คำตอบแบบไม่คิดของเธอเรียกรอยยิ้มหล่อๆ นั้นได้อีกครั้ง รอยยิ้มที่ทำให้ทิวลิปยิ่งสับสน ผู้ชายที่มีนิสัยส่อไปทางนั้นกลับให้รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจเธอเต้นรัวเร็วอีกแล้ว แต่จะทำอย่างไรได้นอกจากรอเขา
“แล้วจะทำยังไงดีล่ะทิวลิป จะรุกหรือถอยดี เธอจะทำยังไง”
ทิวลิปพึมพำตามเจ้าของร่างสูงที่เดินหายไปด้านหลังร้าน คาดว่าคงเป็นห้องพักผ่อนหรือไม่ก็อาจจะเป็นห้องพักถาวรที่นี่ของเขาก็ได้ เพราะอาคารพาณิชย์สามชั้นสองคูหานี้เขาไม่น่าจะใช้เพียงเปิดร้านขายดอกไม้
“ดอกเหล็กหนึ่ง เรียกดอกเหล็กสอง ดอกเหล็กหนึ่ง เรียกดอกเหล็กสอง... ทราบแล้วเปลี่ยน ถ้าไม่ทราบก็ต้องทราบ เปลี่ยน...”
“นี่ดาพอเถอะ พี่กับแม่ขำจะแย่อยู่แล้วนะ เรากับยัยภานี่ชอบทำอะไรบ๊องๆ แบบนี้เรื่อยเลย”
ลีลาพรนั่งเคียงข้างสุภาพรผู้เป็นแม่หัวเราะขำกับท่าทางของนภาดาน้องสาวคนรองกำลังสั่งการทางโทรศัพท์ไปหาอาภาพรน้องสาวคนที่ 2 ซึ่งรับหน้าที่ดูแลร้านดอกไม้ช่วยกันกับศิลากานต์ซึ่งเป็นลูกชายคนแรกแต่กลับเป็นลูกคนที่ 6 ของบ้านหลังนี้
เธอขำทั้งอาการแอบๆ จิตๆ ที่เหล่าพี่สาวทั้งหลายกำลังซุ่มดูสาวคนใหม่ที่ทิพยุพาพยายามแนะนำให้กับศิลากานต์ และก็ขำกับสรรพนามชื่อแก๊งที่สาวๆ ช่วยกันตั้ง อีกทั้งท่าทางนักสืบหญิงซึ่งดูท่าจะคล้ายกับผู้ต้องหาหญิงที่ทำท่าลับๆ ล่อๆ นั้นก็ทำให้ทั้งเธอและแม่อดไม่ได้ที่จะขำเสียจนท้องแข็ง
“ขำอะไรกันคะพี่ลี คะแม่”
อรปรีดาที่เพิ่งกลับมาจากการสอนหนังสือในโรงเรียนใกล้บ้านต้องอมยิ้มกับท่าทางของทั้งแม่และพี่สาวทั้งสองคนของเธอ โดยเฉพาะท่าทางลับๆ ล่อๆ ของนภาดานั้นก็ยิ่งทำให้เธอต้องกั้นหัวเราะไว้เหมือนกันเพราะรู้แล้วว่าที่พี่สาวคนโตกับผู้เป็นแม่หัวเราะกันนั้นมาจากใคร
“ก็ดูสิยัยอร พี่สาวเธอตั้งชื่อแก๊งแปลกๆ อีกแล้ว”
ลีลาพรหันมาฟ้องทั้งที่ยังขำค้างจนต้องเอามือกุมท้องรู้สึกจุกเสียดเพราะหัวเราะติดต่อกันเป็นเวลานาน
“ชื่ออะไรคะ พี่ดา และคราวนี้ใครอีกล่ะ อรเบื่อแล้วนะ ให้หินเขาเลือกเอาเองเถอะค่ะ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย เดี๋ยวดีไม่ดีกลายเป็นว่าที่เราไปวุ่นวายอยู่นี่กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้หินเขาขึ้นคานไม่รู้ด้วยนะ ว่าแต่... ชื่อแก๊งว่าอะไรคะ”
คุณครูคนสวยทรุดกายลงนั่งข้างๆ พี่สาวคนรองที่ทำท่าตั้งใจฟังคำรายงานจากคนปลายสายอย่างเป็นการเป็นงาน แม้วัยจะเข้า 34 ปี แต่อรปรีดากลับดูเหมือนสาวอายุไม่น่าเกิน 25 ปี อาจเป็นเพราะครอบครัวของเธอเป็นครอบครัวปราศจากความเครียดก็ได้ จึงทำให้สาวๆ ทั้ง 5 ถ้าไม่นับคุณแม่สุภาพรเข้าไปด้วยยังดูอ่อนกว่าวัยกันอย่างมากมาย และไม่ใช่ว่าไม่มีใครมาชอบแต่เป็นเพราะว่ายังไม่เจอใครที่ใช่ ทุกคนจึงพร้อมใจที่จะใช้ชีวิตอยู่บนคานเสริมเหล็กซึ่งผู้เป็นแม่และน้องชายช่วยกันสร้างอย่างไม่มีใครยอมที่จะปีนลงมาก่อนกัน
“ยัยอร! เธอก็เป็นไปด้วยอีกคน ไหนบอกว่าจะปล่อยหินไปไงล่ะ”
“แหม... พี่ลี ก็ดูท่าพี่ดาสิคะ ทำท่าน่าสนุกเสียขนาดนั้น อรก็เลยอดใจไม่ได้น่ะสิ”
“เอากันใหญ่เลยนะ แม่สามศรีพี่น้องนี่ นี่ยัยดาแล้วว่าไงล่ะเรา ดูทำหน้าตาเข้า ว่าไง แม่ก็อยากรู้นะ”
“คุณแม่! คุณแม่ก็เป็นไปกับน้องๆ ด้วย”
ลีลาพรหันมาทำท่าเอ็ดคุณแม่สุภาพรอย่างทีเล่นทีจริง แทนจะห้ามปรามแต่กลับดูจะผสมโรงไปกับบรรดาน้องสาวของเธอเสียอย่างงั้น แต่แล้วลีลาพรนั่นแหละก็ไม่วายจะทำท่าอยากรู้กับเขาเหมือนกัน เสียงหัวเราะของทั้งแม่และลูกจึงดังไปลั่นบ้าน
“จะเอาข่าวดีหรือข่าวร้ายก่อนดีคะ”
นภาดาหน้าตาบอกบุญไม่รับทำให้ทุกสาวหัวเราะค้างก่อนจะมีสีหน้าเคร่งเครียดไม่แพ้นักสืบหญิง
“เอาข่าวดีก่อนละกัน เพราะอย่างน้อยก็ยังได้มีเรื่องดีๆ รองรับไว้ก่อน ว่ามาเลยอย่ามาลีลา”
คนไม่อยากรู้อย่างที่สุดอย่างลีลาพรกลับเป็นฝ่ายเร่งเร้าให้นภาดาพูด ทำให้น้องสาวทั้งสองหันมาพยักพเยิดหน้าให้กันแบบว่า ‘ดูสิพี่สาวหล่อน’
“ข่าวดีคือ คนนี้ผ่าน! ดูท่าหินจะชอบเธอเหมือนกัน”
“เฮ! ในที่สุดหินก็มีแววที่จะลงจากคานแล้ว” อรปรีดาแสดงความดีใจสุดๆ
“แล้วข่าวร้ายเล่า บอกมาสิ ยัยดา! ลีลามากจริง” ลีลาพรเร่งเร้าเพราะนภาดายังตีหน้าเศร้าเล่าไม่จบ
“ข่าวร้ายก็คือ... หินลงทุนแต่งหน้าทำผมให้หล่อนอ่ะ! ดาไม่ยอมด้วย แม่คะ ดาไม่ยอม”
“แต่งหน้า!”
“ทำผม!”
ลีลาพรและอรปรีดาพูดขึ้นแทบจะพร้อมๆ กัน ทำให้ คุณสุภาพรต้องห้ามทัพก่อนจะเกิดศึกน้ำลายขึ้นภายในบ้าน พร้อมกับใช้หมอนใบเล็กปาไปที่ลูกสาวแต่ละคนของเธอที่ท่าจะเป็นเอามากจริงๆ แต่ลูกสาวทั้งสามก็ยังไม่วายจะจูงมือกันไปจับกลุ่มเม้าท์กันต่อข้างนอกห้องรับแขก ปล่อยให้ผู้เป็นแม่นั่งยิ้มอยู่คนเดียวเพราะดูท่าผู้หญิงที่ทิพยุพาแนะนำมาคนนี้จะถูกใจศิลากานต์จริงๆ ไม่อย่างงั้นเขาคงไม่แสดงความอ่อนโยนแบบนั้นกับใคร เพราะคนที่ศิลากานต์จะดูแลได้อย่างอ่อนโยนนั้นมีเพียงแม่และพี่สาวทั้ง 5 ของเขาเท่านั้น บรรดาดอกไม้ของนายหิน
“ดูท่าชาตินี้คงมีคนเรียกสุว่าย่า แล้วล่ะพ่อ”
น้ำเสียงอ่อนโยนจงใจพูดกับคนในภาพวาดขนาดใหญ่ประดับไว้บนผนังห้อง ก่อนรอยยิ้มทั้งน้ำตาจะประปรายขึ้นบนใบหน้า ความสุขที่รอคอยคงไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วมั้ง