“เกิดเรื่องแบบนี้ผมเสียหายนะครับ” ดนย์รู้สึกว่าเขาควรทำอย่างไรในเมื่อเตรียมจะจัดส่งสินค้าออกต่างประเทศอยู่แล้ว
“ผมทราบดีครับคุณดนย์แต่ผมคิดว่าผมมีทางออกสำหรับเรื่องนี้แล้วเพียงแต่ขอเวลาผมอีกสักหน่อยได้ไหมครับ”
“เห็นแก่ที่เราค้าขายกันมานานตั้งแต่รุ่นพ่อของคุณผมจะให้โอกาสนายหัวสักครั้งก็แล้วกัน” ดนย์คิดทบทวนแล้วก็เห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีที่มีให้กันมาตลอดหลายปี เขาจึงอยากจะให้โอกาสชายหนุ่มสักครั้งเพราะเป็นธรรมดาที่จะเกิดเรื่องผิดพลาดและนี่ก็เป็นครั้งแรกของอีกฝ่าย
“ครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณที่ยังให้โอกาสผมได้แก้ไขปัญหาให้คุณดนย์ครับ” ชายหนุ่มรู้สึกโล่งใจมากที่ได้รับโอกาสนี้ เขาจะจัดการกับปัญหานี้ให้เร็วที่สุดเพราะไม่ได้มีแค่เขาที่ได้รับผลกระทบ เขาจะรอคิดบัญชีไอ้คนคิดไม่ซื่อให้มันแทบกระอักเลือดแน่นอน
อีกด้านกฤษณะหนุ่มใหญ่วัยห้าสิบปีหัวเราะชอบใจเมื่อลูกน้องมารายงานว่าแผนที่เขาให้ไปทำนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ที่เขาต้องทำอย่างนี้ก็เพราะเมื่อสามเดือนก่อนนายหัวชรัณตัดโอกาสเขาในการเข้าร่วมงานผลไม้เมืองหนาวของจังหวัดเพียงเพราะเขานั้นทำการเร่งผลผลิตด้วยการใช้สารต้องห้ามจนต้องสูญเสียรายได้ไปมหาศาล
“พวกมันกำลังหัวหมุนเลยครับนาย”
“ดี ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร มันเคยเล่นงานฉันเจ็บแสนแบบนั้นมันต้องได้รู้สึกแบบฉันบ้าง” กฤษณะตอบกลับแววตาวาวโรจน์ เขาเป็นคู่แข่งกับชรัณมาหลายปีแต่ยังไม่เคยชนะฝ่ายนั้นเสียที เมื่อแข่งไม่ได้ผลก็ต้องเล่นงานทางอ้อมนี่แหละอีกฝ่ายถึงจะแพ้ราบคาบ
“วันนี้เราจะฉลองอะไรดีครับนาย” ลูกน้องของกฤษณะถามเจ้านายน้ำเสียงร่าเริงเพราะงานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วงแล้ว
“อะไรก็ได้ให้มันมาร่วมงานฉลองฉันด้วยก็ดี” พอครั้งนี้สำเร็จเขาเลยอารมณ์ดีเป็นพิเศษ
“งั้นเอาเป็นงานวันเกิดของท่านในวันพรุ่งนี้ดีไหมครับ” อีกฝ่ายรีบเสนอความเห็น
“ดี ฉันอยากจะเห็นน้ำหน้ามันเหมือนกันว่าจะแก้ไขอย่างไง”
“ก็คงจะเครียดน่าดูครับถ้าลูกค้าไม่ยอมเรื่องของที่ถูกเลื่อนออกไป”
“ฮ่าๆ” หลังจากตกลงกันได้กฤษณะก็ร่อนการ์ดเชิญให้นายหัวชรัณมาร่วมงานวันเกิด ใจจริงชรัณไม่อยากจะไปร่วมงานเลยเพราะไม่อยากจะเห็นหน้าไอ้คนเล่นไม่ซื่อแต่ก็กลัวจะถูกคนอื่นมองไม่ดีเพราะนอกจากเขาแล้วยังมีผู้คนที่อยู่ในแวดวงเดียวกันไปร่วมงานของกฤษณะอีกหลายคน ชายหนุ่มใบหน้าเคร่งเครียดจนปรียาดาจับสังเกตได้จึงเดินเข้าถามไถ่เขาด้วยความเป็นห่วง
“ชลหลับแล้วหรอครับ” เขาถามหญิงสาวออกไปน้ำเสียงราบเรียบ แววตาของเขาดูมีอะไรซ่อนอยู่จนเธอคิดว่าถ้าเขาไม่ได้ระบายเรื่องราวอะไรออกมาบ้างคงอึดอัดจนอกแทบระเบิดแน่ๆ
“หลับแล้วค่ะ คุณชรัณคะ คุณกำลังมีอะไรในใจหรือเปล่าคะ”
“หน้าผมมันมองออกขนาดนั้นเลยหรอครับ” ชายหนุ่มเงยหน้ามองหญิงสาวแล้วก็ถามออกไปยิ้มๆ
“ใช่ค่ะ คุณมีอะไรไม่สบายใจก็พูดคุยกับปรีได้นะคะ ปรีพร้อมจะเป็นที่ระบายให้คุณค่ะ ปรีเข้าใจเวลามีปัญหาก็อยากจะหาใครสักคนมารับฟัง ปรีโชคดีที่มีพี่ชายของคุณคอยรับฟัง ถ้าคุณไม่รังเกียจระบายกับปรีได้ค่ะ” คำพูดของหญิงสาวทำให้เรื่องราวในใจของเขาเบาบางลงไปมากอย่างไม่น่าเชื่อ เขาดีใจที่มีใครอีกคนยินดีรับฟังปัญหาที่มันน่าปวดหัวของเขาด้วยความเต็มใจ
“ขอบคุณนะครับผมมีเรื่องในใจอย่างที่คุณว่าจริงๆนั่นแหละ”
“เป็นความลับไหมคะ”
“ไม่ใช่ความลับอะไรหรอกครับ คุณปรีคงได้ยินเรื่องสารปนเปื้อนแล้วใช่ไหมครับ”
“ค่ะ คนงานในไร่พูดกันทุกคน ว่าแต่คุณทราบหรือยังคะว่าเป็นฝีมือใคร” หญิงสาวถามออกไปด้วยความกังวลใจไม่น้อยเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องมีคนวางแผนอยู่เบื้องหลังแน่นอน
“ผมคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของวันเกิดที่กำลังชวนผมไปร่วมงานนี่แหละครับ” ชายหนุ่มแกว่งการ์ดในมือไปมาเบาๆ
“ตายจริงกล้ามากนะคะ ถ้าทำจริงแล้วยังกล้าจะชวนไปร่วมงานอีก”
“ผมเลยคิดไม่ตกว่าจะไปร่วมงานดีไหมน่ะครับ”
“ไปสิคะ ไปให้ฝ่ายนั้นรู้ว่าปัญหาที่เขาสร้างให้คุณเป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อย คุณสามารถจัดการได้อยู่แล้ว”
“ดูอาฆาตกว่าผมอีกนะครับเนี่ย” เขาตอบกลับอีกฝ่ายยิ้มๆ
“แล้วมันถูกต้องหรอคะเราอยู่ของเราดีๆจู่ๆก็มาสร้างปัญหา ไร่ของเราเป็นไร่คุณภาพพวกคนเลวก็คงจะอิจฉา”
“ผมชอบจังเลยครับคำว่าไร่ของเรา” ไร่ของเราคำคำนี้มันช่างมีความหมายกับเขามากๆ
“เรียกแบบนั้นไม่ได้หรอคะ” หญิงสาวหุบยิ้มฉับคิดว่าชายหนุ่มคงไม่อยากให้เธอเรียกแบบนั้น
“ได้สิครับผมอนุญาต” พอได้ยินคำอนุญาตหญิงสาวก็ยิ้มเต็มใบหน้าได้อีกครั้ง
“งั้นก็ไปร่วมงานเถอะค่ะแต่มีข้อแม้นะคะว่าต้องให้ปรีไปด้วย ปรีอยากจะเห็นหน้าไอ้คนเลวนั่น”
“ผมพาไปได้ครับแต่อย่าไปสร้างเรื่องก็แล้วกันนะครับ” เขากลัวหญิงสาวจะคิดทำอะไรพิเรนๆจึงต้องปรามเอาไว้เสียก่อน
“นี่ใครคะปรียาดาซะอย่างไม่กลัวอะไรอยู่แล้ว”
“แต่ผมว่าคุณกลัวหลงทางนะ”
“นะ นั้นก็เป็นข้อยกเว้นค่ะ”
“ฮ่าๆ โอเคครับ ขอบคุณนะครับที่จะไปร่วมงานเป็นเพื่อนผม ผมจะได้มีเพื่อนคุย” เขากล่าวขอบคุณหญิงสาวยิ้มๆ อย่างน้อยๆเขาก็ยังมีเธอเป็นเพื่อนพูดคุยกันจนจบงาน
“ที่อยากไปเพราะปรีจะได้งัดชุดสวยๆออกมาใช้บ้างไงคะ สงสารชุดน่ะค่ะวันๆอยู่แค่ในตู้เสื้อผ้า คุณดูสิคะแต่ละชุดของปรีใส่ในไร่ไม่ได้เลย”
“อยู่ที่นี่ไม่ได้ใส่ชุดสวยๆเคยคิดจะกลับไปกรุงเทพไหมครับ”
“ยังไม่คิดเลยค่ะ ปรีอยู่ที่นี่ก็มีความสุขดีอยู่แล้วนะคะ” คำตอบของหญิงสาวทำให้ชรัณอารมณ์ดีแต่ต้องทำเป็นเคร่งขรึมเพื่อหลบซ่อนรอยยิ้มเอาไว้