บริษัท อินฟินิท อินเตอร์ เท็กซ์ไทล์
แพรกำลังเตรียมข้อมูลสำหรับการประชุมย่อยภายใน เรื่องนโยบายการตลาดใหม่สำหรับหาลูกค้าเพิ่มเติม ถึงแม้ตอนนี้ทางบริษัทจะมีงานกลับมาบ้าง แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะทำให้แตกไลน์การผลิตด้านอื่น ๆ เพิ่มมา
ก๊อก!...ก๊อก!...ก๊อก!
“เชิญค่ะ” แพรขานรับ อนุญาตให้คนด้านนอกเข้ามาได้
“คุณแพรคะ ทุกฝ่ายมาพร้อมกันที่ห้องประชุมแล้วค่ะ” คุณขวัญ เลขาของแพรเดินเข้ามาแจ้ง
“ขอบคุณค่ะ งั้นเดี๋ยวไปกันเลย” แพรเตรียมเอกสารและข้อมูลที่มี แล้วเดินนำคุณขวัญไปที่ห้องประชุม
เมื่อแพรเดินเข้ามาด้านในห้องประชุม ก็ส่งยิ้มไปให้เพื่อนทั้งสองคนที่เข้าร่วมประชุมในฐานะหัวหน้าแผนกการตลาดและผู้ช่วยหัวหน้าแผนก แล้วทิ้งตัวลงที่เก้าอี้หัวโต๊ะด้านหน้าห้องประชุม
“สวัสดีทุกคนนะคะ ถ้ามากันครบแล้ว แพรขอเริ่มประชุมเลย การประชุมหลัก ๆ ของเราวันนี้จะว่าด้วยเรื่องนโยบายการตลาดใหม่ ที่จะช่วยให้เราหาลูกค้ามาเพิ่มเติมได้
จากที่แพรดูผลประกอบการของไตรมาสที่ผ่านมา ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ก้าวหน้าจากช่วงก่อนที่จะเปลี่ยนผู้บริหาร แต่แพรคิดว่าน่าจะยังไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับผู้ถือหุ้นเท่าที่ควร” แพรเปิดประชุมทันที
“ขอโทษนะคะ ท่านประธานคุยกับทางผู้ถือหุ้นแล้วหรอคะ ถึงคิดว่าทางนั้นจะไม่พอใจ จากที่พี่สรุปบัญชี พี่ว่ากำไรมันดีขึ้นกว่าไตรมาสก่อนเยอะพอสมควรเลยนะคะ” คุณพัด หัวหน้าแผนกบัญชีเอ่ยถามขึ้น
“คุณพัดคิดว่า การที่ผู้ถือหุ้นหาลูกค้ารายใหญ่เข้ามาให้เราด้วยตัวเอง ทำให้กำไรเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน มันจะถือเป็นผลงานของทีมบริหารในตอนนี้ด้วยมั้ยคะ จริงอยู่ที่กำไรมันดีขึ้น แต่อย่าลืมว่างานใหญ่ของเราช่วงที่ผ่านมา ลูกค้าคือเครือหิรัญวัฒนา ที่ทางผู้ถือหุ้นเป็นคนหางานเข้ามาเอง” แพรตอบกลับคุณพัดทันที
“มันจะดีกว่ามั้ย ถ้าผลกำไรที่เราทำมันเกิดจากผลงานของทีมบริหารชุดใหม่ หรือนโยบายใหม่ ๆ ที่จะทำให้ผู้ถือหุ้นเชื่อมั่นในการทำงานมากกว่าที่เป็น” แพรตอบกลับเสียงเข้ม พร้อมส่งสายตาเตือนไปทางคุณพัด
“ทางการตลาด เชิญเสนอนโยบายที่เตรียมมาได้เลยค่ะ” แพรตัดเข้าเนื้อหาหลักของการประชุม
“จากเอกสารที่แนบไว้ในเอกสารวาระการประชุมนะคะ ทางการตลาดอยากเสนอให้เรา ยื่นขอฉลากคูลโหมดดูค่ะ โครงการฉลากคูลโหมดนี้นอกจากจะทำให้เรามีจุดขายใหม่ให้กับลูกค้าแล้ว ยังจะทำให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นหน่วยงานของรัฐบาลบางหน่วยงานได้ด้วยค่ะ” มุกเปิดประเด็นที่เตรียมมา
“จริง ๆ คูลโหมดก็มีมาซักพักแล้ว แถมสิทธิประโยชน์จากการที่เรายื่นขอก็ดี แต่ทำไมเราไม่เคยเอาเข้าพิจารณาในที่ประชุมมาก่อนเลย มันมีข้อเสียด้านไหนกับเรารึเปล่า” แพรเอ่ยถาม
“ถ้าก่อนหน้านี้ ไม่ทราบจริง ๆ ว่าทำไมไม่มีการพิจารณา หรือทางด้านการผลิตมีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ” มุกเอ่ยถามแผนกผลิต
“ไม่มีครับ จากที่ดูเงื่อนไขการผลิตที่แนบมา ถ้าเราไม่ได้โฟกัสไปทางเสื้อผ้าเด็กอ่อน ต้นทุนการผลิตมันก็ไม่ได้มีผลอะไรเท่าไหร่นัก” คุณโชน หัวหน้าแผนกผลิตตอบ
“แต่จุดที่ติดน่าจะเป็นทางการเงินค่ะ ถ้าดูจากรายละเอียดที่แนบมา ในแต่ละโครงสร้างผ้า ต้องเสียค่าสมัคร ค่าตรวจสอบคำขอและเอกสาร ค่าธรรมเนียมการใช้เครื่องหมาย รวมแล้วโครงสร้างนึงก็หลักหมื่น ไหนจะต้องต่อเครื่องหมายทุก 3 ปี โรงงานผลิตของเรา ใช้โครงสร้างผ้าหลัก ๆ อยู่ 10 กว่าโครงสร้าง รวมแล้วเฉพาะค่าสมัครและตรวจสอบ ต้องเสียเป็นแสนเชียวนะคะ” คุณพัดแย้งกลับมา
“แพรว่าการเสียเงินหลักแสน แต่ได้ผลตอบแทนทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมา มันก็น่าสนใจสำหรับการลงทุนนะคะ ทุกคนคิดว่ายังไง” แพรตอบกลับและถามทุกคนในที่ประชุม
“พี่ว่ามันก็เป็นตัวโฆษณาให้เราได้อีกทางนะคะ เสื้อผ้าลดโลกร้อน พี่ว่ามันขายได้ แถมเป้าหมายมันก็มุ่งเน้นไปที่ยูนิฟอร์มของสำนักงาน ซึ่งมันก็เป็นสินค้าหลักของเราอยู่แล้ว การที่เราทำอะไรให้มันสากลขึ้น เราก็ขายได้มากขึ้น” คุณเดียร์ หัวหน้าแผนกประชาสัมพันธ์ สนับสนุนโครงการที่มุกเสนอมา
“ถ้าอย่างนั้นแพรขอผ่านนโยบายนี้นะคะ ส่วนเรื่องงบประมาณที่จะต้องเสียในการจัดการส่วนนี้ แพรจะปรึกษากับทางผู้ถือหุ้นอีกทีค่ะ” แพรจบประเด็นของนโยบายแรกไป
“ส่วนต่อไป สืบเนื่องจากการผลิตสินค้าส่งไปทางโรงแรมในเครือหิรัญวัฒนาโครงการที่ผ่านมา ทางแผนกการตลาดมองว่า สินค้าประเภทชุดเครื่องนอน จะสามารถทำให้สัดส่วนกำไรของเราเพิ่มขึ้นได้ดีกว่างานชุดยูนิฟอร์มที่เป็นสินค้าหลักของเรา” มุกเกริ่นเรื่องต่อไป
“หมายความว่า เราควรมุ่งเน้นหาลูกค้าที่จะให้เราผลิตชุดเครื่องนอนให้มากขึ้นถูกมั้ย” คุณเดียร์ถามกลับ
“ใช่ค่ะ เมื่อก่อนงานชุดเครื่องนอนของโรงแรมใหญ่ ๆ เราค่อนข้างตีตลาดยากหน่อย เพราะถือว่าเรายังใหม่กับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เราได้โปรไฟล์ผลงานจากโครงการของหิรัญวัฒนามา มันจะทำให้เรามีผลงานใหญ่การันตีให้ลูกค้าเราได้เห็น แต่ที่มุกจะเสนออีกด้านด้วยก็คือ การตีตลาดโดยเริ่มจากกลุ่มธุรกิจกลาง ๆ ก่อน
ช่วงนี้ธุรกิจโฮสเทล หรือโรงแรมขนาดกลาง มีอัตราเติบโตค่อนข้างสูง มุกคิดว่าเราสามารถผลิตชุดเครื่องนอนมาตรฐาน โดยที่ไม่ต้องลงรายละเอียดดีไซน์เข้าไป ทำเป็นชุดเครื่องนอนเรียบ ๆ ที่ทุกคนสามารถใช้ได้เลย ไม่ต้องเข้าแผนกดีไซน์ ไม่ต้องมีดีเทลการผลิตมาก เพียงแค่ใช้ผ้าคุณภาพดี ยิ่งถ้ารวมเข้ากับคูลโหมดที่ว่าไปตอนแรกได้ เราน่าจะได้ส่วนแบ่งทางการตลาดจากลูกค้ากลุ่มนี้เพิ่มมาอีกค่ะ” มุกอธิบายที่ประชุม
“มันจะคุ้มกับต้นทุนการผลิตของโรงงานแบบเราหรอ ถ้าไปทุ่มเทให้กลุ่มลูกค้าแบบนั้น” คุณพัดถาม
“แต่ถ้าเราไม่เริ่มจากขนาดกลางแล้วรอขนาดใหญ่ไปเลย เมื่อไหร่มันจะก้าวต่อไปได้คะ” มุกถามกลับ
“ที่มุกเสนอไป ต้นทุนการผลิตของเรามันจะไม่สูงมาก เราจะสามารถตั้งราคาขายแบบไม่สูงมากได้ สินค้าดีในราคาที่จับต้องได้ มันเป็นที่นิยมสำหรับทุกคนอยู่แล้ว ส่วนกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่หาค่ะ ด้วยโปรไฟล์ที่มี เราสามารถใช้มันโฆษณาเรียกลูกค้าได้ เพียงแต่ราคามันจะอยู่คนละกลุ่มกัน แล้วตลาดตรงนั้นเราต้องทำการตีตลาดคนละรูปแบบ ซึ่งมันก็เป็นนโยบายในส่วนถัดไปที่จะต้องพูดถึง” มุกอธิบายในที่ประชุมต่อ
“งั้นเราแยกโฟกัสทีละส่วน เราจะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดของลูกค้าในตลาดกลางมา โดยผลิตชุดเครื่องนอนมาตรฐาน ที่ไม่ต้องให้มีงานของแผนกดีไซน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ลดต้นทุนการผลิตและจะขายได้ในราคาที่ต่ำลง แต่ในจำนวนที่เยอะขึ้นและกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้น แพรเข้าใจถูกใช่มั้ย” แพรถามมุกที่พยักหน้าตอบกลับมา
“อีกส่วนคืองานชุดเครื่องนอนของกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ ที่จะต้องมีงานดีไซน์เข้ามาเกี่ยวข้อง การผลิตในรูปแบบเฉพาะตัวของแต่ละโรงแรม ซึ่งเราจะเริ่มโฆษณาตีตลาดในส่วนนี้เพิ่มเข้ามา โดยใช้โปรไฟล์งานของหิรัญวัฒนา มาเป็นผลงานอ้างอิงในการขายงานให้ลูกค้าได้ ถูกต้องมั้ย” แพรถามต่อ
“ถูกต้องทั้งสองส่วนค่ะ ทางทีมการตลาดมองว่า ถ้าเราได้ฉลากคูลโหมดมาแล้ว มันจะขยายการตลาดออกไปได้อีกหลายทาง แต่ระหว่างนี้ เราสามารถขยายส่วนนี้ไปล่วงหน้าก่อนได้เลย” มุกตอบเพื่อนกลับ
“แผนกอื่น ๆ มีข้อเสนอแนะอะไรสำหรับแผนนโยบายที่คุยกันในวันนี้มั้ยคะ” แพรถามในที่ประชุม
“ทางผลิตไม่มีข้อเสนอแนะอะไรครับ แต่ส่วนฉลากคูลโหมด อาจจะต้องขอข้อมูลโดยละเอียดอีกที เพราะมันมีการทดสอบหลายส่วน ต้องควบคุมค่อนข้างละเอียด” คุณโชนตอบ
“ทางประชาสัมพันธ์สนับสนุนทุกนโยบายค่ะ ไม่มีข้อเสนอแนะอะไรเพิ่มเติม” คุณเดียร์สรุป
“ทางบัญชีรอคำตอบจากทีมผู้ถือหุ้นแล้วกันค่ะ คงไม่มีความเห็น ถ้าผู้ถือหุ้นโอเคทางบัญชีก็คงไม่มีปัญหาอะไร” คุณพัดตอบ
“งั้นแพรสรุปการประชุมตามนี้นะคะ ทางการตลาดแพรขอข้อมูลการยื่นฉลากคูลโหมด โดยละเอียดรวมถึงรายละเอียดด้านการผลิตให้แพร ก่อนจะถึงการประชุมผู้ถือหุ้นอาทิตย์หน้าด้วยนะคะ เตรียมข้อมูลให้พร้อม แพรอาจจะให้การตลาดเข้าประชุมด้วย เตรียมตัวไว้ด้วยนะคะ” แพรสรุปกับที่ประชุมแล้วหันไปบอกให้เพื่อนเตรียมตัว
“ได้ค่ะ ภายในอาทิตย์นี้จะสรุปข้อมูลที่ต้องใช้ทั้งหมดส่งให้ท่านประธานล่วงหน้าค่ะ” มุกตอบกลับเพื่อนไป
“ขอบคุณมากค่ะ งั้นถ้าไม่มีข้อเสนอเพิ่มเติมแล้ว วันนี้ปิดประชุมเท่านี้นะคะ” แพรกล่าวปิดการประชุม
หัวหน้าแผนกอื่น ๆ ทยอยกันออกจากห้องประชุมไป เหลือเพียง แพร มุกและปิง ที่ยังคงนั่งอยู่ในห้องประชุม รอจนทุกคนออกไปแล้วพวกเค้าจึงนั่งคุยกันต่อ
“แกสองคนคุยกันไปก่อนนะ ไปเข้าห้องน้ำแปป” ปิงบอกเพื่อนแล้วเดินตามคนอื่น ๆ ออกไปเข้าห้องน้ำ
“คุณพัดนี่เค้าเกลียดอะไรเรามั้ยนะ ทำไมขัดได้ทุกโครงการเลย เป็นอะไรนักหนา” มุกบ่นให้แพรฟัง
“เราว่าเค้าคงแค่เสนอแนะทางด้านการเงินมั้ง ไม่รู้สิ ขนาดเรื่องผู้ถือหุ้นตอนแรกยังพูดขัด ถ้าจะมีปัญหาน่าจะมีกับแพรเนี่ยแหละ” แพรตอบตามที่คิด
“บ้าบอมาก เมื่อก่อนแกเป็นแบบนี้มั้ยนะ” มุกถามเพื่อน เพราะเธอเพิ่งเคยมาทำงานร่วมกันในช่วงนี้เอง
“เมื่อก่อน คุณพัดทำงานกับพ่อเป็นหลัก แพรเองก็ไม่ค่อยได้เข้าประชุมหรอก มีเรื่องอะไรที่ควรรู้พ่อถึงบอก คุณพัดเค้าอาจจะคิดในใจว่า แพรยังเด็กจะมาบริหารต่อจากพ่อได้หรอ อะไรทำนองนี้มั้ง” แพรตอบเพื่อน
“คนหัวเก่า ที่ไม่สนับสนุนความคิดคนรุ่นใหม่สินะ” มุกบ่นกับตัวเองเบา ๆ
“ยัยปิงไปห้องน้ำนานจัง สรุปเรื่องคูลโหมดทำเอกสารรายละเอียดมาให้อีกทีนะ แกว่าเราต้องทำ present ให้พี่ ๆ เค้ามั้ย หรือควรให้อ่านเป็นเอกสารเอา” แพรบ่นหาเพื่อนอีกคน แล้วถามเรื่องงานกับมุกต่อ
“มุกว่า ทำ present ก็ดีนะ เราคงไม่ได้มีเวลาในห้องประชุมมาให้เค้านั่งศึกษาเอง present สรุปให้ฟังไปเลยก็ดี เอานโยบายนี้ไว้ก่อนเลย เพราะอันนี้ใช้เวลานานสุด เรื่องอื่นรองลงมาก็ไล่กันตามไป” มุกเสนอ
“โอเค เดี๋ยวเราให้คุณขวัญร่างเอกสารนัดประชุม แล้วจะแจ้งทางคุณขวัญว่าเอาเรื่องไหนขึ้นก่อน เรื่องไหนไว้ทีหลัง” แพรบอกมุก
“มาแล้ววววว” เสียงปิงดังเข้ามาในจากหน้าประตูห้องประชุม แล้วเข้ามานั่งข้างมุก “คุยกันถึงไหนแล้ว”
“คุยถึงว่าจะทำ present เรื่องคูลโหมดเสนอในที่ประชุมผู้ถือหุ้น จะได้สรุปได้เร็วหน่อย ดีกว่าปล่อยให้อ่านกันเอง แล้วต้องมาอธิบายซ้ำ” มุกเล่าให้ปิงฟัง
“อืม ก็ดีนะ เดี๋ยวเราช่วยทำ ตอนนี้ข้อมูลก็พร้อมหมดแล้วป่ะ” ปิงถามเพื่อนกลับ
“พร้อมหมดแล้วนะ เหลือแค่สรุปข้อมูลแล้วคัดเลือกว่าจะใช้ข้อมูลตัวไหนบ้าง เราว่าใส่แค่อธิบายถึงคูลโหมดให้เข้าใจเบื้องต้นก็พอ เพราะรายละเอียดการผลิต เราเองก็น่าจะไม่ละเอียดเท่าคุณโชน เราต้องลงถึงการผลิตมั้ย” มุกตอบปิงแล้วหันไปถามแพร
“ไม่น่านะ เอาแค่สรุปคร่าว ๆ เรื่องโครงการ ข้อดี จุดเด่น การดึงลูกค้า แล้วก็เรื่องต้นทุนการยื่นขอฉลากก็น่าจะพอ แล้ววันประชุมมุกกับปิงก็เข้าไปด้วยกันเลย สแตนบายรอในห้องเลย เพราะเราจะเข้าเรื่องนี้กันก่อน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเตรียมสไลด์ก่อน present” แพรตอบเพื่อน
“ได้ ไม่มีปัญหา จริง ๆ เราว่าแพรแจ้งคุณโชนเตรียมไว้ด้วยก็ดีนะ เผื่อมีคำถามจะเตรียมตัวทัน” มุกเสนอ
“โอเค งั้นเดี๋ยวเราให้คุณขวัญแจ้งคุณโชนไว้ แยกย้ายไปเตรียมงานต่อเถอะ” แพรกับเพื่อน ๆ แยกย้ายกันไปทำงานต่อ เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับการประชุมผู้ถือหุ้นในอาทิตย์หน้า