ฉันยืนหอบก่อนจะเดินไปหาไอ้พี่ติณแต่กลับไม่เห็นเพราะว่าตอนนี้พวกเขาได้ปล่อยรุ่นน้องแล้ว ฉันเกาหัวเบาๆพลางมองไปเห็นเพื่อนสองคนที่เดินถือน้ำเอามาให้ กลืนน้ำลายลงคอที่หืดแห้ง
"แกไม่เป็นไรนะ" ฉันยกน้ำขึ้นดื่มก่อนที่พยักหน้าให้ต้นหอมเชิงบอกว่าไม่เป็นไร
"ว่าแต่แกจะต้องไปเอาแมสปิดหน้ากับพี่ติณป่ะ" ฉันมองหน้าทีพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่
"ฉันต้องไปเอาคืน ไม่อย่างนั้นฉันต้องได้กลิ่นธูปตลอดทางกลับคอนโดแน่" ฉันเม้มปากแน่นก่อนจะเดินไปดมตัวเพื่อนทั้งสองคน
"นางชะนีไหม แกมาดมฉันทำไมย่ะ" ฉันทำหน้ามุ้ยก่อนจะนั่งลงโต๊ะม้าหินอ่อนพลางเท้าคางมองไปรอบตัว
"แกชีดน้ำหอมด้วยใช่ไหม"
"อย่าบอกนะว่าแกได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวพวกฉัน" ต้นหอมยกมือปิดปากก่อนจะมองมาที่ฉัน
"ไม่ ฉันไม่ได้กลิ่นอะไรเลย" ว่าจบฉันก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะหันไปมองเพื่อนทั้งสองคน ถึงเวลาที่ต้องกลับแล้ว ตอนนี้ค่อนข้างเย็นร้านค้าก็ปิดถ้าจะไปซื้อแมสก็คงต้องเดินไปอีกฝากของถนน อีกอย่างการที่ไม่ทำตามความต้องการของรุ่นพี่ ฉันไม่รู้ว่าต้องเจออะไรอีกไหม เพราะฉะนั้นถ้าเขาให้ไปเอา ฉันก็ต้องไป เพราะแค่อยากอยู่แบบสงบแค่นั้น
"พวกแกกลับก่อนเลยนะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาแมสก่อน"
"ให้พวกฉันไปด้วยไหม" ฉันส่ายหน้าเบาๆ เพราะฉันรู้ว่าพวกมันต้องไปทำธุระอย่างอื่น
"ไม่เป็นไร ขับรถดีๆล่ะ"
ผมนั่งมองแมสปิดหน้าก่อนจะเลิกคิ้วสงสัย เมื่อรู้สึกว่ามันมีกลิ่นน้ำหอมลอยออกมา "คิดอะไรอยู่วะ" ผมหยิบน้ำขึ้นมาดื่มก่อนจะหันไปมองเห็นเจ้าของแมสเดินเข้ามา เผลอยกยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าเรียบนิ่งคล้ายคนไม่มีชีวิตชีวา แต่ถึงอย่างนั้น คนตัวเล็กก็ยังมีเสน่ห์ชวนลุ่มหลงไม่น้อย ด้วยใบหน้าหวานสวยไร้ที่ติ
"เอ่อ หนูขอแมสคืนด้วยค่ะ" ผมเลิกคิ้วเมื่อเห็นอาการสั่นๆของเธอ นี่น้องกลัวผมขนาดนั้นเลยเหรอ
"ฉันเอาไปทิ้งแล้ว" น้องหันมามองหน้าผมก่อนจะก้มหน้าลงคืน เหมือนกำลังไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่
"เฮ้ย มึงก็อย่าไปแกล้งน้องเขาดิวะ" ผมหรี่ตามองไอ้ปลื้มก่อนที่มันจะลุกเดินออกไป
"ถ้าอยากได้คืนก็ตามฉันมา" ผมเดินมาหยุดอยู่ห้องหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองร่างบางที่กำลังยกมือปิดจมูก
"พี่คะ ขอของหนูคืนเถอะค่ะ"
โครม!! กรี๊ด ทว่า เสียงของหนังสือที่หล่นมาที่พื้นทำให้เธอวิ่งมากอดผมทันที ก่อนที่ไฟมันจะติดๆดับๆ โดยฝีมือของวิญาญาณเด็กตนหนึ่ง ผมจับมือคนที่กอดผมออกก่อนจะขยับออกให้ห่างจากเธอ "ฮือ ฮือ" ผมขมวดคิ้วทันทีเมื่อเธอยกมือปิดหน้าพร้อมกับทรุดลงที่พื้นก่อนจะร้องไห้ออกมาเมื่อวิญาญาณเด็กคนนั้นเดินไปอยู่ข้างๆเธอ นั่นมันชวนให้ผมสงสัยอะไรบางอย่างในตัวตนของเธอ
แค่หนังสือหล่นถึงกับร้องไห้เลยเหรอ ผมเจอมาเยอะ วิธีที่ผู้หญิงมักทำตัวอ่อนแอเพื่อให้ผมเห็นใจแล้วก็พยายามตีตัวเข้าหา
"อ้ะ" ผมยื่นแมสปิดหน้าให้เธอก่อนที่เธอจะรับเอาไปใส่ หมับ!!! ผมจับมือเธอเอาไว้ทันทีเมื่อเธอจะลุกเดินออกจากห้อง
"ทำไมแมสปิดหน้าของเธอถึงมีกลิ่นน้ำหอม"
"มันไม่มีอะไรหรอกค่ะ" เธอสะบัดมือผมก่อนที่จะเดินออกจากห้อง ผมมองไปที่วิญาญาณเด็กที่กำลังยืนมองผมก่อนจะเลิกคิ้วให้
"พี่ฮะ เหมือนพี่สาวเขารู้ว่าผมอยู่ตรงนี้" ผมไม่สนใจก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง ก็พบกว่าตะวันตกดินแล้ว ก่อนจะเหลือบไปเห็นร่างบางเดินดมดอกไม้ ผมยืนกอดอกมองท่าทางแปลกๆของเธอ เมื่อเห็นเธอขว้างดอกไม้พร้อมกับเตะมัน แต่ก็แอบสงสัยเหมือนกันว่าทำไมเธอต้องใส่แมสที่มีกลิ่นน้ำหอมด้วย
รถหรูสีดำมาจอดอยู่ข้างๆเธอ พร้อมกับคนขับรถเดินมาเปิดประตูให้ "รอนิสานานไหมคะ" ผมละสายตาจากสิ่งที่สนใจก่อนจะหันมามองนิสา
"วันหลังอย่าให้รอ ฉันไม่ชอบ"
ฉันกำดอกไม้ในมือแน่นก่อนจะมองมันพร้อมกับยกขึ้นมาดมแต่กลับไม่รู้ถึงกลิ่นของมันเลย เฮ้อ ฉันถอนหายใจพลางถอดแมสปิดหน้าออก "คุณหนูจะไม่ไปพบคุณท่านหน่อยเหรอครับ"
"ยังดีกว่าค่ะ คุณลุงจอดตรงนี้ก่อนนะคะ" ฉันชี้ไปที่ร้านขายลูกชิ้นปิ้งข้างทางเพื่อบอกให้ลุงคนขับรถจอด
"คุณหนูให้ผมไปซื้อให้ดีกว่านะครับ"
"ไม่เป็นใรค่ะ เดี๋ยวหนูลงไปซื้อเองดีกว่า" ฉันเดินลงจากรถก่อนจะเดินไปหยุดที่หน้าร้านพลางมองลูกชิ้นปิ้งเจ้าประจำ
"เอาอย่างละ 20 บาทค่ะ" แม่ค้ายิ้มก่อนจะจัดการจัดเมนูตามที่ฉันสั่ง
"ได้แล้วค่ะ" ฉันหยิบพร้อมกับจ่ายเงินก่อนจะเดินไปซื้อน้ำ
"เอาน้ำส้มปั่นกับน้ำแตงโมค่ะ"
"น้ำแครอทปั่นแก้วหนึ่งครับ" ฉันหันไปมองบุคคลที่มาใหม่ก่อนจะค่อยๆถอยห่างจากเขาซึ่งเขากำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ เขาคนที่พาฉันไปเจอกับบางอย่างที่ไม่สามารถมองเห็น เขาคือผู้ชายที่ไม่ควรเข้าใกล้เลยสักนิด
"ได้แล้วจ้ะหนู" และเสียงแม่ค้าก็ดังขึ้นทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมามอง ฉันรีบจ่ายเงินแล้วรีบเดินขึ้นรถทันที คนอะไรก็ไม่รู้น่ากลัวสุดๆ แต่ก็แปลกเหมือนกันนะเวลาฉันอยู่ใกล้เขาฉันจะได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวเขา
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
"คุณหนูเป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ฉันยิ้มพร้อมกับส่งลูกชิ้นกับน้ำปั่นให้ลุงขับรถ ก่อนที่ลุงเขาจะทำหน้าลำบากใจ
"รับไปเถอะค่ะ รองท้องก่อน กลับบ้านไปคุณลุงต้องไปรับคุณพ่ออีกนะคะ"
"ขอบคุณครับ" ฉันยิ้มก่อนจะหยิบลูกชิ้นอีกถุงกิน เป็นอาหารที่อร่อยกว่าอาหารหรูๆซ่ะอีก แถมยังไม่ต้องเสียเงินเยอะอีก เมื่อรถค่อยเคลื่อนตัวก็ดันไปสบตากับไอ้พี่ว้ากซึ่งเขากำลังมองมาที่ฉัน ทว่า ฉันรีบดึงม่านปิดทันที
"ขับรถดีๆนะคะ"
ฉันบอกลุงขับรถก่อนจะเดินขึ้นคอนโดก่อนที่จะล้มตัวนอนพลางคิดเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ใช่ ในห้องนั้นฉันได้กลิ่นธูปใกล้ๆตัวฉัน ที่จริงฉันไม่สามารถรับรู้ถึงกลิ่นต่างๆตั้งแต่อายุ 13 ปีแล้วล่ะ ตั้งแต่นั้นมาฉันจะได้กลิ่นธูปอย่างเดียว แต่จะได้กลิ่นเป็นครั้งๆ เช่น เวลาฉันเดินผ่านสถานที่ที่มีคนเสียชีวิต เวลาฉันได้กลิ่นธูปเมื่อไหร่ฉันจะเริ่มรู้สึกกลัวทันที แต่ก็แปลกเหมือนกันตอนที่ฉันกอดพี่ติณมันกลับเป็นกลิ่นน้ำหอมซึ่งสามารถปกปิดกลิ่นธูปได้ แต่ที่แปลกไปกว่าฉันได้กลิ่นจากตัวเขาแค่คนเดียว
"อย่าไปคิดเลย มันก็แค่อาการชั่วคราว" ฉันส่ายหน้าหยุดความคิดก่อนจะลุกเดินเข้าไปในห้องน้ำ