ด้านโภคินได้รับรายงานว่าที่บริษัทเกิดปัญหาใหญ่เลยต้องปฎิเสธนัดของฟองดูว์ เขาไม่รู้เธอจะคิดอย่างไรแต่เขาก็เลือกจะบอกเหตุผลกับเธอไปตรงๆซึ่งเธอก็ตกลงไม่ได้ว่าอะไรเขาที่ปฏิเสธนัดทานข้าวสองต่อสองตามที่ผู้ใหญ่ต้องการ
“บอสคะทางบัญชีแจ้งมาค่ะว่างบการเงินมีปัญหาค่ะ” เลขาของชายหนุ่มบอกกับผู้เป็นเจ้านายเสียงเครียด ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้
“ผมขอรายละเอียดด้วยครับแล้วก็ขอให้หัวหน้าฝ่ายมาพบผมด้วย”
“ได้ค่ะรอสักครู่นะคะ”
“สวัสดีค่ะบอส” พนักงานสาวยกมือไหว้ผู้เป็นเจ้านายอย่างนอบน้อม
“เชิญนั่งก่อนครับ” ชายหนุ่มผายมือให้อีกฝ่ายนั่งรอน้ำเสียงราบเรียบ
“ค่ะ นี่คือรายละเอียดทั้งหมดค่ะ ดิฉันเริ่มจับสังเกตถึงความผิดปกติมาสักพักแล้วค่ะ”
“ขอบคุณนะครับที่รีบมาแจ้งผม พอจะรู้ไหมครับว่าเป็นใคร”
“อะ เอ่อ คือ...” หญิงสาวมีท่าทีลังเลไม่แน่ใจว่าควรจะบอกความจริงไปเลยดีไหม
“บอกมาตรงๆเถอะครับ ผมจะได้จัดการได้ถูกคน” ใครที่คิดทรยศหักหลังเขาต้องถูกลงโทษอย่างสาสม
“คือคุณอัศวินกับยัยดาวเด็กใหม่น่ะค่ะ สองคนนั้นร่วมมือกัน จริงๆต้องเป็นความผิดของดิฉันด้วยค่ะที่ไว้ใจยัยเด็กดาวมากเกินไป”
“ผมไม่โทษคุณหรอกนะครับ จะต้องขอบคุณเสียอีกที่รีบมารายงานเรื่องนี้กับผม หลังจากนี้เดี๋ยวผมจะจัดการเองครับ คุณแค่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ผมก็พอครับ”
“ได้เลยค่ะบอส อะไรที่ดิฉันช่วยได้ดิฉันก็จะช่วยเต็มที่เลยค่ะ”
ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง
“กะ แกมาได้ยังไง” อัศวินตกใจไม่น้อยที่โภคินมาปรากฏตัวที่นี่ เขาได้นัดแนะกับแฟนสาวซึ่งก็คือดาวว่าจะหนีไปจากที่นี่ในวันนี้
“นี่เตรียมจะหนีแล้วสินะ ขอโทษด้วยที่นายคงหนีไปไหนไม่ได้แล้ว”
“...” อัศวินรู้สึกอึ้งๆ ไม่รู้ว่าโภคินรู้ได้อย่างไรว่าเขาพักอยู่ที่นี่หรือว่าแฟนสาวของเขาจะบอกอีกฝ่าย
“ใครบอกแกว่าฉันอยู่ที่นี่”
“ก็แฟนของนายไง เป็นไงล่ะการถูกหักหลังมันรู้สึกดีไหมล่ะ”
“ไอ้โภคิน!”
“แกทำกับฉันอย่างนี้ได้ไงอัศวิน ฉันไว้ใจแกมากเกินไปใช่ไหมแกถึงได้ทำแบบนี้โดยไม่นึกถึงคำว่าเพื่อนระหว่างเราเลย” ชายหนุ่มรู้สึกผิดหวังมากกว่าโกรธ เขาไว้ใจเพื่อนร่วมงานแต่ดันมาหักหลังกันได้เพราะความโลภ
“หึ แกมันโง่เอง ฉันจะเอาเงินมาใช้สักหน่อยจะเป็นอะไรไป แกรวยมากนี่แค่นี้ขนหน้าแข้งคงไม่ร่วงหรอก” อัศวินพูดจาประชดประชันอีกฝ่ายเสียงดัง
“พูดง่ายนะ เงินส่วนที่แกเอามาใช้เนี่ยมันเป็นเงินกองกลางของบริษัท แกรู้ไหมว่าถ้าสูญเงินก้อนนี้ไปพนักงานคนอื่นๆเขาจะต้องเดือดร้อนไปกับแกด้วย” เขารวยอัศวินพูดถูกแต่ว่าทุกอย่างก็มาจากน้ำพักน้ำแรงของคนในบริษัทที่ช่วยเหลือกันจนงานต่างๆประสบผลสำเร็จ อัศวินจะมาทำเพื่อตัวเองอย่างนี้มันไม่ถูกต้อง
“แล้วไงฉันไม่สน” อัศวินบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจ
“งั้นแกก็ต้องไปคุยกับคุณตำรวจเองแล้วล่ะว่าเขาจะจัดการกับแกยังไง เชิญคุณตำรวจเข้ามาได้ครับ” โภคินเชิญให้ตำรวจเข้ามาจับกุมอีกฝ่ายทันที
“แกไอ้โภคิน แกจะให้ตำรวจจับฉันเลยหรอ” อัศวินโวยวายยกใหญ่ที่อีกฝ่ายแจ้งตำรวจจับเขาเข้าคุก
“คนทำผิดก็ต้องถูกลงโทษสิถึงจะถูกต้องจริงไหมล่ะ” ชายหนุ่มตอบกลับท่าทางเรียบเฉยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะเป็นเดือดเป็นร้อนแค่ไหน สมควรแล้วล่ะที่ต้องจัดการ
“ไม่ ปล่อย ปล่อยนะเว้ย” อัศวินโวยวายเสียงดังไม่คิดว่าโภคินจะแจ้งกับตำรวจเรียบร้อยแล้ว เขาจะต้องหาใครสักคนมาช่วยเขาให้ได้เพราะเขาจะไม่ยอมติดคุกง่ายๆแบบนี้แน่นอน
ณ คฤหาสน์
“หมดเรื่องสักทีนะลูก”
“ครับ เมื่อคืนเป็นคืนแรกเลยที่ผมนอนหลับสนิท”
“เช้านี้ก็มาทานอะไรบำรุงหน่อยแล้วกันนะลูก”
“ขอบคุณครับแม่ เย็นนี้ไม่ต้องรอทานข้าวนะครับผมจะออกไปข้างนอก”
“จ้ะ เห็นว่าลูกเครียดหรอกนะแม่ถึงยอม”
“ผมรักแม่ที่สุดเลยครับ” ชายหนุ่มขยับเข้าไปออดอ้อนคนเป็นแม่เหมือนกับว่าเขาเป็นเด็กน้อย
บริษัทของโภคินตอนนี้เรื่องวุ่นๆได้จบลงแล้วเพราะหาตัวการในการยักยอกเงินของบริษัทลูกไปใช้จ่ายส่วนตัวได้แล้ว และคนร้ายไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นคนที่ชายหนุ่มไว้ใจให้ทำงานแทน อัศวินทำงานกับโภคินมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทลูก เมื่อผลกำไรดีอัศวินจึงเห็นช่องทางในการกอบโกยผลประโยชน์มาให้กับตนเองแต่โชคก็ไม่เข้าข้างให้คนทำผิดทำได้สำเร็จเพราะแฟนสาวของอัศวินยอมบอกความจริงกับโภคินทุกอย่างเพื่อให้ตนพ้นความผิด อัศวินถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงทันที โดนสั่งให้ชดใช้และต้องโทษจำคุกด้วย มันน่าเจ็บปวดตรงเป็นคนที่ไว้ใจกันมากยังทำกันได้ลงคอ วันนี้เขาคงต้องไปหาทางระบายความเครียดที่พบเจอมาตลอดช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาสักหน่อย ชายหนุ่มเลือกที่จะไปที่ผับเดิมที่เป็นที่ประจำและเขาก็หวังว่าจะได้เจอกับคนที่รอคอย แล้ววันนี้เขาก็สมหวังเพราะมาเจอเบญญากำลังร้องเพลงอยู่บนเวที ผู้คนส่งเสียงชื่นชมเธออยู่ด้านล่าง