คนในงานเริ่มมุง พิมลตรารีบเข้ามาประคองลูกที่กองกับพื้น ที่กำลังยกมือปิดหู ดวงตาเบิกกว้างราวกับคนไม่มีสติ
“ทำไมต้องฆ่า ฆ่าพวกเขาทำไม แกฆ่าเขา!”นิ้วเรียวเล็กชี้ไปยังเทพยุทธ
“ลูกใครทำไมพูดจาแบบนี้ พูดบ้าอะไรแบบนี้มันหาเรื่องกันชัดๆ เด็กนี่มาจากไหน!”เทพยุทธแสร้งอาละวาดสีหน้าไม่พอใจ
“ฉันขอโทษค่ะ พอดีลูกสาวเสียใจมากเรื่องเพื่อนน่ะค่ะ”พิมลตรารีบแก้ตัว
พลอยภัทราโอบกอดมารดาไว้แน่น อาการสั่นเทาทำให้พิมลตรางุนงง เมื่อมองชายหนุ่มซึ่งเป็นแขกในงานท่าทางไม่พอใจสะบัดหน้าหันกายเดินหนีด้วยความเดือดดาล เธอหันกลับมาสนใจลูกต่อ
“แกเป็นอะไรยัยพลอย ทำไมพูดจาแบบนี้!”คนเป็นแม่ดุ
เด็กสาวมองมือซ้ายรีบหยิบถุงมือที่ใส่กระเป๋าสะพายออกมา เพราะเข้าห้องน้ำเลยถอดออก เลยต้องพบเจอกับเรื่องแสนน่ากลัว ความคิดหนึ่งตีขึ้นมาหากชายคนนั้นทำร้ายครอบครัวคุณลุงวิรุตม์จริง เธอไม่มีทางปล่อยไปแน่ แต่ตอนนี้เธอไม่กล้าพอจะพูดกับใคร เพราะภาพเหล่านั้นทำให้รู้ว่าหากปากพล่อยแม่อาจเดือดร้อน
“แม่ พลอยอยากกลับแล้วแม่”
เวธัสหยุดยืนมอง จังหวะนั้นสองสายตาผสาน เด็กหนุ่มจ้องมองไม่วางตา ราวกับต้องการรู้สิ่งที่เธอพูดออกมา เด็กสาวรีบหลบตาตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น เพื่อความปลอดภัยของแม่และตัวเธอเองด้วย
รถยนต์จอดรอหน้าบ้านเวธัสหยิบของบางส่วนที่ยังหลงเหลือจากเพลิงไหม้ แล้วเดินออกจากรั้วบ้าน จังหวะนั้นพลอยภัทราเปิดประตูรั้วออกมาเพื่อเดินทางไปโรงเรียน เด็กสาวทอดสายตามองด้วยความรู้สึกอัดอั้นในใจ เวธัสตัดสินใจเดินเข้ามาหาดึงมือเธอไว้แล้ววางรูปถ่ายระหว่างเธอกับน้องสาวของเขา
“รินสนิทกับพลอยมาก พี่อยากให้พลอยเก็บไว้”
มือเล็กยกปิดปากสะอื้นไห้ออกมา ช้อนสายตามองพี่ชายเพื่อนด้วยความรู้สึกแสนเศร้า
“พี่เวย์จะไปแล้วเหรอคะ พี่เวย์จะไม่เจอพลอยอีกแล้วใช่ไหม”เด็กสาวถามทั้งน้ำตา
“พี่ต้องไปแล้ว ดูแลตัวเองด้วยนะพลอย”
มือเธอรั้งท่อนแขนไว้ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ เธอไม่มีเพื่อนที่ไหนและครอบครัวพี่เวย์คือสถานที่พักพิงใจเพียงหนึ่งเดียว
“อย่าไปได้ไหมคะพี่เวย์”
“ไม่ได้หรอกพลอย”เขาตอบแววตาหม่น
เกลียดการจากลาเหลือเกิน ไม่ว่าจากเป็นหรือตายมันช่างสร้างความรวดร้าวในหัวใจได้ไม่แตกต่างกันเลย เธอรู้ว่าพี่เวย์คงทนทรมานจากการมองสภาพบ้านตัวเองไม่ได้ เธอ... อยากให้เขาได้พบเจอสิ่งที่ดีกว่านี้ และมือคู่นี้ไม่อาจรั้งไว้ได้อีกแล้ว ปล่อยท่อนแขนเป็นอิสระทั้งน้ำตา หนทางข้างหน้าน้องสาวคนนี้จะอวยพรให้เขาโชคดี
“พลอยคงรั้งพี่เวย์ไว้ไม่ได้ สิ่งที่ทำได้คืออวยพรให้พี่เวย์โชคดีนะคะ”
“ขอบใจมากนะพลอย พี่ดีใจนะที่เราได้รู้จักกัน”เด็กหนุ่มลูบศีรษะเพื่อนน้องสาวแผ่วเบา ก่อนหันหลังก้าวออกมา
เด็กสาวกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นสะอื้น นำรูปเพื่อนกอดแนบอกแน่น ไม่เหลือใครเลยสักคนไม่มีอีกแล้ว
คนเป็นแม่ยืนกอดอกมองลูกแล้วระบายลมหายใจหนักออกมา วันเวลาเท่านั้นจะช่วยเยียวยาหัวใจให้ทุเลาเบาบางต่อความเจ็บปวดลง
หกโมงเช้าคนเป็นแม่เปิดประตูเข้าห้องนอนเห็นบุตรสาวนั่งชันเข่าในสภาพหลับนก เธอรีบจับท่อนแขนลูกเขย่าๆ เบาเพื่อปลุก
“พลอยตื่นได้แล้วลูก”
เด็กสาวสะดุ้งลืมตาขึ้นมา คนเป็นแม่เห็นคราบน้ำตาและขอบตาแดงก่ำ เข้าใจว่าคงร้องไห้ทั้งคืน
“ไปโรงเรียนเถอะ”
“ค่ะแม่”เด็กสาวลุกยืนแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำราวกับคนละเมอ
พิมลตราส่ายหน้า อีกนานแค่ไหนลูกจะทำใจได้
ร่างเล็กออกจากห้องน้ำแต่งชุดนักเรียนแล้วลงมาจากชั้นบน แม่รีบดึงให้นั่งลงบนเก้าอี้เพื่อทานอาหารเช้า เธอตักข้าวต้มหมูเข้าปากสองสามคำแล้ววางช้อนลง
“พลอยไปเรียนก่อนนะคะแม่”เธอบอกเสียงแผ่วแล้วเดินออกมาจากบ้าน
พิมลตรารีบเร่งฝีเท้าตามก่อนรั้งแขนลูกไว้ “พลอยมีสติหน่อย เงินก็ไม่เอาแล้วจะขึ้นรถเมล์ยังไง วันนี้แม่จะไปส่ง”
คนเป็นแม่กลับเข้าบ้านหยิบกระเป๋าสะพายแล้วล็อกประตูเรียบร้อย ส่งลูกถึงหน้าโรงเรียนมองแผ่นหลังบอบบาง ลูกไม่ค่อยกินอะไร แววตาเหม่อลอยช่วงนี้เธอคงต้องดูแลสักระยะเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตให้ได้ พิมลตราหันหลังกลับออกจากโรงเรียนคืนนี้คงต้องทำงานต่อ แต่คงต้องมารับลูกกลับด้วย พลาดพลั้งโดนรถชนไปเธอคงทำใจไม่ได้เพราะมีกันอยู่เพียงสองคนเท่านั้น
พลอยภัทราเดินเหม่อมาถึงห้องเรียน มันเป็นเพียงความเคยชินทำให้เธอมาหยุดอยู่ตรงนี้ และแล้วเมื่อมองโต๊ะเรียนที่เพื่อนสนิทที่สุดอย่างมิรินเคยนั่งมันทำให้ใจปวดร้าวขึ้นมา ร่างเล็กหย่อนกายลงบนเก้าอี้ท่าทีเหนื่อยอ่อนอยากร้องแต่จำต้องกลั้นมันไว้ ไม่อยากมองใคร ไม่ต้องการได้ยินอะไร ไม่สนใจสายตาใครทั้งนั้น
เสียงฝีเท้าตามมาด้วยร่างอวบหยุดยืนตรงหน้า เธอช้อนสายตามองเห็นเต็มเดือนกำลังจ้องมองมา แต่แววตาครานี้ไม่เหมือนเช่นทุกที พลอยภัทราเมินมองทางอื่นไม่ว่ามาดีหรือมาร้าย หรืออยากทำร้ายกันเหมือนเช่นก่อนๆ ก็เชิญตามสบายเธอจะไม่ตอบโต้อะไรทั้งนั้น
“ฉันเก็บสมุดการบ้านที่ครูตรวจไว้ให้ รับไปสิ”เด็กสาวรับมา มองอย่างไม่เชื่อสายตาว่าเพื่อนคนนี้จะยอมอ่อนลง
“ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าฉันทำทำไม ถึงยังไงฉันก็ไม่ได้อยากให้มีใครตายสักหน่อย”เต็มเดือนบอกเสียงแผ่ว
เพื่อนในห้องเริ่มมารวมตัวกันที่โต๊ะของเธอ แต่ละคนแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจ แต่สำหรับพลอยภัทรามันเหมือนก่อนไม่มีผิด มิรินเป็นฝ่ายช่วยเธอไว้อีกแล้ว ที่ทุกคนหันมายอมรับเธอเพราะเพื่อนสนิทอย่างริน พอนึกถึงน้ำตามันเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง ถึงไม่อยากร้องแต่ห้ามไม่เคยได้เลย
“ใจเย็นนะพลอย ไม่มีมิรินพวกเราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้”เพื่อนในห้องบอก
เธอสะอื้นซบหน้ากับโต๊ะ เพื่อนนักเรียนร่วมห้องพากับปลอบ การสูญเสียสิ่งสำคัญสร้างความเจ็บปวดให้มากจริงๆ นานแค่ไหนกันนะที่เธอจะทำใจได้ ตอนนี้เธออยากบอกครอบครัวลุงรุตม์ว่าคิดถึงเหลือเกิน