Chapter .4 ของฉัน!! ห้ามยุ่ง...

1519 Words
“เดี๋ยวค่ะ...คุณไปพบลูกค้าหรือเปล่าคะฟาเบียน ถ้าใช่...ขอแคทไปด้วย”          ทำไมวันนี้เขารู้สึกว่าแคทเทอรีนล้ำเส้น หล่อนเจ้ากี้เจ้าการเรื่องส่วนตัวของเขาเกินไป และที่สำคัญแคทเทอรีนไม่มีสิทธิ์ เธอไม่ใช่หุ้นส่วนแล้วก็ยังไม่ใช่คนที่เขาต้องเกรงใจ          “คงไม่ได้หรอกแคท...ผมมีธุระส่วนตัว”          ชายหนุ่มเบี่ยงกายหลบ จนมือเรียวบางของแคทเทอรีนตกวูบ เธอจับแขนเขาไม่ติด แต่กำลังจะก้าวตามมายื้อยุดไว้อีกครั้ง          “เรื่องอะไรคะ? พอบอกให้แคททราบบ้างได้ไหมคะ”          ฟาเบียนพ่นลมหายใจแรงๆ หล่อนไม่เข้าใจหรือไงไอ้คำว่าส่วนตัวหรือไงว่ะ!! มันหมายถึงว่ามันเป็นเรื่องของกู!! คนอื่นไม่เกี่ยว... ตกลงแคทเทอรีนไม่เข้าใจหรือว่าหล่อนกำลังจ้องจับผิดเขาอยู่ห่ะ และหากมันเป็นประการหลัง เขากำลังรู้สึกอึดอัด เขาไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามวุ่นวาย          “วันนี้ผมไม่สะดวก คุณกลับไปเถอะ แล้วก็...ผมกำลังรีบ”          เสียงขุ่นจัดประกอบกับคำพูดที่เหมือนเป็นการขับไล่กลายๆ แคทเทอรีนคอแข็ง เธอกำลังโกรธ และความโกรธเริ่มทวีเพิ่มขึ้น เมื่อชายหนุ่มตรงหน้าทำตัวผิดปรกติ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้เวลาอยู่กับเธอ เขาจะยกเธอให้เป็นที่หนึ่งเสมอ แต่วันนี้ดูเหมือนเขาจะรำคาญที่เธอมาอยู่ใกล้ๆ มันผิดปรกติ          “ฟาเบียน!!” หญิงสาวสะอึกอึ้ง...เธอจุกไปไม่ใช่น้อยกับทีท่าเช่นนั้นของชายหนุ่มคนรัก          หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำอยู่ในอกด้านซ้ายถี่เร็ว... มันเป็นสัญญาณเตือนว่าเขากำลังเปลี่ยนไป          “แคท...ผมคงไม่ต้องย้ำอีกครั้งใช่ไหมว่าผมกำลังรีบ”          น้ำเสียงของฟาเบียนยิ่งขุ่นขวางมากขึ้น เขากดมุมปากจนย่น พยามที่สุดที่จะไม่ระเบิดความหงุดหงิดใส่แคทเทอรีน หล่อนไม่รู้หรือไงว่าเขารีบไป...เมื่อก่อนแคทเทอรีนว่าง่ายกว่านี้ เธอหัวอ่อน และมีแค่รอยยิ้มแต้มมุมปาก แต่วันนี้ดวงตาเธอเหมือนกับแม่เสือที่กำลังโกรธจัด เขาทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือ? ก็คนบอกว่ารีบๆ (ยังไม่รู้ตัว)          “ขอโทษค่ะ ขอโทษที่แคททำให้คุณไม่พอใจ”          มารยาตัวเดิมที่เคยใช้ได้ผล เธอบีบเสียงให้สั่น แสร้งก้มหน้าลงเหมือนกำลังเสียอกเสียใจหนักหนา แต่ครั้งนี้ฟาเบียนไม่ได้เข้ามาปลอบประโลมเหมือนเดิม เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น จึงมองเห็นแค่ชายเสื้อสูทของฟาเบียน หายลับเข้าไปในลิฟต์ ยากที่จะตามทัน          “กรี๊ด!!!”          แคทเทอรีนกระทืบเท้าเร่าๆ เธอกรีดเสียงร้องสุดเสียง...ดวงตาลุกวาบ และเธอต้องรู้ให้ได้ว่าอะไรทำให้ฟาเบียนเปลี่ยนไป เหมือนเขาไม่สนใจความรู้สึกเธอเลย... สัญชาติญาณเธอเตือนแบบนั้น มันเหมือนกับว่าเขากำลังตีตัวออกห่าง          แคทเทอรีน: ‘แคทรู้ว่าคุณยุ่ง แคทแค่อยากทราบว่าคุณได้แหวนของ ‘แคท’ คืนมาหรือยัง’          เธอส่งไลน์ตามติด ตัวตามมาไม่ได้ก็ใช้สื่ออิเล็คโทรนิคตามมา จะได้รู้ไปว่าเขาไม่สนใจเธอแล้วจริงๆ          ฟาเบียนสไลน์หน้าจอเปิดอ่าน เขาเข้าใจว่าเป็นสาวใช้ที่บ้านส่งข่าวเพิ่มเข้ามา เมื่อเห็นว่าเป็นข้อความของคนอื่น แค่เปิดอ่านแต่ไม่คิดจะตอบกลับ เขารู้สึกเนือยๆ กับแคทเทอรีนเสียแล้ว          ฟาเบียน: ‘ยัยนั่นกินข้าวยัง!!’          สาวใช้: ‘ยังเลยค่ะ เหมือนเดิม’          ชายหนุ่มกัดฟันกรอดๆ เริ่มขัดใจศินารา ทำไมถึงต้องทรมานตัวเอง หรือว่ากำลังเรียกร้องความสนใจจากเขากันน่ะ มุมปากได้รูปยกยิ้มการถกเถียงกับศินารามันเป็นความสุขแบบหนึ่งของเขาไปเสียแล้ว สงสัยตัวเองจะแอบจิตนิดๆ ถึงได้พอใจกับการเถียงฉอดของศินารา เมื่อเธอไม่ยอมแพ้เถียงฉอดๆ จนเขาต้องฉวยโอกาสเอาบ่อยๆ หล่อนถึงจะยอมหุบปากลงได้          กลิ่นหอมของอาหารปรุงสุก กลิ่นหอมๆ โชยกรุ่น แม้แต่คนที่นั่งเหม่อลอยยังได้กลิ่น เขาเห็นเจ้าหล่อนทำจมูกฟุตฟิต สูดกลิ่นหอมๆ ที่เขายกเข้ามา แล้วก็เหลียวมองหาต้นกำเนิดกลิ่นหอมฟุ้ง!!          “คุณกลับมาทำไม?”          มันอดไม่ได้ที่จะถาม เมื่อเหลือบมองเวลาที่นาฬิกา มันยังไม่บ่าย2 เลย ตาบ้านี่รีบกลับมาทำไมอีก!!          ฟาเบียนวางถาดลงบนโต๊ะ เขาทรุดตัวลงนั่ง ถอดเสื้อสูทพาดไว้ที่พนักเก้าอี้ ปลดรังดุมที่แขน และพับแขนเสื้อขึ้น จนถึงข้อศอก          “นี่มันบ้านฉัน...กลับมาตอนไหนก็ได้นี่นา...แปลกตรงไหนเหรอ?”          ศินาราสะอึกไปกับคำตอบแบบนั้น เขาย้ำให้เธอรู้ว่าตัวเองเป็นแค่คนนอก เมื่อห้องชุดนี้เป็นของเขาแล้วเขาก็ใช้เพื่อคุมขังเธอ เค้นเอาสิ่งที่เขาอยากรู้ เพียงแต่ยังไม่พอใจในคำตอบ          ใบหน้าหงิกงอ ริมฝีปากเม้มแน่น เธอสะบัดหน้ากลับไปทันทีที่ได้ยินคำตอบจากอีกฝ่าย ชายหนุ่มยิ้มกว้าง เขาเปิดฝาครอบในถาดอาหาร แล้วก็แกล้งสูดกลิ่นหอมๆ เสียงดังๆ          “ฮู้ด...หอมเนอะ กินข้าวกันดีกว่า ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย!! มัวแต่ทำงานเพลินไปหน่อย”          ชายหนุ่มทำเสียงร่าเริง เขาลงมือรับประทานอาหารจริงๆ เพราะกำลังหิวจัด แต่ไม่ใช่เพราะทำงานเพลิน แต่เป็นเพราะรีบกลับมาต่างหาก รีบจนลืมเวลาทานอาหาร          “ชิ!!” เธอสะบัดใบหน้าหนี แต่ไอ้ท้องเจ้ากรรมกลับร้องโครกคราก เมื่อกระเพาะอาหารเริ่มทำงานหลังจากได้กลิ่นหอมๆ ลอยยั่ว          “กินเถอะน่า หรือว่าอยากให้ป้อน แต่ครั้งนี้ฉันไม่ทำฟรีนะ ต้องมีค่าจ้าง”          เสียงเขาพูดอยู่ใกล้ และเมื่อเธอเหลียวกลับไป ช้อนที่ตักอาหารจนพูนก็ทิ่มพรวดเข้ามาในปากเธอเหมือนเดิม...          “อนอ่า...ออกอ่า ไอ้อินๆ”          อาหารเต็มปากจนคำพูดที่ต่อว่าเขาฟังไม่ชัดเจน เธอรีบเคี้ยวอาหารในปากหยับๆ รีบกลืนลงท้องเพื่อที่จะด่ากลับอีกครั้งพอ อ้าปากเมื่อกลืนอาหารในปากหมด ช้อนคันเดิมก็ทิ่มพรวดเข้ามาอีก... เหมือนกับว่าเขากำลังรอจังหวะอยู่ เธอถลึงตาใส่ยกมือขึ้นปิดปากไว้แน่นๆ ไม่ยอมให้เขามีโอกาสได้ทำแบบเดิมซ้ำ          แต่...ดูเหมือนเธอจะแพ้ทางฟาเบียน เมื่อปากว่างพอที่จะด่ากลับ ไอ้ช้อนคันเดิมก็ทิ่มพรวดเข้ามาเสียอีก เป็นอย่างนี้อยู่4-5 รอบจนศินาราอ่อนใจ เธอรีบเคี้ยวรีบกลืน อ่อนใจกับคนเอาแต่ใจเหลือเกิน          “พอแล้ว!! ฉันอิ่มแล้ว” หญิงสาวรีบยกมือห้าม เมื่อฟาเบียนทำท่าจะป้อนเธอซ้ำอีก          “ไม่อร่อยเหรอ? รู้สึกว่าเธอจะทานได้น้อยลง ครั้งที่แล้วเธอกวาดเรียบเลยนะ”          “ชิ!! คุณจะขุนฉันให้เป็นแม่หมูหรือไงล่ะ นั่งๆ นอนๆ ไม่ได้ขยับทำอะไรเลย กินเข้าไปแบบนี้ อีกไม่เกินอาทิตย์ ฉันเป็นตุ่มแน่”          “ไม่ชอบหรือไงล่ะ นั่งกินนอนกิน...สบายจะตาย”          “สบายอะไรล่ะ อึดอัดจะตาย...คุณจะมาเลี้ยงฉันไว้แบบนี้ทำไมคะ? ของๆ คุณ คุณก็เอาคืนไปแล้วนี่...ปล่อยฉันกลับไปเถอะ ฉันจะได้กลับไปทำมาหากิน...ฉันมีพ่อมีแม่ มีญาติพี่น้องนะ แบบนี้หากใครมาตามหาฉัน คุณโดนจับเข้าคุกแน่”          “ไปหลอกเด็กไป!! นึกว่าฉันจะโง่หลงกลเธอเหรอ ศินารา สินกำจร นักเรียนทุนจากเมืองไทย เธอมาที่ปารีสคนเดียว ตัวคนเดียวในมหานครใหญ่...แล้วจะมีใครรู้ล่ะหากเธอหายตัวไป เมื่อพ่อแม่พี่น้องที่เธอพูดถึง เขาอยู่ไกลคนละซีกโลก...หากกลายเป็นศพ...ก็คงไม่มีใครรู้เหมือนเดิม”          “คุณ!! อย่าทำฉันเลยนะ ฉันไม่ได้ขโมยๆ ฉันไม่เคยลักของใคร!! ฉันบอกคุณไม่รู้กี่ครั้งว่าฉันเก็บได้...”          “เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก จนกว่าจะมีหลักฐานมากพอ นั่งๆ นอนๆ ไปเรื่อยๆ แบบนี้แหละจนกว่าฉันจะหาหลักฐานได้ เมื่อนั่นฉันจะปล่อยเธอกลับไปเอง”          ฟาเบียนพูดตัดบท เขายังไม่พร้อมที่จะปล่อยเจ้าหล่อนกลับไป เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือน!!          “บ้าสิ!! ฉันต้องบ้าตายแน่ หากให้ฉันอยู่เฉยๆ ไม่ได้กระดุกกระดิกตัว...”          “มีแต่คนชอบ นอนๆ นั่งๆ สบายจะตาย”          “แต่ฉันไม่ชอบ...แล้วก็ไม่มีวันชอบด้วย... ให้ฉันทำงานด้วยได้ไหม ทำความสะอาดห้องนี่ก็ได้...นะ...นะ... ไม่ต้องให้ใครมาคอยคุมด้วยนะคะ มันอึดอัดจะแย่...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD