บทที่3.รอยราคีที่ต้องจำจนวันตาย...

1565 Words
“ไม่ว่าตอนนี้ หรืออีก10 นาทีข้างหน้า มันไม่ต่างกันหรอกคนสวย” ชายหนุ่มเปรยเยาะๆ เขากระตุกชายผ้าทิ้งลงข้างตัว ก่อนจะเดินโทงๆ ไปยังเตียงนอนขนาดใหญ่ที่อยู่หลังบานประตูห้องนอน เขาเอี้ยวตัวมามองพะแพง พยักหน้าเรียกเธอ...แล้วก็เดินโยกซ้าย โยกขวา เหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดาเสียเหลือเกิน ปล่อยให้หญิงสาวนั่งเบิกตาโตๆ เธอมองแก้มก้นเป็นปั้นๆ ของภาคินตาค้าง... เกิดมาจนมีอายุเกือบ23 ปี พะแพงสาบาน แม้แต่พี่ชาย เธอก็ยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน ‘ผู้ชายเปลือย’ แม่เจ้าเธออยากจะร้องกรี๊ดๆ ใช่สิ!! เขาคงไม่อาย เมื่อหุ่นของเขา เท่าที่สายตาของเธอจับโฟกัสได้...นายแบบหนังสือปลุกใจชื่อดัง คงต้องกัดลิ้นตาย หากได้มาเห็นภาคินในตอนนี้ เท่าที่พะแพงจำได้...ผู้ชายเปลือยอกเธอเห็นออกบ่อย เมื่อแหล่งชุมชนแออัดนั้น หลังเลิกงานหนุ่มๆ รักดีก็จะออกกำลังกาย และการถอดเสื้อเนื่องจากอุณหภูมิในตัวร้อนจัด จึงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เธอไม่เคยสะดุดตาหนุ่มคนไหน เท่ากับผู้ชายที่เพิ่งเดินเปลือย...ให้เธอเห็นเต็มตาคนนี้เลย พะแพงไม่เคยรู้มาก่อน ว่าก้นผู้ชายจะสะกดสายตาคนมองได้ชะงัด ก้นของภาคินเต่งและงอน...และเท่าที่ได้ยินมา ผู้ชายส่วนใหญ่จะก้นปอด แต่ที่เห็นเต็มตาอยู่นี่ ก้นผู้ชายเต่งๆ งอนๆ และเมื่อยามที่เขาก้าวเดิน...มันก็ชวนมองไม่ใช่น้อย เธอเผลอมองตามจนเขาหายลับไปหลังบานประตูนั่น “พะแพง...เธอควรทำตามสัญญาได้แล้วนะ” เสียงตะโกนเรียกดังๆ ดังมาจากด้านในห้อง จนหญิงสาวสะดุ้ง!! เธอหลุดออกมาจากภวังค์ รีบยันกายลุกขึ้นยืนช้าๆ ลากขาที่หนักอึ้ง!! เดินเข้าสู่แดนประหารด้วยหัวใจโทรมน้ำตา... จนกระทั่งเดินมาหยุดอยู่กลางห้องนอน ที่มีแสงสว่างเพียงน้อยนิด ภาคินนั่งอยู่บนโซฟา เขาตวัดขาไขว่ทบกัน ปิดบังของสงวนของตัวเองไว้อย่างมิดเม้น ชายหนุ่มหรี่ตาลง เขาลุ้นและกำลังประเมินหุ่นของแม่สาวเศษขยะเน่าๆ มันจะคุ้มไหม? หากเขาจะลงทุนเกลือกกลั้วกับหล่อนด้วย “จะถอดเอง หรือจะให้ฉันถอดให้...” หญิงสาวผงะ เธอเบิกตาโตๆ มองหน้าเขาอีกครั้ง ลมหายใจสะดุด รีบก้มหน้าหลบสายตาวาววาม “ว่าไงล่ะ เธอตัดสินใจเองนี่นา... ฉันไม่ได้บังคับเธอเลย ลมหายใจของไอ้พี่เวรของเธอนั่น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอแล้วนะ” ภาคินขู่...หากหล่อนยังมัวแต่ยื้อเวลา...เขาก็ไม่ปรารถนาที่จะบังคับ...ความเป็นความตายของพะนาย ขึ้นอยู่กับหล่อนคนเดียว มือสั่นๆ ยกขึ้นจับรังดุมตรงอกเสื้อ หลังจากนิ่งทำใจอยู่ชั่วครู่ ภาคินคราง... ‘อืม’ มันเป็นอะไรที่เกิดคาด!! แม่สาวน้อยตรงหน้าหุ่นดีจนเขาคาดไม่ถึง ลาดไหล่หล่อนกลมกลึงใต้เสื้อเชิ้ตพอดีตัวสีขุ่นๆ เพราะความเก่าเนื้อผ้า หลังงปลดเปลื้องสิ่งที่เขาเห็นสร้างความตื่นตะลึงได้ไม่ใช่น้อย เนินอกอวบอิ่มกลมพอเหมาะมือ รับกับช่วงเอวกิ่วคอดแค่ฝ่ามือเดียวของหล่อน เขาไล่สายตาเรื่อยลงไปถึงสะโพกผายกลมกลึงใต้กางเกงสีขรึมๆ ที่ก็คงเก่าไม่แพ้กันกับเสื้อเชิ้ตสีซีดๆ นั่น ชายหนุ่มพ่นลมหายใจแรงๆ เพื่อระบายความร้อนในร่างกายที่วิ่งพล่านผิดปกติ!! รอยยิ้มเหยียดๆ ปรากฏขึ้นมุมปากหนาหยัก หล่อนจะดูดีไม่มีที่ติ แต่หล่อนก็เป็นแค่ดอกไม้ข้างทาง... ที่จะถูกเด็ดดมและทิ้งขวางเมื่อมันไม่มีราคา และไม่สามารถยกขึ้นเชิดชู หรือปักลงในแจกันทอง เป็นได้แค่ของใช้ชั่วคราว พอหมดประโยชน์ หล่อนก็จะเป็นแค่กากเดนที่ไร้คุณค่า... “ขึ้นเตียงสิ เธอคงไม่คิดว่าฉันจะใจดี อุ้มเธอเดินขึ้นไปบนนั้นหรอกนะ” ขนาดจะมีอะไรกันบนเตียงนั่น ภาคินก็ยังไม่วายเหน็บพะแพงให้หล่อนเจ็บจี๊ดๆ ในใจ ใช่เธอมันไร้ค่า ไม่มีราคาคู่ควรสำหรับการยกย่อง แต่สักวันหนึ่งเถอะ สักวันหนึ่ง เธอดันตัวเองให้สูงเทียมฟ้า มีราคาให้เขาได้แต่แหงนมอง... พะแพงทิ้งเสื้อเชิ้ตในมือลงข้างเตียง เธอเดินหน้าชาขึ้นไปนอนหลับตาปี๋บนเตียงใหญ่...โดยที่ถอดได้แต่เสื้อตัวเดียว มือเธอหมดแรงตอนที่รูดซิปกางเกง เธอทำไม่ได้หรอก มันน่าอายเกินทน... ภาคินยันกายขึ้นช้าๆ เขาเดินมาหยุดข้างเตียง ทอดสายตาโชนแสง มองเขม็งมายังคนตัวสั่นเทาตรงหน้า คงเป็นเพราะความกลัว บวกกับความไร้เดียงสา เขาได้กลิ่นเช่นนั้นโชยออกมาจากร่างกายของเธอ ภาคินยิ้มเยาะ!! เขาทอดสายตามองพะแพงด้วยความสมเพช เขาต้องการอะไรจากหล่อน? ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นหัวเราะ!! “ฮ่าๆ” ผู้ชายอย่างเขาจะต้องการอะไรล่ะ มันก็เหมือนหนุ่มๆ อีกหลายคน พวกเขาย่อมต้องการ ‘พรหมจรรย์’ จากผู้หญิงจนๆ อย่างพวกเธอไง...อย่างอื่นนะเหรอคงไม่มี เมื่อเนื้อตัวของหล่อนถูกตีเป็นราคา และอย่างน้อยที่สุดหล่อนก็คือของเล่นชั่วคราวของเขา หรืออีกในหนึ่งก็คือ ‘เครื่องเล่นของเศรษฐี’ พะแพงเม้มริมฝีปากแน่น เธอสูดลมหายใจลึกๆ เมื่อเธอเลือกเดินทางนี้ สิ่งสำคัญของเธอ แต่มันช่างไร้ค่ากับคนตรงหน้าเหลือเกิน ช่างมันเถอะกับไอ้ความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่ไม่มีใครเห็นค่า...หากสิ่งๆ นี้ สามารถช่วยพี่ชายให้รอดชีวิตได้...มันจะเป็นรอยราคีที่เธอจะจำไปจนวันตาย...ก็ช่างมัน!! หยดน้ำตาค่อยๆ รินไหล เธอยกมือขึ้นปาดคราบน้ำตาร้อนๆ นั้น ไม่ต้องการแสดงความอ่อนแอให้เขามองเห็นและเปิดทางให้ภาคินได้ซ้ำเติม “รับประกันเลยพะแพง...เธอจะจำคืนนี้ไปจนวันตาย” ชายหนุ่มกล่าวเสียงแหบ ตอนที่เขาโน้มใบหน้าลงมากระซิบข้างหูหญิงสาว พะแพงแย้งในใจ...ใช่เธอจะไม่มีวันลืมคืนนี้ แต่ไม่ใช่เพราะความทรงจำดีๆ ที่มีต่อกัน... เธอจะสาปส่งเขา บันทึกทุกอย่างไว้ด้วยความเกลียดชัง...เขาจะเป็นความดำมืดในชีวิตของเธอ ที่ต้องจาลึกไว้ ด้วยหัวใจที่โทรมไปด้วยน้ำตา หญิงสาวเม้มปากแน่น ร่างกายสะท้านเยือก เมื่อริมฝีปากรุ่มร้อนแตะต้องผิวกายเปลือยเปล่า... เป็น ‘จูบ’ แรกที่หญิงสาวได้รู้จัก มันไม่ได้เริ่มต้นดีนัก เพราะมันเกิดขึ้นจากความจำยอม...          แต่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด!!          นับว่าภาคินมีฝีมือเชี่ยวพอตัว เขาสามารถโน้มน้าว ทำให้คนที่นอนแข็งเป็นท่อนไม้ หลงเคลิ้มไปกับสัมผัสแผ่วๆ นั่นได้          ‘จูบ’ สิ่งที่สาวๆ วัยแรกรุ่นส่วนใหญ่เคยนึกฝันยามค่ำคืน...พวกหล่อนอยากอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคน? ใครสักคนที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แต่ที่พะแพงกำลังผจญอยู่นี่... มันกลับเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ซ่านเสียวและทรมานจนหญิงสาวนึกหวั่นกลัว มันต่างกับที่เธอเคยฝันหวานไว้ ‘จูบ’ ไม่ได้อ่อนหวาน แต่มันกำลังทรมานเธอแทบจะขาดใจตาย... กำหนัดรุ่มร้อน ตามประสาหนุ่มวัยฉกรรจ์ แต่ที่ทำให้ภาคินแปลกใจ เขาทำเหมือนคนอดอยาก...ตะโบม ‘จูบ’ หล่อนไม่หยุด อารมณ์พุ่งพล่านของเขาพุ่งสูงขึ้น!! เหมือนกับถูกโยนขึ้นไปบนฟ้า แล้วก็ลอยละลิ่วตงลงไปในขุมนรก!!  เขาอยากจูบ อยากสัมผัสเธอมากขึ้น ชายหนุ่มก็เลยยิ่งกอดรัดคนในอ้อมแขนแน่นมากยิ่งขึ้นทุกทีๆ เขาย้ำพรมรอยจุมพิตทั่วใบหน้าหวานที่พยายามจะเบี่ยงหนี...แต่หล่อนหรือจะหนีพ้น  เมื่อถูกกักไว้ในอ้อมแขนแข็งแรงยิ่งกว่าปลอกเหล็ก รัดรึง...หน่วงเหนี่ยวหล่อนไว้ ด้วยร่างกายแสนกำยำ... ความรู้สึกแปลกใหม่วิ่งวนไปทั่วท้องน้อยของพะแพง...เธอขมวดคิ้วนิ่วใบหน้า เผยอปากเหมือนจะคราง จนต้องรีบหุบปากไว้ เมื่อปลายจมูกของภาคินซุกไซ้ลงบนผิวกายนุ่มนิ่ม ตรงลาดไหล่กลมกลึงของเธอ และเสียงสูดลมหายใจแรงๆ นั่น ทำให้หญิงสาวแทบผวา!! ชายหนุ่มอมยิ้ม กลิ่นหอมๆ ข้างซอกหูของพะแพงเหมือนกลิ่นดอกมะลิยามแย้มกลีบรับหยาดน้ำค้างเวลาเช้าตรู่ หยดน้ำแสนสะอาดที่ประพรมลงมาช่วงเช้าตรู่!! “ปะ... ปล่อยค่ะ...เอ่อ...ขอเวลาฉันหน่อยได้มั้ยคะ?” ภาคินหัวเราะลงลูกคอ “หึ หึ!! ฉันให้เวลาเธอมากแล้วน่า... ฉันคิดว่าเธอน่าจะพอทำใจได้บ้างแล้วนะ” “ค่ะ...เอ่อ” หญิงสาวพยายามท้วง... “พอเถอะ!! เรามาจบมันตรงนี้ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ” หนุ่มสุดทะนงตอบเสียงหงุดหงิด เขาชะโงกเข้าไปใกล้ๆ ใกล้เสียจนลมหายใจร้อนๆ ของเขาเป่ารดปลายจมูกเชิดโด่ง พะแพงเบี่ยงหน้าหนี ใบหน้าหวานแดงก่ำร้อนฉ่าและผิวแก้มคงขึ้นสีจัดพอๆ กัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD