เวลา 2 ทุ่ม
“คุณมิน คุณมิน...”
เขาเห็นเธอนอนพักอยู่แต่ก็เรียกเธอขึ้นมาเพราะว่าเขาเริ่มปวดท้องอีกครั้ง
“อาราย..นี่นายจะแกล้งอะไรฉันอีก ฉันเหนื่อยแล้วนะ..”
“เปล่าครับ...ผมปวดท้องงง”
เขาบอกเธอเสียงอ่อนๆจนเธอต้องลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตกใจ
“นายปวดท้องหรอ...เอ่อ..ปวดมากหรือเปล่า ไหนบอกว่าดีขึ้นแล้วงัย ทำไมถึงยังปวดท้องอีก.?”
เธอรีบลุกขึ้นไปดูเขาที่เตียงเห็นเขาเอามือกุมท้องไว้
“ผมหิว....”
“อะไรนะ...หิวหรอ?...ตอนนี้เนี้ยนะ นี่นายจะบ้าหรอนี่มัน 2 ทุ่มแล้วนะ มาหิวบ้าอะไรตอนนี้..?”
เธอเริ่มไม่พอใจเขา
“ก็ผมหิวจริงๆ เมื่อตอนเย็นผมกินซุปที่คุณเอามาให้แค่ถ้วยเดียวเอง แล้วผมก็ถ่ายไปแล้วรอบหนึ่งด้วย ตอนนี้ท้องผมร้องหิวมากๆเลย”
“แล้วจะทำยังไง จะให้ฉันออกไปซื้อมาให้หรืองัย ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายอยากกินอะไร”
“คุณไปกับผมสิ พาผมไปซื้อหน่อยมีเซเว่นอยู่ข้างล่างนี่เอง...”
เธอมองหน้าเขาอย่างไม่พอใจนัก แต่ก็ยอมพยักหน้ารับไปกับเขาโดยมีคนติดตามอีก 2 คน เดินตามมาด้วยห่างๆ โดยที่มีเธอเป็นคนเข็นรถเข็นให้เขาเอง
“นาย 2 คนรอหน้าร้านนี่แหละ เดี๋ยวฉันพานายวัธเข้าไปซื้อของเอง”
“ครับคุณหนู...”
ทั้ง 2 คนยืนรอมินนาราและนวัธอยู่หน้าเซเว่นสักพัก ก็เดินออกมาพร้อมของกินในมือ
“นายวัธฉันแวะเข้าห้องน้ำก่อนนะ นายกลับไปที่ห้องพักก่อนก็ได้เดี๋ยวฉันตามไป”
“ผมจะรอคุณตรงนี้ คุณไปเถอะ”
“นี้มันโรงพยาบาลนะ ไม่มีใครมาทำอะไรฉันหรอกนะ...”
“แต่...”
“ไม่ต้องแต่ เอางี้ก็ได้นายไปกับนายวัธ ส่วนนายรอฉันก่อน...”
“ครับคุณหนู...”
มินนาราหันไปสั่งคนของตัวเอง จนนวัธต้องยอมทำตาม
หลังจากที่มินนาราทำธุระเสร็จก็เดินกลับไปที่ห้องพักของตัวเอง แต่ก่อนจะถึงห้องพักก็เจอกับคุณยายที่มากับหลานชายคนนั้นยืนอยู่หน้าลิฟมองอย่างงงๆ
“คุณยายจะขึ้นลิฟต์ จะไปชั้นไหนคะเดี๋ยวหนูกดให้ค่ะ..?”
มินนาราเดินเข้าไปหาคุณยายที่ยืนอยู่
“ชั้น 6 จ๋ะ ยายไม่รู้ว่าต้องกดยังไง ปกติจะมากับลูกชาย แต่ลูกชายไม่ว่างเลยให้ยายมากับหลาน ลูกสะใภ้ยายคลอดลูกอยู่ชั้น 6 จ๋ะ”
“ให้หนูไปส่งนะคะ พอดีหนูต้องผ่านชั้นนั้นพอดีค่ะ”
“ขอบใจหนูมากนะจ๊ะ หนูสวยแล้วยังใจดีอีก..”
มินนารายิ้มให้คุณยายแล้วหันไปสั่งคนของเธอให้ช่วยคุณยายหิ้วของเข้าไปในลิฟต์ช่วยกัน มินนาราเดินเข้าไปในลิฟต์แล้ว นวัธที่ยืนแอบรอเธอเข้าห้องน้ำอยู่โดยยังไม่ได้ไปไหน ก็ออกมาจากที่ซ่อน
“คุณหนูของนายเนี้ย มีอะไรที่ฉันยังไม่รู้อีกมั้ย..?”
เขามองดูภาพเมื่อกี้ทำให้เขาอึ้งในการกระทำของเธอ เขานึกไม่ถึงเลยว่าเธอจะเป็นคนมีน้ำใจคนหนึ่งเหมือนกัน
“มีอีกมากมายครับที่คุณยังไม่รู้....”
นวัธหันไปมองหน้าคนของมินนาราที่ยืนข้างๆเขา อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
หลังจากที่มินนาราเดินไปส่งคุณยายกับหลานชายที่ห้องพักผู้ป่วยเรียบร้อยแล้ว มินนาราก็ขึ้นไปที่ห้องพักของนวัธทันที แต่ในระหว่างเดินไปที่ห้องอยู่ๆผู้ติดตามที่มากับเธอก็หายไป
“หายไปไหนของเขานะ”
เธอหันมองซ้ายมองขวาไปมาเพื่อหาผู้ติดตามของเธอแต่ก็ไม่เจอ
“อุ๊ย...”
อยู่ๆก็มีมือแปลกๆยื่นมาปิดปากเธอไว้ไม่ให้ส่งเสียงดัง
“เงียบ...แล้วก็หยุดดิ้น ถ้าไม่อยากตาย”
มินนาราได้ยินเสียงของคนที่ปิดปากเธอจากทางด้านหลัง ก็ตกใจมากและนิ่งเงียบด้วยความกลัว
“อยู่เฉยๆแล้วเดินไปนิ่งๆอย่ากระตุกกระติก ไม่งั้นฉันยิงเธอแน่”
คนร้ายใช้อาวุธปืนจี้มาที่หลังของเธอจนเธอรู้สึกกลัวมากจนไม่กล้าขยับไปไหน
“แกต้องการอะไร...ฉันให้แกได้ทุกอย่างเลยนะ ขอแค่แกอย่าทำอะไรฉัน”
มินนาราเริ่มต่อรองกับคนร้าย
“หยุดพูด...แล้วเดินไปเงียบๆ”
“แกจะพาฉันไปไหน”
“อย่าถาม แล้วก็รีบเดินไปได้แล้ว เดิน...”
คนร้ายเอาปืนกดไปที่ช่วงเอวของเธอจนเธอตกใจ ทำให้รู้สึกกลัวมากจึงเริ่มขยับตามที่มันบอก
มินนาราเริ่มน้ำตาคลอออดมาด้วยความกลัว ใจสั่นเต้นแรงและในสมองเธอตอนนี้ก็คิดถึงแต่ใบหน้าของนวัธบอดี้การ์ดคนใหม่ของเธอว่าเขาจะรู้ไหมว่าตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย เธอมองซ้ายมองขวาเพื่อสื่อให้คนที่เดินผ่านแถวนั้นช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่เธอสื่อออกไป
“อย่ามีพิรุธ เดินไปดีๆไม่งั้นกูยิงมึงตรงนี้แน่...”
มินนาราเดินไปเรื่อยๆตามทางที่มันบอกอย่างช้าๆเพื่อดึงเวลา และเมื่อใกล้ถึงประตูทางออกของโรงพยาบาล
“คุณมิน...นั่นคุณจะไปไหนอะ..?”
มินนาราดีใจมากที่ได้ยินเสียงคนที่เธอกำลังรออยู่และในที่สุดเขาก็มาจริงๆ
“นาย...”
มินนาราน้ำตาไหลออกมาทันทีด้วยความดีใจ เธอกำลังจะหันไปตามเสียงเรียกของเขา
“อย่าหันไป เดินไปตามที่กูบอก ถ้ามึงหันไปกูยิงมึงแน่”
มินนาราไม่กล้าหันไป เธอจึงยืนนิ่งๆและตัดสินใจก้าวเท้าออกไปข้างหน้าตามคำสั่งมัน
“นี่คุณจะผิดสัญญาหรอ ไหนบอกว่าจะดูแลผมให้ครบ 2 วันงัย นี่แค่วันเดียวเองนะ..?”
“…”
“คุณจะเบี้ยวหรอ...คุณมิน นี่...คุณมิน”
นวัธรู้สึกแปลกๆตั้งแต่แรกแล้ว เพราะเธอหายไปนายเกินไปจึงลองโทรเข้ามือถือผู้ติดตามแต่ก็ไม่มีใครรับสาย จึงรีบให้ผู้ติดตามอีกคนไปดูที่ชั้น 6 ที่เธอไปส่งคุณยายกับหลานชายที่เขาแอบไปดูเมื่อกี้ แต่เห็นคนติดตามของเธอนอนสลบอยู่หน้าลิฟต์ ทำให้เขารู้ว่ามินนาราโดนจับตัวไป นวัธจึงรีบลงมาดักรอด้านล่างและใช้แผนการทำเป็นไม่รู้เรื่องเพื่อหลอกล่อมัน
“นี่จะหนีไปจริงๆหรอ ไม่กลัวผมเอาเรื่องคุณไปแจ้งความหรือไง..?”
เขาพูดกับเธอเพื่อดึงเวลาให้ตำรวจรอบๆโรงพยาบาลมาช่วย
“นั่นไง...ตำรวจมาพอดีเลย มาเยอะซะด้วย...อยากโดนจับไหมละ ผมจะได้บอกตำรวจเลยว่าคุณทำอะไรกับผมไว้...”
นวัธเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และตำรวจ 3 รายก็เดินเข้ามาประกบมินนาราและคนร้ายที่จับตัวเธอไว้
“.....”
ทุกคนเริ่มเงียบไม่พูดอะไร
“คุณมิน เอาไงครับ จะให้ผมบอกคุณตำรวจเลยมั้ย..?”
เขาเดินเข้าไปช้าๆเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายในโรงพยาบาล และมันก็น่าจะได้ผล
“วันนี้มันยังไม่ใช่วันของมึง...อย่าคิดว่ามึงจะรอดไปได้ตลอด ต่อให้มึงมีบอดี้การ์ดอีก 10 คน พวกกูก็จะตามมาจัดการมึงและก็ครอบครัวของมึง...”
คนร้ายพูดกับเธอจบก็รีบวิ่งออกไปทันที
“เฮ้ย...รีบตามมันไปครับ”
นวัธเห็นคนร้ายวิ่งไปแล้วเขาก็รีบหันไปบอกตำรวจแถวนั่นให้วิ่งตามคนร้ายไป โดยที่เขารีบวิ่งมาดูมินนาราที่ยืนนิ่งอยู่
“คุณมิน....”
นวัธมองใบหน้าของมินนาราด้วยความเป็นห่วงเพราะตอนนี้ใบหน้าของเธอ เต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม
“นาย....ฉันกลัว...”
เธอพูดออกมาพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาเต็มใบหน้าจนนวัธต้องดึงเธอเข้าไปกอด
“คุณปลอดภัยแล้วครับ...คุณไม่ต้องกลัวแล้วนะ”
“ฮืออออ....”
มินนาราร้องให้เหมือนเด็กด้วยความกลัวสุดขีด
“เฮ้ย...คุณมิน คุณมินครับ”
มินนาราร้องให้ด้วยความกลัวปนความตกใจจนเธอเป็นลมล้มพับไป