ตอนที่ 15

2493 Words
ฌาร์มวิ่งตามมานั่งลงฝั่งตรงข้ามกับศิตา ซึ่งพนักงานของร้านกำลังนำอาหารมาวางให้ โดยศิตาทำเฉยเมยมองสบตากับคนที่แววตาดูทะเล้นและแก้วสเตนเลสก็ถูกวางตรงหน้า ศิตารู้ดีว่าเป็นอะไรแต่ยังคงทำเป็นเฉยเมยไม่สนใจคนที่ทำเป็นกลืนน้ำลายเมื่อเห็นศิตาตักอาหารเข้าปาก “ใจดำเนอะ คนเรา” ฌาร์มพูดขึ้นลอยๆ “เพิ่งรู้หรือ” ศิตาพูดต่อปากต่อคำ หลังจากคำพูดของพันธุดายังคงก้องอยู่รวมถึงภาพที่เห็นก้าวหน้าปลอบโยนฌาร์ม และศิตารู้ ตัวดีว่าตัวเองไม่ได้มีสิทธิ์อะไรเลยสักนิด “คุณซีนจะไม่สั่งข้าวให้ฌาร์มทานจริงๆ หรือ ทีฌาร์มยังรีบไปพากลับบ้านเลยตอนเมาเช็ดตัวดึงไปกอดก็ยอมให้กอด” ฌาร์มพูดพึมพำเป็นการต่อว่า ศิตาวางช้อนส้อมทันทีเมื่อได้ยิน “หมายความว่าไง คืนนั้นฌาร์มไป แต่ไม่ได้กลับพร้อมก้าวหรือ” “ก็จะกลับ คุณซีนบอกให้ขึ้นไปนอนข้างๆ จับมือไว้ไม่ปล่อยนี่” “แล้วก็ยอมตามใจง่ายๆ อย่างนั้นน่ะนะ” ศิตาพูดดุ “เปล่า อยากยอมเองไม่ได้ตามใจ” “ซีนพูดอะไรอีก” ศิตาถาม “ไม่มีนะ” ฌาร์มยิ้มน้อยๆ ไม่กินแล้วใช่ปะ” ฌาร์มหยิบจานข้าวของ ศิตายกมาตั้งตรงหน้าและเริ่มทานต่อ ศิตาถอนใจหากตื้อ แบบนี้มีหวังได้ทำอะไรเหมือนที่เคยแน่ “ขอหรือยัง” ศิตาถาม “ทำตาปริบๆ ตั้งนาน กระเป๋าสตางค์ก็ไม่ได้ถือมา” ฌาร์มพูดเสียงอ่อยๆ ไม่รู้เหมือนกันว่า การแสดงออกที่ทำเพื่ออะไร แต่ที่ เห็นศิตาทำหน้าหงิกให้ก่อนหน้าคงเป็นเพราะพันธุดาไปพูดอะไรแน่ “แล้วซีนจะทานอะไรล่ะ” ศิตาถามน้ำเสียงฟังดูเหมือนจะเอาเรื่อง “อย่าทะเลาะกันเลยค่ะ คุณซีน ทานก่อนก็ได้ค่อยเอามาจ่ายป้า” ป้าเจ้าของร้านจัดอาหารมาให้ ศิตายิ้มอายๆ ลืมตัวไปว่าไม่ได้ อยู่เพียงลำพังกับฌาร์มที่ทำหน้าตากวนประสาท “ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวเอาสตางค์มาให้ค่ะ” ฌาร์มบอกกับป้าคนขายอาหารที่ส่ายหน้ากับความทะเล้นของเพื่อนเจ้าของห้องเสื้อ “เย็นนี้อยากทานอะไร” ฌาร์มถามและตักอาหารเข้าปากเคี้ยวตุ้ย “มีงานเลี้ยงต้องไปกับคุณชัช” ศิตายิ้มจางๆ มองสบตากับฌาร์ม “ค่ะ” “รออ่านหนังสือก่อนนอนด้วยกันสิ ซีนจะอ่านให้ฟัง” ศิตาอยากหยิบยื่นความสบายใจให้ทั้งกับตัวเองและฌาร์ม “อย่าเลยคงดึกกว่าจะกลับ ไม่ต้องห่วงฌาร์มหรอก” ฌาร์มบอก “แต่รู้ใช่ไหมว่าซีนห่วง” ศิตาจ้องเขม็ง “คุณซีนคิดจะบอกพ่อไหม เรื่องของเรา” ฌาร์มถามไปตรงๆ แต่ไม่ได้อยากได้คำตอบอะไร เวลามีอะไรมาจี๊ดที่ใจ ความสบายใจ ความอยากยั่ว ความทะลึ่งทะเล้นเพื่อจะได้เห็นรอยยิ้มหายไป วกกลับ มาหาคำพูดเพื่อแทงจิตใจทั้งศิตาและตัวเอง “แล้วฌาร์มล่ะ จะบอกไหมว่ารู้สึกอย่างไรกับซีน” ศิตาถามกลับ “เอาไว้หลังแต่งงาน ถ้าบอกพ่อคงให้อภัย เพราะฌาร์มไม่รู้” “เราสองคนก็คิดเหมือนกันนั่นแหละ” ศิตาบอกมองดูแก้วสเตนเลส ลังเลเล็กน้อย แต่ตัดสินใจหยิบมาถือไว้ก่อนเดินกลับไปที่ ห้องทำงาน โดยทิ้ง ฌาร์มให้นั่งอยู่ที่เดิม “หน้าเหี่ยวกลับมาทั้งคู่เลย” ก้าวหน้าพูดขึ้น “พี่ก้าว ในฐานที่สนิทกับคุณซีน พี่ก้าวว่า ถ้าให้เลือกโดยไม่ต้องมีข้อแม้หรือมีเหตุผลอะไรประกอบ น้าสาวของพี่ก้าวจะเลือก ใคร” พันธุดาถามและจ้องมองก้าวหน้าเพื่อรอฟังคำตอบ “ยังหึงหน้าเข้มเดินไปกินข้าวคนเดียวอยู่ ไม่เห็นต้องถาม” “แล้วเหตุผลอะไรว๊ะพี่ก้าว คุณซีนถึงไม่ตัดสินใจอะไร ทนเจ็บปวดอยู่ได้ บอกพ่อพี่ฌาร์มไปก็หมดเรื่อง” พันธุดารู้สึกว่าเรื่องไม่ เห็นจะยาก “ง่ายขนาดนั้นคงบอกไปแล้วล่ะมั้ง บางทีการรับปากหรือตกลงอะไรผู้ใหญ่ไว้ก่อนอาจจะสำคัญกว่าความรู้สึกที่เพิ่งเกิดขึ้นก็ได้นะ ฌาร์มมาเร็วปานความเร็วแสง ใครจะไปคิดว่าจะมาเจอเอาตอนตัดสินใจอะไรไปแล้วล่ะ” ก้าวหน้ายิ้มจางๆ บางทีคนที่น่าสงสารที่สุดอาจจะเป็นน้าสาวของตัวเอง แต่สิ่งที่พันธุดากำลังทำอาจช่วยดึงความกล้าที่จะเผชิญหน้า เพื่อคนที่ตัวเองรักก็ได้ เวลาหึงผู้หญิงทุกคนอาจลืมคิดหาเหตุผล น้านุชเดินยิ้มเข้ามาหาศิตา หลังจากได้พบปะผู้คุยกับคนอื่นๆ ศิตาพนมมือไหว้ทักทาย และพอจะรู้ข่าวคราวการเข้ามาช่วยงานชัชวาลอยู่บ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ก็คือ ผู้หญิงที่ฌาร์มเรียกว่าน้านุช ดู สวยสง่าขึ้นมาก “สบายดีนะคะ คุณซีน” “ค่ะ คุณนุชสวยขึ้นนะคะ” ศิตาเอ่ยชม “แสงไฟในงานมากกว่าค่ะ คุณชัชปล่อยให้สาวสวยมายืนคนเดียวเสียมารยาทจริงเชียว” น้านุชชวนพูดคุย หลังจากมองเห็นท่าทางเบื่อหน่ายของศิตา “ต้องรับแขกมากกว่าค่ะ” “ฌาร์มเป็นไงบ้าง คุณชัชเล่าให้ฟังอยู่ว่า คุณซีนย้ายเข้าไปอยู่แล้ว” คำถามของน้านุชทำให้ศิตานิ่งงันไป “ไม่ค่อยชอบ ซีนสักเท่าไรค่ะ” ศิตาพูดเสียงอ่อยๆ เพราะไม่รู้จะบอกออกไปอย่างไรเหมือนกัน “อย่างนั้นหรือ ถามฌาร์มไม่เห็นบอกเหมือนที่คุณซีนบอกเลย” “เหรอคะ ฌาร์มจิตใจดีคงไม่นินทาอะไรผู้ใหญ่มากกว่าค่ะ” “คุณซีนมีเหตุผลของตัวเอง คุณชัชก็เป็นคนมีเหตุผลนะคะ ฌาร์มเองก็เหมือนกัน แต่เหตุผลของใครสำคัญกว่าคงบอกไม่ได้ แต่ความรู้สึกที่มีอาจทำให้เหตุผลที่ว่าแข็งแกร่งกลับอ่อนปวกเปียกไป ว่าไหม” “ซีนอาจจะโตเกินไปที่จะใช้ความรู้สึกมาแทนที่เหตุผลนะคะ คุณชัชเป็นคนดี ซีนเองควรทำในสิ่งที่รับปากรับคำผู้ใหญ่เอาไว้ ด้วย” ศิตาอธิบาย “ถ้ามีเหตุผล ความอึดอัดในทุกวันนี้คงไม่เกิดขึ้น คุณซีนแน่ใจหรือที่จะยึดมั่นอยู่กับเหตุผลมากกว่าความรู้สึก ความสุข ความรัก คือความรู้สึก ไม่ใช่เหตุผลนะคะ คุณซีน” คำพูดของน้านุช ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ของฌาร์มทำเอา ศิตารู้สึกจุก เหมือนโดนพูดกระทบต่อว่าเรื่องที่ไปยุ่งกับหลานสาวของท่าน เพราะถ้ามีเหตุผลเหมือนที่บอกคงไม่ไปเกินเลยกับฌาร์ม ศิตาไม่รู้ด้วยว่า น้านุชรู้เรื่องระหว่างตัวเองกับฌาร์มมากน้อยขนาดไหน การสนทนาจบลงเมื่อชัชวาลมาพาตัวศิตาไปเพื่อพูดคุยเรื่องธุรกิจกับคนอื่นๆ น้านุชถอนใจไม่คิดว่า เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับคนที่เป็นพ่อลูกกัน “น้าจะช่วยกล่อมไปเรื่อยๆ นะ ฌาร์ม” น้านุชรู้ดีว่าศิตาชอบฌาร์ม มากกว่าที่ตัวเองคิดเอาไว้ จากการสนทนาที่พูดเป็นนัยๆ คนที่ ทำธุรกิจและมีผู้คนที่ต้องรับผิดชอบ อาจจะต้องเลือกดำเนินชีวิตอีกอย่างที่ความรักเป็นเรื่องรองลงมาทำให้ศิตาปล่อยให้เรื่องราวเป็นไปด้วยเหตุผล ไม่ใช่ความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้น แต่ยิ่งนานวันยิ่งชัดเจน ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้ปฏิเสธความรู้สึกนั้น ถึง แม้ว่าเลือกที่จะยืนเคียงข้าง คนเป็นพ่อมากกว่าลูก ศิตารู้สึกเหนื่อยเลยกลับบ้านมาก่อน โดยที่ชัชวาลไปดื่มต่อกับกลุ่มนักการเมืองและมีน้านุชไปด้วย แต่ใจจริงแล้วอยากกลับมาใช้เวลาอยู่กับ ฌาร์มก่อนนอนมากกว่า เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นฌาร์มนอนหันหลังให้จึงเข้าชะเง้อมองถึงได้รู้ว่าหลับไปแล้ว ศิตาถอนใจยิ้มจ้องๆ มองดูดวงหน้าของคนที่หลับ ก่อนจะยิ้มๆ และรีบเข้าไปอาบน้ำ เสียงอ่านหนังสือดังขึ้น ฌาร์มได้ยินเสียงตั้งแต่ศิตาเปิดประตูเข้ามาแล้วแต่แสร้งทำเป็นหลับ ฌาร์มลุกขึ้นหยิบหนังสือที่ศิตาถือ อยู่แล้วเอื้อมจะเอาไปวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงด้านที่ศิตานอน ความใกล้ชิดที่เกิดขึ้นโดยไม่ ได้ตั้งใจทำให้ศิตาถึงกับต้องกลั้นหายใจและเตือนตัวเองไม่ให้ดึงตัวฌาร์มให้เข้าใกล้มากกว่านี้ สายตาที่จ้องมองกันทำให้หัวใจรู้สึกแปลกๆ ไม่ถึงกับตื่น เต้น แต่ทำให้ร่างกายร้อน ผ่าว เมื่อลมหายใจของฌาร์มสัมผัสเข้าที่แก้มขณะ ที่เอื้อมเอาหนังสือไปเก็บให้ “รำคาญเหรอ” ศิตาถามเสียงอ่อยๆ แต่แอบยิ้ม “เที่ยงคืนกว่าแล้ว ยังมานั่งอ่านหนังสืองุ้งงิ้งอยู่ นอนได้แล้ว” ฌาร์ม พูดคล้ายบ่น แต่ศิตากับหัวเราะ “บ่นเป็นคนแก่เลย” ศิตาพูดว่า “ไม่ขำนะ นอนได้แล้ว” ฌาร์มแสดงอาการเหมือนไม่ค่อยพอใจนัก “ซีนกลับมาก่อน พ่อฌาร์มไปดื่มต่อ คุณนุชไปด้วย” ศิตาบอก “นอนเถอะ ไม่เกี่ยวอะไรกับฌาร์ม พ่อจะกลับตอนไหน ไปไหนมาไหน คุณซีนรู้คนเดียวก็พอแล้วล่ะ” ฌาร์มนอนหันหลังให้ ศิตา ยิ้มจางๆ เมื่อได้ยินฌาร์มว่าคล้ายดุตัวเอง จึงพลิกตัวนอนหันหลังให้ฌาร์มเช่นกัน “ต้องดุขนาดนี้เลย” ศิตาพูดขึ้น ฌาร์มยิ้มๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆ ขยับมาจนแผ่นหลังสัมผัสกัน ฌาร์มนอนนิ่งสูดลม หายใจเข้าลึกๆ “ถ้าเบียดอีกนิด ฌาร์มจะลงไปนอนที่พื้นนะ” ฌาร์มพูดเสียงเข้ม “รู้แล้ว แค่นี้ได้ใช่ไหมล่ะ” ศิตาบ่นพึมพำ แต่เมื่อฌาร์มเงียบไปจึงค่อยๆ หลับตาลงซึมซับความอบอุ่นผ่านแผ่นหลังที่ทำให้อุ่น ใจจนหลับไป ฌาร์มหาวหวอดเดินมะงุมมะงาหราเข้าห้องน้ำไป ความง่วงทำให้ลืมไปเลยว่าไม่ได้อยู่ในห้องเพียงลำพัง จนชนเข้ากับศิตาที่นุ่งกระโจมอกออก มาจากห้องน้ำส่วนที่เปียกทำให้ชนเข้ากับฌาร์มอย่างจัง กว่าเจ้าของห้องจะตั้งสติได้ก็เบียดตัวเข้าหาศิตา ซึ่งต้อง ถอยไปจนหลังติดผนัง ฌาร์มองดูคนที่ใบหน้าอยู่ใกล้ชิดกัน ไม่ได้ใกล้ธรรมดาต้องเรียกว่า ใกล้เสียจนได้ยินเสียงลมหายใจของกัน ศิตาถอนใจแต่หัวใจก็ปรารถนาให้ฌาร์มเข้าใกล้มากกว่าที่เป็นอยู่และดูเหมือนเจ้าตัวจะสัมผัสได้กับสิ่งที่ศิตาภาวนา ริมฝีปากที่กำลังขยับทำให้หัวใจของศิตาเต้นแรงรู้สึกตื่นเต้นมากเสียกว่าตอนได้เคล้าคลออยู่ด้วยกัน แต่เมื่อริมฝีปากของฌาร์มแตะเบาๆ เจ้าตัวก็ขยับห่างออกไปทันทีรอยยิ้มกวนๆ ทำให้ศิตาถอนใจ เพราะรู้ดีว่าตัวเองโดนยั่วเข้าให้แถมยังไอ้เจ้าผ้าเช็ดตัวที่นุ่งกระโจมอกอยู่ยังถูกดึงออกไปอีก “ขอยืมผ้าเช็ดตัวหน่อย” ฌาร์มยิ้มเดินเข้าห้องน้ำเสียงของฝักบัวที่เปิดทำให้ศิตาหลับตาและพยายามข่มใจตัวเองเอาไว้ไม่ให้ ตามเข้าไป “เด็กบ้า ต้องแกล้งกันขนาดนี้เลยหรือ” ศิตายิ้มแก้มแดงระเรื่อ บิดาเห็นลูกสาวดูอารมณ์ดีมีรอยยิ้มน้อยๆ ขณะรับประทานอาหารเช้าอยู่ด้วยกัน จึงทำให้คิดว่า สองสาวน่าจะเข้ากันได้ดี “ท่าทางคุณซีนจะปราบอยู่” บิดาของฌาร์มพูดขึ้นและนำกระดาษชำระขยับเข้าใกล้ไปช่วยเช็ดที่ริมฝีปากให้ศิตา ซึ่งมีร่องรอยของกาแฟติดอยู่ ฌาร์มยิ้มจางๆ แล้วแอบถอนใจ “ขอบคุณค่ะ” ศิตาบอกแล้วชำเลืองมองฌาร์มเล็กน้อย “ขอตัวนะคะ” “เดี๋ยวฌาร์มเย็นนี้พ่อว่า กินข้าวด้วยกันสินะ พร้อมหน้าพร้อมตา” บิดาบอกกับลูกสาวแล้วหันไปพยักหน้าให้ศิตา “ได้ค่ะ” ฌาร์มบอก “ค่ะ” ศิตายิ้มน้อยๆ ให้กับชัชวาลที่ยิ้มกว้างมากขึ้น “ทานอะไรดีคะ ให้ฌาร์มจัดการให้ไหม” ฌาร์มถาม “พ่อสั่งอาหารทะเลไว้แล้ว ของชอบคุณซีน” ชัชวาลบอกและยิ้มให้ทั้งสองสาวที่พร้อมออกไปทำงาน “เพิ่งรู้ว่าชอบอาหารทะเล” ฌาร์มพูดขึ้น ก่อนจะเดินไปขึ้นรถของตัวเองแล้วขับออกไป “จะเอาเวลาที่ไหนบอกได้ล่ะ มาเร็วไปเร็วขนาดนี้” ศิตาพูดคล้ายต่อว่าฌาร์มทั้งๆ ที่เจ้าตัวขับรถออกไปสักครู่แล้ว ฌาร์มถอนใจ เมื่อมองเห็นสองสาวที่โบกมือไหวๆ ให้ แอบสงสัยเหมือนกันว่า สองคนนั้นไม่มีธุระปะปังอะไรบ้างหรืออย่างไร ถึงได้มาอยู่ที่ร้านทุกเช้า “ไม่เบื่อกันบ้างหรือไง” ฌาร์มถาม “อารมณ์ไม่ดีมาจากบ้านอย่าพาลค่ะ ที่รัก” พันธุดาพูดแหย่แล้วหันไปยิ้มๆ กับก้าวหน้า “นั่นสิ แม่เลี้ยงใจร้ายแต่เช้าเลยหรือ” ก้าวหน้าถาม ฌาร์มรีบหันขวับมาทำหน้ายักษ์ใส่ทันที “ฌาร์มต่างหากที่ใจร้าย” ฌาร์มลังเลเล็กน้อย แต่สองสาวที่มานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อเกือบทุกเช้าแถมยังแสดงออกว่าจะเป็นกุนซือ ถึงแม้ว่าความเป็นไปได้แทบจะไม่มีก็ยังคงเป็นที่ปรึกษาให้ ฌาร์มจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำให้ฟัง “ถามจริงพี่ชามข้าว ลืมว่ามีคนอยู่ด้วยพอเข้าใจ แต่ไปดึงผ้าเช็ดตัวเขาน่ะ ยั่วชัดๆ นะ สงสารคุณซีนที่มาหลงเด็กร้ายกาจ” แป๋วแหววพูดต่อว่า ฌาร์มเลยเอื้อมไปเขกศีรษะ “แซ่บเหมือนกันนะคะ ที่รัก” พันธุดาหัวเราะ “น้าซีนไม่บีบคอเอาก็บุญแล้ว ช่างกล้า” ก้าวหน้าบอก “อ้าวออกมาขนาดนั้น มีผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แทบจะต้องหลับตาเดินชนกันจนจะจูบกันอยู่แล้วด้วย” ฌาร์มพูดงึมงำ “ป่านนี้คุณซีนอกแตกตายไปแล้วมั้ง” พันธุดาหัวเราะไม่คิดว่าฌาร์มจะมีมุมร้ายกาจ แต่มองในแง่ของศิตาคงเป็นความน่ารัก ช่างยั่วช่างเย้าเสียมากกว่า “ตายๆ อยากเห็นน้าซีน ไปทำงานดีกว่าเรา” ก้าวหน้าหัวเราะและบอกขอบคุณแป๋วแหววที่นำกาแฟมาให้ “เวลาอายน่ารักนะ น้าซีนของก้าวนะ” ฌาร์มยิ้มๆ แก้มแดงระเรื่อขึ้นมาทำให้เสียงโห่ฮิ้วดังขึ้น “ปีนเกลียวพ่ออยู่นะ เราน่ะ” ก้าวหน้าบอก ฌาร์มเลยทำหน้าจ๋อยไปทันที “รู้อยู่ ไม่ต้องย้ำหรอกน่า” ฌาร์มบอก “แต่ที่รักดูมีความสุขนะคะ” พันธุดาหัวเราะ “ที่รักอะไร เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า” ฌาร์มรีบพูดว่า “ยั่วต่อไป ถ้าน้าซีนทนไหวล่ะก็ ก้าวจะบอกให้แม่พาน้าซีนไปบวชชี” ก้าวหน้าหัวเราะและรีบออกจากร้านไป “ติดความร้ายกาจมาจากรุ่นใหญ่ใช่ไหมเนี่ย” พันธุดาอมยิ้มถึงแม้เรื่องราวไม่ได้ดีขึ้น แต่รอยยิ้มของฌาร์มก็ทำให้คนที่แวด ล้อมอยู่มีความสุขถึงแม้จะแค่เพียงชั่วคราวก็ตาม หากวันหนึ่งทุกอย่างดำเนินไปตามที่เป็นอยู่เหมือนตอนนี้ ฌาร์มคงทำใจได้เพราะ ความรักที่แท้ คือ การได้เห็นคนที่เรารักมีความสุขกับสิ่งที่คนๆ นั้นเลือก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD