ให้รู้ว่าเป็นห่วง1

1103 Words
หลังจากได้ที่พักซึ่งเป็นกระท่อมไม้ไผ่ติดกับลำธารโดยมีบ้านพักของชาวบ้านอยู่รายรอบ ๆซึ่งบ้านพักอีกหลังห่างกันไม่มากก็เป็นของอีกคน “ขาดเหลืออะไรบอกได้นะครับ เดี๋ยวผมจะให้ลูกบ้านจัดหามาให้ แล้วนี่…” สายตาเมียงมองอย่างสนใจเห็นรอยบาดแผลที่ถูกปิดไว้ “คะ?” และนึกขึ้นได้จึงยกมือขึ้นไปแตะที่แผลตัวเอง “อ้อ ก่อนออกจากบ้านเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไรค่ะ” เธอบอกพร้อมรอยยิ้มยืนยันว่าไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย ผู้นำหมู่บ้านยิ้มกว้างอย่างโล่งใจ “ครับ หากมีอะไรรีบบอกนะครับ” “ค่ะ” เธอยิ้มรับ แล้วใช้สายตากวาดมองไปรอบห้องอีกครั้ง ซึ่งในกระท่อมซึ่งมีฟูกกับผ้าห่มและหมอนด้านข้างมีโต๊ะเตี้ย ๆ และตู้ไม้ไม่ใหญ่มากวางอยู่กับถังน้ำขนาดเล็ก ซึ่งเธอคิดว่าเพียงแค่นี้ก็พอแล้วสำหรับเธอ “ขอโทษนะคะห้องน้ำอยู่ด้านนอกใช่ไหมค่ะ” “ครับห้องน้ำอยู่ด้านหลังครับต้องเดินอ้อมออกไปครับ” ญารินมองตามนิ้วที่ชี้ไปตรงหน้าต่างก็เห็นว่ามันอยู่ด้านหลังบ้านพักของเธอ “อ๋อค่ะ ขอบคุณค่ะ” ถึงจะเป็นลูกสาวนักธุรกิจใหญ่ซึ่งอยู่กับสิ่งแวดล้อมและเครื่องอำนายความสะดวกครบครัน อีกทั้งมีคนรับใช้คอยปรนนิบัติ แต่กระนั้นเธอก็ไม่ได้เป็นคุณหนูจ๋าที่หยิบจับอะไรไม่เป็น เพราะทุกอย่างเธออยากเรียนรู้ด้วยตนเอง ยามมีโอกาสเธอจึงตัดสินใจออกค่ายอาสาต่างจังหวัดจนนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้ชินกับการใช้ชีวิตแบบชนบทได้เป็นอย่างดี หากใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไป เธอก็อยู่ได้ ดีเสียอีกจะได้ไม่ต้องรับรู้ความวุ่นวาย ที่เธอไม่รู้ว่าหลังจากนี้จะเจอกับสิ่งใดบ้างเมื่อกลับไป … “งั้นผมไปก่อนนะครับ มีอะไรก็เรียกใช้ได้นะครับ” เมื่อผู้นำชุมชนเดินออกไปแล้วญารินก็รีบสำรวจประตูหน้าต่างดูความเรียบร้อย ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกกลัวอะไรมากไปกว่าผู้ชายที่พักอยู่อีกหลัง แม้ทั้งเสื้อผ้าของเธอที่ลืมไปแล้ว ระหว่างที่ออกมายืนรับลมชมธรรมชาติและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เสียงหนึ่งดังแทรกเข้ามาทำให้ใจที่ล่องลอยไร้จุดหมายดึงกลับเข้ามา พร้อมสายตาปรับเปลี่ยนกลับมาปกติ “อยู่ได้ใช่ไหมครับ” ญารินชักสีหน้าเมื่อเห็นแววตาและสีหน้าคล้ายไม่เชื่อ “ทำไมจะอยู่ไม่ได้” “ก็…” “ทำมาเป็นรู้ดี” เธอว่าเสียงขุ่น ใบหน้าที่เคยเรียบไร้รอยยิ้มพาดผ่านกระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ญารินกำหมัดแน่นแล้วคลายออกเมื่อคิดว่าไร้ประโยชน์จะต่อปากต่อคำ เธอจึงถามใหม่ “บอกได้หรือยัง ว่าลุงแทนไปไหน” ตาคมเข้มตะหวัดมองแล้วเอ่ยขึ้น “อยากรู้จริง ๆเหรอ” “ใช่อยากรู้” “งั้นสัญญานะ หากรู้แล้ว คุณก็ต้องทำสิ่งตั้งใจไว้ให้สำเร็จ” ญารินชั่งใจครุ่นคิด ว่าจะเอาไงต่อ ก่อนจะตัดสินใจพยักหน้า “ได้สัญญา ไม่ว่าคำตอบจะมาในรูปแบบใด ฉันจะทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ให้สำเร็จ” “ได้ครับถ้าอยากรู้เดี๋ยวผมจะบอกให้” เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยบอก แล้วเดินตามลงไปด้านล่างซึ่งเป็นลำธารน้ำใสแล้วหยุดอยู่ตรงด้านหลัง โดยเว้นระยะห่างไว้ “ผมมาทำหน้าที่แทนลุงแทน” เจ้าของดวงตากลมโตหันมาจ้องหน้าอย่างไม่เชื่อหู “คนไม่เคยเจอหน้า และไม่มีใครยืนยันได้ว่าคุณใช่คนที่น่าไว้ใจหรือเปล่าจะให้ฉันเชื่อได้ยังไงว่าที่คุณพูดมามันเรื่องจริง” “ถ้าผมจะทำร้ายคุณผมทำร้ายไปนานแล้ว” เขายืนยันคำเดิม “ก็นั่นสิ ฉันก็แปลกใจ ว่าถ้าคุณเป็นอริกับพ่อฉันหรือเป็นคนของคุณพ่อ ฉันคงไม่มายืนคุยอยู่ตรงนี้แน่” “งั้นก็ยืนยันได้ว่าผมไม่ใช่คนอันตรายสำหรับคุณ” “ฉันจะเชื่ออย่างนั้นก็ได้ แต่ตอนนี้ฉันอยากรู้ว่าลุงแทนไปไหนและเป็นอะไรมากหรือเปล่า” “ตอนนี้ผมยังบอกไม่ได้” “ทำไมถึงบอกไม่ได้” “ลุงแทนสั่งไว้ รอคุณพร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอก” “คุณอย่ามาเล่นตุกติก ก็คุณบอกเองว่าให้มาถึงที่หมายแล้วคุณจะบอกเรื่องทุกอย่าง” “ผมอยากให้คุณอยู่ตรงจุดนี้ให้มั่นใจก่อนว่าคุณจะทำความฝันได้สำเร็จแล้วผมถึงจะบอก” “คุณผิดคำพูดแล้วนะ แล้วอย่างนี้จะให้ฉันเชื่อคำพูดคุณได้ไง” “ผมไม่ทำร้ายคุณเหมือนที่ลุงแทนไม่เคยคิดทำร้ายคุณนั่นแหละ” “คุณกับลุงแทนผิดกัน” “ก็ให้เวลามันพิสูจน์สิ คุณอยู่ที่นี่อีกหลายเดือนไม่ใช่เหรอ” “ก็ใช่แต่ฉันรอไม่ได้หรอกนะหากไม่รู้ว่าลุงแทนตอนนี้จะเป็นตายร้ายดียังไง” “คุณทำหน้าที่ของคุณให้ลุล่วง ลุงแทนก็ดีใจแล้ว” “คำพูดของคุณ ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีมากไปกว่าการบอกความจริงหรอกนะ” “เอาเป็นว่าหากคุณต้องการให้ลุงแทนสบายใจ ก็จงทำงานของคุณให้สำเร็จเถอะ” “ผมจะไปเอากระเป๋าเสื้อผ้ามาให้นะครับ” เอ่ยจบก็หมุนตัวหันหลังเดินกลับไปทางเดิม “เอะ…” ญารินอ้าปากจะพูดต่อ แต่ชายหนุ่มไม่อยู่รอฟัง “จะไปก็ไป จะมาก็มา” เธอบ่นกระปอดกระแปดแล้วเดินกลับไปยังบ้านพักของตัวเอง ด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยคำถามมากมายที่ยังไม่ได้คำตอบ หลังจากที่กระเป๋าถูกวางลงหน้าประตู เธอก็เดินออกมาหา “เดี๋ยว ฉันยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย” เธอรั้งเขาไว้ด้วยคำถาม ใบหน้าคมเข้มหันมามอง แล้วเอ่ยตอบ “เรียกผมว่ามินก็ได้ครับ” “มินเหรอ” “ครับมิน” เจ้าของชื่อทวนคำตอบให้แล้วหันหลังเดินกลับ “อ้อ… ยาลืมกินยาด้วยล่ะ” เขาหันมาบอกแล้วเดินตรงไปยังที่พักของตัวเองโดยมีสายตาสับสนมองตามหลังไป แม้อยากโวยวายใส่เขา แต่กลับทำไม่ได้ เพราะมีบางอย่างที่ผู้ชายคนนี้คล้ายกับลุงแทน ซึ่งทำให้เธอรู้สึกสับสนและสรุปไม่ได้ว่าเธอไว้ใจผู้ชายคนนี้ อย่างที่เธอไว้ใจลุงแทนได้หรือไม่…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD