ดิสยืนมองท้องฟ้ายามราตรีตรงระเบียงห้อง นี่ก็ผ่านมา 1 อาทิตย์แล้ว หลังจากที่เขาได้ค่าความอัจฉริยะมาใช้ฝึกฝนกับอาจาร์ยทั้งสองคน อีกไม่นานก็ต้องไปเรียนมหาวิทยาลัยตามความต้องการคนในครอบครัวแล้ว ค่านี้ทุ่นแรงการเรียนรู้ของเขาได้อย่างดีเลย
พญาครุฑไม่โผล่มากวนใจเลยหลังจากวันนั้น ซึ่งดิสมองว่าดีแล้ว เหมือนมันกำลังรอเวลาที่เขาจะเก่งขึ้นอย่างที่เคยกล่าว
ส่วนราชาวดีนั้นก็ยังพยายามติดต่อเขาอยู่ แต่เพราะเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น เขาไม่สบายใจที่ต้องคุยกับเธออีกแล้ว เลยไม่ตอบรับการติดต่อใดๆ อีกหลังจากวันนั้น
ดิสถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะเบือนหน้าหนีดวงดาวบนบนท้องฟ้ายามราตรี
เขายังตื่นมาไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ แต่เขาก็ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างที่เกิดขึ้น ว่าโลกใบนี้มันเสื่อมโทรมลงไปซะยิ่งกว่าเก่า
พรานทมิฬที่ประชาชนมองว่าเป็นฮีโร่ แท้จริงแล้วก็เป็นแค่อาชีพหนึ่งที่ถูดเชิดชูเพื่อแสวงหาผลประโยชน์เท่านั้น มันแค่ธุiกิจที่ต้องการผลกำไรให้คุ้มกับการลงทุน
‘จะมีพรานทมิฬสักกี่คนกันที่อยากปกป้องมนุษย์จริงๆ ’
เขาตั้งคำถามในห้วงความคิด ไม่ได้ต้องการคำตอบใดๆ เพราะก็เข้าใจทุกอย่างดีอยู่แล้ว
ค่าความอัฉริยะมันทำให้เขาเป็นคนคิดมากขึ้น ยิ่งคิดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเข้าใจ มันยิ่งยืนยันได้ดีว่าการเพิ่มระดับนั้นสำคัญแค่ไหนสำหรับตน
ปีกขนาดใหญ่กระพือดังบนน่านฟ้า ดวงตาฉายแววนักล่าจับมองเหยื่อบนระเบียงบ้าน ศีรษะหันหนีเมื่อเห็นแบบนั้น
ครุฑาเฝ้ามองเขามาโดยตลอด แค่ดิสยังไม่รู้ตัวเพียงเท่านั้น ทุกอย่างเป็นไปตามที่ตนต้องการ เหยื่อฝึกฝนเพื่อรับมือกับมันและกำลังพัฒนา พญาครุฑพยักหน้าอย่างพึงใจ ก่อนจะบินห่างออกไปจากจุดนั้น
มีบางอย่างที่มันต้องทำในคืนนี้….
[9.00 น.]
ดิสเพิ่งอาบน้ำเสร็จหลังจากทำเควสประจำวัน เขาเดินมาทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาห้องนั่งเล่นอย่างผ่อนคลาย
‘ก่อนจะออกกำลังกายขอดูทีวีก่อนแล้วกัน’
ว่าแล้วก็เอื้อมมือไปคว้ารีโมทเปิดทีวีดู มันสุ่มช่องให้เขาเองอัตโนมัติ และข่าวที่รายงานในโทรทัศน์ก็ทำเขานิ่งอึ้งไปชั่วครู่
ตึกสำนักงานของกิลด์เทวะถูกพังราบคาบไม่เหลือชิ้นดีอย่างปริศนา…
แต่โชคยังดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บในพื้นที่ดังกล่าว
จากความเสียหายคาดว่าอาจมาจากฝีมือของมอนเตอร์ที่หลุดจากการแตกของดันเจี้ยนไม่ต่ำกว่าแรงค์ A ทางสำนักงาน
พรานทมิฬแห่งประเทศไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมเข้ามามีส่วนร่วมในการไล่ล่ามอนเตอร์ตัวนี้
รายงานข่าวจาก เบลินิวเดย์
‘ใจหายหมด นึกว่าจะมีคนเจ็บคนตายแล้วซะอีก เกิดเรื่องแบบนี้คงแย่มากแน่ๆ แต่ว่านะ….’
ดิสใช้รีโมทกดปิดทีวีทันทีก่อนจะยกมือขึ้นปิดปากกลั้นหัวเราะ แต่มันทนไม่ไหวแล้ว
“สะใจโว้ยยย!”
ดิสตะโกนขึ้นมาเสียงดังพลางกับชี้ไปที่โทรทัศน์แล้วหลุดขำ
เขายังไม่ลืมความแค้นที่หัวหน้ากิลด์ทำกับเขา มันสะใจไม่น้อยเลย เขาไม่ลังเลระหว่างคำว่าสมน้ำหน้าและสงสารเลยด้วยซ้ำ
“โดนไปสิ! ไอ้หัวกิลด์หลงตัวเองเอ้ย! เป็นไงล่ะ ได้ออกข่าวดังสมใจอยากเลย!”
ดิสหัวเราะดังลั่น ปากก็สบถด่าไม่หยุด พอหนำใจเลยนั่งพักหายใจครู่นึง แล้วเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมา
ชื่อ : ดิส
พลังโจมตี : + 40
ความเร็ว : + 40
ความทนทาน : + 40
ความอัจฉริยะ : + 30
[แต้มสะสม 80 แต้ม]
วันนี้ดิสมีแต้มสะสมมากพออัพสถานะแล้ว เขาเก็บมันมาหลายวันและจะกะจะอัพทีเดียว
สายตากลอกมองหน้าต่างระบบและครุ่นคิด เขาพิจารณาดูว่าควรจะอัพค่าไหนเท่าไหร่ถึงจะดีที่สุด
แต่ระหว่างนั้นก็ฉุกใจคิด ‘เราไม่เคยมีค่าไหนถึงร้อยมาก่อน มันจะเป็นยังไงถ้าเราอัพสักสถานะให้มันพุ่งขึ้นร้อยนำสถานะอื่นๆ ไปเลย’
สำหรับดิสมันน่าสนใจและน่าทดลอง มันคุ้มค่าที่จะเสี่ยง ดิสยิ้มมุมปากเล็กน้อยและมองพิจารณาว่าสถานะไหนควรค่าที่จะเพิ่มที่สุด
และในที่สุดดิสก็พบกับสถานะที่สำคัญและควรจะก้าวกระโดดกว่าใครเพื่อน
‘พลังโจมตี…’
ไม่รอช้าก็อัพไปทันที 60 แต้ม ตอนนี้เขาเหลือ 20 แต้ม จึงนั่งครุ่นคิดต่อว่าจะอัพแต้มที่เหลือให้อันไหนดี
ในที่สุดเขาก็คิดออก เขาเพิ่มแต้มทั้งหมดที่เหลือให้ความอัฉริยะ
ชื่อ : ดิส
พลังโจมตี : + 100
ความเร็ว : + 40
ความทนทาน : + 40
ความอัจฉริยะ : + 50
ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับร่างกายเขาอีกครั้ง ดิสยกมือขึ้นกุมขมับด้วอากการมึนเมาเล็กน้อย
‘มันจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยมั้ยเนี่ย’
ไม่นานอาการพวกนั้นก็หายไป เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนปาดมือเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก
‘ต้องพกมะขามเปียกติดตัวแล้วมั้งเรา’
พอทุกอย่างเรียบร้อย เขาก็ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาแล้วเหยียดกายบิดขี้เกียจ หลังจากนั้นหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนไปเริ้อยเปื่อย
ก่อนเขาจะสังเกตว่าราชาวดีทักมาหาหลายข้อความตั้งแต่เช้าแล้ว
7:00
[ดิสเราขอโทษเรื่องวันนั้น ตอนนี้ทางกิลด์เทวะ สามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว ถ้าดิสให้อภัยเราแล้วมาที่กิลด์เราได้นะ พวกเราพร้อมจะช่วยเหลือดิสเสมอนะ]
7:23
[ดิสคงเห็นข่าวแล้วว่าตึกกิลด์เทวะโดนโจมตี เราคิดว่านั่นคือฝีมือพญาครุฑ ดิสยังปลอดภัยอยู่รึเปล่า?]
7:30
[ดิสยังไม่ต้องให้อภัยเราก็ได้ แต่ถ้าเดือดร้อนอะไรก็ติดต่อมาได้นะ]
ดิสมองข้อความเหล่านั้นด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ‘เราคิดถูกรึเปล่านะ… ที่โกรธเธอแบบนี้’
To be continued →