ตอนที่ 6 ชื่อตอน ตัวซ่างซู

1259 Words
หลังจากเหตุร้ายผ่านไป องค์ฮ่องเต้เข้ามาในตำหนัก และมีหมอหลวงวิ่งตามเข้ามาทำแผลให้ อ๋าวปิงซวงหรี่ตามองไปเบาๆ และขยับกายเข้าไปหาทันที "ทรงบาดเจ็บเช่นนั้นหรือเพคะ " ใบหน้าคมพยักหน้าเบาๆ ยามขันทีเปิดเสื้อคลุมออกมา แผ่นหลังนั้นเต็มไปด้วยเลือด อ๋าวปิงซวงเร่งบิดผ้าและซับเลือดออกไปในทันใด หมอหลวงยิ้มให้นางในทันที และหัวเราะเบาๆ "ยามให้เจ้าเรียนตำราใดๆ เจ้าก็ล้วนได้เรียน แม้คนทั่วหล้า จะว่าพระสนมอ๋าวนั้นมิมีดีอันใดซักแขนงหนึ่ง แต่ยามนี้กระหม่อมคิดว่า อย่างน้อยก็ทรงทำได้ทุกสิ่ง แม้จะมิดีนัก แต่สามารถทำได้ทุกๆสิ่ง ช่างยอดเยี่ยมนักพะยะค่ะ " อ๋าวปิงซวงหัวเราะเบาๆและบิดผ้าลงในอ่างน้ำ ปล่อยให้หมอหลวงใส่ยาลงบาดแผลและเย็บแผลเสีย ยามแผลเย็บจบสิ้นแล้ว หมอหลวงก็โยนผ้าพันแผลให้พระสนมอ๋าวและกราบทูลลาทันใด ร่างบางจึงค่อยๆช่วยพันแผล ค่อยๆกางแขนพันแผลให้เบาๆ ร่างบางค่อยๆพันแผลให้เบาๆ และประคองร่างแกร่งนอนคว่ำลง ในเตียงกว้าง และค่อยๆบิดผ้ามาซับเหงื่อให้อีกครั้งหนึ่ง "หึ เจ้าดีใจหรือไม่สนมอ๋าว" อ๋าวปิงซวงยิ้มบางๆ และก้มลงหอมแก้มไปคราหนึ่ง หัวเราะเบาๆ "นี่มิใช่แผนการของหม่อมฉันนะเพคะ คราแรกหม่อมฉันแค่เพียงจะหนีออกจากวังแต่หลงทางนะเพคะ แต่กลับกลายเป็นว่า เห็นได้ชัดว่าหม่อมฉันช่วยเหลือพระองค์ไว้ได้ทันท่วงทีนะเพคะ แม้จะมิทันตอนที่ทรงบาดเจ็บ แต่อย่างน้อยก็สามารถ พลิกร้ายกลายเป็นดีได้เพคะ " ใบหน้าคมเหล่นางคราหนึ่ง และดึงนางเข้ามานอนในอกแกร่ง กอดนางไว้แน่นๆ "เจิ้นนำเจ้าเข้าวังหลวงก็เพราะว่า เจิ้นเห็นเจ้าช่วยเหลือผู้อื่นที่ตลาด ยามนั้นเจ้าดูงดงามสว่างไสวทีเดียว ยามสืบพบว่าเจ้าเป็นสตรีที่บุรุษหมายปองทั้งเมืองหลวง เจิ้นก็ตัดสินใจตัดหน้าผู้อื่น หยุดยั้งความฝันของบุรุษทั้งเมืองเสียในทันที " อ๋าวปิงซวงทำหน้าเบ้และถอนหายใจเบาๆ "อย่างน้อยในคืนนี้ นางก็รอดไปอีกคืน ต้องขอบคุณสวรรค์จริงๆเลย เฮ่อ " แม้ในยามแรก พระสนมอ๋าวจะถูกริบทรัพย์ แต่ยามถัดมานั้นทรงสามารถช่วยปกป้องชีวิตฝ่าบาทไว้ได้ เช่นนี้จึงคืนเบี้ยหวัดให้ เพิ่มเบี้ยคืนสองเท่า และพระราชทานของแทนน้ำพระทัยอีกหลายอย่าง และเหล่านางกำนัลในตำหนักของนาง ก็กลับคืนมาทันใดในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน อ๋าวปิงซวงถอนหายใจเบาๆและเหลือบตามองไปรอบๆตำหนัก เหล่าขันทีนำดอกไม้งดงามมาให้หลายกระถาง ทั้งยังมีตัวซ่างซูน้อยๆใส่กรงมาให้เล่นอีกหลายตัว ปิงซวนค่อยพอใจในระดับหนึ่ง ร่างบางส่งเมล็ดถั่วที่พระราชทานใส่กระสอบมาให้นาง รวมทั้งแกลบรองก้นกรงมาให้ ปิงซวนมองตัวซ่างซูตัวหนึ่ง ยกสองขาขึ้นมายิงฟันให้ดู แล้วดึงมันขึ้นมาลูบเบาๆ ซ่างซูน้อยๆสีน้ำตาลเข้ม ตัวอ้วนกลมท้องป่องน่ารักน่าชัง นางหัวเราะคิกและเรียกมันเบาๆ "เสี่ยวจง ต่อไปเจ้าชื่อเสี่ยวจงนะ" หนูตัวน้อยร้องขานรับและปีนขึ้นบนบ่านางแทะเมล็ดถั่วในทันใด ขันทีหัวเราะคิกและหยิบกระดิ่งให้นางอันหนึ่ง หัวเราะเบาๆ "ทูลพระสนมอ๋าว เจ้าซ่างซูตัวนี้ ฝ่าบาทก็ตั้งชื่อมันว่าเสี่ยวจงและมันฉลาดนัก พวกมันทั้งหมดนั้นมีชื่อตามสี เสี่ยวไป๋ เสี่ยวจง เสี่ยวเฮย และเสี่ยวซิน ทั้งหมดนี้สามารถหาทางกลับตำหนักของฝ่าบาทได้เอง และมันชอบหนีเที่ยวนัก ฝ่าบาทเห็นว่า พระสนมจะทรงเบื่อนัก จึงทรงประทานมาให้ เพราะยามนี้ทรงบาดเจ็บ จึงมิอยากฟังเสียงหนูในตำหนักพะยะค่ะ " ปิงซวงทำหน้ายู่และส่งเสียงชิส์ๆ ทันใด "ที่แท้ฝ่าบาทก็ผลักภาระมาให้ข้านี่เอง ชิส์ " ปิงซวงเปิดกรงในทันใด จะไล่เจ้าซ่างซูทั้งสี่กลับตำหนักฝ่าบาท แต่ทว่ามันกลับนอนแทะเมล็ดถั่วอยู่เช่นนั้น และมีเจ้าเสี่ยวจงที่มาปีนบนไหล่นางอย่างแสนรู้ยิ่งนัก เช่นนี้นางจึงเล่นกับมันเสียเลย "เสี่ยวจง เจ้านี่นะ มิใช่เหล่าขันทีบอกว่า เจ้าชอบหนีเที่ยว แล้วกลับตำหนักเองได้หรอกหรือ ออกไปข้างนอกและกลับไปกวนฝ่าบาทไปเร็วๆเข้า เสี่ยวจง" ตัวซ่างซูมิใส่ใจนางนัก วิ่งสำรวจตำหนักของนางไปจนรอบ และแทะดอกไม้ดอกเล็กๆ มาให้นางดอกหนึ่ง ปิงซวงหัวเราะคิกคักทันใด "อา...เสี่ยวจง เจ้านั้นมีดีกว่าบุรุษมากมายนัก นำดอกไม้มาจีบสนมของฝ่าบาทเช่นนี้ เจ้ามิกลัวฝ่าบาทตุ๋นเจ้าทำน้ำแกงหรือเสี่ยวจง" เหล่านางกำนัลหัวเราะคิกคัก และอมยิ้มเบาๆ ที่พระสนมอารมณ์ดีนักในวันนี้ ตั้งแต่เข้ามาในวังหลวง ปิงซวงมีสหายอยู่สามคน สามคนนี้นั้นคบหากันมาตั้งแต่ยามเยาว์ พวกนางนั้นคือสามนางในดรุณีทั้งหกของเมืองหลวง บิดามีอำนาจในราชสำนักอยู่มากนัก ฝ่าบาทแต่งตั้งพวกนาง ขึ้นมาในฝ่ายในเพราะว่าบิดาของพวกนางทั้งสิ้น ปิงซวงนั้นสนิทสนมกันอยู่มากนัก เช่นนี้ยามได้ข่าวคราวกันแล้ว จึงตัดสินใจไปเยี่ยมพวกนางในตำหนักรวม ยามนางเดินออกนอกตำหนัก ก็มีเหล่านางกำนัลตามมาห้าคน ขันทีหนึ่งคน และเจ้าเสี่ยวจงกระโดดลงกระเป๋าเงิน ข้างเอวมาหนึ่งตัว ปิงซวงกรอกตาขึ้นฟ้าในทันใด ยามถึงลานเหมยฮวา ปิงซวงจึงเข้าไปสนทนากันกับสนมทั้งสาม หัวเราะเบิกบานคิกคัก ก่อนจะขอตัวลากลับไปในยามสายมากนัก ยามนางกลับตำหนัก เสี่ยวจงกระโดดออกจากกระเป๋า และนำทางนางกลับตำหนักอย่างแม่นยำ ปิงซวงตาโต และทึ่งในความสามารถของมันนัก "ว้าวว เสี่ยวจง เจ้ามันฉลาดที่สุด คราวหน้าข้า จะให้เจ้านำทางไปเที่ยวทั่วทั้งวังเลย ฮิๆ " ร่างบางเดินตามตัวซ่างซูไปเรื่อยๆ หัวเราะคิก ยามถึงตำหนัก ก็พบว่าในกรงว่างเปล่า และเสี่ยวจงก็วิ่งหายไปอีกตัวหนึ่ง ปิงซวงถอนหายใจเบาๆ และนั่งลงเอนกายในกองหมอน มินานนักตัวซ่างซูก็กลับมา ที่หลังมีกระดาษอยู่ใบหนึ่ง คลี่ออกมาเจอลายมืองดงามนัก "ยามดอกไม้ผลิบาน พร่างพราวลงมา ในยามนั้นสาวงามร่ายรำ ในพายุดอกไม้บาน " ปิงซวงหน้าแดงเบาๆ ยามนึกถึงพายุดอกไม้สีหวาน ที่ร่วงลงมาที่บ่อน้ำร้อนนั้น นางถือกระดาษค้างไว้แล้วอมยิ้มเบาๆ นางหันไปมองพู่กันแล้ว ตวัดลายเส้นงดงามตอบกลับไปทันใด "ขอให้ฝ่าบาทหายไวๆนะเพคะ" มือบางส่งกระดาษม้วนไปบนหลังเสี่ยวจงและมันก็วิ่งไปทันใด ขากลับมา มันได้เมล็ดทานตะวันมาเต็มกระพุ้งแก้ม เอาออกมาคายในกรงมากมายนัก ทำเอาปิงซวงอมยิ้มไปทั้งวัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD