อลินลดาเข้ามาอยู่ภายในบ้านภิวัฒน์เกรียงไกรได้เกือบสองอาทิตย์แล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอมันเหมือนความฝัน แต่มันเป็นความฝันที่เป็นจริง เธอกลายมาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลภิวัฒน์เกรียงไกร ซ้ำร้ายเธอยังเป็นผู้สืบทอดสมบัติของภิวัฒน์เกรียงไกรอีก ร่างบางระหงเดินทอดน่องอยู่บริเวณหน้าบ้าน จิตใจเหม่อลอย คิดถึงอดีตที่เธอเคยอาศัยอยู่กับมารดา
เหตุผลที่ท่านไม่เคยบอก วันนี้เธอรู้แล้วว่ามันคืออะไร อดน้อยใจในโชคชะตาไม่ได้ ทำไมถึงให้เธอเกิดมาในลักษณะนี้ เกิดมาจากความไม่ต้องการของผู้เป็นพ่อ ผู้ชายที่เห็นแก่ตัว ตัดสินใจทำอะไรโดยไม่คิด แล้วผลสุดท้ายมันตกอยู่ที่ใครถ้าไม่ใช่เธอ
เขาตายไปแล้ว แต่เธอล่ะยังต้องมีชีวิต ยังต้องมารับรู้ว่าเธอเป็นใคร เกิดมาเพราะความมักมากของผู้เป็นพ่อ เธอไม่ต้องการสมบัติหรือชื่อเสียงของผู้เป็นพ่อเลย เพราะมันชดเชยทดแทนกับสิ่งที่แม่เธอสูญเสียไปไม่ได้
มารดาต้องทนรับสภาพความทรมาน และถูกตราหน้าว่าผู้หญิงไม่ดี ท้องโดยไม่ได้แต่งงาน ขนาดมารดาเธอเจอปัญหาหนักขนาดนี้ ท่านยังไม่เคยโกรธแค้นสามีเลยกลับให้อภัย แล้วเธอล่ะยอมรับสภาพที่มารดาเคยได้รับได้หรือเปล่า เธอตอบได้เต็มปากเลยว่าเธอยังทำใจยอมรับความเป็นจริงไม่ได้ ถึงแม้จะพยายามสักแค่ไหนก็ตาม
“มาเดินเล่นหรือครับคุณลดา” เสียงเข้มดังมาจากด้านหลัง อลินลดาหันหลังกลับไปมองอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าเป็นใครรอยยิ้มหวานก็ส่งยิ้มไปให้ชายหนุ่มอย่างเกรงใจ
“คุณภู กลับมานานแล้วหรือคะ”
“เพิ่งมาถึงน่ะครับ เห็นคุณลดายืนอยู่เลยแวะเข้ามาทัก”
ภูผาพูดขึ้นก่อนจะสบตาคมอย่างสนใจ เกือบสองอาทิตย์แล้วสินะที่เขาได้ยินพวกสาวใช้พูดถึงลูกสาวคนเล็กของคุณลุงภัทร พอมาเจอตัวจริง สวย น่ารัก กว่าที่บรรดาสาวใช้พูดเสียอีก
“อยู่ได้ไหมครับ ที่นี่อาจจะเงียบไปหน่อย แต่ก็น่าอยู่นะครับ”
“ลดาว่ามันดูเงียบเกินไป อ้อ คุณภูอย่าเรียกลดาว่าคุณเลยค่ะ ลดาอ่อนกว่าคุณภูตั้งเยอะ เรียกลดาเฉยๆ ก็ได้” อลินลดาเธอบอกอย่างเกรงใจ
“ก็ได้ครับ” ภูผาพยักหน้า
“เป็นไงบ้างคะที่บริษัทเห็นคุณป้า...เอ่อ...คุณแม่บอกว่าช่วงนี้บริษัทมีปัญหา”
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ พอดีลูกค้าของบริษัทเขาต้องการให้เราเข้าไปร่วมหุ้นกับเขาน่ะครับ”
“บริษัทมีปัญหาอะไรกันหรือคะคุณภู”
“ไม่มีอะไรมากหรอครับลดา อย่าคิดมากไปเลย”
ชายหนุ่มพูดปดออกไปเพื่อให้หญิงสาวคลายความกังวล เขาไม่อยากจะเอาปัญหาภายในบริษัทมาให้หล่อนรู้หรอก ตอนนี้ทำได้แค่เพียงพยุงบริษัทไปก่อนก็เท่านั้น ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่ถึงได้ทำแบบนี้
“แต่ลดาว่าคุณภูกำลังโกหกลดา แน่นอน หน้าตาคุณภูมันบอกว่าคุณภูกำลังโกหกลดา”
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ อย่าไปคิดมาก”
“ก็ได้ค่ะ ลดาว่าเราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ”
อลินลดาเอ่ยออกมาเมื่อเห็นว่าภูผาไม่ยอมบอกอะไรเธอ สายตาคมเลยมองไปยังหญิงสาวร่างบางที่ยืนมองเธอและภูผาอย่างเจ็บปวด สายตาแบบนี้มันหมายความว่าไง
“คุณโรส กลับมานานแล้วหรือคะ” เธอตะโกนถามเมื่อเห็นว่าร่างบางกำลังจะหันหลังเดินกลับขึ้นตัวตึก
ภูผาหันไปมองตามเสียงเรียกของอลินลดา เขาก็ได้เห็นเด็กสาวที่คุณหญิงวีรดารับมาอุปการะอย่างสงสัย หล่อนมายืนตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไร แล้วสายตาที่มองเขากับอลินลดามันหมายความว่าไง
ตั้งแต่คุณหญิงวีรดารับอลินลดาเข้ามาอยู่ในบ้านฐานะลูกสาว ดูเหมือนว่าชญานินทร์ก็จะเปลี่ยนไปทันทีเหมือนกัน เขาไม่รู้หรอกว่าเพราะเหตุผลอะไรหญิงสาวถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนั้น แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะถามหล่อน เพราะตอนนี้เขาคิดแค่ว่าจะทำยังไงให้เกรียงไกรบีเอชพีกรุ๊ปกลับมายืนได้อีกครั้ง
“โรสเพิ่งมาถึงค่ะคุณลดา” เสียงหวานพูดขึ้นขณะเดินมาหยุดตรงหน้าอลินลดาและภูผา
“ไม่ต้องเรียกพี่ว่าคุณก็ได้นะคุณโรส” อลินลดาบอกอย่างยิ้มๆ “ต่อไปคุณโรสเรียกฉันว่าพี่ก็แล้วกัน”
“นั่นสิ อีกอย่างหนูโรสก็เป็นเหมือนน้องสาวของลดาเขา เรียกคุณมันดูห่างเหินน่าดู”
“แต่...”
“ไม่มีคำว่าแต่นะหนูโรส ต่อไปเรียกฉันว่าพี่ก็แล้วกัน” ชญานินทร์เงยหน้าขึ้นมาสบตาอลินลดาด้วยความตกใจแกมแปลกใจ ทำไมผู้หญิงอย่างอลินลดามาสนใจทำดีกับเธอ
“นั่นสิ คิดมากอะไรน่ะเรา” ภูผาพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ จะอะไรนักหนา หน้าตาก็ออกน่ารัก แต่ทำไมชอบคิดเรื่องไร้สาระอยู่เสมอ
“ค่ะ คุณภู พี่ลดา”
“ต้องแบบนี้สิค่อยน่ารักขึ้นหน่อย ยังไงเราก็อยู่บ้านเดียวกันนี่นาจริงไหม อย่าคิดมาก แล้วนี่เรียนเป็นไงบ้าง ใกล้จบหรือยัง” อลินลดาถามขึ้นอย่างสนใจ เธอไม่ค่อยได้คุยกับชญานินทร์แบบนี้เลย ตั้งแต่เข้ามาอยู่ในภิวัฒน์เกรียงไกร
“ผมว่าเราน่าจะเข้าไปคุยกันในบ้านดีกว่านะลดา นี่ก็เย็นมากแล้ว”
“นั่นสิ” เธอพยักหน้าก่อนจะดึงมือชญานินทร์ให้เดินตามไป “งั้นเราไปกันเถอะหนูโรส”
“เอ่อ...”
“ไปเข้าบ้าน มาเดี๋ยวฉันช่วยถือ”
ภูผาเห็นอาการของชญานินทร์แล้วก็ได้แต่หงุดหงิดหัวใจอย่างบอกไม่ถูก ก่อนดึงหนังสือมาจากอก แล้วเดินนำหน้าชญานินทร์และอลินลดาไป
อลินลดาหยุดเดินหันมามองชญานินทร์ด้วยความแปลกใจ สายตาที่เด็กสาวคนนี้มองญาติหนุ่มของเธอนั้นมันมีแต่ความอ่อนโยน เคารพ ให้เกียรติ แต่ก็แฝงไปด้วยความเศร้าและเจ็บปวด
‘ชญานินทร์คิดอะไรกับคุณภูกันแน่’
“โรสว่าเราเข้าบ้านกันเถอะค่ะ” เสียงหวานแต่เศร้านั้นพูดเหมือนจะร้องไห้ ยิ่งเห็นความไม่สนใจของชายหนุ่มแล้วก็ยิ่งเจ็บปวด
“อย่าคิดมากสิ ไม่มีอะไรหรอก เชื่อพี่”
อลินลดาบอกอย่างเห็นใจ เธอรู้แล้วว่าเด็กสาวคนนี้คิดอะไรกับภูผา แค่ท่าทาง น้ำเสียง มันดูจะน้อยใจยังไงไม่รู้ แต่ก็นะจะให้ทำยังไง เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่คนสองคน ไม่ใช่ใครๆ ก็เข้าใจ
“คิดอะไรคะ ฉัน...โรสไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย” เธอถามอลินลดาอย่างตกใจ
“แล้วเราคิดอะไรอยู่ล่ะ” อลินลดาได้แต่ยิ้มๆ กับความร้อนตัวของเด็กสาว
“โรส…”
“ถ้าอยากรักก็รักไปสิจะมากลัวอะไร เราทำให้มันดีที่สุดสิหนูโรส ถ้าทำแล้วมันไม่เป็นอย่างที่เราหวัง แต่อย่างน้อยเราก็ได้พยายามที่จะทำมันจริงไหม”
“พี่ลดา” ชญานินทร์ถึงกับชะงักเท้าดึงมือตัวเองออกมาจากมืออลินลดาอย่างตกใจ ใบหน้าหวานถึงกับซีดเมื่อรู้ว่าอลินลดารู้ว่าเธอคิดยังไงกับภูผา
“พี่เอาใจช่วย อย่าคิดมาก ไปเถอะ เดี๋ยวเราสองคนก็โดนดุหรอก มัวแต่คุยกันนั่นแหละ” อลินลดาพูดขึ้นอย่างสบายใจ ยกมือบางไปจับมือเด็กสาวให้เดินตามเข้าไปในตัวตึก
///////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...