ตัวเลือกที่สำคัญกว่า

1044 Words
คิ้วหนานูนสูงเพ่งมองใบหน้าขาวซีด “รู้ดีอีกแล้วนะครับ...” เขาไม่คิดถือสาคำกล่าวหานั้นแม้แต่น้อยกลับกันเมลสันรู้สึกสนุกที่มีผู้หญิงกล้าต่อว่าตรงๆ ออกมาแบบนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนเขาเองที่ไม่ยอมให้ผู้หญิงคนใดเข้าใกล้ ส่วนประโยคคำสนทนายิ่งไม่มีให้เข้ามาระคายเคืองหัวใจ หล่อนช่างปากกล้าจริงแท้... “นี่คุณ ผมจะบอกอะไรให้นะ เป็นผู้หญิงน่ะ เขาต้องหัดมีคำพูดคำจาให้มันดีๆเพราะๆจะได้ขายออกง่ายๆหน่อย คะ ค่ะ ขา อะไรแบบนี้ ทำได้หรือเปล่าล่ะแม่คุณ” “หึ สำหรับ ‘เสนา’ อย่างพวกนาย คำพูดแบบที่เอ่ยออกไปน่ะ ดีที่สุดแล้ว” ใบหน้าหวานซีดไร้สิ่งปรุงแต่งเชิดขึ้นอย่างถือดี ทั้งที่อีกฝ่ายจะหักคอเธอเมื่อไหร่ก็ได้ “....‘เสนา’” คิ้วหน้าเป็นแพขมวดเข้าหากัน ทบทวนภาษาไทยที่เคยผ่านหูเข้ามาตลอดหลายปีที่อยู่เมืองไทย แต่คำว่า ‘เสนา’ นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก “ฝากไว้ก่อน!” เมลสันเอ่ยสั้นๆ คิดว่า ‘เสนา’ เป็นคำที่อีกคนจงใจด่าเขาให้เจ็บแสบ โดยที่เขาต้องเก็บเอาไปทำการบ้าน ให้เพื่อนรักหรือเจ้านายเป็นคนเฉลยให้... “ไม่รับฝาก” ริมฝีปากบางเผยอย้อนกลับด้วยคำพูด คนตัวโตยกยิ้ม ดวงตาคมสีฟ้าสดหรี่แคบ จับจ้องริมฝีปากช่างย้อนในความกล้าดีของอีกฝ่าย นึกสนุกอยากแกล้งคืน เมื่อหล่อนทำให้เขามึนด้วยคำว่า ‘เสนา’ แล้วเขาจะทำให้หล่อนลืมผู้ชายอย่างเขาไม่ลงเช่นกัน...          “เหรอ งั้นผมขอมัดจำไว้ด้วยแล้วกันนะ ว่างเมื่อไหร่จะมาเอาคืนแน่นอน” เอ่ยพลาง พร้อมดึงหัวไหล่ของอีกฝ่ายสูงขึ้น แล้วร่างบางทั้งร่างก็ลอยตามขึ้นด้วยแรงดึงอย่างง่ายดาย “หะ อือ...” กว่าจะรู้ตัว เธอไม่มีโอกาสต่อว่าออกไป ปากถูกปิดสนิทด้วยริมฝีปากหนาบดเบียดเหมือนอดอยากมาหลายปี  ดวงตากลมโตเบิกกว้างภายใต้กรอบแว่น สองมือเรียวพยายามดันอกแกร่งไว้ หากแต่แรงอีกฝ่ายที่พยายามบังคับให้หยุดดิ้น โดยวงแขนหนาเลื่อนจับเอวคอดไว้ ส่วนมือหนาอีกข้างจับท้ายทอยบังคับให้คนที่อยู่ไม่นิ่งหยุดดิ้นซะ และมันก็ได้ผล ด้วยยิ่งดิ้นยิ่งอึดอัด จนต้องทำตามคนตัวโตอย่างจำยอม อกนุ่มที่ดูล้นตัวปะทะกับอกแกร่งอย่างจัง บดเบียดเสียดสี ความแนบชิดจนสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจกันและกัน “นี่แค่มัดจำนะคนสวย” เสียงพร่าเอ่ยบอก พลางปล่อยร่างที่อ่อนปวกเปียกอย่างเสียดาย มุมปากหยักยกยิ้มก่อนจะค่อยใช้ลิ้นร้อนชื้นเลียริมฝีปากตนเอง ประหนึ่งซึมซับความหอมหวานนั้นไว้ในความทรงจำ ชำเลืองมองร่างบางค่อยๆ ทรุดตัวลงไปนั่งพับอยู่บนเบาะนุ่มเหมือนคนหมดแรง เสียงรองเท้ากระทบพื้นเดินออกไปไกลและตามมาด้วยเสียงประตูปิดลง บ่งบอกว่าไม่มีใครอื่นอยู่ในห้องนี้นอกจากเจ้าของ ดวงตากลมหันมองไปยังประตูช้าๆ ด้วยซีกหน้าข้างหนึ่ง น้ำตาเม็ดใสไหลเอ่อออกมาเสมือนเป็นการระบายความคับแค้นใจ “ยี้ๆๆ คนบ้า คนเถื่อน ชาตินี้ขออย่าได้เจอกันอีกเลย ไปตายที่ไหนก็ไป ไป้!” เมื่อตั้งสติได้คำผรุสวาทก็ตามออกมา หลังมือเนียนนุ่มป้ายไปมาบนริมฝีปากแรงๆ เหมือนต้องการชะล้างสิ่งที่เพิ่งถูกกระทำไปให้หมดสิ้น หากสิ่งที่หลงเหลือให้รู้สึกได้คือริมฝีปากบวมเจ่อ สิ่งที่ทำได้คือส่งสายตาอาฆาตผ่านอากาศ ให้รับรู้ว่าเธอจะเกลียดชายหนุ่มคนนี้ ไม่ญาติดีตลอดไป  “มีอะไรหรือเปล่าคะ?” ปนัชดาเมื่อเห็นสีหน้าคมเข้ม ดูเคร่งเครียดขึ้นทันตาเห็น โยนโทรศัพท์มือถือลงในที่สำหรับวางมือถือสีหน้าไม่สู้ดี พร้อมมองตามสายตาที่จับจ้องอะไรบางอย่างน่าสนใจอยู่ริมฟุตปาธ “ผะ ผม มิ มีเรื่องนิดหน่อย รอผมอยู่ในรถนะ” น้ำเสียงตื่นเต้นหรือหวาดหวั่นไม่อาจรู้ถูกเปล่งออกมา พร้อมเจ้าของรถคันหรูก็เบนจอดเลียบข้างทางทันทีแล้วละล่ำละลักออกจากรถของตนเองไป ปนัชดาได้แต่มองตามอย่างไม่เข้าใจ เท้าหนาในรองเท้าหนังมันปลาบเดินตรงดิ่งกลับไปยังจุดหมายที่เขาได้ขับผ่านมาอย่างมุ่งหวัง สายตาจับจ้องสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงหน้า “ไหนบอกว่าจะไปส่งถึงที่ไงคะ แล้วทำไมมาจอดทิ้งผู้โดยสารไว้กลางทางแบบนี้ ไม่มีความรับผิดชอบเลยสิ” รติกาลเอ่ยถามสีหน้าไม่สู้ดี เมื่ออยู่ดีๆ ก็ถูกไล่ลงกลางทาง ที่สำคัญมันเปลี่ยวมีแค่แสงไฟสลัวบนไหล่ทางเท่านั้น “ผมรีบ เมียผมเจ็บท้องคลอด ต้องขอโทษคุณด้วยจริงๆ” บอกเหตุผลที่อีกฝ่ายถึงกับพูดไม่ออก “อะ...” เหมือนถูกบอกผลัดสัญญาค่าลิขสิทธิ์จาก สนพ.ที่ตกลงกันไว้อย่างดิบดีอย่างไรอย่างนั้น “ไปต่ออีกหน่อยไม่ได้หรือคะ” เธอร้องขอทั้งที่จริงก็เห็นว่าอีกฝ่ายเพิ่งว่างหูจากโทรศัพท์ไปแต่บริเวณนี้มันสลัวจนเรียกว่ามืดก็ว่าได้ “ผมขอโทษจริงๆ ค่าโดยสารผมไม่เอาหรอก สักพักคงมีรถผ่านมา ผมไปก่อน” น้ำเสียงรีบร้อนเอ่ยบอกอีกครั้ง พร้อมเลื่อนกระจกขึ้น แล้วขับเคลื่อนออกไปยูเทิร์นกลับอย่างไม่รอฟังเสียงเรียกของผู้โดยสารหญิงที่ยืนทำหน้าร้องแหล่ไม่ร้องแหล่ตรงไหล่ทาง รติกาลกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อก สายตากวาดมองฝ่าความมืดไปรอบๆ เธอไม่ดีใจที่แท็กซี่ไม่เก็บค่าโดยสารหากเป็นไปได้เธออยากเพิ่มราคาแล้วให้พาไปให้ถึงจุดหมายปลายทางเสียดีกว่าเพราะถนนเปลี่ยวเรียกความรู้สึกหวาดกลัวภัยที่มองไม่เห็น ร่างหนาสูงใหญ่ที่เดินเข้ามาปะทะกับสายตาเรียกอุณหภูมิในร่างกายให้ปั่น ป่วน เมื่อเห็นชัดว่าเป็นใคร “คุ คุณ!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD