ร่างมอนเตอร์นอนตายเกลื่อนกลาดอยู่ที่ปากทางเข้า ดิสสาวเท้าเดินข้ามศพพวกมันเข้าไปด้านในอย่างไปแยแส
จะว่าไปแล้วพวกมอนเตอร์ลูกกระจ๊อกพวกนี้มันมีหน้าตาคล้ายกับมนุษย์เลย เหมือนพวกผีดิบซอมบี้อะไรแบบนั้น
เขาชักอยากรู้แล้วล่ะสิ… ว่าบอสดันเจี้ยนแห่งนี้จะเป็นตัวอะไร
แสงสว่างจากประกายไฟบนถุงมือดิสส่องนำทาง ขณะสาวเท้าในอุโมงค์ซึ่งคดเคี้ยวไปมา
จะว่าไป… เขาเริ่มคุ้นมือกับศาสตราทมิฬนี้ไปซะแล้ว ไม่ว่าก่อนหน้ามันจะเคยเป็นของใคร แต่ตอนนี้มันคืออาวุธสุดเทพประจำกายเขา
ดิสเดินมาจนถึงจุดหมายซึ่งเป็นทางสิ้นสุดของอุโมงค์ยาว สิ่งที่เห็นคือหญิงแก่เล็บยาวแหลม มันยืนแลบลิ้นพร้อมกับแยกเขี้ยวใส่เขาอย่างดุร้าย
ปลายนิ้วทั้งห้าของหญิงชรายกขึ้นมาทำมือเปิบ ดิสนั้นรู้ได้ทันทีว่านี่คือดันเจี้ยนของตัวอะไร
‘บอสแม่งเป็นปอบเหรอวะเนี่ย…’
ดิสมองนิ่งๆ จริงๆ การเข้าดันเจี้ยนมันก็สนุกอยู่อย่าง มันลุ้นดีว่าพอเข้าไปข้างในแล้วจะเจอกับตัวอะไร
แต่จะว่าไป… สาเหตุที่เขาอยากมาที่นี่คนเดียวมันก็มีอยู่
เขาจะเค้นคำตอบให้ได้ว่าการประหารคืออะไร
“นี่ยาย.. ตอบมาหน่อยว่าการประหารคืออะไร-”
อ้ากกกก!
ไม่ทันได้พูดจบนังปอบก็พุ่งเข้ามาหมายจะจิกเล็บใส่หน้าอกของเขา แต่ดิสก็ไหวตัวทัน เลยใช้มือปัดจนหญิงชรากระเด็นกลิ้งไปกับพื้น
มันหันมาคำรามใส่ดิส ก่อนจะยันกายลุกขึ้นคลาน
ดิสที่เห็นแบบนั้นจึงใช้ความเร็วเข้าไปประชิด แล้วเหยียบแผ่นหลังกดอีกฝ่ายแนบติดพื้น
“รู้นะว่าพูดได้ รีบตอบมาการประหารคืออะไร?”
บอสบอปแห่งดันเจี้ยนแรงค์ A ตะเกียกตะกายบนพื้นพร้อมร้องคำรามดิ้นขัดขืน
“ปล่อยข้า… ไอ้มนุษย์ระยำ แล้วรีบประหารข้าเดี๋ยวนี้…”
ดิสมองภาพตรงหน้าอย่างไม่พอใจ มันไม่ยอมตอบคำถาม เอาแต่พูดเรื่องการประหารไม่หยุด
ดิสยกเท้าขึ้น ก่อนจะเตะสีข้างจนยายชรากลิ้งไปกับพื้นด้วยอาการจุก
“ดูท่าคงไม่อยากคุยกันดีสินะ”
พอดิสว่าจบก็เดินตรงไปหาหญิงชราปอบแล้วจิกหัวขึ้นมา
“บอกมาว่าการประหารคืออะไร แล้วฉันจะรีบประหารแก”
หญิงชราแยกเขี้ยว มันยังคงไม่ยอมตอบอะไรดิส
“จะเอาแบบนี้ใช่ป่ะ?”
มอนเตอร์ผู้หญิงเขาก็เคยจัดการมาแล้ว วันนี้เขาต้องมาเจอมอนเตอร์คนแก่ หลังจากนี้เขาคงต้องไปหามอนเตอร์เด็กและคนท้องมากระทืบล่ะมั้งจะได้ครบสูตร
พอดิสว่าจบก็ตบปอบชราจนหน้าสะบัด ก่อนจะพูดคำถามอีกครั้ง “ตอบ”
หญิงชราไม่พูดอะไร ดิสจึงตบใส่หญิงชราหน้าสะบัดอีกครั้ง พร้อมกับถามคำถามเดิม “ตอบ”
หญิงชรายังคงแยกเขี้ยวขู่คำรามพร้อมดีดดิ้นขัดขืน ดิสจึงกระหน่ำตบใส่หน้าไม่ยั้งพร้อมกับยิงคำถามใส่ไม่หยุดเช่นกัน
ไม่รู้ตั้งแต่ตอนไหนที่เขาเริ่มเลือดเย็นและโหดเหี้ยมขึ้นถึงเพียงนี้ มันอาจจะเป็นเพราะการต่อสู้ที่ผ่านๆ มาก็ได้ ที่เปลี่ยนแปลงเขามาเรื่อยๆ
ดิสง้างมือขึ้นอีกครั้งก่อนจะตบเข้าที่ใบหน้าหญิงชราจนมันปลิวหลุดมือเขาไถลไปกับพื้น
ชายหนุ่มหรี่ตามองปอบที่เลือดกลบปากไม่มีแรงลุกขึ้นยืน
“ตอบ”
ไม่มีใครหรือตัวอะไรที่จะหนักแน่นได้ตลอดเวลา ปอบที่กุมปากตัวเองสั่นกลัวเมื่อเห็นดิสเดินเข้ามาใกล้
“ตอบสักทีดิ ถ้าไม่อยากโดนอีก”
ปอบชรายกมือขึ้นปรามเขา ตัวสั่นอย่างหวาดกลัว “บะ บอกแล้ว อย่าตบข้าต่อเลย”
ดิสยกมือขึ้นกอดอกอย่างมีชัย โดนตบจนฟันแทบร่วงหมดปาก ใครล่ะจะไม่ยอม
“งั้นบอกมาว่าการประหารคืออะไร”
หญิงชราเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะอธิบายตัวสั่น “พะ… พวกเราคือนักโทษประหาร ทะ ที่นี่คือคุก”
ดิสเลิกคิ้วสูงเมื่อได้ยินแบบนั้น “พูดต่อไป”
“กะ.. การที่เราจะพ้นโทษออกไปจากที่นี่ได้คือการถูกมนุษย์อย่างพวกเจ้าประหาร และเงื่อนไขคือมนุษย์คนนั้นต้องเป็นคนที่เรารู้สึกว่าคู่ควร”
'โห… บอกซะหมดเปลือกเลย…'
“แกใช้เกณฑ์อะไรวัดว่าใครคู่ควร?”
ดิสขมวดคิ้วเป็นปม คำตอบที่ได้นั้นนำไปสู่คำถามใหม่ “ทำไมต้องเป็นมนุษย์เท่านั้นด้วย ทำไมต้องตายก่อนถึงจะเป็นอิสระ ใครเป็นคนคิดกติกาพวกนี้ขึ้นมา”
“คะ แค่รู้สึกว่าคู่ควรก็พอแล้ว…”
ท่าทีของปอบชรานั้นหวาดกลัวซะยิ่งกว่าเก่า เมื่อต้องพูดต่อ แต่มันไม่ได้หวาดกลัวต่อเขา มันหวาดกลัวต่อสิ่งที่เหนือกว่า
“ไม่ได้… ข้าพูดต่อไม่ได้”
ดิสเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจนัก เขาเดินไปเตะปอบตัวนั้นจนหงายท้องพร้อมกับง้างมือเตรียมจะตบต่อ
“เร็วรีบตอบมา ใครคือคนคิดเกมส์บ้าๆ นี่ขึ้น!?”
ปอบยกมือขึ้นปรามตัวสั่น “ก็ได้ข้าบอกแล้ว แต่เจ้าต้องรีบประหารข้าทันทีหลังข้ากล่าวจบ”
ดิสลดมือลงพร้อมพยักหน้า “ได้ รีบบอกมา”
ปอบชราเริ่มสูดหายใจเข้าปอด “มันคือการละเล่นของพวกเท-”
แผละ!
ไม่ทันได้พูดจบศีรษะของหญิงชราก็ระเบิดกระจาย สิ่งที่เห็นทำดิสนิ่งค้างไป
เขาค่อนข้างช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น
‘นี่มันเกิด… อะไรขึ้นวะ? ’
มีบางอย่างกำลังถูกปิดบัง มีใครสักคน ไม่สิ อะไรสักอย่างอยู่เบื้องหลังการห้ำหั่นของผู้มีพรสวรรค์และมอนเตอร์
ดิสหันมองรอบๆ ก่อนหน้าต่างระบบจะขึ้นแจ้งเตือนตรงหน้าเขา
เควส : ผ่าน!
‘มันไม่ใช่ฝีมือของฉัน…’
มันมีคนชักใยทั้งหมดนี่อยู่เบื้องหลัง นี่มันคืออะไรกันแน่ หรือพวกนี้มันจะอยู่เบื้องหลังความพิเศษของเขา
‘นี่มันเรื่องอะไรกันแน่วะเนี่ย….’
To be continued →