++ วีรพล สุทธิการ นักธุรกิจหนุ่มทายาทตระกูลดัง ถูกลอบทำร้ายอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน ++
คุณหญิงดวงเดือนจ้องมองข้อความบนหน้าหนังสือพิมพ์ด้วยความสั่นเทา ปล่อยหนังสือพิมพ์ด้วยความหวาดกลัว ชื่อบนหน้าหนังสือพิมพ์ทำเอาท่านถึงกับหน้าซีด แล้วสติของท่านก็ดับวูบลง
“ช่วยด้วย! คุณหญิงเป็นลม” ป้าเพ็ญเดินเข้ามาพอดี เห็นคุณหญิงเป็นลมล้มพับอยู่บนโซฟา “ใครก็ได้ช่วยหายาดมมาให้หน่อยเร็ว”
ไม่นานชื่นก็วิ่งหน้าตื่นพร้อมยาดมเข้ามา เปิดฝายาดมด้วยความตกใจ คุณหญิงของเธอเป็นอะไร
ทำไมเป็นลมไม่ได้สติแบบนี้ ก้มลงหยิบหนังสือพิมพ์ที่ตกหล่นขึ้นมาอ่านดู อย่างสนใจ
“วีรพล สุทธิการ นักธุรกิจหนุ่มทายาทตระกูลดัง ถูกลอบทำร้ายอาการสาหัสเป็นตายเท่ากัน” ชื่นหน้าซีดทันทีที่อ่านข่าวจบ “ป้าๆ คุณพลโดนยิง”
“อะไรนะ!”
ป้าเพ็ญเงยใบหน้าขึ้นมามองชื่นด้วยความตกใจ นางรีบก้มลงมองคุณหญิงที่ยังเป็นลมหมดสติไม่ฟื้นอย่างเป็นห่วง คุณหนูของเธอถูกยิงได้อย่างไรกัน หรือว่าไปขวางทางธุรกิจใครหรือเปล่า
/////////////
“คุณหมอ ไม่ทราบว่าลูกชายผมเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
คุณธีรพลเอ่ยถามหมอด้วยความหนักใจ กังวลในความปลอดภัยของลูกชายมิใช่น้อย เมื่อวานท่านยังเจอลูกชายอยู่เลย ยังนั่งคุยกันที่บ้านเลย นี่มันอะไรกัน ลูกชายท่านจะไปขวางทางทำธุรกิจของใครหรือเปล่า ทำไมถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้
“ไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ”
“แล้วทำไมข่าวถึงบอกว่าอาการสาหัสล่ะคะ” คุณหญิงดวงเดือนเอ่ยถามขึ้นอย่างกังวล สงสัยใครกันนะที่เขียนข่าวว่าลูกชายท่านอาการสาหัสเป็นตายเท่ากันแบบนี้
“ไม่ได้เป็นอะไรร้ายแรงขนาดนั้นหรอกครับคุณหญิง ตาพลน่ะได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยแค่นั้นเอง ลูกกระสุนแค่ถอกไปแค่นั้นเอง ตาพลบอกให้ผมให้ข่าวไปแบบนี้เพื่อความปลอดภัยน่ะครับ เพราะเราไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำในครั้งนี้”
หมอเศรษฐชัยอธิบายถึงสาเหตุของข่าวให้คุณหญิงดวงเดือนฟังจนละเอียด ถึงแผนการที่วีรพลทำขึ้นเพื่อตบตาศัตรูว่าตอนนี้เป็นตายเท่ากัน อย่างน้อยการทำแบบนี้จะทำให้หลานชายเขามีเวลาพักผ่อนมากขึ้น และยังสามารถสืบหาสาเหตุของการลอบยิงในครั้งนี้ด้วย
“แค่นั้นจริงๆ นะคุณชัย ไม่ใช่คุณมาโกหกเดือนนะ”
“ไม่มีอะไรปิดบังแน่นอนครับคุณเดือน ตอนนี้ตาพลนอนอยู่ที่ห้องพิเศษ คุณเดือนไปเยี่ยมตาพลได้เลย”
“งั้นคุณพี่อยู่คุยกับคุณชัยก่อนนะคะ เดือนขอไปดูลูกก่อน ถ้ายังไม่เห็นด้วยตาตัวเองก็ไม่เชื่อหรอกค่ะ”
คุณหญิงดวงเดือนออกไปจากห้อง ด้วยความเป็นห่วงลูกชายขึ้นมาจับใจ นึกกังวลไปหมด เห็นทีท่านต้องคุยกับสามีเสียแล้ว จัดการให้คนมาคุ้มกันดูแลลูกชายเธอสักสองสามคนน่าจะดี
“ว่าไงชัย ตาพลเป็นยังไงบ้าง”
“ตาพลได้รับบาดเจ็บมากนะ แต่ผมไม่อยากจะบอกคุณเดือนให้เธอตกใจ แต่ไม่เป็นอะไรมากแล้วล่ะ พี่ธีอย่าเป็นกังวลให้มันมาก เดี๋ยวคุณเดือนจะสงสัย แต่ตอนนี้ผมอยากให้ตาพลนอนพักรักษาตัวอยู่ที่นี่สักอาทิตย์ ให้มันเป็นไปตามที่ผมให้ข่าว และที่สำคัญพี่ธีควรหาคนมาคุ้มกันตาพลด้วยนะครับ”
“ฉันก็คิดอยู่เหมือนกัน เอาเป็นว่าฉันขอบใจนายมากนะชัยที่ช่วยตาพล” คุณธีรพลพูดขึ้นอย่างซึ้งใจ ยกมือขึ้นตบบ่าน้องชายเบาๆ อย่างขอบคุณ
“ตาพลก็หลานผมเหมือนกันนะพี่ธี” เศรษฐชัยพูดก่อนจะยิ้มให้พี่ชาย
คุณธีรพลเดินเข้ามาภายในห้องพักฟื้นของลูกชายด้วยรอยยิ้มกว้างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ภายในใจท่านกังวลกับเรื่องครั้งนี้เป็นอย่างมาก คิดทบทวนมาตลอดนับตั้งแต่ออกจากห้องของน้องชาย ลูกชายท่านไปมีเรื่องกับใคร หรือว่าจะเกี่ยวกับธุรกิจของสุทธิการกรุ๊ป หรือเปล่า ขณะสาวเท้ามาหยุดตรงหน้าเตียงลูกชายด้วยความเป็นห่วง ยืนมองลูกชายที่นอนหลับอยู่บนเตียงด้วยความกังวล วันนี้อาจจะไม่เป็นอะไร แต่วันหน้าจะมีโอกาสรอดแบบนี้อีกไหม เห็นทีท่านคงต้องรีบจัดการหาคนมาคุ้มกันลูกชายเสียที
“ตาพลเป็นไงบ้างคุณเดือน” คนเสียงเข้มเอ่ยถามภรรยาด้วยความหนักใจ สภาพภรรยาของท่านดูจะหนักกว่าลูกชายหลายเท่า ยกมือขึ้นมาแตะไหล่ภรรยาอย่างให้กำลังใจ
“ตาพลไม่เป็นไรหรอกคุณเดือน คุณก็อย่ากังวลให้มาก ที่สำคัญอย่าร้องไห้ให้ตาพลเห็น แล้วจะไม่สบายใจไปกันใหญ่”
“ก็เดือนเป็นห่วงลูกนี่คะ ดูสิ ต้องมานอนเจ็บขนาดนี้ ใครกันทำแบบนี้ แบบนี้มันจะฆ่ากันชัดๆ” คุณหญิงดวงเดือนยังคงคร่ำครวญเสียใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ท่านจะโชคดีเหมือนครั้งนี้ไหมหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในอนาคตอีก
“แล้วคุณพี่จะทำยังไงต่อไปล่ะคะ เราจะจ้างคนมาดูแลตาพลไหม หรือว่าจะหาบอดี้การ์ดสัก 2-3 คนมาคุ้มกันตาพล”
“ผมให้คนจัดการให้แล้วเรื่องนี้ อีกไม่กี่วันคงได้ ตอนนี้คุณก็อย่าแสดงอาการอะไรให้ลูกเป็นห่วงนะ เดี๋ยวจะพาลไม่ยอมหายไปอีก ตาพลน่ะไม่ชอบเห็นน้ำตาของคุณนะรู้ไหม”
“เดือนรู้ค่ะ คุณพี่ไม่ต้องห่วงไปหรอก เดือนรู้นิสัยลูกชายเดือนดีว่ามีนิสัยยังไง”
คุณหญิงดวงเดือนหันมาสบตาสามีอย่างงอนๆ ทำไมท่านจะไม่รู้ว่าลูกชายสุดที่รักของเธอมีนิสัยอย่างไร ลองตื่นมาเจอท่านอยู่ในสภาพร้องไห้แบบนี้ มีหวังลูกชายเธอได้ลุกขึ้นกลับบ้านทันที เพราะไม่อยากให้เธอเป็นห่วง
“คุณจะเอาอะไรไหม เดี๋ยวผมจะให้แม่เพ็ญเขาจัดมาให้ แต่ผมว่าคุณเดือนน่าจะกลับไปนอนที่บ้านจะดีกว่า คืนนี้หนูเมย์กับตาหนึ่งจะมาเฝ้าแทนช่วงที่ผมยังหาบอดี้การ์ดไม่ได้ แต่ไม่เกินสองวันนี้แหละ”
ท่านเอ่ยถึงลูกสาวบุญธรรมกับลูกเขยที่กำลังจะนั่งเครื่องลงมาจากเชียงใหม่
“หนูเมย์จะมาหรือคะ”
คุณหญิงถามอย่างตื่นเต้น เมื่อสามีพูดถึงลูกสาวบุญธรรมที่แต่งงานไปกับเพื่อนรักของลูกชาย แต่งงานกันหลายปีแล้วแต่ท่านยังได้อุ้มหลานแค่คนเดียวเอง ในใจท่านอยากอุ้มหลานที่เกิดจากลูกชายคนเดียวของท่านเหมือนกัน แต่ดูเหมือนความหวังของท่านดูจะริบหรี่ ลูกชายปฏิเสธท่านทุกทาง พยายามหาภรรยาให้ก็โดนปฏิเสธกลับมาเสมอ
“ใช่ หนูเมย์โทรมาเมื่อเช้า ทันทีที่เห็นข่าวก็โทรมาเลย เห็นบอกว่าไม่เกินเที่ยงคงจะมาถึง”
“ก็ได้ค่ะ แต่เดือนขออยู่กับตาพลอีกสักพักได้ไหมคะ”
“เอางั้นก็ได้ เดี๋ยวผมไปโทรศัพท์ก่อน เดี๋ยวเข้ามารับ”
“ค่ะ คุณพี่”
คุณธีรพลยืนมองภรรยาอยู่แป๊บหนึ่ง แล้วหันหลังสาวเท้าเดินออกมาจากห้องพักคนไข้ด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง ท่านต้องจัดการให้ตำรวจสืบทำคดีนี้ให้เร็วที่สุด เพราะท่านไม่ต้องการเสียลูกชายคนเดียวไป
/////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...