EP.01
สวนสาธารณะขนาดย่อมใจกลางกรุง กลับกลายเป็นปอดธรรมชาติทำหน้าที่ฟอกควันพิษของคนกรุงไปโดยปริยาย ด้วยทิวไม้ใหญ่หลากหลายต้นขึ้นเป็นแนวตลอดสองฝั่งข้างทาง ช่วยทำหน้าที่ฟอกอากาศให้สดชื่นและให้ร่มเงาแก่ผู้สัญจรไปมา รวมทั้งยังเป็นแหล่งรวมของร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง กระจายอยู่ตามจุดต่างๆ ไปด้วย
ร้านอาหารหลากแนวต่างมีธีมตกแต่งตามสไตล์แตกต่างกันไป บ้างดูวินเทจและบ้างก็ดูอินดี้ เหมาะกับมนุษย์เงินเดือนทั้งหญิงชายที่มีออฟฟิศอยู่ใกล้กับสวนสาธารณะแห่งนี้ และร้านที่ดูจะเข้ากับบรรยากาศร่มรื่นของพันธุ์ไม้สีเขียวมากสุดก็คงไม่พ้นเป็นร้านที่ตกแต่งด้วยธีมสีชมพูนมสดตัดกับสีน้ำตาลช็อกโกแลต จึงไม่แปลกหากในยามเที่ยงวันอย่างนี้ ภายในร้านจึงมีลูกค้าอยู่หนาแน่น แต่ทุกอย่างต้องดีกว่านี้แน่ ถ้าจะไม่มีเสียงแปดหลอดของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาซะก่อน
“ทิวลิป! แกคิดดู วันๆ มันก็เอาแต่กินเหล้าเที่ยวผู้หญิง มันไม่เคยเห็นใจฉันเลย! ฉันน่ะต้องเลี้ยงลูก ต้องทำงานทั้งนอกบ้านทั้งในบ้าน ไหนจะเรื่องบนเตียง ใต้เตียง หรือว่าขอบเตียงมันก็ให้ฉันทำหมดทุกอย่าง แล้วแกดูมัน! มันก็ยังไปเอานังนั่น มันไม่เคยเห็นคุณค่าของฉันเลย ยังไงนะแก ถ้ามันทิ้งฉันจริงๆ อ่ะ แกช่วยฉันคิดหน่อยสิ ทิวลิป...”
‘ทิวลิป’ ที่เพื่อนสาวเอ่ยเรียกนั้นเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยเก๋ ผมซอยสั้นทันสมัยในเฉดสีเหลืองมะนาวเปรี้ยวจี๊ด ผิวขาวดูสุขภาพดีส่งผลให้แก้มอิ่มมีสีชมพูระเรื่อตามธรรมชาติ จมูกโด่งรั้นรับกับริมฝีปากกระจับบางเคลือบด้วยสีเชอร์รี่มันวาว โดยเฉพาะดวงตาคมจัดแต่งแต้มอายไลเนอร์เส้นหนาและตวัดหางขึ้นให้สวยเฉี่ยวนั้น ยิ่งทำให้เจ้าของใบหน้านี้ดูเป็นสาวมีกึ๋นทันคนและก็คงจะเป็นกูรูผู้รอบรู้ในสิ่งที่เพื่อนเธอเอ่ยถามอย่างแน่นอนสุด
แต่ว่าองค์ประกอบของเครื่องหน้าสวยเก๋นั้นน่าจะดูดีมากๆ ถ้าริมฝีปากบางกระจับจะไม่เบ้ออกแบบอืมระอากับเรื่องราวของเพื่อนมารุมปรับทุกข์ให้เธอฟังซะก่อน เพราะนี่เป็นรอบที่เท่าไรของเดือนนี้ก็ไม่รู้ ที่ยัยพวกนี้โทรนัดเธอให้มานั่งฟังเรื่องไร้สาระแบบนี้
‘ไร้สาระสำหรับเรา แต่สำหรับนังพวกนี้กลับเต็มไปด้วยสาระอันล้นพ้น’
นั่นแหละคือความคิดที่ทำให้ต้องอดทนนั่งฟังอย่างหลังขดหลังแข็ง และต้องสรรหาสารพันวิธีการแก้ปัญหาเรื่องผัวเมีย ทั้งศิราณีจำเป็นนี้ไม่เคยมีประสบการณ์จริงเลยสักครั้ง ซึ่งหลังๆ นี้เธอพยายามจะคิดว่า ‘เพื่อนคงลืม’ ว่าเธอยังไม่มีใครสักคน เพื่อนสาวทั้ง 4 จึงขยันมาปรับทุกข์กับเธอกันจัง สุดท้ายเธอเลยกลายเป็นกูรูผู้รู้ลึกรู้จริงไปเสียแล้ว
“ทิวลิปแกจะว่าไง ทำไมแกนั่งเฉยแบบนี้! แกไม่สงสารเพื่อนเลยเหรอไง”
“ใช่! ทิวลิปแกแนะนำมันหน่อยสิ แกน่ะรู้ทุกเรื่องอยู่แล้ว บอกยุมันหน่อยนะ จะให้มันทำยังไง ผัวมันถึงจะกลับบ้าน”
“ใช่! คราวที่แล้วที่แกแนะนำฉัน ฉันยังใช้ได้ผลเลย แกน่ะรู้ดีไปหมด แนะนำยุมันหน่อยเถอะน่า...”
อัมรา นุจรี และลดา ต่างช่วยกันพูดให้เธอแนะนำวิธีที่ดี สำหรับให้ยุรนานำไปใช้ผูกมัดสามีให้กลับมาบ้านหลังจากทั้งสามสาวก็ต่างผลัดกันมาขอคำปรึกษาจากเธอ และดูเหมือนในทุกคราวที่นัดจะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งมีปัญหาจนต้องเรียกร้องศิราณีไฮเทคอย่างเธอมาแก้ไขให้
“นะแก ทิวลิปช่วยฉันหน่อยเถอะ คราวที่แล้วที่แกบอกให้ฉันลองที่ขอบเตียง มันก็ใช้ได้ผลนะแก แต่ก็แค่ไม่กี่ครั้ง มันก็อดจะกลับไปหานังนั่นไม่ได้ ไม่รู้นังนั่นมันใช้ท่าไหนจับผัวฉันไว้ แกช่วยสอนฉันหน่อยสิ ได้มั้ย ทิวลิป” ยุรนากระชับท่อนแขนของทิวลิปอย่างเว้าวอนอ้อนขอ เพราะนี่แหละที่พึ่งพาสุดท้ายของเธอ
“ช่วยยุมันเถอะนะทิวลิป” อัมราสนับสนุน ช่วยอ้อนวอนอีกคน
“นะทิวลิป นะ” นุจรีก็ไม่น้อยหน้าเพราะมองสีหน้าของยุรนาแล้วเธอก็สงสารเพื่อนเหลือเกิน
สีหน้าท่าทางของเพื่อนๆ ช่วยกันสื่อช่วยกันพูดทำให้ทิวลิป กลอกตามองทิวไม้ด้านบนอย่างเหลืออด ก่อนจะแผดเสียงลั่นเพราะยั้งระเบิดอารมณ์ของตัวเองไว้ไม่อยู่แล้ว
“โอ๊ย! พวกแก! หยุดได้แล้ว ฉันจะบ้าตาย หยุดพูดเดี๋ยวนี้!”
เสียงหวานตวาดแว้ดจนทำให้ลูกค้าที่กำลังเดินเข้ามาและนั่งอยู่ก่อนแล้วต่างหันมามองเธอเป็นจุดเดียว ไม่เว้นแม้กระทั่ง ‘ทิพยุพา’ เจ้าของร้านสาวสวยต้องออกมายืนใช้สายตาปรามๆ ส่งตรงมาทางนี้ จนทิวลิปต้องหดหัวอย่างแหยงๆ พลางก้มศีรษะขอโทษขอโพยทั้งแขกมาใหม่และเก่า ก่อนเจ้าหล่อนจะหันไปใช้สายตาปรามๆ เพื่อนสาวทั้ง 4 เป็นการเอาคืนเหมือนกัน ที่ทำให้เธอสติแตกในสถานที่ไม่สมควรเข้าแล้ว เพราะนี่น่ะ ‘ร้านสีชมพู’ ของ ‘พี่ทิพย์’
ทิพยุพาเป็นรุ่นพี่สาวสวยเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันและเป็นพี่รหัสของเธอด้วย เธอและผองเพื่อนจึงใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่สิงสถิตทุกครั้งที่เกิดปัญหา ตั้งแต่เรียนจนจบเข้าทำงานและจนต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปมีครอบครัว การนัดพบกันทุกครั้งก็ไม่พ้นจะเป็นที่นี่ เพราะไม่ใช่แค่ชื่อที่ตั้งได้กิ๊บเก๋โดนใจ แต่เป็นเพราะธีมตกแต่งร้านใช้สีน้ำตาล สีขาว และสีชมพูเป็นโทนหลักทำให้ร้านดูหวานปนแกร่งได้อย่างน่าทึ่ง ทิวลิปหันไปยิ้มแหยให้กับทิพยุพาเป็นเชิงขอโทษขอโพยอีกครั้งก่อนจะหันมามองเพื่อนสาวด้วยแววดุๆ เพราะเรื่องจะไม่เกิดถ้า...
“นี่พวกแก! ที่ถามน่ะ แน่ใจนะว่าตั้งใจมาถามฉันจริงๆ พวกแกรู้บ้างมั้ยว่า ฉันต้องอดทนอดกลั้นกับพวกแกมากขนาดไหน นังพวกบ้า! สารพันคำถามร้อยแปด ถามจริง! พวกแกลืมไปรึไงว่าฉัน... ฉันยังไม่มี ผอสระอัว ผัวน่ะ ลืมกันหรือไง”
น้ำเสียงเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันพยายามพูดให้เบาที่สุด ทว่าความกราดเกรี้ยวก็ยังทำให้น้ำเสียงเล็ดลอดไปจนลูกค้าโต๊ะข้างเคียงให้ได้ยิ้มกับคำถามของเจ้าหล่อน โดยเฉพาะเหล่าผองเพื่อนทั้ง 4 นั่งอึ้งไปอย่างไม่คาดคิด ก็ยิ่งทำให้สาวขี้วีนดูน่ารักกับคำถามโพล่งๆ ของเธอ จนลูกค้าโต๊ะข้างๆ ลุกขึ้นมาขอถ่ายรูปคู่กับเธอไปซะงั้น