EP.07
ท่ามกลางกลุ่มลูกค้าของร้านอาหารกรกนก เสี่ยทรงพลกำลังดื่มจนได้ที่ เสี่ยเฒ่ามองตามทั้งสามสาวด้วยดวงตาอันเต็มไปด้วยความปรารถนา มันยิ้มเมื่อมองตามศวิตา หญิงสาวผู้มีความสวยกว่าอีกสองสาวที่เดินเคียงข้างกัน
เมื่อมีความปรารถนา เมื่อภายในใจคิดอยากจะสนองความต้องการ ผู้ทรงอิทธิพลอย่างเสี่ยทรงพลจึงสั่งการลูกน้องให้กระทำการบางอย่างในทันที...
ทั้งสามสาว ต่างไม่รู้เลยว่า เภทภัยบางอย่างกำลังดำเนินเดินทางเข้าหาอย่างที่พวกเธอไม่ทันคิดระแวงเลยสักนิด
ปัญหาอันเกิดจากกามตัณหาของเสี่ยเฒ่าทรงพล...
คุณหญิงทิพย์อาภาหัวเสียอย่างสุดๆ เมื่อถูกปฏิเสธจากพ่อเลี้ยงนเรนทร์อันเป็นผลทำให้เธอต้องถูกหักหน้าจากคุณจันทร์เป็งอีกครั้งเมื่อเดินออกมาพบอีกฝ่ายซึ่งกำลังจะกลับบ้านพอดี
“เป็นยังไงล่ะคะ ไปหยิบยืมใครเขาไม่ได้หรือไง ถึงได้ทำท่าหัวเสียแบบนี้”
“เรื่องของดิฉันค่ะ คุณพี่”
“อ้อ...หรือคะ คุณน้อง”
คุณจันทร์เป็งว่าอย่างล้อเลียน ก่อนจะเชิดหน้าเดินจากไปในที่สุด
หากคำที่ฝากฝังไว้กลับทำให้คุณทิพย์อาภาเป็นเดือดเป็นร้อนอย่างทันที
“หนี้สินท่วมหัว...เสียดายความดีและทรัพย์สมบัติของเจ้าหลวงสุรนนท์นะคะ ที่ต้องถูกทายาทละลายจนหมดมือ เสียดายจริงๆ เสียดายจริงๆ”
“อ๊าย นังจัญไร นังจัญไร”
คุณทิพย์อาภากระโดดโลดเต้นอย่างโกรธแค้นและลืมสิ้นอายุสังขาร คิดจะตามไปจิกผมอีกฝ่ายมาตบๆ กลับทำไม่ได้ เพราะเธออยู่ในฐานะของผู้ดี จะทำตัวป่าเถื่อนให้คนอื่นว่าได้อย่างไรกัน
เป็นถึงทายาทเจ้าผู้ครองนครผู้ยิ่งใหญ่ จะมาทำตัวเป็นขี้ข้าชั้นต่ำคงไม่ดีแน่
ก็แน่สิ เธอไม่ใช่ลูกขี้ข้ากบฏอย่างคุณจันทร์เป็งคู่ปรับตลอดกาลนี่
รถตู้ของบ้านพจนาสุรนนท์เป็นต้องชะลอความเร็วเมื่อถูกขับตัดหน้าโดยรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่ง จนคุณหญิงที่นั่งมาหน้าคะมำไปติดกับคอลโทรลหน้ารถ
“เกิดอะไรขึ้นเนี้ย” นางทิพย์อาภาบ่นอุบอิบแล้วหันไปทางคนขับ “นี่...ขับรถยังไง จะเบรกทำไมไม่เบาๆ”
“พอดีมีรถมาตัดหน้าครับคุณหญิง”
“ไหน รถอะไร ลงไปด่ามันซิ”
คนขับทำตามคำสั่งของผู้เป็นนายอย่างว่าง่าย มันลงจากรถเดินตรงเข้าไปหาเจ้าของร่างบนมอเตอร์ไซค์คันโตซึ่งจอดนิ่งอยู่ข้างหน้าไม่ห่างนัก
หากคนขับต้องชะงัก เมื่อร่างบนรถคันนั้นชักปืนออกมาจากซอกเอว
“เอ่อ...คะ คุณ จะทำ อะ...ไร พวกเราไม่มีอะไร ให้ปล้น หรอกนะ” คนขับเฒ่าพูดเสียงตะกุกตะกัก ก่อนจะถอยหลังเมื่อร่างนั้นป้ายขาลงจากรถพร้อมกับปืนในมือ
“เกิดอะไรขึ้น นายชล” คุณทิพย์อาภาเปิดประตูออกมาชะโงกหน้ามองนายชลที่เดินถอยหลังมาอย่างมีพิรุธ ก่อนเธอจะเบิกตาค้าง เมื่อเห็นอย่างชัดเจนว่าร่างในชุดหนังสีดำ พร้อมหมวกกันน็อคปิดบังหน้าตาเดินมาพร้อมกับปืนในมือ
ปืน...ที่กำลังจะปลิดชีวิตของหล่อน
“ว้าย...คนร้าย ช่วยด้วย ช่วยด้วย” นางร้องเสียงลั่น หากแต่กลับถูกขู่ตะคอก
“เงียบเว้ย ไม่งั้นกูยิง”
“แกเป็นใคร ต้องการอะไร ฉันไม่มีอะไรให้แกปล้นหรอกนะ”
“ทรัพย์สินของแก ฉันไม่ปล้นหรอก แต่กับชีวิตของแก ฉันจะมาปล้นในวันนี้”
“หา...อะไรนะ หมายความว่ายังไง”
“อีแก่ ฉันจะฆ่าแกยังไงล่ะ”
“ว้าย...ไม่จริง อย่า อย่านะ อย่าทำอะไรฉันเลยนะ”
คุณหญิงกระชากประตูปิด หากกลับช้าไปกว่าชายคนนั้นที่ดึงแขนของนางให้ออกมาจากรถ
“นายชล ช่วยฉันด้วย”
มองหาคนขับรถ หากนายชลกลับวิ่งหนีไปเสียแล้ว
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันกลัวแล้ว อย่านะ ฉันมีแหวนประจำตระกูล มูลค่ากว่าล้านบาท ฉันจะให้แก แต่ขอแกอย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันขอร้อง”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า แหวนเก๊น่ะคุณหญิง ของจริงคุณหญิงขายไปแล้วไม่ใช่หรือ”
มันหัวเราะอย่างขบขัน มือที่ยกไหว้ของทิพย์อาภาต้องชะงักค้าง
“เอ่อ...ฉัน กลัวแล้ว อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันกลัวแล้ว”
“ขอโทษจริงๆ ครับคุณหญิง ผมปฏิเสธที่จะฆ่าคุณหญิงไม่ได้จริงๆ”
ชายคนนั้นว่าพร้อมกับยกปืนขึ้นส่องตรงไปยังร่างที่ทรุดลงกับพื้นพนมมือแอ้แต้ตรงหน้า
“นึกถึงพ่อแก้วแม่แก้ว นึกถึงคุณความดีที่เคยทำมานะคุณหญิง ลาก่อน...”
“อย๊า...”
ร้องเสียงดังลั่นด้วยความหวาดกลัวสุดขีด คุณทิพย์อาภาผวาเยือก ก่อนจะสิ้นสติสมประดีลงตรงนั้น
ปัง!!
เสียงปืนดังก้องไปทั้งท้องถนน ก่อนมือปืนคนนั้นจะผวา ปืนในมือหลุดร่วงลงตกพื้นเมื่อกระทบกับคมกระสุนของใครคนหนึ่งที่วิ่งแหวกอากาศมาเพียงเสี้ยววินาทีที่มันจะกระดิกนิ้วลั่นไก
ไอ้มือปืนเหลียวซ้ายขวาหาที่มาของเจ้าของคมกระสุนนั้น ก่อนจะไปพบกับร่างหนึ่งยืนยิ้มอยู่ไม่ห่าง ชายคนนั้นอยู่ในชุดรัดกุมสีดำ เดินปรากฏออกมาจากม่านมืด พร้อมกับจุดสามห้าเจ็ดในมือที่เล็งตรงมายังมัน
ครั้งจะก้มลงเก็บปืน กลับถูกขัดจังหวะด้วยกระสุนปืนอีกนัด
“เตะมันให้ออกห่างๆ เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นกระสุนนัดต่อไปจะเจาะเข้ากะโหลกนาย” ชายผู้มาใหม่กระชากเสียงดัง
ไอ้มือปืนคนนั้นทำตามในที่สุด
“ดีมากเพื่อน ดีมาก” เขาว่าพร้อมกับจู่โจมเข้าหาอย่างทันที
เพียงไม่นานไอ้มือปืนก็ถูกรวบตัวและนำส่งต่อตำรวจอย่างทันทีทันใด