Secret love Episode-๑๓

1313 Words
มาถึงโรงพยาบาลฉันถึงกับขมวดคิ้วเลยค่ะ อะไรกันมีแต่ชายชุดดำเต็มไปหมด ราวกับว่ามีมาเฟียป่วยอยู่ที่นี่อย่างนั้นแหละ เลิกสนใจพวกเขาก่อนจะรีบวิ่งไปหาน้องทันที ฉันรอเวลานี้มานานมาก จะยังไงก็ได้ขอแค่ให้นักรบฟื้นขึ้นมาก็พอ เปิดประตูเข้าไปในห้อง ไม่ได้มีแค่มิลินนะคะ แต่อยู่กันครบเลยต่างหากล่ะ นี่พวกมันมาเป็นผู้พิทักษ์นักรบหรือไงยังกัน “สภาพมึงนี่ไม่ได้ต่างจากนักรบเลยจริง ๆ ” มังกรเอ่ยทักคนแรก “อีสวยทำไมมึงโทรมแบบนี้ แดกข้าวบ้างป่ะเนี่ย” ไอ้ยูโรเสริมขึ้นมาอีกคนแถมมันยังจับฉันหมุนไปมาอีกด้วย อาร์ท : ผอมเป็นไม้เสียบผีเลยอีห่า! “กูกินไม่ลงหรอก พวกมึงก็รู้ว่ากูเหลือน้องแค่คนเดียว ชีวิตนี้กูไม่มีใครแล้วนะเว้ย” ฉันพูดไปตามความจริง เพื่อนกับครอบครัวมันเป็นจิ๊กซอว์คนละส่วนกัน โมเดล : แต่ถ้ามึงเป็นอะไรไป นักรบมันก็จะไม่เหลือใครเหมือนกัน อย่าทำร้ายตัวเองทางอ้อมแบบนี้ “...” คำพูดมันทำให้ฉันนึกถึงประโยคยาว ๆ ของเฮียเบส... “อย่าร้องไห้เลยนะ ผมไม่เป็นอะไรง่าย ๆ หรอก” นักรบพูดขึ้นขณะที่น้ำตาของฉันพร้อมจะไหลเอ่อตลอดเวลา “เจ็บมากไหม พี่ขอโทษนะ ถ้าวันนั้นไม่มารับพี่ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น” “ไม่เจ็บแล้วครับ มันเป็นอุบัติเหตุอย่าโทษตัวเองเลย เจ้ไปพักผ่อนเถอะ ผมไม่เป็นอะไรแล้ว อีกเดี๋ยวก็เดินได้ปกติ” น้องพูดด้วยรอยยิ้มเหมือนกำลังเติมเต็มความชุ่มชื่นให้หัวใจฉัน “ไปกินข้าวป่ะ เดี๋ยวกูพาไป ให้หนุ่ม ๆ อยู่เฝ้าไปก่อน” อีเทียร่าเอ่ยก่อนจะเดินมารั้งแขนฉัน “น้องปลอดภัยแล้วมึงเห็นไหม” “ร้องไห้มามากพอแล้ว ฮึบเข้าไว้ เป็นพี่สาวต้องเข้มแข็งนะรู้ไหม?” น้ำเชื่อมเสริมขึ้นมาบ้าง พวกมันแค่อยากเรียกสติฉันเท่านั้นเอง “ขอบใจพวกมึงมากนะที่ไม่ทิ้งกู” นิวเยียร์ : เพื่อนป่ะล่ะ? มิลิน : ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จำไว้นะว่ายังมีพวกกู ในเรื่องร้าย ๆ ฉันก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง นอกจากพวกมันแล้วก็ยังมีเฮียเบสอีกคนสินะ ที่กำลังสอนให้ฉันเข้มแข็ง ออกมาหาอะไรกินแถวข้างโรงพยาบาลนี่แหละค่ะ พวกผู้ชายอยู่เฝ้านักรบ ตรงนี้เลยเหลือแค่ฉันกับเพื่อน ๆ “มิลิน...มึงมีอะไรจะบอกพวกกูไหม?” อีเทียร่าเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ห๊ะ! กูเหรอเอ่อ...ไม่มีอะไรหรอก” “รู้ตัวหรือเปล่าว่ามึงโกหกไม่เก่งอ่ะ” อีเทียร่ายังคงพูดต่อ “กูพูดไม่ได้ เอาเป็นว่ามันไม่ได้มีอะไรร้ายแรงโอเคนะ” “มีอะไรกันหรือเปล่า ทำไมพูดจากันแปลก ๆ ” ฉันเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ น้ำเชื่อม : นั่นสิ ลินเป็นอะไรเหรอ “ไม่มีอะไรมากแค่เพื่อนกำลังปลูกต้นรักกับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ระดับต้น ๆ ของประเทศแค่นั้นเอง” ประโยคยาว ๆ ของเทียร่าทำเอาคู่หูฉันหน้าเจื่อนไปเลยทีเดียว “ไอ้เทียน!! กูว่ามึงพูดเยอะไปแล้วแหละ” “กรี๊ด!! เจ็บปวดมากค่ะ!! เทียร่าจ้ะ!! โนไอ้เทียน” “ฮ่า ๆ ” ระหว่างมื้อสายตาฉันเหลือบไปเห็นชายชุดดำเดินกันเต็มไปหมด นี่เขามาเฝ้าใครกัน? “พวกมึง ไอ้ที่ใส่ชุดดำหน้านิ่งพวกนี้เขามาทำอะไรกันอ่ะ กูเห็นตั้งแต่อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว” “จริงด้วย เหมือนในละครเลยบอดี้การ์ดมาอารักขานางเอกไง ฮ่า ๆ ต้องเป็นคนสำคัญแน่เลย ระบบความปลอดภัยถึงได้เป๊ะขนาดนี้” มิลินเอ่ย “หนึ่งในนั้นต้องมีพ่อของลูกกูบ้างแหละ คิกคิก” ไม่ต้องแปลกใจที่อีเทียร่ามันพูดแบบนั้น เพราะพวกเขาค่อนข้างหน้าตาดีค่ะ คุยกันไปเรื่อยตามประสาเพื่อนฝูง จู่ ๆ ก็มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งถือตะกร้าดอกไม้มาเดินขายตามโต๊ะ “พี่สาวช่วยอุดหนุนหน่อยครับ ผมต้องเอาเงินไปซื้อยาให้ยาย” ไม่รู้ว่าโกหกหรือเปล่า แต่แววตาของเขามันช่างหน้าสงสารเหลือเกิน ฉันเข้าใจความรู้สึกแบบนี้ดี มองไปที่ตะกร้าน้องเป็นดอกกุหลาบค่ะ น้ำเชื่อม : ขายยังไงครับตัวเล็ก “ดอกละยี่สิบบาทครับ สีชมพูหมดแล้ว เหลือแต่สีขาว สีแดงแล้วก็สีดำครับ” เทียร่า : พี่เอาสีขาวห้าดอกค่ะ น้ำเชื่อม : งั้นพี่เอาสีแดงหมดเลยค่ะ “งั้นที่เหลือพี่เหมาเองครับ” น้องยิ้มด้วยท่าทีดีใจที่ขายดอกไม้นั่นหมด มิลิน : น้องรู้หรือเปล่าว่าแต่ละสีมีความหมายว่ายังไง “สีขาวคือความรักบริสุทธิ์ครับ สีแดงความรักที่จริงใจ สีชมพูความรักอันหอมหวาน และสีดำหลายคนอาจคิดว่ามันไม่เป็นมงคล แต่จริง ๆ แล้วมันสื่อถึงความรักที่มั่นคงไม่เคยจางหายต่างหากครับ” ยิ้มโชว์ฟันสวยไปที คำพูดยาว ๆ ของน้องทำให้ฉันนึกถึงกุหลาบสีดำที่ใครบางคนให้ฉันบ่อยครั้ง...ให้ตายเหอะ นี่ฉันกำลังหวังอะไรอยู่? หยุดคิดเรื่องเพ้อเจ้อ ก่อนจะหยิบเงินจ่ายค่าดอกไม้ให้น้อง “โห แบงค์ใหญ่เลยผมไม่มีทอนหรอกครับพี่” “ไม่ต้องทอนครับ พี่ให้ไว้ซื้อยาให้ยายนะ เป็นเด็กดี อย่าเกเรล่ะ” “ขอบคุณครับ ขอให้พวกพี่มีแต่ความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดขอให้ได้สิ่งนั้น สวย ๆ รวย ๆ ทุกคนเลยนะครับ” พูดจบก็รีบวิ่งออกไปทันที คงดีใจไม่น้อย “ให้พรทีพระแถวบ้านกูอายเลย” มิลินเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ขัน “ฮ่า ๆ ” กินอะไรเสร็จเรียบร้อยก็เช็คบิล ไม่ลืมที่จะซื้อของติดไม้ติดมือไปฝากพวกมันด้วย ป่านนี้คงหิวแย่แล้ว ระหว่างเดินกลับเข้าไปที่โรงพยายบาล ฉันสังเกตได้คือชายชุดดำพวกนั้นเดินตามฉันอยู่ห่าง ๆ ฉันไม่ได้คิดไปเองนะคะ พวกเขาเดินตามฉัน “พวกมึงขึ้นไปก่อนเลย กูแวะเข้าห้องน้ำแปป” “โอเค เจอกันที่ห้องนะ” “เออ” คล้อยหลังพวกมันฉันจึงเดินเลี่ยงมาหลบอยู่ตรงบันไดหนีไฟ ที่ประตูจะมีรูเล็ก ๆ พอส่องได้ค่ะ ไม่นานชายชุดดำพวกนั้นก็มาถึงบริเวณที่ฉันอยู่ เสียงโทรศัพท์ของใครบางคนดังขึ้น “คุณผิงเธอลงไปทานข้าวกับเพื่อน ๆ ครับนาย” “...” “ครับ พวกผมจะดูแลเป็นอย่างดี” พอวางสายทุกคนต่างแยกย้ายไปนั่งตามมุมต่าง ๆ ของโรงพยาบาลเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นแหละ ทำไมฉันรู้สึกเหมือนตัวเองมีคนคอยดูแลตลอดเวลานะ คิดได้อย่างนั้นลองโทรหาคนลึกลับของฉันดีกว่าค่ะ ...เฮียเบส... (หลงเสน่ห์กูหรือไงถึงโทรหาได้) รับสายไวมาก “หลงตัวเอง! หนูแค่จะโทรมาบอกว่านักรบฟื้นแล้วต่างหาก” (ดีใจด้วย มึงก็กลับไปเรียนได้แล้ว ไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วงแล้วนี่ ส่วนเรื่องงานกูให้เงินเดือนเหมือนเดิม น้องมึงหายดีเมื่อไหร่ค่อยกลับมาทำแล้วกัน แค่นี้ก่อนนะกูยุ่งอยู่) “เดี๋ยวเฮีย! ดอกไม้นั่น...” (มึงเข้าใจว่าไงก็แบบนั้นแหละ) ตื้ด! วางสายไปแล้วค่ะ ติ๊ง! “กูมีงานด่วน ค่อยคุยกันนะ ดูแลตัวเองด้วย” “...” นับวันเฮียยิ่งลึกลับเข้าไปทุกที แล้วแบบนี้อีผิงจะไปหาคำตอบจากที่ไหนล่ะคะ?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD