องค์ฮ่องเต้ค่อยๆทะยานลงมาช้าๆ และใช้พลังดึงน้ำสายหนึ่งขึ้นมาจากบ่อและทำให้มันกระเด็นใส่หน้านาง ปิงซวงเร่งลืมตาทันที ก่อนจะพบว่า ใบหน้าที่นางเคยพบมาคราหนึ่งนั้นในยามเช้าแล้ว ห่างกันใกล้แค่คืบหนึ่งเพียงนั้นเอง
ปิงซวงตาโตและผงะถอยหลังไป ยกฝ่ามือปิดหน้าอกตนกรีดร้องลั่น
"ว้ายยย ฝ่าบาท หันไปนะเพคะ!!! "
ใบหน้าคมยิ้มเยาะนางคราหนึ่ง ถอดชุดคลุมของตนเองออกจากบ่าและใช้พัดตวัดสายรัดเอวนางขึ้นมาจากพื้น ใช้สายรัดเอวของนางดึงนางขึ้นมาจากน้ำ และใช้เสื้อคลุมตนเองห่มคลุมร่างบางในอก และกระซิบเบาๆที่ข้างหู
"สนมรัก เจ้าคิดถึงเจิ้น จนถึงกับมาหาเจิ้นที่ตำหนักเลยเชียวหรือ เจิ้นดีใจนัก มิคิดว่าสนมรัก ห่างกันเพียงนิด จะถึงกับมิอยากแยกจากกันเสียแล้ว เช่นนี้ไหนๆเจ้าก็มาแล้ว ราตรีนี้เจิ้นจะยอมผ่อนปรน ให้เจ้านอนในตำหนักของเจิ้น กอดอกอุ่นๆของเจิ้น ไปทั้งราตรีดีหรือไม่สนมรัก"
อ๋าวปิงซวงทำหน้าเบ้และทำตาปริบๆ ใบหน้าคมกระซิบเบาๆอีกคราหนึ่ง
"อ้อ..ตำหนักของเจิ้นในราตรีนี้ รับรองว่ามิมีแมลงร้ายกัดลำคอผู้คนเป็นแน่ เจ้าทดลองนอนซักราตรีหนึ่งเสียก่อน หากคืนนี้มิมีแมลง พรุ่งนี้เจ้าก็ย้ายมานอนกับเจิ้นในตำหนักเจิ้นได้เลย เจิ้นจะได้ปลอบขวัญเจ้าอย่างใกล้ชิดได้ อย่างไรเล่า ดีหรือไม่สนมรัก "
ปิงซวงตื่นตกใจนัก ถึงกับเผลอผลักร่างแกร่ง แต่ก็มิอาจขยับเขยื้อนได้ ร่างหนากอดรัดนางในอ้อมแขนและหอมแก้มเบาๆ กระซิบที่ข้างหู
"ถ้าเจ้าดิ้นมากนัก ในวังนี้มีบ่อฉลาม เจิ้นจะให้มันกินเจ้าเป็นอาหารว่างเสียเลยดีหรือไม่เล่า"
ร่างบางส่ายหน้าทันใดและกรีดร้องลั่น
"อย่านะเพคะฝ่าบาท หม่อมฉันกลัวแล้วฮือๆ ฮือ "
ใบหน้าคมยิ้มบางๆ และอุ้มนางไปในตำหนักชั้นในที่รายล้อมไปด้วยน้ำทะเลสีสวย ปิงซวงมองอย่างทึ่งๆและแย้มรอยยิ้มออกมาพลัน
"ว้าวว ตำหนักนี้งดงามที่สุดเลยเพคะ"
ใบหน้าคมแย้มรอยยิ้มบางๆและพานางเข้าไปในห้องบรรทม ภายในมีแสงไฟสลัว ร่างแกร่งอุ้มนางวางในแท่นบรรทมเบาๆ และบดขยี้จุมพิตหวานล้ำส่งมาให้
ใบหน้าคมวางนางลงบนแท่นบรรทมและขยับกายตนเองไปดึงม้วนไม้ไผ่ขึ้นมาอ่าน และนั่งตรวจฎีกาและเอนกายหาวเบาๆ ปิงซวงมองตาปริบๆและมองซ้ายมองขวาไปรอบกาย สุรเสียงทุ้มออกคำสั่งขึ้นมาในความเงียบ
"กงกงนำเสื้อคลุมของเจิ้นมาให้พระสนมอ๋าวสวมไปก่อน อย่าให้ผู้ใดรู้ว่าราตรีนี้นางอยู่ที่นี่ เจิ้นมิอยากให้มีผู้ใดมารบกวนอีก "
ขันทีชราพยักหน้าเบาๆและให้คนนำนมแพะกับของว่างเข้ามา ร่างหนาเอนกายลงบนฟูกนุ่มและเอ่ยเบาๆ
"สนมอ๋าว เจ้ามาป้อนเจิ้นเร็วเข้า เจิ้นมือมิว่างนัก เร็วๆ"
ร่างบางในชุดคลุมตัวโตเดินมานั่งข้างๆ ป้อนขนมชิ้นน้อยๆและทุบไหล่แกร่งเบาๆ บีบนวดไปมา ใบหน้าคมหันมาหอมแก้มนางเบาๆและนอนลงบนตักนาง เอ่ยเบาๆขึ้นมา
"กงกงเจอห่อผ้าของเจ้า ภายในมีของมีค่ามากมาย หึ หึ เช่นนี้เจิ้นจะริบไว้จนสิ้นและตัดเบี้ยหวัดตำหนักเจ้าทั้งหมด นางกำนัลจะส่งไปโรงตัดเย็บ และเจ้า ทุกวันต้องมาปรนนิบัติเจิ้นจนกว่าจะพอใจ กินนอนที่นี่ไป เพราะเจิ้นจะริบทรัพย์ของเจ้าเสียจนสิ้น แม้ปิ่นอันใดก็มิให้มีเหลือ"
ร่างบางทำหน้าเบ้น้ำตาร่วงผลอยทันที
"โฮ ฝ่าบาท ยามปกติแล้วหม่อมฉันก็ยากจนนักอยู่แล้ว ฝ่าบาทยังจะมาตัดเบี้ยหวัดเช่นนี้ ทั้งยังริบทรัพย์ของหม่อมฉันจนสิ้น หม่อมฉันจะเอาอันใดกินใช้ จ่ายสินบนให้เหล่าขันทีกันเพคะ"
ใบหน้าคมยิ้มมุมปากและดึงแก้มนางแรงๆ และจ้องหน้านางคราหนึ่ง ทำตาดุใส่ทันใด
"เจ้าผิดกฎของวังหลัง ริอาจลอบออกนอกวังกลางดึก ทั้งยังลอบเข้ามาในตำหนักของเจิ้น เช่นนี้ยังมิสำนึกอีกหรอกหรือ อ๋าวปิงซวน!! "
ปิงซวงทำหน้าเบ้และทำท่าน่าสงสารใส่ในทันใด ใบหน้าคมจ้องมองนางและขยับกายคล่อมบนร่างนางในทันใด
"บอกเจิ้นมาซิ เหตุใดเจ้าเพิ่งพบเจิ้นเพียงราตรีหนึ่งก็จะหนีเสียแล้ว เจ้าสมคบทำการใดกับบิดา หรือว่าเกิดสิ่งใดในวังนี้กันแน่ อ๋าวปิงซวน"
ปิงซวงส่ายหน้าไวๆ และปล่อยโฮออกมาร่ำไห้ทันที
"ฝ่าบาทเรื่องนี้มิเกี่ยวอันใดกับบิดาเลยเพคะฝ่าบาท หม่อมฉันเพียงแค่กลัวการร่วมหอกับฝ่าบาทเพคะ จึงคิดหนีไป !! "
"บังอาจนัก เจ้าเป็นสนมของเจิ้น หากเจิ้นมิให้ออกไปนอกวัง เจ้ามิมีสิทธิหนีออกไปเช่นนี้ได้ อ๋าวปิงซวน!!! "
"หม่อมฉันผิดไปแล้วเพคะฝ่าบาท ฮือ ฮือ "
ใบหน้าคมจดจ้องใบหน้างดงาม ที่ยังมิแต่งแต้มอันใดบนใบหน้าและกระซิบเบาๆ
"คราแรกเจิ้นอุตส่าห์ดีใจนัก ที่เจ้าคิดลอบเข้ามาหาเจิ้นถึงในตำหนักใน แต่มิคิดเลยว่าจะพบสิ่งของมีค่าในห่อผ้าของเจ้ามากมายเช่นนี้ อีกทั้งยังตั๋วเงินมากมายอีก ทั้งยังบอกว่ามิอยากจะร่วมหอกับเจิ้นอีก เจ้าทำให้เจิ้นผิดหวังมากนัก อ๋าวปิงซวง "
ร่างบางหลับตาหนี ใบหน้าคมโน้มลงมาและฉกริมฝีปากล่างของนางขบลงเบาๆจนเลือดออกซิบๆ และบดขยี้ริมฝีปากบางอย่างรุนแรงและสอดปลายลิ้นควานไปมาอย่างลึกล้ำนัก
"อื้อ ฝ่าบาท อื้มมม "
ร่างแกร่งบดกลางกายเข้าหาอย่างหนักหน่วง ลูบไล้โลมเลียร่างบางไปทั่ว ร่างบางดิ้นเร่ากรีดร้องระงม ร่างหนาหนักถอดเสื้อตนเองและโยนลอยไปซักแห่งหนึ่งข้างๆเตียง
"มีคนร้ายยย คุ้มกันฝ่าบาท มีผู้บุกรุกกกก !!! "
ใบหน้าคมชะงักทันใดและสบถลั่น
"ฮึ่ม เหิมเกริมนัก มายามใดมิมา กล้ามาขัดความสุขเจิ้นในยามนี้ เจิ้นจะสับมันหมื่นๆชิ้นเสียทีเดียว!!!! "
ร่างบางถอนหายใจอย่างโล่งอกในทันที แต่ทว่ายังมิทันได้หายใจคล่องดีนัก ลูกธนูวิ่งตรงเข้ามาและเฉียดใบหูนางไปในทันที
อ๋าวปิงซวงร้องลั่นตำหนักทันที
"กรี้ดดดด อย่าฆ่าข้านะ ข้ามิเกี่ยวกับพวกเจ้านะ กรี้ดด!!! "
ร่างบางกระโดดลงจากเตียง วิ่งไปหยิบดาบเล่มหนึ่งและวิ่งตามองค์ฮ่องเต้ออกไปด้านนอกทันที ยามออกไปถึง องครักษ์นั้นติดพันการต่อสู้ องค์ฮ่องเต้อยู่ในวงล้อมศัตรู
อ๋าวปิงซวงวิ่งออกมากลางวงล้อมพอดี นางตาโตและหลบดาบเล่มหนึ่ง เอนกายลงกับพื้นและฟาดฟันดาบออกไป คนร้ายตกตายในทันที และยามที่นางยืนขึ้นมั่นคง องค์ฮ่องเต้นั้นกำลังเพลี่ยงพล้ำ มือบางจึงเขวี้ยงดาบในมือเฉียดร่างแกร่งไปสังหารคนร้ายทันที
มินานพี่ชายของนางก็กระโดดขึ้นมาบนหลังคา และถือธนูยิงสังหารเหล่าคนร้ายในทันที
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว !!!
อ๊ากกก !!!
ปิงซวงถอนหายใจโดยพลันและทรุดนั่งลงกับพื้น เหล่าขันทีรีบนำเสื้อคลุมมาห่มร่างนาง และประคองหลีกสายตาผู้คน เข้าในตำหนักทันที