บทที่ 11 เพื่อนคนนั้นคือใคร

1001 Words
เป็นเวลาสามเดือนแล้วหลังจากที่หมั้นหมายกัน สาวน้อยรับหน้าที่เป็นแม่ครัวส่วนตัวให้ชายหนุ่ม และการที่เขาทำงานที่บ้านซะเป็นส่วนใหญ่นั่นทำให้เธอได้มีโอกาสใกล้ชิดกับเขามากขึ้น เสียงรถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้ามาจอดก็ทำให้เขารู้เลยว่าเป็นใครมาหา "อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่โภคิน วันนี้คุณลุงคุณป้าไม่อยูหรอคะบ้านเงียบเชียว" คู่หมั้นสาวยิ้มทักทายเขาน้ำเสียงสดใสร่าเริง เวลาที่หญิงสาวมาหาเขาจะวางงานตรงหน้าลงทันทีเพราะอยากให้ความสำคัญกับอีกฝ่าย "ครับ วันนี้คุณพ่อคุณแม่ออกไปธุระข้างนอกกัน ว่าแต่วันนี้มีเมนูอะไรให้พี่ทานบ้างครับกำลังหิวอยู่พอดีเลย" "มีเมนูข้าวต้มปลาค่ะ หอมม๊ากมาก ลองทานดูนะคะว่าถูกปากของพี่ไหม" "ต้องชิมแล้วล่ะครับว่ารสชาติดีเหมือนกลิ่นหอมๆนี่หรือเปล่า" "ได้เลยค่ะเดี๋ยวฟองดูว์ตักใส่ถ้วยให้นะคะ" เขามองดูหญิงสาวด้วยความเพลิดเพลินคนตัวเล็กถ้าเป็นงานครัวคล่องแคล่วกว่าใครเลยล่ะ เธอเหมาะจะเป็นแม่ศรีเรือนมากๆถึงแม้จะถ่อมตนกับเขาเสมอว่าเพิ่งหัดทำอาหาร "เป็นไงบ้างคะ" สาวน้อยตาโตรอฟังคำตอบจากชายหนุ่ม เธอลุ้นทุกครั้งที่ทำอะไรมาให้เขาทานเพราะไม่รู้ว่าเขาจะถูกใจหรือเปล่า "อืม..." ชายหนุ่มแกล้งทำเป็นใช้ความคิดส่วนคนที่รอฟังเลยคิ้วขมวดลุ้นตัวโก่งว่าจะได้รับคำตอบอย่างไร "..." "อร่อยมากครับ" "เห้อ นึกว่าจะไม่อร่อยซะแล้ว" คำตอบของเขาทำให้เธอรู้สึกโล่งอกลุ้นมาตั้งนานว่าเขาจะชอบหรือเปล่า แต่ผลออกมาคือชอบนั่นก็ทำให้เธอยิ้มออกแล้ว "อร่อยสิครับ อร่อยทุกเมนูนั่นแหละ พี่แค่แกล้งเล่นนิดเดียวอย่าทำหน้าเคร่งเครียดขนาดนั้นสิครับพี่รู้สึกผิดนะครับ" "ปากหวานจังเลยนะคะ วันหลังอย่าแกล้งกันสิคะใจหายใจคว่ำหมด" "ถ้าอยากรู้ว่าหวานไหมก็ต้องพิสูจน์ ฟองดูว์อยากลองพิสูจน์ไหมละครับ" ชายหนุ่มถามออกไปน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ "บะ บ้า ฟองดูว์กลับก่อนดีกว่าค่ะ" "จะรีบไปไหนล่ะครับเพิ่งมาไม่ใช่เหรอครับ" "วันนี้มีธุระค่ะเดี๋ยวต้องไปช่วยพี่ฟอสทำงานด้วย" "งั้นก็ได้ครับพี่ก็มีธุระเหมือนกัน" "ค่ะ" หลังจากที่หญิงสาวตั้งใจทำอาหารให้เขาทานเป็นประจำวันนี้เขาเลยถือโอกาสพาเธอออกมารับประทานอาหารข้างนอกบ้างเพราะเขาอยากให้เธอได้เป็นผู้ทานบ้างไม่ใช่ทำให้เขาทานอย่างเดียว ในร้านค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวเนื่องจากวันนี้มีลูกค้าไม่มากนัก “ถูกใจไหมครับ” “ถูกใจที่สุดเลยค่ะ ถูกใจทั้งอาหารแล้วก็คนพามาทานเลย” เธอบอกเขาออกไปน้ำเสียงร่าเริง “ทะเล้นใหญ่แล้วเรา” “ฮ่าๆ” “นี่จะไม่คิดให้พี่จีบเราบ้างเลยหรือไง” “กะ ก็ไม่รู้สิคะ” หญิงสาวก้มหน้าหงุดด้วยความเขินอายเพราะเวลาที่เขาถามอะไรเธอแล้วยิ้มกรุ่มกริ่มแบบนี้มันทำให้เธอแทบละลาย “ว่าไงเรา” “วะ วันหลังพามาอีกได้ไหมคะ ฟองดูว์ชอบ” “ได้เลยครับ” อาหารที่นี่อร่อยถูกใจหญิงสาวมากๆ เธอเลยอ้อนให้เขาพามาทานอีกในวันหลัง ซึ่งเขาก็รับปากเธอไปเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ทันได้พูดคุยอะไรต่อก็มีเรียกเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของชายหนุ่มดังขึ้น "สายเข้านี่คะ พี่โภคินไม่รับเหรอคะ" ท่าทีของเขาดูลังเล เธอเลยอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงไม่กดรับหรือเพราะเกรงใจเธอที่นั่งอยู่ตรงนี้เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นไม่ต้องเกรงใจเธอหรอกคนที่โทรมาคงมีเรื่องสำคัญแน่ๆ "พี่เกรงใจฟองดูว์น่ะครับ" นั่นไงเป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆด้วย "ไม่ต้องเกรงใจเลยค่ะพี่รับได้เลยค่ะอาจจะเป็นเรื่องสำคัญก็ได้นะคะ รับเถอะค่ะ" "งั้นก็ได้ครับ พี่ขอออกไปคุยด้านนอกแปบนึงนะครับ" "ตามสบายเลยค่ะ" ชายหนุ่มออกไปคุยโทรศัพท์ด้านนอกไม่นานก็เข้ามาบอกกับเธอว่ามีธุระด่วนต้องรีบออกไปเพราะเพื่อนของเขาต้องการความช่วยเหลือ แม้ในใจจะแสนเสียดายเวลาทีมีให้กันสองต่อสองแต่เพื่อนของเขาก็คงมีปัญหาจริงๆนั่นแหละสุดท้ายเธอก็ปล่อยให้เขาไปหาเพื่อนโดยไม่อิดออด "ถึงหน้าบ้านแล้วครับช่วยออกมาเปิดประตูหน่อย" “ค่ะๆ รอก่อนนะคะ” เบญญารีบเดินไปเปิดประตูให้กับชายหนุ่ม หล่อนรู้สึกขอบคุณเขามากๆที่สละเวลามาช่วยเธอเพราะไม่อย่างนั้นเธอคงต้องใช้ชีวิตในความมืดตลอดทั้งคืน "ขอบคุณนะคะที่มาช่วย เบญเปลี่ยนมันไม่ได้จริงๆ" "แน่นอนสิครับงานแบบนี้น่ะของผู้ชาย เรียบร้อยครับสว่างแล้ว" ชายหนุ่มจัดการเพียงไม่นานทุกอย่างก็เรียบร้อย "ขอบคุณค่ะ ถ้าไม่ได้โภคินช่วยคงต้องอยู่มืดๆกันอย่างนี้แน่เลย" "มีอะไรจะให้ช่วยอีกไหมบอกได้เลยนะ ไม่ต้องเกรงใจกันไหนๆเราก็เป็นเพื่อนกันแล้ว" ชายหนุ่มบอกกับอีกฝ่ายยิ้มๆ สถานะเพื่อนระหว่างเขาและเธอทำให้คนทั้งคู่รู้สึกสบายใจขึ้นมาก "ไม่มีแล้วล่ะแค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว" หญิงสาวส่ายศีรษะไปมาเบาๆเป็นเชิงบอกว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือแล้ว หล่อนรู้สึกซาบซึ้งที่เขาสละเวลามาหาเธอจริงๆ "บอกแล้วไงเราเป็นเพื่อนกันไม่ต้องเกรงใจหรอก" "ขอบคุณมากจริงๆ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD