มิ้นเดินออกมาในสภาพคอตก ทุกคนเห็นสีหน้าของเธอดูแย่มากแต่ก็ไม่มีใครกล้าถามอะไรอีกจากนั้นคนอื่นๆก็เข้าไปทีละคนจนครบเหลือแค่ข้าวที่รอไปเสนองานเป็นคนสุดท้าย
“ข้าวสู้ๆนะท่านประธานไม่ได้ถามอะไรเยอะเลย แค่เสนองานปกติถามนิดหน่อยก็จบแล้ว”
“อืมโอเค งั้นกลับห้องก่อนก็ได้เดี๋ยวเสร็จแล้วจะตามไปเอง”
“อือ สู้ๆ”
ข้าวยิ้มให้ทุกคนก่อนจะถือแฟ้มเอกสารเดินเข้าไปข้างในห้องของท่านประธาน เธอปิดประตูลงก่อนจะเดินมายืนอยู่ตรงหน้าเขา
“มาเสนองานค่ะท่านประธาน”
เธอเอ่ยออกมาเสียงเรียบ ในที่ทำงานเธอจะทำสนิทสนมกับเขาไม่ได้ ถ้าเกิดว่ามีคนเข้ามาเห็นจะลำบากกันทั้งสองคน
“ไม่ต้องเสนอแล้วฟังคนอื่นมาเยอะละ”
“อ่าว งั้นข้าวกลับห้องนะคะ”
เธอทำท่าทางจะเดินออกไปแต่ก็ถูกเขาสวมกอดไว้จากทางด้านหลัง เธอมองเขาอย่างตกใจใครจะคิดว่าจะมากอดเธอแบบนี้
“ท่านประธานไม่เอาสิคะ ถ้าใครมาเห็นเข้ามันจะดูไม่ดีนะ”
“เห็นก็ช่างสิพี่ไม่ได้อยากปิดซะหน่อย”
หญิงสาวถอนหายใจออกมาก่อนจะหันหน้าเข้ามาหาเขา ภูมิดึงแฟ้มเอกสารของเธอออกมาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะกุมมือเธอพามานั่งลงที่โต๊ะทำงานแล้วดึงเธอมานั่งลงบนตักของเขา
“คิดอะไรคะทำไมอยู่ๆถึงให้พนักงานมาเสนองานส่วนตัวแบบนี้”
ข้าวมองชายหนุ่มอย่างจับผิด เขายักไหล่เล็กน้อยก่อนจะสารภาพออกไปตามตรง ก็แค่อยากจัดการคนที่ชอบใช้งานคนรักของเขาเท่านั้น แต่ถ้าจะเรียกคนเดียวเดี๋ยวคนอื่นจะสงสัย ก็เลยต้องเรียกมาให้ครบทุกคน
“พี่ก็แค่จัดการคนที่ชอบใช้งานหนูไง ต่อจากนี้ไปคงไม่กล้าโยนงานให้หนูแล้วล่ะ”
“พี่ภูมิทำอะไรพี่มิ้นคะ”
“ไม่ได้ทำอะไรโจรรับสารภาพเองต่างหาก เธอไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนบอกเรื่องนี้ไม่ต้องห่วงนะคะ”
“พี่เค้าจะไม่มาโวยวายข้าวทีหลังใช่มั้ยคะ”
ข้าวเอ่ยออกมาอย่างกังวล ไม่ใช่ว่าหล่อนคิดว่าเธอเป็นคนฟ้องหัวหน้าหรือท่านประธานนะแบบนี้คงทำงานด้วยกันลำบาก เขายื่นมือไปเกลี่ยปอยผมเธอเล่นก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ มิ้นไม่ทำแบบนั้นหรอกแต่ถ้าทำจริงๆเขาจะจัดการเธอขั้นเด็ดขาดแน่นอน
“เธอไม่กล้าหรอก หยุดพูดเรื่องของคนอื่นได้มั้ยมาคุยเรื่องของเราดีกว่า”
เขาโอบเอวหญิงสาวก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือมาปลดกระดุมตรงหน้าอกของเธอ ข้าวตาโตอย่างตกใจรีบเอามือปิดเอาไว้ เขาจะมาหื่นกับเธอในห้องทำงานไม่ได้ ใครมาเห็นมันจะดูไม่ดี
“พี่ภูมิคะอย่าทำแบบนี้นะ”
“พี่อยากอ่ะ คืนนี้พี่ต้องกลับไปนอนที่บ้านไม่ได้นอนกอดหนู เพราะฉะนั้นช่วยทำให้พี่หายคิดถึงหน่อย”
“จะมาทำที่ทำงานไม่ได้ค่ะ ถ้าใครมาเห็นมันจะดูไม่ดีนะคะ”
เธอยอมเขาไม่ได้ ถ้าเป็นที่คอนโดเธอไม่มีทางปฏิเสธแต่นี่เป็นที่บริษัทในห้องทำงานของท่านประธาน เพราะฉะนั้นมันไม่เหมาะสม
“งั้นกินนมเฉยๆก็ได้อ่ะ”
“พี่ภูมิ! เอาใหญ่แล้วนะคะ”
เธอตีชายหนุ่มหลายทีเพื่อให้เขาหยุด ชายหนุ่มหัวเราะคิกคักก่อนจะใช้มือคลึงเต้านมเธอเล่นอย่างหยอกล้อ หญิงสาวจนปัญญาจะห้ามทำได้เพียงแค่ปล่อยให้เขาบีบเล่นจนพอใจ
“นุ่มนิ่มจัง”
“คนบ้าเอ้ย”
เธอส่ายหน้าอย่างปลงๆก่อนจะยิ้มออกมาแล้วบีบแก้มเขาอย่างหมั่นไส้ สองคนหยอกล้อกันไปมาในขณะที่ผู้ช่วยและเลขาคุยกันอยู่หน้าห้องซักพักก็พากันเดินมาเคาะประตูแล้วเปิดเข้ามาทันที
“ท่านประธานครับมีงะ… เฮ้ย!”
ผู้ช่วยของเขาและเลขาอ้าปากค้างอย่างตกใจ ภาพที่เห็นคือท่านประธานกำลังจับหน้าอกหญิงสาวที่กำลังนั่งบนตักเขาอยู่ ข้าวตกใจรีบลุกขึ้นทันทีความซวยมาเยือนเมื่อความลับที่เก็บมานานถูกเปิดเผย
“เอ่อ คือว่าแบบนี้นะคะข้าวอธิบายได้”
“ไม่ต้องอธิบายแล้วน่า เห็นคาตาขนาดนี้จะอธิบาย อะไรอีก แล้วพรวดพราดเข้ามามีอะไร”
เขาดึงหญิงสาวเข้ามาใกล้ก่อนจะเอ่ยถามสองคนที่ยืนอึ้งอยู่ เลขาได้สติรีบสะกิดให้ผู้ช่วยของเขาพูดก่อน
“พูดสิคะคุณเอก”
“ห๊ะ! อ่อ คือมีงานด่วนที่โชว์รูมครับ ผมจะมาชวนท่านประธานไปด้วยกัน”
“ไปสิ ข้าวกลับไปทำงานได้แล้วค่ะ เย็นนี้ถึงคอนโดทักมานะพี่จะโทรมาหา”
“ค่ะ งั้นข้าวไปก่อนนะคะ”
หญิงสาวเดินไปหยิบแฟ้มเอกสารก่อนจะรีบเดินออกไป เธอเดินผ่านสองคนก่อนจะโค้งตัวเล็กน้อยเป็นเชิงบอกลา
“ข้าวไปก่อนนะคะ”
“ค่ะ/ครับ”
หญิงสาวรีบเดินออกไปทันทีอย่างเขินอาย พวกเขาต้องเห็นตอนที่พี่ภูมิกำลังจับหน้าอกเธอแน่เลย แล้วแบบนี้เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะ ถ้าต้องเจอหน้าพวกเขาอีกทีเธอคงทำตัวลำบาก
ทางด้านของภูมิหลังจากที่คนรักของเขาออกไปชายหนุ่มก็ลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์กับกุญแจรถใส่กระเป๋ากางเกง
“เมื่อกี้เห็นอะไรมั้ย”
ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าอย่างยอมรับ ไม่อยากจะบอกว่าเห็นเต็มสองตาเลย ไม่คิดว่าจะเป็นข้าวด้วยเพราะเธอเป็นเด็กเรียบร้อยมากในที่ทำงาน แต่ดูท่าทางกับท่านประธานไม่ใช่รู้จักกันธรรมดาแน่นอน
“เห็นเต็มๆเลยครับ”
“เห็นเต็มสองตาเหมือนกันค่ะ แหะๆ”
ทั้งสองคนยอมรับสารภาพ ภูมิมองหน้าพวกเขาก่อนจะยักไหล่เล็กน้อย
“ก็อย่างที่เห็น ผมกับข้าวเราสองคนคบกันนานแล้ว ขี้เกียจเล่ามันจะยาวเอาเป็นว่าข้าวคือคนรักของผม และพวกคุณรู้ใช่มั้ยว่าต้องทำยังไง”
ทั้งสองคนพยักหน้าอย่างเข้าใจ ที่บอกว่าต้องทำยังไงแน่นอนคือต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ แสดงว่าทั้งสองคนคงมีเหตุผลที่ต้องปิดบังเอาไว้ก่อน
“ทราบค่ะ/ทราบครับ”
“อย่าให้ใครรู้เรื่องนี้ ข้าวยังไม่พร้อมจะเปิดตัว ป่ะไปทำงานกันเถอะ”
เขายักไหล่เดินออกไปอย่างชิวๆ ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันก่อนจะรีบตามท่านประธานไปอย่างรวดเร็ว เรื่องความลับสองคนนี้ไว้ใจได้ไม่มีอะไรต้องกังวล แต่จริงๆเขาอยากจะให้ความลับมันแตกเสียตอนนี้เลยจะได้ไม่ต้องปิดบังใครต่อใครอีก
ตกเย็นเขากลับมาถึงที่บ้านในเวลาต่อมา เดินเข้ามาในบ้านก็เจอคุณพ่อกำลังเดินออกมาพร้อมกับน้าน้ำผิง เขายกมือไหว้ทักทายท่านทั้งสองคน
“สวัสดีครับคุณพ่อ น้าน้ำผิง”
“สวัสดีค่ะคุณภูมิ กลับมาเหนื่อยๆทานอะไรมาหรือยังคะน้าจะจัดโต๊ะให้”
“ยังไม่หิวเลยครับน้าน้ำผิง คือ.. ผมมีเรื่องจะคุยกับทั้งสองคน สะดวกมั้ยครับ”
“เอาสิ ในห้องรับแขกแล้วกัน”
คุณพ่อพาน้าน้ำผิงเดินเข้าห้องรับแขกไป ภูมิสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินตามเข้าไป ยังไงวันนี้เขาจะต้องคุยกับคุณพ่อเรื่องข้าว อย่างน้อยจะได้ชัดเจนว่าทางครอบครัวของเขาคิดยังไงกับการคบหากันของเขากับหญิงสาว
‘อย่างน้อยข้าวจะได้รู้ว่าคุณพ่อของเขาคิดยังไง’