3 โกรธกูเหรอ (ง้อด้วยของกิน)

1570 Words
"โกรธกูเหรอ" พอเข้าไปนั่งข้างเพื่อนสนิทคนสวยได้ เขาก็ถามด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน ก่อนจะเอาใบหน้าหล่อไปซุกที่บ่าเล็ก "หึ กูจะโกรธมึงทำไม เอาหน้ามึงออกไปเลยนะ สกปรก" คนถูกง้อก็พูดพร้อมกับปรายตามอง อย่างไม่แยแส "สกปรก? บี!" น้ำเสียงที่ตัดพ้อ กับสรรพนามที่เขาเรียกแค่คนเดียว จะเป็นแบบนี้เสมอเมื่อเธอโกรธ "..." แล้วไง เธอก็ยังทำเป็นไม่สนใจอยู่ดี "นี่กูหล่อที่สุดในคณะแล้วนะ" คนหล่อก็ยังคงกวน ยื่นใบหน้าที่หล่อดุจเทพบุตรสร้าง เข้าไปใกล้ซุกบ่าเล็กไม่หยุด "ใครบอกมึง เอาไว้ให้คนอื่นพูดเถอะ เอาหน้ามึงออกไปเดี๋ยวนี้" "คนสวยครับ อย่าโกรธเพิร์ธเลยนะครับ เพิร์ธผิดไปแล้ว เพิร์ธยอมรับทุกความผิดครับ นะครับนะ" เขาก็พูดพร้อมกับทำตาปริบๆ ให้เธอ ซึ่งการกระทำนั้นของเขา มันก็ทำให้ใจเธอเต้นแรงขึ้น เป็นแบบนี้มาจะ 7 ปีแล้วนะ เธอก็ยังไม่ชินสักที "ฮั่นแน่" และเพื่อนๆ ในก๊วนก็ต่างร้องแซวขึ้นพร้อมกัน ด้วยความชอบใจ "สัส" คนที่ถูกแซวก็หันขวับมาหาเพื่อน พร้อมกับยักคิ้วให้ด้วยท่าทางที่สุดเท่ "นี่ถ้าบอกว่าพวกมึงสองคนเป็นแฟนกัน กูไม่มีข้อโต้แย้งอะไรเลยนะ เสี้ยนสัส" วัชระก็ได้แต่ส่ายหัวเบาๆ "นั่นสิ คนนึงนางฟ้า อีกคน..." พร้อมกับนรีกุลที่หัวเราะในลำคอ "เมียน้อยวิ่งตามหามันกันตรึม ส่วนมันก็มาง้อเมียหลวงแบบนี้สินะ" "เขาบอกว่าผัวเมียทะเลาะกันทุกวันแบบนี้ ลูกดกนะเว้ย" แล้วเพื่อนทุกคนก็ต่างหัวเราะออกมา เว้นแต่กัญจาวีร์คนเดียว ที่เธอไม่ชอบใจและลำคาญ ทำเป็นไม่สนใจ เพื่อเก็บกักอารมณ์ไว้ "มึงออกไปจากกูเลยนะเพิร์ธ ไปนั่งกินเงียบๆ ไป" "หายโกรธกูนะบีน๊า" "แล้วกูไปโกรธอะไรมึง" คนที่บอกว่าไม่โกรธก็ยังทำหน้าตาเฉยเมย ไม่สนใจคนที่ง้ออยู่เลยสักนิด "บีค้าบ เพิร์ธจะเป็นเด็กดี เพิร์ธจะไม่เถลไถลอีกแล้วสัญญา น๊าา นะครับน๊า" เมื่อเห็นว่าเธอเฉยชา เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน "ทำให้ได้อย่างที่พูดเถอะ ถอยออกไปปวดแขน" "โอเคเดี๋ยวนวดให้ จะถือว่าหายแล้วนะ กินซูชิแตงกวาไหมของโปรดอะ" จนต้องงัดแผนนี้ออกมา ของกินเท่านั้นที่เอาภูริชญาอยู่ "ไม่" "นั่นไง แสดงว่ายังไม่หาย" "..." แล้วเธอก็เงียบไป พร้อมกับทำท่าทีหันไปทางอื่น เพราะไม่อยากสบตากับคนเจ้าเล่ห์แบบเขา "พี่ครับ เอาโรลแตงกวา 20 ชิ้น" แล้วคนที่อยากเอาใจก็ยกมือเรียกพนักงาน เพื่อจะสั่งของกินมาง้อเธอ "ไอ้เพิร์ธ" เธอก็รีบหันไปมองหน้าเขา นี่ก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าอยากกินซูชิโรลแตงกวา โดนง้อแค่นี้ก็ใจฟูขึ้นมาแล้ว บ้าจริง! "โห่ ถ้าง้อขนาดนี้เป็นกูนะ กูใจอ่อนแล้ว" ณวัตรก็ทำทีพูดขึ้น "ง้องอนกันบ่อยๆ เด่ะผีก็ผลักให้ได้กันหรอก เจ้าที่ยิ่งแรงอยู่" "พวกมึงพูดอะไรกัน หยุดพูดมาก แล้วแดกเข้าไป!" "เนี่ยยยย ดีกับผัวละด่ากุเลยนะ" บรรยากาศในการกินชาบูก็ครื้นเครงขึ้นเรื่อยๆ คนทำผิดก็ง้อเพื่อนสนิทคนสวย อย่างเอาเป็นเอาตาย "ชูชิโรลแตงกวาครับ" "ขอบคุณครับ" คนที่สั่งก็รีบหยิบจากมือพนักงานโดยเร็ว เพื่อที่จะเอามาป้อนให้ถึงปาก คนที่เริ่มอารมณ์ดีขึ้นแล้ว "กูกินด้วย" แล้ววัชระก็ยื่นมือยาว เอาตะเกียบมาคีบ แต่ก็ต้องเสียหลักเมื่อคนที่สั่งมายกจานหนี "มึงหยุดเลย มึงอยากกินมึงก็สั่งเอง อันนี้ของนาบีเว้ย" เขาพูดพร้อมกับยักคิ้วให้อย่างกวนๆ "แบ่งๆ คนอื่นกินบ้างก็ได้ตั้ง 20 ชิ้น จะสั่งมาเยอะอะไรขนาดนั้น" "หรา อย่าให้เห็นนะว่าไม่พอกิน" "ก็มันอร่อย" และในที่สุดเธอก็ยิ้มออกมาได้ เพราะของกินแท้ๆเลย "..." กัญจาวีร์ก็มองไปที่ซูชิจานนั้น พร้อมกับแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา "ฟ้าใสอยากกินเหรอ" พัชชาที่นั่งข้างๆ กันก็ถามขึ้น "อ่อ ก็เห็นแย่งกันดี เราเลยอยากรู้ว่าอร่อยไหม" "ก็อร่อยดีนะเย็นๆ กรอบๆ ของโปรดนาบีน่ะ" "อ่อจ้ะ ก็น่ากินดีนะ" เธอก็พูดพร้อมกับยิ้มสดใสให้คนข้างๆ เพราะด้วยในกลุ่มจะคิดว่ากัญจาวีร์คนสวย เป็นคนน่ารักแสนดี ทั้งเธอยังมีดีกรีเป็นถึงดาวคณะอีกด้วย แน่นอนว่าคนที่สวยและน่ารักขนาดนี้ เมื่อมาอยู่กลุ่มพวกเขาที่หยาบคายก็อดสงสารไม่ได้ แต่เพราะเธอรับพวกเขาได้ ถึงอยู่ด้วยกันมาได้ถึง 4 ปี "เพิร์ธ ขยับมาให้ฟ้าใสกินด้วยสิ" เมื่อเห็นว่ากัญจาวีร์ดูสนใจ พัชชาก็รีบสะกิดบอกคนข้างๆ ให้ทันที "ฟ้าใสอยากกินเหรอ" ชายหนุ่มก็หันมาถามอย่างสนใจ "อ่อ เราแค่อยากชิมดู ยังไม่เคยกินน่ะ" "ได้สิ เอาตะเกียบมาเราคีบให้" "เพิร์ธคีบมาเลยก็ได้ ฟ้าใสไม่รังเกียจเพิร์ธหรอก" กัญจาวีร์ก็พูดพร้อมกับยิ้มให้ "โอเค" แล้วเขาก็ใช้ตะเกียบตัวเอง คีบให้เธออย่างคนไม่คิดอะไร "ขอบใจนะ" ผู้ชายคนนี้ควรเป็นของเธอ! ณ เพนท์เฮาส์ภัทรวิชญ์ แล้ววันนี้ก็เป็นวันสุดสัปดาห์ พวกเขาก็นัดกันว่า จะออกไปเที่ยวคลับ เนื่องจากไม่ได้ไปหลายสัปดาห์แล้ว และปกติก็จะมารวมตัวกันที่เพนท์เฮาส์นี้ตลอด เพราะหรูหราและกว้างขวาง รองรับเพื่อนเขาได้เหลือเฟือ และตอนนี้ผู้ชายอย่างพวกเขาก็นั่งรอพวกผู้หญิงแต่งตัวที่โซฟา ซึ่งมันก็เป็นปกติแบบนี้ มีเพื่อนผู้หญิงก็ต้องทำใจ เพราะพวกหล่อนก็แต่งตัวกันนานจริงๆ "มึงเตรียมไปยัง วันนี้พกไปให้พอนะ" เพื่อนจอมหื่นก็สะกิดแขนเบาๆ สิ่งที่มันถามก็คือเครื่องป้องกัน ที่ปกติแล้วพวกเขาจะพกกันตลอด แล้วก็มีบ่อยครั้งที่เขาพกไปไม่พอ จนได้ขอพวกมันบ่อยๆ "แค่นี้ทำเป็นงกสัส" "เตรียมไปไม่พอมึงไม่ได้เย็บจริงๆ ด้วย" "พวกมึงพูดอะไรลามกกันอยู่ได้" นรีกุลที่เดินออกมาคนแรก เมื่อได้ยินคำแสลงหูก็อดไม่ได้ที่จะบ่น "เหอะ ลืมไปแถวนี้ มีแต่เด็กน้อย ฟังเรื่องพวกนี้ไม่ได้" ไม่พูดเปล่ามือหนาของณวัตร ก็แกล้งเอื้อมไปปิดหูเธอไว้ และทำเป็นว่าเพื่อนสาวคนสวย ยังเด็กอยู่ไม่ควรฟังเรื่องลามกอะไรแบบนี้ แต่ก็ไม่วายโดนอีกฝ่ายด่าเช่นเดิม "พวกมึงก็พูดแต่เรื่องลามกกันจริงๆ" พัชชาก็พูดขึ้นพร้อมกับส่ายหัว "ละพวกมึงไม่เคยกันเหรอ" "ไอ้ควาย มึงถามแบบนี้มาได้ยังไง" นรีกุลก็แทบจะบีบคอไอ้เพื่อนตัวดีให้ตายตรงนี้ไปซะ พูดอะไรไม่อายปาก ถึงแม้พวกเราจะสนิทกันมากก็เถอะแต่มาถามเรื่องอะไรแบบนี้ มันก็ไม่ควรจะมาถามกันตรงๆ โจ่งแจ้งแบบนี้ก็น่าทุบหัวให้แหลก "เหอะ กูยังไม่เคย แต่ก็อยากลองดูเหมือนกันเห็นพวกมึง ชอบไปหาประสบการณ์เสียวบ่อยๆ อยากรู้ว่ามันสนุกขนาดไหน แต่เสียอย่างเดียวคือกูกลัวเจ็บนี่แหละ" "มันก็ไม่เจ็บหรอก แต่แบบยังไงล่ะ เสียวอ่ะ มึงรู้จักเสียวกันป่ะ หรือมึงจะลองกับกูดีออม" ณวัตรก็พูดพร้อมกับทำท่าจะเข้าไปกอดเพื่อนสาว "ยี๋ มึงอย่าได้คิดอะไรกับกูเชียว ได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงบาลจะหาว่ากูไม่เตือน" "พวกมึงนี่ก็นะ" พูดจบเจ้าของห้องก็เดินเข้าห้องนอนตัวเองไป เพราะมีสายเข้าพอดี "เออ มันไม่เจ็บ แต่มันเสียวนั่นแหละ" นรีกุลก็พูดออกมาแบบไม่ได้รู้สึกเคอะเขินอะไร "เชี่ยยยยย นี่มึงเคยโดนเอาแล้วเหรอน้ำชา" วัชระก็หันไปถามอย่างไม่เชื่อหู เพราะก็ยังไม่เคยเห็นเธอไปมีแฟนตอนไหนเลย "ก็มันเป็นเรื่องปกติไหม กูก็ต้องมีบ้าง ขนาดพวกมึงยังไม่เคยพักกันเลย" "ไม่ใช่แบบนั้น มึงดูไม่ใช่คนไปทำเรื่องอะไรแบบนั้นไง" "พวกมึงจะมองกูด้วยสายตาแบบนั้นทำไม" นรีกุลก็พูดด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิด ก็เป็นคนเริ่มเรื่องนี้มาเองหรือเปล่า พอเธอตอบไปบ้างก็ไม่เชื่อ ทั้งยังทำสีหน้าแปลกๆ ก็มันน่าตกใจจริงๆ ใครจะคิดว่าเพื่อนสาวจอมดุ จะแอบไปมีประสบการณ์เรื่องอย่างว่ากับเขาด้วย ยิ่งคิดก็ยิ่งแปลกใจ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD