน้าแล้ว
และหลังจากวันนั้นพี่มิ้นก็ไม่มาใช้งานเธออีกเลยซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ตอนแรกคือว่าจะมาโกรธเธอเสียอีกแต่ว่าผิดคาดหล่อนทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่ขอความช่วยเหลือจากใครคนอื่น
“น้องข้าววันนี้พี่จะไปที่โชว์รูมรถกับโช เราจะไปด้วยกันมั้ย”
“ไปค่ะพี่นา ข้าวจะไปดูหน้างานหน่อยเผื่อว่าจะมีอะไรที่ต้องแก้ไขหรือเพิ่มเติม วันงานจะได้ผิดพลาดน้อยที่สุด”
“โอเค งั้นเตรียมตัวเลยอีกสิบนาทีจะไป”
“โอเคค่ะ”
ข้าวตอบรับก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์แล้วเก็บของบนโต๊ะทำงานให้เป็นระเบียบถ้าไปช่วงบ่ายอาจจะไม่กลับมาที่นี่แล้วเพราะฉะนั้นจัดของทิ้งไว้ให้เรียบร้อยดีกว่า
“ป่ะข้าวไปกัน”
โชกวักมือเรียกเธอเสียงดัง ข้าวลุกขึ้นหยิบกระเป๋าเดินตามออกไปยังลานจอด ทั้งสามคนนั่งรถไปด้วยกันคุยกันไปพลางๆเกี่ยวกับรายละเอียดงานเปิดตัวรถรุ่นใหม่
“พี่นาเจอกับพรีเซ็นเตอร์รถหรือยังอ่ะ”
“เจอแล้ว คุณดาริกานางเอกดังตอนนี้ไง”
พี่นาเอ่ยออกมาตามที่ทราบ ตัวของพรีเซ็นเตอร์ทางเจ้าของแบรนด์เขาเป็นคนเลือกมาเอง ทางโชว์รูมมีแค่หน้าที่จัดงานให้เท่านั้นและอำนวยความสะดวกให้ทีมงานและคนอื่นๆ
“ตัวจริงเธอสวยมั้ยคะพี่นา ข้าวยังไม่เคยเจอตัวจริงเลย”
ข้าวเอ่ยถามเสียงสดใส เธอมัวแต่ทำงานจนไม่มีเวลามาเปิดทีวีดูว่าตอนนี้ใครกำลังโด่งดังอยู่ แต่เท่าที่ได้ดูภาพและการมีชื่อเสียงที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชี่ยลก็พอเดาได้ว่าคงดังมาก และอีกอย่างหน้าที่การเลือกพรีเซ็นเตอร์เป็นหน้าที่ของผู้จัดการ พวกเธอไม่ได้ยุ่งเกี่ยวด้วยมีหน้าที่แค่คิดคอนเทนท์ จัดตารางงานเท่านั้น
“ตัวจริงสวยมาก แต่ว่าเรื่องมากสุดๆ”
“ขนาดนั้นเลยเหรอคะพี่นา โชพอได้ยินเขาลือมาบ้างแต่ไม่คิดว่าจะเป็นจริง เพราะดูในจอเธอคือนางเอกมาก”
นายิ้มมุมปากออกมาทันที นางเอกนั่นแหละตัวดีชีวิตจริงของบางคนยิ่งกว่าตัวร้ายในจออีก
“รอดูแล้วกันว่าจะเป็นอย่างที่คนอื่นพูดมั้ย”