บทที่2

1187 Words
การพบกันระหว่างพี่ชายใจดีกับเธอในคืนนั้นที่เขามอบตุ๊กตาให้เป็นเรื่องเดียวที่บังเอิญ นอกจากนั้นคือการสร้างสถานการณ์ล้วนๆ เริ่มจากการที่พ่อส่งเธอไปสมัครเป็นพนักงานบัญชีในไร่ของเขา ซ้ำยังบังคับให้เธอเข้าหาเขาด้วยสารพัดวิธีที่ผู้หญิงดีๆ คงไม่คิดทำกัน “โอ้ย!” เสียงร้องของใครบางคนที่ดังขึ้น เรียกสายตาของ ปริญ ให้ต้องหันกลับไปมอง ก่อนที่เขาจะพบเข้ากับร่างบอบบางของใครคนหนึ่งกำลังนั่งกุมข้อเท้าตัวเองอยู่ที่พื้นหน้าสำนักงานใหญ่ของไร่สกาวใจ ไร่ผลไม้ขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของจังหวัด เสียงร้องนั่นทำให้เขาต้องรีบเดินเข้ามาดูเผื่อว่าจะช่วยอะไรได้ อย่างน้อยในฐานะเจ้าของที่นี่ เขาก็ไม่ควรเพิกเฉยกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า “ขอโทษครับ ไม่ทราบคุณ...เป็นอะไรมากรึเปล่า” เสียงทุ้มต่ำชวนน่าฟังของบุคคลที่เป็นดั่งเป้าหมายสร้างความอบอุ่นหัวใจดวงน้อยได้แทบจะทันที มันทำให้เชื่อสนิทใจเลยว่าแม้เวลาจะผ่านมานานแค่ไหน เขาก็ยังเป็นพี่ชายใจดีของเธอเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน “สะ...สงสัยขาฉันจะพลิกค่ะ” หญิงสาวตอบก่อนจะกลั้นหายใจเมื่อ เขา ค่อยๆ ทิ้งลงตรงหน้านั่นทำให้เธอต้องรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะเงยหน้ามองเขา ในขณะที่ปริญเองก็ชะงักไปเมื่อได้เผลอสบเข้ากับดวงตาคู่สวยของหญิงสาวปริศนาตรงหน้า ความคุ้นเคยบางอย่างทำให้เขาเผลอนึกถึงใครบางคนขึ้นมา เด็กผู้หญิงผอมบาง นัยน์ตาเศร้าที่เขาบังเอิญได้พบเมื่อหลายสิบปีก่อนในงานเลี้ยงที่พ่อแม่บังคับให้ไปร่วมทั้งๆ ที่เขาอยากอยู่บ้านมากกว่า จนถึงวันนี้ก็ยังนึกขอบคุณพวกท่านอยู่เพราะมันทำให้เขาได้เจอกับใครบางคน คนที่อยู่ในความทรงจำของเขามาโดยตลอด และคงเป็นไปไม่ได้ที่เด็กคนนั้นจะมาปรากฏตัวที่นี่วันนี้ เรื่องบังเอิญแบบนั้นไม่มีทางเกิดขึ้น แม้ใจเขาจะอยากให้มันเกิดขึ้นก็เถอะ! “คุณพอจะลุกขึ้นไหวไหมครับ” เขาจำต้องถามเพื่อจะได้ประเมินสถานการณ์ว่าควรจะทำอย่างไรต่อ แต่ที่แน่ๆ คงปล่อยให้เธอทิ้งไว้แบบนี้ไม่ได้ เมื่อยื่นมือเข้ามาช่วยแล้ว ก็จำต้องช่วยต่อให้ถึงที่สุด อย่างน้อยก็ในฐานะเจ้าของที่นี่ที่ต้องดูแลแขกให้ดีเท่าที่จะดีได้ “นะ...น่าจะไหวนะคะ โอ้ย!” หญิงสาวให้คำตอบก่อนจะแสร้งเซล้มลงไปทันทีที่ลุกขึ้นดูเหมือนเท้าเธอจะพลิกจริงก็หนนี้ คงหนีไม่พ้นสุภาษิตที่ว่า ‘ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว’ “ให้ผมช่วยดีกว่า ขออนุญาตนะครับ” เขาเอ่ยขึ้นก่อนจะค่อยๆ ประคองคนเจ็บให้ลุกขึ้นด้วยสองมือก่อนจะเอ่ยถามไปพร้อม “ว่าแต่คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ” “ฉันได้ข่าวว่าที่นี่กำลังเปิดรับสมัครพนักงานฝ่ายบัญชีอยู่ก็เลยตั้งใจจะมาสมัครค่ะ แต่เพราะไร่ของคุณสวยมาก ฉันก็เลย...เดินดูจนเผลอสะดุดล้มเข้า ต้องขอโทษด้วยจริงๆ นะคะที่ทำให้คุณต้องมาพลอยเสียเวลาไปด้วยแบบนี้” ความตั้งใจทั้งหมดถูกบอกออกไป ก่อนที่หญิงสาวจะใช้โอกาสนี้ลอบมองความเปลี่ยนไปของพี่ชายใจดีที่เธอไม่เคยลบภาพเขาไปจากใจได้เลย แม้จะดูโตขึ้น แต่แววตาที่แสนอ่อนโยนยังคงเหมือนเดิม “คุณรู้จักผม” เพราะเมื่อครู่เธอบอกว่า ‘ไร่ของเขา’ นั่นทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เลย นอกจากเธอรู้อยู่ก่อนแล้วว่าเขาเป็นใคร “ไม่มีใครไม่รู้จักพ่อเลี้ยงปริญหรอกค่ะ” โดยเฉพาะข่าวของพ่อเขาที่ประสบอุบัติเหตุรถชนเมื่อหลายเดือนก่อน และนั่นคงเป็นเหตุผล ที่ทำให้เขาต้องบินด่วนกลับมาเพื่อสานต่อสิ่งที่ท่านได้เริ่มไว้ ในฐานะทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล ไม่รู้เหมือนกันทำไมเธอถึงได้รู้สึกใจสลายไปพร้อมกับเขาเมื่อทราบข่าว อาจเป็นเพราะเคยเป็นคนสูญเสียบุคคลอันที่เป็นที่รักมาก่อน เลยเข้าใจดีถึงความรู้สึกของคนที่สูญเสียดีกว่าใคร อีกทั้งเธอเองก็เคยพบพ่อของเขามาแล้ว ท่านเป็นคุณลุงใจดีที่ไม่ถือสายามที่เธอเดินชนในงานเลี้ยงงานหนึ่งที่เธอถูกผู้เป็นพ่อลากให้ไปทำความรู้จักกับบรรดาเพื่อนๆ ของท่านและก็เป็นคุณลุงคนนั้นที่ช่วยเธอเอาไว้จากการถูกแทะเล็ม ‘อายุเท่านี้คงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องที่เราคุยกันเท่าไหร่ ผมว่าให้แกออกไปเดินเล่น ทำความรู้จักกับเด็กรุ่นเดียวกันไม่ดีกว่าหรือครับ’ เพราะคุณลุง เธอถึงได้รับอนุญาตจากพ่อให้ออกมาจากห้องนั้น ไม่ต้องทนยืนให้ชายแก่ที่เหลือในห้องจับจ้องประหนึ่งสิ่งของอีกต่อไป “คุณรู้จักผมฝ่ายเดียว ไม่คิดว่ามันเป็นการเอาเปรียบกันเหรอครับ เพราะผมยังไม่รู้จักคุณเลย” ปริญไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับใครบ่อยๆ ความรู้สึกที่อยากเย้าแหย่อีกฝ่ายให้อายเล่น และมันก็ได้ผลเมื่อสิ้นคำพูดเมื่อครู่ เขาก็ได้เห็นว่าใบหน้าของคนในอ้อมแขนแดงระเรื่อขึ้น เขารู้สึกดี ที่เห็นคำพูดของตัวเองมีผลต่อคนในอ้อมแขน “หนูนิดค่ะ” “นะ...หนูนิด...ชื่อของคุณเหมือน...” “เราเคยพบกันแล้วครั้งหนึ่งที่งานเลี้ยงเมื่อสิบปีก่อนค่ะ” คำตอบนั้นทำเอาหัวใจคนฟังอุ่นร้อนไปหมด เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าโลกนี้จะมีความบังเอิญแบบนี้อยู่ ยิ่งพอให้พิจารณามองคนในอ้อมกอดชัดๆ ก็ยิ่งทำให้มั่นใจจนไม่ต้องถามอะไรต่อ ใช่เธอจริงๆ ยัยตัวเล็กของเขา! “พี่...เอ่อ ผมไม่คิดว่าเราจะได้พบกันอีก โลกมันกลมจริงๆ เลยนะครับ” เธออยากบอกเขาเหลือเกินว่าไม่มีความบังเอิญอะไรที่จะง่ายดายแบบนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้มันเป็นความตั้งใจของเธอแทบทั้งสิ้น และเขาคงไม่มีวันได้รู้เพราะเธอจะไม่มีวันบอก “นิดเองก็ไม่คิดว่าพี่ชายที่ใจดีคนนั้นจะยังจำนิดได้” เขาไม่เคยลืมเธอได้เลยต่างหาก แม้ชีวิตจะผ่านผู้หญิงมามาก แต่ไม่เคยมีใครทำให้รู้สึก ‘คิดถึง’ ได้ มันเป็นความรู้สึกที่เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันจนกระทั่งวันนี้ วันที่เธอได้กลับมาปรากฏตัวต่อหน้ากันอีกครั้ง ทุกอย่างมันเลยยิ่งจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD