2 ความเพื่อน

1514 Words
หลังจากที่กลับมาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภูริชญาก็มานั่งคิดอะไรอยู่คนเดียว เพื่อรอเวลาไปเรียน ตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงลามก ของไอ้เพื่อนชายคนสนิทกับผู้หญิงคนนั้น ในหัวเธอตอนนี้ก็มีภาพกิจกรรมอย่างว่า วนเวียนกวนใจอยู่ตลอดเวลา พยายามสลัดออกยังไงก็ไม่หลุด "นาบี!" "ว๊ายยย อะ...ออม" แล้วเธอก็ต้องสะดุ้ง เมื่อเพื่อนอีกคนเรียกเสียงดัง "มึงเป็นอะไรของมึง กูเรียกตั้งหลายครั้งแล้วนะ คิดอะไรอยู่" 'ออม พัชชา' เพื่อนสนิทอีกคนของกลุ่ม ก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นว่าเพื่อนมีสีหน้าแปลกๆ "ปะ...เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร แล้วนี่ทำไมมึงมาเช้า" ก่อนที่เพื่อนรักจะถามอะไรไปมากกว่านี้ ภูริชญาก็รีบพูดขึ้นก่อน เพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัย "กูต่างหากไหมคะที่ต้องถามมึง อะไรจะมาเช้าขนาดนี้ เหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมง" "ความจริงมาตั้งแต่ก่อน 1 ชั่วโมงแล้ว เมื่อคืนน้ำชามันไปค้างด้วยไง ทีนี้ลืมกระเป๋าหนังสือไว้ที่รถ ก็เลยเอามาให้เนี่ย" "อ่อ ว่าแต่เหม่ออะไรนะ" "เปล่าไม่ได้เหม่อซะหน่อย" "งั้นเหรอ ไปรอเรียนกันเถอะป่ะ มีเรื่องจะเม้าท์ด้วยค่า" "อะ...อ่อ ไปสิ" แล้วทั้งสองสาวก็เดินตามกันเข้าห้องเรียนไป เพราะวันนี้เธอตื่นเช้ามาก ทั้งยังมาก่อนเวลาตั้ง 1 ชั่วโมง แถมมีเรื่องให้กวนใจอีก แบบนี้ใครจะไม่หงุดหงิดบ้าง เพราะไอ้เพื่อนตัวดีคนนั้นคนเดียว เธอกับวชิรวิชญ์และกลุ่มเพื่อนๆ รู้จักและสนิทสนมกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมปลาย และในแก๊งค์ของพวกเราก็มีกันอยู่ 6 คนคือ นาบี เพิร์ธ น้ำชา ไบร์ท บูม แล้วก็ออม ซึ่งพวกเราทั้ง 6 คนสนิทกันมาก จนสอบติดและได้มาเรียนมหาลัยที่เดียวกัน แล้วก็มีฟ้าใส เพื่อนต่างโรงเรียน เพิ่มเข้ามาในแก๊งค์อีกหนึ่งคน ซึ่งก็เป็นแก๊งค์ที่สนุกสนานกันมาก เพราะทุกคนเป็นเพื่อนที่รักกัน ผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย ณ ร้านชาบู "พวกมึงคิดว่า นาบีจะหายโกรธไอ้เพิร์ธไหม" นรีกุลก็กระซิบข้างหูเพื่อนทั้งสองคน "กูว่ารอบนี้ต้องลุ้นว่ะ ดูนาบีมันไปนั่งริมสุด เว้นที่ให้ไอ้เพิร์ธนั่งกับฟ้าใส" "ผัวเมียทะเลาะกันแบบนี้ลูกดก" "แล้วมึงอ่ะยุ่งอะไรกับเรื่องผัวเมีย เดี๋ยวนาบีมันก็โกรธพวกมึงอีกสองตัวด้วยหรอก" นรีกุลพูดพร้อมกับมองค้อนใส่ไอ้เพื่อนตัวดีทั้งสอง "ก็แค่ลุ้นกันเอง แต่กูก็อยากให้ไอ้สองคนนั้นมันคบกันจริงๆ อยู่นะ คงจะบันเทิงน่าดู" "ไอ้เพิร์ธคงหมอบอยู่เหมือนหมา" วัชระก็หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "ก็แหง่ล่ะ มันอยู่หมัดแน่ๆ ถ้ามีเมียแบบนี้" "โทษน่ะไบร์ท ช่วยหยิบทิชชู่ให้เราหน่อยสิ" เป็นเสียงของกัญจาวีร์ ที่พูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ "อะๆ ได้ครับ" วัชระก็รีบส่งทิชชู่ให้เพื่อนคนสวย ที่เขาแอบชอบมาตลอด พร้อมกับรีบหุบปาก เพราะคิดว่าเธออาจจะรำคาญ เสียงที่พวกเขาคุยกัน "สะใจกูยิ่งนัก สมพวกมึงสองตัว ด่ามันเลยฟ้าใส ด่าอีกด่ามันเลย" นรีกุลก็เชียร์อย่างชอบใจ "มึงก็อย่าพูดมากน้ำชา กูจะคิดว่ามึงหึงกูแล้วนะ" "ไอ้ห่าบูมมม จะพูดอะไรก็กรุณาดูสาระรูปตัวเองก่อน ไอ้บ้า!" "ฮ่าๆๆ เจอสภาพแบบกูแล้วจะร้องไม่ออก หรือว่าร้องหนักกว่าเดิม ร้องครางนะ" ประโยคหลังณวัตรก็กระซิบพูดข้างหูด้วยเสียงที่แผ่วเบา จนคนที่ฟังอยู่ขนลุกซู่ "แหวะ ใครจะครางให้มึง ไอ้ทุเรศ!" พูดพร้อมกับทำสีหน้าขยะแขยงออกมา บรรยากาศในการมากินชาบูวันนี้ ก็เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหยอกล้อกันเช่นเดิม เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เอ็นจอยกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะพูดจาแรงกันแค่ไหน ทุกคนก็ไม่ได้มีใครถือสากันแบบจริงจัง ยิ่งได้คุยเม้าส์มอยส์กันแบบนี้ยิ่งสนุก เว้นแต่ภูริชญา ที่ไปนั่งริมสุดแล้วไม่พูดกับใครเลยตั้งแต่มา ซึ่งพวกเขาก็เข้าใจกันดี เนื่องจากเธอเป็นคนซีเรียสเรื่องเรียนมาก จะไม่ชอบเลยเวลาเพื่อนคนไหนขาดเรียน หรือทำตัวแบบไอ้เพิร์ธ และไม่นานคนที่เป็นปัญหาที่สุดก็มาถึง วันนี้เขาใส่เสื้อยืดสีดำ กับกางเกงยีนส์พอดีตัว แล้วก็ใส่สร้อยเกียร์เส้นโปรด พร้อมกับเซ็ตผมมาอย่างดี "โอ้โหไอ้เหี้ย มาอย่างหล่อเลยนะมึง" "แล้วนั่นมึงยิ้มเหี้ยไร จนหน้าบานขนาดนั้นครับ" เมื่อเห็นเพื่อนสุดหล่อเดินเข้ามา พร้อมกับใบหน้าที่ชื่นมื่น สองหนุ่มก็อดแซวไม่ได้ เพราะก็รู้ดีว่าไอ้เพื่อนตัวดีไปทำอะไรมา "เรื่องของกูสัส" คนหล่อตบบ่าเพื่อนรักเบาๆ "มีเรื่องอะไรดีๆ เกิดขึ้นแน่ๆ ไอ้ห่า" "หึ ก็มีบ้างอะไรบ้าง" "แล้วเป็นไงน้อง อจ ของมึง" "เด็ด" "เชี่ยยย ให้มันได้อย่างนี้สิเพื่อนกู" "แล้วไปลากมาจากไหนอีก" "เปล่า บังเอิญไปเจอกันพอดี" "ละนี่มึงเอาน้องเขาตั้งแต่เมื่อคืน?" ณวัตรก็หรี่ตาถาม เพราะรู้ว่าไอ้เพื่อนตัวดีของเขา มันอึดและถึกทนขนาดไหน คิดแล้วก็สงสารหญิงงามของมันคงจะช้ำหมดแล้ว คนหล่อก็ไหวไหลพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี จะว่าเด็ดไหมก็เรียกได้ว่าเด็ด แต่ถ้าถามว่าดีไหม เขายังไม่ได้รู้สึกดีขนาดนั้นกับคู่นอนคนไหน "พวกมึงหยุดพูดเรื่องลามกอะไรแบบนี้กันได้แล้ว" นรีกุลก็หันไปเอ็ดไอ้เพื่อนชายจอมลามกทั้ง 3 คน "แล้วมึงมีเรื่องที่ยังไม่รู้" "เรื่อง?" "เมื่อเช้าเมียหลวงมึงไปที่คณะ แล้วก็รู้เรื่องพอดี" "เชี่ยยย แล้วเป็นห่าอะไรไม่รีบบอกกู" ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าอย่างอัตโนมัติ "จะให้บอกตอนไหน ครางเสียวฉิบหายไอ้สัส" "ฉิบหายแล้วกู" สายตาพลันรีบมองไปที่เธอ ที่เอาแต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ "รีบไปง้อเมียหลวงมึงได้แล้วไป หน้าบูดหน้าบึ้งไปนั่งติดผนังอย่างกับตุ๊กแก" "พวกมึงนี่ก็นะ" แล้วเขาก็ขำออกมาอย่างชอบใจ เมื่อมันเปรียบเทียบคนที่ได้ชื่อว่าเมียหลวงเขาแบบนั้น ซึ่งภูริชญาก็เป็นคนที่เขาแคร์มากเหมือนกัน เพราะเธอเป็นทุกอย่างให้กับเขา ตั้งแต่ติวสอบ ยันช่วยทำรายงาน ทั้งโปรเจ็คต่างๆ แล้วก็ซัพพอร์ตได้หลายเรื่อง เขาก็เลยไม่อยากให้เธอ ต้องรู้สึกไม่ดี จนต้องง้อทุกครั้ง ที่เขาก่อเรื่องแบบนี้ ทำให้โดนเพื่อนทุกคนแซว และตั้งฉายาให้เธอเป็นเมียหลวงของเขา ซึ่งเขาก็ไม่ได้ติดอะไร ทั้งยังรู้สึกชอบด้วยซ้ำ มีแต่เธอที่ไม่ค่อยชอบ เวลาโดนเพื่อนๆ เรียกแบบนี้ก็จะหน้างอขึ้นมาทุกที "แล้วนี่ให้กูนั่งตรงไหน" คนหล่อก็พูดขึ้นเสียงดัง เพื่อเรียกร้องความสนใจให้เธอเงยหน้าขึ้นมามอง แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะเธอเอาแต่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ไม่ได้สนใจที่เขามาเลยแม้แต่น้อย "เพิร์ธนั่งตรงนี้สิ" แล้วกัญจาวีร์ก็รีบขยับที่ให้เขา พร้อมกับรีบจัดชุดช้อนกับตะเกียบให้ แต่ในตอนนั้นเขาก็เบียดตัวเข้าไปนั่งตรงกลางระหว่างเพื่อนคนสวยทั้งสอง และถึงตัวภูริชญาเรียบร้อย "นี่มึงเล่นอะไรเพิร์ธ" พัชชาก็พูดด้วยน้ำเสียงดุ "ก็กูจะนั่งตรงนี้ กูเคยนั่งกับใครกูก็จะนั่งกับคนนั้น" เขาก็พูดอย่างคนเอาแต่ใจ "..." ภูริชญาก็เงยหน้าขึ้นมามอง ด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ ก่อนจะทำสีหน้าให้เป็นปกติ "ไอ้เหี้ย" เมื่อต้องเป็นแบบนั้นพัชชาก็ยอมถอยให้มัน แล้วขยับไปนั่งข้างกัญจาวีร์แทน พร้อมกับเสียงหัวเราะของบรรดาเพื่อนในกลุ่ม ที่เอาใจเชียร์ทั้งสองคนอย่างเต็มกำลัง "..." มีเพียงแต่รกัญจาวีร์ที่ลอบมองอย่างไม่พอใจ เธอได้แต่แอบกำมือตัวเองไว้แน่น เพื่อไม่ให้โมโหไปมากกว่านี้ วันไหนที่ไม่มีภูริชญา เธอจะรู้สึกว่ามีความสุขมาก เพราะเพื่อนทุกคนก็ต่างเอาใจเธอเหมือนกัน แต่พอมียัยนี่เมื่อไหร่ ก็เป็นว่าไม่มีใครสนใจเธอเลย นี่ก็ผ่านไป 4 ปีแล้ว เธอยังไม่รู้สึกชอบยัยคนนี้เลยสักวัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD