แผนของบิดาที่วางเอาไว้เดินหน้าไวกว่าที่คิดไว้มาก เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะรักเธอได้รวดเร็วแบบนี้ เพราะอย่างนั้นถึงได้รู้สึกผิดทุกครั้งที่สบตาที่เต็มไปด้วยความรักของเขา กลัวจับใจว่าสักวันสิ่งดีๆ เหล่านี้จะหายไป หากเขารู้ความจริงถึงสิ่งที่เธอกำลังทำอยู่ หลายครั้งเหลือเกินที่อยากทรยศบิดาผู้ให้กำเนิดแล้วสารภาพความจริงทั้งหมดออกไป แต่ติดว่าอีกฝ่ายคือพ่อผู้ ด้วยบุญคุณนี้เองที่ทำให้เธอต้องโกหกเขา โกหกทุกคนต่อไป
โกหกทุกอย่าง
เว้นก็แต่เรื่องเดียวที่เป็นความจริงคือเธอรักเขา แม้จะรู้ว่าตัวเองไม่คู่ควรแม้แต่จะมองหน้าเขา แต่เธอก็ยังรักเขาอยู่ดี
คะนึงนิจยื้อเวลามาได้ถึงหกเดือน จนกระทั่งคืนนั้น วันที่แผนการของพ่อเธอได้เริ่มต้นขึ้น ท่านบังคับให้เธอวางยานอนหลับปริญในคืนงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของท่านที่เขาถูกเชิญให้มาร่วมงาน เพื่อหวังจะให้เขารับผิดชอบเธอด้วยการแต่งงาน หรืออะไรที่มากกว่านั้น ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของท่าน จนกระทั่งเขาบังเอิญไปได้ยินเรื่องที่พ่อของเธอพูดเข้าในวันที่เขาเข้ามาพูดคุยกับท่านถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แน่นอนว่าเขาจะรับผิดชอบเธอทุกอย่างตามที่ท่านต้องการ
“ไอ้โง่นั่นมันไม่ลังเลเลยสักนิดตอนที่ผมบอกให้มันรับผิดชอบนังนิดด้วยการแต่งงาน พร้อมกับสินสอดยี่สิบล้าน!” คำพูดของว่าที่ พ่อตา ทำให้คนที่เพิ่งจะเดินกลับมาจากไปห้องน้ำชะงักทันทีที่ได้ยิน จังหวะการเต้นของหัวใจยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะมันกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรงพร้อมๆ กับความจริงบางอย่างที่ดังขึ้นตามหลังมาติดๆ
“แบบนี้ก็ดีสิคะคุณ ถ้ามันแต่งงานกับนังนิดไป! เราจะเรียกเงินเพิ่มเท่าไหร่ มันก็คงไม่กล้าขัด แผนของเราได้ผลเกินคาดนะคะ ใครจะไปคิดว่านังลูกสาวนอกคอกของคุณมันจะสร้างเม็ดเงินให้เรามหาศาลแบบนี้!”แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่เขาจะปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญมาตั้งแต่ต้น ไม่ได้ดูใกล้เคียงเลยแม้แต่นิดเดียว!
นี่มันเรื่องบ้าอะไร!
“พี่ลมคะ..” ทันทีที่ตั้งใจจะหันหลังกลับ เพื่อพาตัวเองไปจากที่นี่ ขาทั้งสองก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้เจอเข้ากับคนที่เขาไม่อยากเจอที่สุดในเวลานี้ เพราะกลัวคำตอบที่อาจจะได้รับกลับ
“ที่เราได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ...ทั้งหมดนั่นมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ใช่ไหม!” คำถามนั้นเองที่ทำให้คะนึงนิจมั่นใจว่าเขาคงยืนอยู่ตรงนี้นานพอที่จะได้ยินเรื่องราวที่พ่อของเธอกับแม่เลี้ยงพูดคุยกัน หญิงสาวพยายามเดินไปเข้าหา หวังจะอธิบายแม้จะไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหนก่อน แต่เธอก็ไม่อาจปล่อยให้ทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่แบบนี้ เพราะกลัวเขาจะเกลียดกัน
ซึ่งเธอไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นเลย
“พี่ลมคะ...”
“อย่ามาเรียกชื่อฉัน! ผู้หญิงสารเลวอย่างเธอไม่มีสิทธิ์มองหน้าฉันด้วยซ้ำ!” วูบเดียวเท่านั้นที่เขาภาวนาให้หล่อนปฏิเสธ ว่าไม่รู้เห็นอะไรด้วยทั้งนั้น แต่เพราะคำตอบของเธอที่ให้กลับมาคือความเงียบ เขาถึงมั่นใจว่าเธอรู้ทุกอย่าง รู้มาตลอดว่าเรื่องจะจบลงแบบนี้! คงมีแต่เขาที่โง่ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
จนกระทั่งเดี๋ยวนี้!
“ฮึก นิดขอโทษ พี่ลมฟังนิดก่อนนะคะ...” แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องถามอะไรต่อ เขาก็พอจะเดาเรื่องราวต่อได้
“จะตอแหลอะไรอีก! เท่าที่ฉันได้ยินจากปากพ่อเธอเมื่อกี้มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าครอบครัวเธอรวมหัวกันจับฉันเพราะหวังจะรวยทางลัด! ฝากไปบอกพวกมันด้วยว่าจะไม่มีงานแต่งเกิดขึ้นทั้งนั้น! และเธอ...อย่าเสนอหน้าไปให้ฉันเห็นอีก!”คำด่านั้นรุนแรงจริง แต่ก็ไม่มากเท่ากับความรู้สึกของเขาที่เสียไป
เขาไม่คิดเลยว่าผู้หญิงที่เขารักหมดหัวใจจะกล้าทำกันถึงขนาดนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างที่เขาเข้าใจมาโดยตลอด! แต่มันเป็นการตั้งใจของคนในครอบครัวนี้ที่อยากรวยทางลัด เลยส่งลูกสาวไปปั่นหัวเขา ซึ่งมันก็ได้ผล!
เรื่องมันควรจะจบลงแค่นั้น ไม่ว่าจะเป็นเธอกับเขาหรือแม้แต่ความสัมพันธ์อันดีงามที่เคยมีต่อกัน ถ้าพ่อของเธอไม่ลากเธอขึ้นรถบุกมาหาเรื่องเขากับแม่ถึงบ้าน พร้อมกับยกเอาเหตุผลมากมาย ที่เธออาจเสียหายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าสู้
“ลูกสาวผมเสียหาย ต่อให้คืนนั้นจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ แต่ยัยนิดก็อยู่กับลูกชายคุณทั้งคืน! ไหนจะเรื่องงานแต่งที่ประกาศออกไปแล้วนั่นอีก!” อย่างไรเสียเขาก็ต้องได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง ไม่อย่างนั้นสิ่งที่พยายามทำมาทั้งหมดตลอดเวลาหลายเดือนจะเปล่าประโยชน์ และนังตัวดีจะต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมด!
“แม่ขอนะลม อย่าให้เรื่องมันบานปลายไปมากกว่านี้เลย” เป็นคุณเอื้องพรที่เอ่ยขึ้นขัดต่อความเงียบ แม้จะเจ็บปวดกับเรื่องที่เพิ่งได้รับรู้ แต่ถึงอย่างไรลูกชายนางก็มีความผิดติดตัวอยู่ดี ฐานที่ทำให้ลูกสาวอีกฝั่งเสียชื่อเสียงเพราะเด็กทั้งสองอยู่ด้วยกันทั้งคืน ไหนจะเรื่องงานแต่งที่ประกาศออกไปแล้วนั่นอีก และที่สำคัญ...นางไม่คิดว่าเด็กที่ตนนึกเอ็นดูมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ลูกชายพามาแนะนำให้ได้รู้จักจะทำเรื่องนี้เพราะอยากจับปริญ เธอคงมีเหตุผลที่ต้องทำแบบนั้น และดูเหมือนคนที่อยู่เบื้องหลังจะไม่ใช่ใครที่ไหน นอกจากคนหน้าเลือกตรงหน้า!
“แต่ผม...”
“ถือว่าเห็นแก่หน้าแม่สักครั้งเถอะนะลม แม่ขอร้อง...” สุดท้ายเรื่องในวันนั้นก็จบลงที่การพบกันครึ่งทาง นั่นคืองานแต่งถูกยกเลิกตามความต้องการของปริญ จะมีก็แต่การจดทะเบียนกันอย่างเงียบๆ ระหว่างเธอกับเขาเท่านั้นเพื่อเป็นการยืนยันความรับผิดชอบ ส่วนสินสอดที่ตกลงกันไว้ตอนแรกก็ถูกลดลงไปครึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าพ่อกับแม่เลี้ยงของเธอค้านเรื่องนี้หัวชนฝา แต่พอเขาขู่ว่ามีทางเลือกให้แค่นี้ ทั้งสองก็จำใจต้องยอมเพราะกลัวว่าจะไม่ได้อะไรเลยเข้าจริงๆ
ขณะที่เธอเองก็จะเป็นได้เพียงเมียในนามของเขาเท่านั้น เขาไม่อนุญาตให้เธอย้ายเข้ามาอยู่ด้วย ซ้ำยังบังคับให้เธอทำงานหนักมากกว่าที่เคยทำถึงสองเท่าเพื่อชดใช้ ส่วนความสัมพันธ์ทางกายก็ยัดเหยียดให้กันในวันที่พาเธอไปจดทะเบียนสมรส ด้วยเหตุผลว่าครอบครัวเธอหลอกเอาเงินเขาไป
เธอจึงต้องชดใช้ให้เขา ด้วยทั้งหมดที่เธอมี
ครั้งแรกระหว่างเธอกับสามี เกิดขึ้นที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง แน่นอนว่าทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรุนแรงตามอารมณ์ของเขาคนเดียว เธอมารู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกทีก็พบว่าตัวเองถูกทิ้งไว้ที่นั่นเพียงลำพังแล้ว ส่วนเขาก็ขับรถกลับบ้าน ก่อนจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างจากเธอที่ยังคงจดจำทุกสัมผัสในค่ำคืนนั้นได้เป็นอย่างดี ไม่มีวันที่ลืม...
“อย่าคิดว่าแค่เหยื่อบางๆ มันจะเปลี่ยนอะไรได้ สิ่งเดียวที่เธอจะได้จากฉันคือความเกลียดจำไว้!” นั่นคือคำพูดที่เขาทิ้งไว้ก่อนจาก ราวกับจะไม่แยแสเลยสักนิดว่ามันจะสร้างรอยแผลไว้ที่กลางใจคนฟังสักแค่ไหน เขาไม่สนว่าเธอจะเจ็บปวด!
แค่หนึ่งปีเท่านั้น...หนึ่งปีที่เขาจะอนุญาตให้เธออยู่ในสถานะภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา เมื่อครบหนึ่งปีเมื่อไหร่เธอจะต้องหย่าให้เขาทันที จากนั้นก็ทางใครทางมัน
อย่าได้มาพบเจอกันอีกเลย... ’ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน’