ตอนนี้หน่วย คปพส. ควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างที่ด้านหน้าตึกของสำนักงานพรานทมิฬแห่งประเทศไทยไว้ได้หมดแล้ว
บริเวณโดยรอบเริ่มถูกปิดกั้นด้วยเทปเหลืองและรั้วเหล็ก เหล่านักข่าวที่หลบอยู่ด้านในเริ่มออกมาดูสถานการณ์ด้านนอกกัน หลังจากนั้นแยกไปถ่ายทอดสดและเสนอข่าวการบุกของกลุ่มแมรี่
กลุ่มเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธเข้าจับกุมเหล่าผู้ก่อการร้ายที่เหลือรอดใส่กุญแจมือ และเตรียมจะขนย้ายขึ้นรถตู้ของหน่วยเพื่อนำไปดำเนินคดีตามกฏหมาย
ตรีชาติรู้สึกไม่ชอบมาพากลนัก นี่มันค่อนข้างจะแปลก เขาคิดขณะที่กำลังลากแขนพาผู้ก่อการร้ายผอมแห้งคนที่มาถึงทีหลังคนนั้นตรงไปยังรถขนย้าย
นี่มันแปลกเกินไป ไอ้ชินมันหายไปไหน มันไม่มาด้วยงั้นเหรอ? เขาหันไปมองคนที่กำลังถูกเขาจับแขน ไอ้นี่มันถูกส่งมาหลังจากนั้นกลุ่มผู้ก่อการร้ายก็ยอมแพ้
ระหว่างที่เดินจนไปถึงรถตู้ขนย้ายผู้ต้องหา ตรีชาติจับลากชายผอมแห้งคนนั้นเหวี่ยงกลิ้งไปกับพื้นก่อนจะชักปืนลูกโม่ขึ้นมาเล็งแล้วตะคอกเสียงดัง!
“พวกมึงมีแผนอะไร! ไอ้ชินอยู่ไหน!?”
เจ้าหน้าที่นายหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ รถตู้ถึงขั้นตกใจเมื่อเห็นหัวหน้าตนทำแบบนั้น จึงรีบเข้ามาห้าม
ผู้ใต้บังคับบัญชาตรงมาหาผู้มียศสูงกว่าก่อนจะพยายามพูดปรามอีกคน
“ใจเย็นนะครับท่าน เดี๋ยวเราค่อยสอบสวนมันที่สำนักงานเอาก็ได้”
เมื่อเจ้าหน้าที่เลือดร้อนได้ยินแบบนั้นก็หันไปมองอีกฝ่าย แล้วถอนหายใจออกมา
“เด็กใหม่ใช่มั้ยไอ้หนู?”
เมื่อเจ้าหน้าที่คนนั้นได้ยินก็มีอาการประหม่าเล็กน้อย “คะ ครับ”
ตรีชาติยิ้มมุมปากก่อนจะเก็บปืนเหน็บไว้ที่เอวเช่นเดิม “แกคงสงสัยว่า ทำไมไอ้หัวหน้าหนวดนี่ถึงซ้อมผู้ต้องหา ทั้งที่นักข่าวกำลังพากันถ่ายทอดสด แกคิดว่าฉันเป็นพวกเจ้าหน้าที่หัวร้อนที่ไม่เคารพกฏหมายที่ตัวเองต้องดูแลใช่มั้ย?”
พอพูดจบตรีชาติก็เอื้อมมือไปคว้าท้ายทอยของเจ้าหน้าที่คนนั้นกดให้ก้มตัวลง ให้เงยหน้ามองความเสียหายรอบที่มาจากฝีมือกลุ่มแมรี่
“แกดูฝีมือพวกมัน เห็นมั้ยว่าพวกมันทุ่มสุดตัวแค่ไหน? แกคิดว่ามันจะโง่ส่งกำลังเสริมผอมแห้งมาคนเดียวรึไง? ไอ้โง่”
“ถ้าอ่านสถานการณ์ไม่ออกก็เงียบปากไป ไม่ต้องแส่มาห้ามฉัน เข้าใจมั้ย!?”
พอตรีชาติว่าจบก็เหวี่ยงร่างเจ้าหน้าที่หน้าใหม่คนนั้นเซออกไปจนเกือบจะล้ม อีกฝ่ายดูกลัวเขาไม่น้อย พอทรงตัวได้เลยเดินหนีออกไปทันที
ชายผอมแห้งที่มองดูสถานการณ์มาตั้งแต่ต้นเริ่มหัวเราะ ก่อนจะกล่าวคำพูดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ
ตรีชาติเลิกคิ้วเมื่อได้ยินแบบนั้น “พูดเหี้ยไรของมึงวะ? หัวเราะหาพ่***มึงเหรอ?”
พอเริ่มจะมองดีๆ ชายผอมแห้งคนนี้ก็ดูแต่งตัวดีไม่น้อยถ้าเสื้อผ้าไม่ขาด หน้าตาดูเหมือนคนยุโรปลูกครึ่งเอเชียสักประเทศ
ตรีชาติรู้ทันทีว่าตนถามไปก็เสียเวลา ทั้งสองคุยคนละภาษา เจ้าหน้าที่เลือดร้อนทำได้แค่เพียงต่อยระบายอารมณ์กับประตูรถเท่านั้น
เขาเกือบจะจับไอ้ชินได้แล้วแท้ๆ มันหายไปไหนวะ?
ตรีชาติกระหน่ำรัวหมัดใส่ประตูรถด้วยความหงุดหงิดไม่สนว่าจะเจ็บมือไหม แต่ในขณะนั้นรถที่ตนคุ้นตาก็ขี่ตรงมาจอดใกล้เทปกั้น
มันคือรถของดิส…. ตรีชาติรีบเดินตรงไปหา แต่คนที่ออกมาคือราชาวดีและมิกส์ ตรีชาติชะลอฝีเท้าก่อนจะหรี่ตามองพวกเขา
ราชาวดีมีสีหน้าร้อนรน เธอต้องขอความช่วยเหลือเดี๋ยวนี้ ตรีชาติใช้เวลาไม่นานก็เดินมาถึงรถที่เพิ่งขับมาจอด
“ที่โรงรถ! ดิสกำลังถูกพวกมันจับอยู่ที่โรงรถค่ะ ได้โปรดไปช่วยเขาที!”
ราชาวดีกล่าวด้วยน้ำเสียงร้อนรน พวกมันมีอีกกลุ่มอยู่ที่โรงรถ ชินอาจอยู่ที่นั่น ตรีชาติโล่งใจ เขาอาจเจอฆาตกรร้ายที่เขากำลังตามล่า
“ได้!”
ตรีชาติว่าก่อนจะควักปืนออกมาถือไว้ ตอนนี้เวลาล้างแค้นของเขากำลังจะมาถึง แต่ทันใดนั้นเสียงปืนก็ดังขึ้นอยู่ไกลๆ
ปั้งงง!
ปั้งงง!
ปั้งงงง!
ทุกคนนิ่งชะงัก เสียงปืนนั้นดังมาจากโรงรถแน่ๆ พวกเขาต้องรีบไปช่วยดิส ตรีชาติหันไปทางเจ้าหน้าที่ที่เหลืออยู่ก่อนจะตะโกนเรียกพวกนั้นเสียงดัง
“เตรียมอาวุธ ศึกนี้ยังไม่จบ!”
เมื่อเจ้าหน้าที่ทุกนายได้ยินแบบนั้นก็ปฏิบัติตามคำสั่งทันที กระสุนปืนถูกบรรจุ ทุกคนนั้นเตรียมพร้อมออกรบตั้งรับกับพวกแมรี่อีกครั้ง
แต่ในขณะนั้นชายผอมแห้งก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน “ให้เข้าไปยุ่งไม่ได้หรอก… แมรี่ต้องการพบกับชายคนนั้น”
ตรีชาตินิ่งชะงักเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดไทยได้อย่างคล่องปาก คนอื่นก็เริ่มเตรียมรับมืออย่างระมัดระวังตัว
ดวงตาชายเลือดร้อนแสดงวงเวทย์หยุดพรสวรรรค์อีกฝ่ายก่อนจะได้เรียกใช้ พร้อมกับยกปืนขึ้นลั่นไกเจาะทะลุกบาลจนหัวสะบัดล้มลองกองกับพื้น
“หุบปาก…”
นักข่าว ราชาวดี มิกส์ และเจ้าหน้าที่ทุกนายนิ่งค้างมองตรีชาติที่กระแอมเบาๆ
“ถ้าจะถามว่ายิงทำไมนี่หุบปากเลย ก็เห็นอยู่ว่ามันจะโจมตี จะรอให้มีคนตายก่อนรึไงถึงจะยิงได้”
ไม่มีใครตอบคำถามของตรีชาติได้ ส่วนมิกส์หรือราชาวดีก็ไม่ได้มีข้อโต้แย้งใดๆ เขาเพียงต้องการช่วยดิสเท่านั้น
พอเห็นว่าไม่มีอะไรแล้ว ทุกคนก็เตรียมพร้อมจะเข้าไปช่วยดิส แต่ก็ต้องชะงักอีกครั้งเมื่อชายผอมแห้งคนนั้นลุกขึ้นยืน แผลที่หน้าผากค่อยๆ กลับมาสมานกันอีกครั้ง
“บอกแล้วไงว่า ชายคนนั้นเป็นความต้องการของแมรี่”
ตรีชาติเล็งปืนไปยังชายคนนั้นอีกครั้ง “มึง… เป็นใครกันแน่?”
“ฉันชื่อแจ็คเคิล และแกกำลังจะได้พบกับเพื่อนฉัน ไฮด์!”
พอว่าจบชายคนนั้นก็กางเวทย์สีม่วงขึ้นมากางตรงหน้า ตรีชาติพยายามใช้พรสวรรค์ของตนหยุดอีกฝ่ายไว้แต่ก็ไม่เป็นผล เหมือนกับว่าเขาพยายามเท่าไหร่ วงเวทย์สีม่วงนั่นก็จะดูดมานาเขาไปเท่านั้น
วงเวทย์ลอยผ่านร่างชายคนนั้น มันหลอมรวมกันก่อนอีกฝ่ายจะกลายร่างจนตัวสูงกว่ารถบัส มันคือกอริล่าสี่แขน ไม่มีขนสักเส้น แถมผิวหนังของมันยังเป็นสีเดียวกับวงเวทย์อีก
อ้าาาาาาาาาาาก!
มันคำรามเสียงดังทำนักข่าวที่ห้อมล้อมอยู่บริเวณเทปกั้นพากันวิ่งหนี
ปั้งงง!
ปั้งงง!
ปั้งงงง!
เจ้าหน้าที่หลายนายที่ตั้งสติได้รีบยกปืนยิงกระสุนชนิดพิเศษใส่มันอย่างไม่ยั้งมือทันที
ตรีชาติมองภาพนั้นนั้นอย่างตกตะลึง เขารู้สึกเหมือนมานาถูกดูดออกไปจากร่างกาย พลังของเขาไม่เคยไร้ผลมาก่อน มันเกิดอะไรขึ้น?
อสูรกายกอริล่า 4 แขน ยกมือขึ้นทุบอกร้องเสียงดังขณะถูกรุมกราดยิงใส่อย่างไม่ยั้ง แต่เหมือนกระสุนชนิดพิเศษจะทำอะไรไม่ได้ แถมไอ้ลิงบ้าตัวนี้กลับขยายใหญ่ขึ้นยิ่งกว่าเก่าซะอีก
ราชาวดีเริ่มเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เธอเห็นตรีชาติเรียกวงเวทย์มาที่ตาและพยายามใช้ แล้วทุกๆ ครั้งร่างมันก็จะยิ่งขยายใหญ่ขึ้น จึงรีบเดินตรงเข้าไปเขย่าไหล่เรียกตรีชาติ
“รีบสั่งให้ทุกคนหนีออกไปจากนี่นี่ มันดูดมานาคนอื่นและเปลี่ยนให้กลายเป็นพลังของมัน”
ตรีชาติเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจนัก ก่อนจะออกคำสั่งตามคำแนะนำของราชาวดี
“ทุกคนหนีให้เร็วที่สุด!”
แม่งเอ้ย!
ตรีชาติสบถในใจก่อนจะเริ่มสาวเท้าวิ่งหนีเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ทำไมทุกอย่างมันถึงไม่ง่ายเลย
อสูรกายลิงยักษ์ 4 แขนยกรถตู้ขึ้นก่อนจะขว้างทิ้งไปกระแทกกับพื้นถนนจนระเบิดสังหารคนในรถจนหมด
ตู้มมม!
อ้าาาากกกก!
มันร้องคำรามก่อนจะไล่ทุบมนุษย์ตัวจ้อยที่กำลังวิ่งหนี ไม่มีใครตอบโต้มันได้เลยแม้แต่คนเดียว
ตรีชาติวิ่งไม่สนชีวิต ไม่มีกองกำลังก็ได้ เขาจะไปที่โรงรถด้วยตัวคนเดียวนี่แหละ ยังไงวันนี้เขาก็ต้องได้เจอกับชิน
ในขณะนั้นไอ้ลิงยักษ์มองไปเห็นคนที่ยิงเจาะกระโหลกมันวิ่งอยู่ กอริล่าจึงคำรามเสียงดังก่อนจะจับนักข่าวคนหนึ่งเขวี้ยงทิ้งลอยหายไป
มันยกมือทั้ง 4 ข้างขึ้นทุบอก ก่อนจะวิ่งเหยียบผู้คนไล่ตามตรีชาติไป
เจ้าหน้าที่หัวร้อนเดาะลิ้น ‘ตามมาทำซากอะไรวะ!? ’
To be continued →