มิลินดาริณ เป็นลูกสาวของผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่คินน์กำลังนอนพักรักษาตัว ครอบครัวของเธอกับครอบครัวของเขารู้จักกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่า
สมัยก่อนพวกผู้ใหญ่ชอบพูดกันเล่นๆ ว่า ถ้าสองคนนี้โตขึ้นจะให้หมั้นหมายกัน หญิงสาวจึงคิดมาตลอดว่าชายหนุ่มเป็นของตนเอง บวกกับไม่เคยเห็นเขามีแฟนเลยคิดไปไกล
“พี่คินน์ขาเป็นยังไงบ้าง มิลินขอโทษที่มาเยี่ยมช้า”
คนสวยก้าวเท้าฉับๆ เข้ามาในห้องพักของคนป่วยด้วยความรวดเร็วโดยมีน้ำปั่นเดินตามหลังติดๆ
ด้วยความยาวของขาทำให้มิลินดาริณเดินมาถึงประตูก่อน
น้ำปั่นยืนมองผู้หญิงที่บอกว่าตัวเองคือคู่หมั้นของคินน์ด้วยสายตาอิจฉานิดๆ
ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้สวยตั้งแต่เส้นผมยันปลายเล็บ แขนเรียว ขายาว หน้าท้องไร้ไขมัน นึกว่าเป็นนางแบบ แตกต่างจากเธอราวฟ้ากับเหวโดยเฉพาะเรื่องความสูง
มิลินดาริณยิ้มหวานให้คินน์ก่อนจะปรายตามองสองแฝดที่กำลังจ้องมองเธอด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
เธอมาเยี่ยมเขาช้าเพราะมัวแต่ไปเที่ยวแถบยุโรปเพิ่งกลับมาถึงกรุงเทพฯ เมื่อวาน ถึงบ้านปุ๊บก็มีคนรายงานปั๊บว่าคินน์แอบซุกลูกเมียพร้อมแนบรูปแอบถ่ายเป็นหลักฐาน วันนี้เธอถึงได้มาดูด้วยตาของตัวเอง
“ไม่เป็นไรครับ พี่โอเคขึ้นเยอะแล้ว”
คินน์ส่งยิ้มให้มิลินดาริณ ทว่าสายตากลับมองเลยไปยังแม่ของลูก ที่กำลังกอดอกเบะปากมองบนแสดงออกถึงความหมั่นไส้
“คุณผู้หญิงคนนี้บอกว่าเธอเป็นคู่หมั้นของคุณคินน์ จริงเหรอคะ” น้ำปั่นถามเสียงขุ่นจากนั้นก็เดินไปนั่งบนโซฟา แล้วใช้สายตาไม่เป็นมิตรมองมิลินดาริณ สามคนแม่ลูกมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาแบบเดียวกันเป๊ะ
“จริงสิ ใช่ไหมคะพี่คินน์ขา หนูสองคนไปนั่งที่อื่นไป ฉันจะคุยกับพี่คินน์” คนสวยใจร้ายเอ่ยไล่สองแฝดอย่างไม่เกรงใจคินน์
เธอมองหน้าสองพี่น้องตัวกลมด้วยความชิงชัง เด็กสองคนนี้ใบหน้าเหมือนพี่คินน์ของเธอไม่มีผิด มองจากดาวเสาร์ดาวศุกร์ก็รู้ว่านี่คือเลือดเนื้อเชื้อไขของชายหนุ่ม
“ไม่เอา พ่อจ๋าคับพี่ลูกไม่ไป”
“น้องจั๊มก็ไม่ไปจะอยู่กับพ่อจ๋า”
“เอ๊ะเด็กสองคนนี้ ทำไมพูดยากจัง”
“มิลินลูกพี่ยังเด็ก ใช้คำพูดดีๆ หน่อย”
คินน์เอ่ยเสียงห้วนไม่ชอบใจที่มิลินดาริณตะคอกลูกชายของตนเอง น้ำปั่นเห็นอย่างนั้นก็อดยิ้มเยาะไม่ได้
ถึงชายหนุ่มความจำเสื่อมแต่ความรักที่มีให้ลูกยังเหมือนเดิม เขาพร้อมปกป้องลูกเสมอ
“พ่อจ๋าไม่ต้องกลัวคับ พี่ลูกปกป้องพ่อจ๋าเอง”
“ช่ายยย น้องจั๊มจะปกป้องพ่อจ๋าเหมือนกัน”
สองพี่น้องเห็นคนสวยหน้าคว่ำราวกับยักษ์ก็ยิ่งกลัวจึงกระชับแขนกอดพ่อแน่นกว่าเดิม สายตาบ่งบอกถึงความไม่ไว้ใจ ถ้าป้าคนสวยเข้าใกล้อีกนิดพี่ลูกกับน้องจั๊มจะกระโดดกัดคอง่ำๆ เลยคอยดู
“ขอโทษค่ะ มิลินใจร้อนไปหน่อย”
“มิลินมีอะไรอยากพูดกับพี่ก็พูดมาเถอะ”
“มิลินจะมาทวงถามเรื่องหมั้นหมายของเราค่ะ”
“ไม่ได้นะคะ คุณคินน์มีเมียแล้วจะแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไง”
“เธอกับพี่คินน์ยังไม่ได้แต่งงานกัน ตราบใดที่พี่คินน์ยังไม่จดทะเบียนสมรสกับใครฉันถือว่าพี่คินน์ยังไม่แต่งงาน โอเค้”
“ไม่โอเค คุณคินน์สัญญาแล้ว หลังกลับมาจากต่างประเทศจะพาน้ำไปจดทะเบียนสมรสกับจัดงานแต่ง ก็ต้องทำตามที่พูด”
น้ำปั่นค้านหัวชนฝา กุเรื่องขึ้นมาได้อย่างไม่อายปากทั้งที่คินน์ไม่เคยพูดแบบนั้นกับเธอ
ตอนนี้บรรยากาศในห้องพักผู้ป่วย เหมือนมีกลุ่มเมฆดำหนาทึบลอยปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง สองสาวจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมหลบให้ใคร
คินน์มองมิลินดาริณด้วยความหนักใจ สำหรับเขาเธอเป็นได้แค่น้องสาวเท่านั้น เขาไม่เคยรู้สึกกับเธอมากไปกว่านี้ มันถึงเวลาที่เขาต้องพูดให้ชัดเจน
“พี่แต่งงานกับมิลินไม่ได้หรอก พี่ไม่ได้รักมิลิน อีกอย่างพี่มีเมียมีลูกแล้ว มิลินตัดใจจากพี่แล้วมองหาผู้ชายคนใหม่ดีกว่า”
“ไม่รู้ไม่ชี้มิลินจะไปคุยเรื่องนี้กับคุณลุงคุณป้า เชอะ”
มิลินดาริณเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ ก่อนจะสะบัดหน้าเชิดขึ้นแล้วเดินออกจากห้องพักของคินน์ด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
เธอไม่รู้ว่าเขาแอบไปมีครอบครัวตอนไหน ดีนะที่ลูกน้องของบิดาส่งข่าวไปบอกถึงได้ตาสว่าง
แล้วไงตราบใดที่คินน์ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสและจัดงานแต่งงานก็ถือว่ายังเป็นคนโสด ต่อให้เขาเป็นพ่อม่ายเธอก็จะเอา เพราะมีแต่คินน์เท่านั้นที่เหมาะสมกับคุณหนูมิลิน
ทว่าหญิงสาวเดินออกจากห้องได้ไม่กี่ก้าว ก็บังเอิญได้ยินเลขาของคินน์คุยกัน จึงรีบย่องเข้าไปฟังใกล้ๆ อย่างคนสอดรู้สอดเห็น สองหนุ่มไม่รู้ว่ามีคนแอบฟังจึงคุยกันเพลิน รวมถึงเรื่องที่น้ำปั่นขอให้พวกเขาช่วยปกปิด
“มึงเอาไง ตกลงจะช่วยคุณน้ำปั่นไหม” กรณ์เอ่ยถามอัครนัย
เมื่อวานเขาได้พูดเกริ่นเอาไว้บ้างแล้ว แต่เพื่อนยังไม่ได้ให้คำตอบ
อัครนัยบอกว่าขอเวลาคิดนิดหน่อย เพราะการโกหกคินน์เป็นเรื่องใหญ่ ถึงจะโกหกเพื่อให้ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา ทว่ามันก็เป็นเรื่องที่ไม่ดี อีกอย่างเจ้านายไม่ชอบคนโกหก
“ช่วยก็ช่วย กูไม่อยากเห็นคุณหนูทั้งสองเป็นเด็กบ้านแตกเหมือนกัน” เขาใจอ่อนยอมทำตามคำขอร้องของน้ำปั่นเพราะเห็นแก่สองแฝด
ตัวเขาก็มีครอบครัวไม่อยากให้ลูกขาดพ่อหรือขาดแม่เหมือนกัน ถ้าคุณหนูน้อยทั้งสองได้อยู่กับพ่อแม่คงจะดีกว่าแยกกันอยู่
“งั้นมึงก็อย่าหลุดปากเด็ดขาด หวังว่าคุณน้ำจะทำสำเร็จ”
“ถ้าคุณคินน์รู้ว่าเราช่วยคุณน้ำโกหกจะเป็นยังไง”
“เราอาจจะตกงานก็ได้ แต่มันก็ต้องลองเสี่ยงดู” สองหนุ่มไม่รู้เลยว่าบทสนทนากำลังลอยไปเข้าหูมิลินดาริณ
หญิงสาวขมวดคิ้วไม่เข้าใจ ช่วยคุณน้ำโกหกคืออะไร คุณน้ำหมายถึงแม่ของเจ้าก้อนกลมๆ สองคนนั้นใช่ไหม แบบนี้ต้องสืบ แล้วจะสืบจากไหนล่ะ
คิดไปคิดมามุมปากกระตุกยกยิ้ม จะสืบจากไหนได้ก็ต้องจากสองคนนี้เท่านั้น มิลินดาริณเห็นมือซ้ายของคินน์เดินหายไปทางห้องของเจ้านาย เหลือเพียงมือขวาจึงไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปหา
สืบจากกรณ์ก็ได้เธอคิดว่าเขาน่าจะเข้าหาง่ายกว่าอัครนัย
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะคุณกรณ์” คนสวยยิ้มหวานโปรยเสน่ห์ ทว่ากรณ์กลับทำหน้านิ่งไม่ตกหลุมพราง
ชายหนุ่มมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาเคลือบแคลง ร้อยวันพันปีเธอไม่เคยทักเขาเลย วันนี้เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงเข้ามาทักซะเสียงหวานเชียว
“คุณมิลินมาเยี่ยมคุณคินน์เหรอครับ”
“ค่ะ คู่หมั้นป่วยก็ต้องมาเยี่ยม ว่าแต่วันนี้คุณกรณ์ว่างไหมคะ”
“ทำไมครับ คุณมิลินอยากให้ผมทำอะไร”
“ไม่ได้ทำอะไรหรอกค่ะ คืนนี้ฉันอยากไปเที่ยวแต่ไม่มีเพื่อน คุณกรณ์พอจะว่างไปด้วยกันไหมคะ”
คนเอาแต่ใจคิดจะล้วงความลับจากเลขาของคินน์ด้วยการมอมเหล้า แต่ลืมไปว่ากรณ์ไม่ได้ง่ายอย่างผู้ชายที่เคยเจอ เพียงเธอออดอ้อนสองสามประโยค บริหารเสน่ห์เล็กน้อย ผู้ชายเหล่านั้นก็พร้อมทำตามคำพูดของเธอ
“คุณมิลินเนี่ยนะไม่มีเพื่อน? ผมไม่เชื่อ พูดตรงๆ ดีกว่าครับ คุณมาหาผมเพราะอะไรกันแน่”
“พูดตรงๆ ก็ดีจะได้ไม่เสียเวลา คุณกรณ์กับคุณอัคกำลังช่วยยัยผู้หญิงคนนั้นโกหกอะไรพี่คินน์”
“เรื่องของผมกับไอ้อัค คุณมิลินไม่เกี่ยว”
“ทำไมฉันจะไม่เกี่ยว ในเมื่อฉันเป็นคู่หมั้นของพี่คินน์”
“ยังไม่ได้เป็นครับ เจ้านายของผมไม่เคยรับหมั้นใคร”
“...” คนสวยถึงกับอ้าปากค้างตาโต ไม่คิดว่ากรณ์จะกล้าพูดกับตนเองแบบนี้ เธอคือคุณหนูมิลินดาริณลูกสาวคนสวยของผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่มีมูลค่าหลายพันล้านเชียวนะ
“ผมขอตัวก่อนครับ”
“แล้วเราจะได้เห็นดีกัน ฉันจะเปิดโปงความชั่วให้พี่คินน์รู้เอง”
คุณหนูเอาแต่ใจประกาศกร้าว ก่อนจะหมุนตัวเดินจากไปราวกับนางพญา ชุดเอย ผมเอย บ่งบอกถึงความเป็นผู้ลากมากดี ทว่านิสัยกลับตรงกันข้าม
กรณ์ถอนหายใจพลางส่ายหัวด้วยความเซ็ง ดูท่าน้ำปั่นจะงานเข้าซะแล้ว คนอย่างคุณหนูมิลินกัดไม่ปล่อยแน่