หลังออกจากโรงพยาบาล คินน์ทำตามคำสั่งของบิดามารดา ด้วยการย้ายเข้ามาอยู่ในเรือนหอที่พวกท่านสร้างไว้ให้พร้อมลูกเมีย
บ้านหลังนี้ใหญ่กว่าบ้านที่สองแฝดเคยอยู่หลายเท่า มีทั้งสระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น ทำให้สองพี่น้องตื่นเต้น วิ่งวุ่นไปทั่วบ้านด้วยความชอบใจ ร้องบอกพ่อกับแม่ไม่หยุดว่าอยากจะลงไปว่ายน้ำ ทว่ามารดาไม่อนุญาตจึงทำได้แค่วิ่งไปมาเท่านั้น
“น้องจั๊ม พี่ลูก กลับมานั่งก่อน คุณปู่กับคุณย่ามีอะไรจะให้ครับ” คุณแม่เรียกลูกชายฝาแฝดที่กำลังวิ่งด้วยน้ำเสียงติดดุ
เด็กกลัวแม่มีเหรอจะไม่ยอมทำตาม รีบวิ่งกลับมายืนตรงหน้าผู้ใหญ่ด้วยความรวดเร็วทำให้บิดาแอบขำ
“มาใกล้ๆ ปู่กับย่าหน่อยลูก อันนี้ย่าให้หนูสองคน”
คุณย่ายังสวยควักเช็คเงินสดออกจากกระเป๋าซึ่งเขียนตัวเลขเอาไว้สูงมาก เงินก้อนนี้ท่านกับสามีอยากมอบให้หลานชายเป็นของขวัญ
“คุณย่าให้กระดาษพี่ลูกทำไมคับ ไม่เอาพี่ลูกไม่ชอบ”
เติมรักส่ายหน้าไม่เอา ไม่เข้าใจทำไมคุณย่าถึงยื่นกระดาษให้ตนเอง
“ไม่ใช่กระดาษธรรมดาแต่มันคือเงิน พี่ลูกต้องเอาให้พ่อกับแม่เก็บเอาไว้” คุณปู่อธิบายเพิ่มเติมแต่ดูเหมือนหลานชายยังไม่เข้าใจจึงไม่ยอมรับเช็ค
“เงินยังไง อันนี้มันกระดาษคับคุณปู่ เงินต้องสีเขียว สีแดง สีม่วง แล้วก็สีอะไรอีกนะน้องจั๊ม”
เด็กสี่ขวบเอียงคอถามน้องชายที่กำลังทำหน้างงไม่เข้าใจคุณปู่ ทำไมถึงบอกว่ากระดาษในมือคุณย่าคือเงิน
“สีเทาไงพี่ลูก แบงก์พันอะ”
น้องชายตอบเสียงดังฟังชัดจำได้แม่นสีไหนกี่บาท
“อ้อใช่ๆ อันนี้ไม่ใช่เงินคับคุณย่า” พี่ชายพยักหน้าหงึกๆ ไม่ยอมรับกระดาษที่มีสีไม่เหมือนธนบัตร
“มันคือเช็คเอาไปขึ้นเงินที่ธนาคาร ปู่กับย่าให้พี่ลูกสิบล้าน น้องจั๊มสิบล้าน”
“น้องจั๊มไม่เอาคับคุณย่า”
“พี่ลูกก็ไม่เอาคับคุณย่า”
“ไปเล่นสไลเดอร์กันพี่ลูก น้องจั๊มอยากเล่น”
“พี่ลูกก็อยากเล่น ปะ”
เด็กซนวิ่งปรู๊ดออกไปอย่างรวดเร็วทิ้งคุณปู่คุณย่าหน้าตาเฉย น้ำปั่นรีบยกมือขึ้นมาขอโทษแทนลูกชายที่เสียมารยาท จากนั้นก็รับเช็คเอาไว้เองเดี๋ยวเธอจะเอาไปขึ้นเงินใส่ในบัญชีให้ลูกชาย
“คุณลุงคุณป้าไม่ต้องห่วงนะคะ เงินทุกบาทถึงสองแฝดแน่นอน น้ำไม่คิดจะเอาไปใช้ น้ำทำงานหาเงินใช้เองได้ค่ะ”
น้ำปั่นรีบอธิบายเพราะกลัวผู้ใหญ่จะหาว่าอมเงินหลาน ขนาดเงินที่คินน์ให้ลูกใช้ทุกเดือนเธอยังไม่เคยแตะต้องเลย ถ้าอยากซื้อของส่วนตัวเธอจะใช้เงินจากน้ำพักน้ำแรงตัวเอง
“คุณทำงานเหรอ แล้วใครเป็นคนดูแลลูก ผมไม่ได้เลี้ยงดูคุณหรือไง” คินน์ถามด้วยน้ำเสียงสงสัยไม่คิดว่าตัวเองจะปล่อยให้แม่ของลูกทำงาน
ถ้าเธอทำงานแล้วใครเป็นคนดูแลสองแฝดแสนซน อย่าบอกนะว่าน้ำปั่นจ้างคนอื่นมาเลี้ยงลูก
“น้ำเลี้ยงลูกเองค่ะ แต่มีผู้ช่วยที่คุณคินน์จ้างมา เวลาว่างตอนลูกหลับน้ำก็จะขายของออนไลน์ คุณคินน์ให้เงินแต่น้ำเก็บเอาไว้ให้ลูก”
“หนูน้ำขยันจัง เหนื่อยน่าดูเลย ลูกก็ต้องดูแล งานก็ต้องทำ”
“เหนื่อยแต่ก็สนุกค่ะคุณป้า อีกหน่อยสองแฝดเข้าเรียนแล้วคงเหงาไม่น้อย”
“งั้นก็มีลูกเพิ่มอีกสักคนสิ ปู่อยากได้หลานสาว ว่าไงคุณย่าอยากได้ไหม”
“ย่าเห็นด้วยกับปู่ ขอหลานสาวให้ย่าชื่นใจสักคนนะตาคินน์”
แค่คิดก็มีความสุขสองปู่ย่าสบตากันด้วยรอยยิ้ม และแอบเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เห็นตอนหลานชายอยู่ในครรภ์ ตอนกินข้าวคำแรก ตอนเดินก้าวแรก ตอนพูดครั้งแรก คิดแล้วก็อดโมโหลูกชายไม่ได้
“คุณพ่อครับ คุณแม่ครับ พูดอะไร มีลูกมันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ง่ายไหมก็ดูเอาเอง แกมีหลานให้แม่สองคนแล้วนะตาคินน์”
“มิลินมาคุยกับคุณพ่อคุณแม่ไหมครับ”
“หนูมิลินเหรอ”
“ครับคุณแม่ เธอติดต่อมาหาคุณพ่อคุณแม่บ้างไหม”
“ของพ่อไม่มี น้องไม่ได้ติดต่อมา”
“แม่ก็ไม่นะ มีอะไรเหรอลูก”
คุณหวันยิหวามองหน้าลูกชายกับลูกสะใภ้ด้วยความงุนงง คินน์จึงเป็นฝ่ายอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่อยู่โรงพยาบาล
สองสามีภรรยาจึงรับปากจะช่วยพูดกับผู้ใหญ่ทางฝ่ายมิลินดาริณให้เอง พวกท่านไม่เคยคิดจะจับคู่ให้ลูกชายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เรื่องหมั้นหมายคนแก่เขาคุยกันเล่นๆ ไม่ได้จริงจัง
ตกเย็นลูกน้องของคินน์ทั้งสองคนมาหาเจ้านายที่บ้านพร้อมของขวัญขึ้นบ้านใหม่ อัครนัยมาพร้อมภรรยาแล้วก็ลูกสาววัยสองขวบครึ่งกำลังน่ารักน่าชัง ส่วนกรณ์ฉายเดี่ยวอย่างเคย ทุกคนมานั่งรวมตัวกันในห้องรับแขก
เติมรักกับเต็มรักกลายเป็นเด็กเรียบร้อย หลังจากเจอลูกสาวของอัครนัย สองหนุ่มน้อยกระซิบกระซาบถามมารดา น้องสาวคนสวยคือใคร ทว่าน้ำปั่นก็ตอบไม่ได้เหมือนกันเพราะไม่เคยเจอสองแม่ลูกคู่นี้มาก่อน
“น้องใบข้าวสวัสดีคุณลุงคินน์กับคุณป้าน้ำด้วยค่ะลูก”
มารดาของแม่หนูน้อยสะกิดบอกลูกสาวที่กำลังกวาดตามองคนนั้นคนนี้อย่างสนใจ
“ซาหวัดดีค่า ยุงคิง ป้าน้ำ”
เด็กตากลมผมยาวยกมือขึ้นมาไหว้ผู้ใหญ่อย่างสวยงามพูดจายังไม่ค่อยชัดเท่าไรทำเอาลุงกับป้าใจละลาย
“สวัสดีค่ะน้องใบข้าว น่ารักจังเลยลูก”
น้ำปั่นอยากจะเข้าไปกอดไปหอมแม่หนูน้อยให้สาแก่ใจ แต่ติดตรงที่เธอไปไหนไม่ได้เพราะลูกชายเกาะแขนไม่ยอมปล่อย สองแฝดจ้องมองน้องน้อยตาไม่กะพริบ
“สวัสดีพี่ลูกกับพี่จั๊มด้วยครับน้องใบข้าว” อัครนัยเป็นคนบอกลูกสาว
“ซาหวัดดีค่า ปี้ยูก ปี้จั๊ม” เด็กเหมือนตุ๊กตาไหว้พี่ชายทั้งสองที่กำลังจ้องมองอย่างอ่อนช้อย
เติมรักกับเต็มรักออกอาการเขินน้อง แต่ก็อยากเล่นกับน้องจึงขยับเข้าไปหาอย่างช้าๆ ก่อนจะเอามือไปจิ้มแขน
“เล่นกับน้องเบามือนะครับ เดี๋ยวน้องเจ็บ” น้ำปั่นเตือนเสียงเข้ม กลัวลูกชายจะไปทำลูกสาวคนอื่นมีแผล สองแฝดชอบเล่นกันแรงตามประสาเด็กผู้ชาย
คินน์นั่งยิ้มอย่างเดียวเอ็นดูทั้งลูกและหลาน ดูท่าลูกชายของเขาจะถูกใจน้องใบข้าวไม่น้อย ถึงได้จิ้มแขนน้องไม่หยุดโดยเฉพาะเติมรัก
“คับแม่จ๋า น้องน่ารักพี่ลูกชอบ”
“น้องจั๊มล่ะครับไม่ชอบน้องเหรอ ทำไมยืนนิ่งเชียว”
“ชอบคับ แม่จ๋าให้น้องอยู่บ้านเราได้ไหม น้องจั๊มอยากเล่นกับน้อง”
“ต้องถามอาอัคว่าได้ไหม อาอัคเป็นพ่อจ๋าของน้องใบข้าว”
“อาอัคคับให้น้องใบข้าวอยู่กับน้องจั๊มได้ไหม”
“คุณหนูน้องจั๊มจะดูแลน้องใบข้าวได้เหรอครับ”
“ได้คับ พี่ลูกดูแลให้เอง น้องใบข้าวนอนที่บ้านพี่ลูกนะ”
เป็นพี่ชายฝาแฝดที่ตอบคำถามคุณอา เติมรักมองน้องน้อยด้วยสายตาเอ็นดู ส่วนเต็มรักพยักหน้าอย่างเดียวเพราะในปากเพิ่งจะหยิบขนมยัดเข้าไป
“ลูกพ่ออายุเพิ่งสี่ขวบเอง ชวนสาวนอนบ้านแล้ว รวดเร็วทันใจจริงๆ”
“นั่นสิคะ แม่ต้องทำใจตั้งแต่ตอนนี้ใช่ไหมลูก”
“ว่ายังไงคะน้องใบข้าว พี่ลูกชิ้นชวนนอนที่นี่หนูจะนอนไหมเอ่ย” ใบชาสอบถามลูกสาวด้วยรอยยิ้ม ส่วนคุณพ่อนั่งฟังตัวเกร็ง ภาวนาขอให้ลูกสาวปฏิเสธ อาการหวงลูกสาวกำเริบ ใครไม่มีลูกสาวไม่เข้าใจหรอก
“ม่ายเอาค่า น้องจานอนกับปาป๋ากับมามี้ ฉามคน” ใบข้าวส่ายหน้าไปมาไม่ตกลงทำให้คุณพ่อกับคุณอากรณ์ยิ้มภูมิใจ
“น่ารักจริงๆ หลานสาวอากรณ์ มันต้องแบบนี้แหละ ปฏิเสธไปเลย”
“พ่อจ๋าคับพี่ลูกจะให้น้องใบข้าวนอนที่นี่”
“พ่อจ๋าคับน้องจั๊มอยากมีน้อง เอาน่ารักเหมือนน้องใบข้าว”
สองแฝดเขย่าแขนพ่อคนละข้างอยากได้น้องสาว อย่างไรก็จะเอาน้องแบบใบข้าวให้ได้
คินน์จะอ้าปากปฏิเสธแต่กลัวสองแฝดเสียใจ สุดท้ายจึงตอบตกลงไหนๆ เขากับเธอก็เป็นผัวเมียกันแล้ว มีลูกอีกสักคนจะเป็นอะไรไป
น้ำปั่นถึงกับเฮลั่นความฝันของเธอใกล้เป็นจริงแล้ว คินน์บอกว่าจะพาไปจดทะเบียนสมรสและจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุด สองแฝดจะได้มีน้องสมใจ
กรณ์กับอัครนัยหันมามองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย พวกเขายังไม่ได้บอกน้ำปั่นเรื่องของมิลินดาริณ ไม่รู้ฝ่ายนั้นมีแผนอะไรซ่อนอยู่
หลังจากคุยกันได้สักพัก กรณ์ส่งข้อความไปบอกน้ำปั่นว่ามีเรื่องจะคุยด้วยให้เธอมาที่ห้องครัว หญิงสาวจึงมาตามนัดหมาย
“คุณกรณ์มีอะไรกับน้ำเหรอคะ ดูมีลับลมคมในเชียว”
“ผมลืมบอกคุณน้ำ วันก่อนผมคุยกับไอ้อัคเรื่องที่ช่วยคุณน้ำโกหกคุณคินน์ บังเอิญคุณมิลินมาได้ยินพอดี ผมอยากให้คุณน้ำระวังตัว คุณมิลินต้องไม่ยอมแน่”
“จริงเหรอคะ แบบนี้น้ำต้องเร่งคุณคินน์แล้ว ขอบคุณมากๆ เลยค่ะคุณกรณ์”
“ถ้าเป็นไปได้หลังจากแต่งงาน ผมอยากให้คุณน้ำสารภาพความจริงกับคุณคินน์ ก่อนคุณคินน์จะจำทุกอย่างได้”
“มันจะดีเหรอคะ น้ำว่า…”
“ผมคิดว่าดีกว่าแน่นอนครับ”
หญิงสาวเงียบไปชั่วครู่สมองคิดใคร่ครวญอย่างหนัก ถ้าเธอสารภาพทุกอย่างก่อนที่เขาจะรักมันจะดีเหรอ เกิดคินน์ขอหย่าขึ้นมาจะทำอย่างไร
กรณ์ขอตัวกลับเข้าไปในห้องรับแขกปล่อยให้น้ำปั่นยืนคิดอยู่คนเดียว หญิงสาวคิดอยู่สักพักใหญ่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ สุดท้ายเธอบอกตัวเองว่าช่างมัน เรื่องอื่นค่อยว่ากันตอนนี้เอาเรื่องทำลูกก่อนดีกว่า
เธอต้องมีลูกสาวกับเขาให้ได้ คอยดูสองแฝดต้องมีน้องสาว ว่าแต่ โซ่ แส้ กุญแจมือ ชุดนอนไม่ได้นอน ต้องใช้ไหมถึงจะได้ลูกสาวสมใจ นี่แค่จินตนาการยังรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว
“เดี๋ยวน้ำจะจัดชุดใหญ่ไฟกะพริบให้นะคะคุณคินน์ขา”