Ep.2 : พลาด Nc++

3246 Words
‘อยู่ที่นี่...แล้วจะไม่มีคนตามเจอจริงไหม ฉันไม่อยากกลับไปอยู่ใน Loop ของผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว วงจรที่ไม่มีวันจบสิ้น มีแต่การหลอกลวง ฉันถูกหลอกมาตั้งแต่ 15 จนตอนนี้ 22 แล้ว ฉันจะไม่ทนอีกแล้ว’ หญิงสาวตัวเล็กได้แต่ปล่อยความคิดให้มันล่องลอยออกไป วงจรมายา ที่มีแต่คำว่าหลอกลวง มีแต่เรื่องของเงิน มีแต่เรื่องของชื่อเสียง ‘ต่อจากนี้ไป ฉันจะทำอไรก็ได้ที่อยากทำ กินอะไรก็ได้ที่อยากกิน เที่ยวที่ไหนก็ได้ที่อยากไป เริ่มจากการลองเที่ยวที่นี่ให้หนำใจก่อน’ เฟย์ลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำช้าๆ เรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นค่อยๆย่างก้าวออกจากอ่าง นี่คือก้าวใหม่ของเธอ ที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง โดยไร้มินตราคอยสั่งเธอ ว่าต้องทำโน่นทำนี่เหมือนที่ผ่านมา เรื่องซาเมื่อไหร่ เธอจะไปจากที่นี่ รีสอร์ตที่นี่แปลกนัก แม้จะสวย แต่ไม่ค่อยมีคนพัก ไร้กล้องวงจรปิดอแต่มี ร.ป.ภ. ยืนหน้านิ่งๆอยู่ทุกจุด ตามสิ่งที่ได้ยินมานั้น ที่นี่อยู่เหนือกฏหมาย แม้ตำรวจก็เข้ามายุ่งไม่ได้ ในความคิดของเธอตอนแรก ที่นี่คงจะเหมือนรังโจร หรือไม่ก็ควรจะอึมครึมมากกว่านี้ แต่ไม่ใช่เลย ที่นี่วิวสวย มองลงไปจากจุดชมวิว จะเห็นทุ่งดอกไม้สุดลูกตา อากาศก็ดี พนักงานที่นี่บริการดียิ้มแย้ม ไม่มีจุดที่ไหนบอกว่าที่นี่น่ากลัวเลย ไม่มีเหตุผลว่าเธอจะต้องกลัวอะไร ‘หรือที่ไม่มีคน เพราะมันมีผีรึเปล่า!!!!’ เธอสลัดความคิดไร้สาระในหัวทิ้ง แม้จะอดคิดไม่ได้ก็ตาม เพลงของเธอเองถูกเปิดขึ้น ในขณะที่เธอกำลังแต่งตัว เครื่องสำอางถูกแต่งแต้มลงบนใบหน้าหวานบางๆ ตวงตากลมโตที่ดูสดใสของนักแสดงอย่างเธอ จะไม่มีใครรู้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะเธอเก็บซ่อนทุกอย่างไว้ในใจได้เป็นอย่างดี มินตราสอนให้เธอโกหกก่อน จะสอนเธอท่องบทละครซะอีก และสิ่งที่เธอน่าจะเก่งที่สุด คงจะเป็นการปกปิดความจริง ที่รวมกับการแสดงที่ทุกคนเธอบอกว่าเป็นพรสวรรค์ “สวยแล้ว เงินก็มี ฉันจะทำอะไรก็ได้ แล้ววันนี้ฉันอยากจะลองเมาดูสักครั้ง” เฟย์พูดพลางมองกระจกแล้วหมุนตัวไปมา แว่นกันแดดราคาแพงถูกสวมไว้บนใบหน้า ก่อนจะใส่หมวกปีกกว้าง เพื่ออำพรางตัวเอง แบบนี้คงไม่มีใครจำเธอได้แน่ๆ ก่อนที่เธอจะเดินออกจากบ้านพักไปที่เลาจน์ของรีสอร์ท ที่มีสาวๆนุ่งสั้นยืนรอให้บริการ ที่นี่มีเสี่ยวแก่ๆ มามากพอสำควร แสดงว่าไม่ใช่รีสอร์ตผีสิงอย่างที่เธอคิดเอาไว้ เธอเลยตัดสินใจมานั่งที่เคาท์เตอร์บาร์ ที่มีบาร์เทนเดอร์สุดหล่อยืนรอรับบริการอยู่ “ดื่มอะไรดีครับ คุณมีอะไรในใจ” บาร์เทนเดอร์ถามถึงเครื่องดื่มที่อยู่ในใจ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทำเอาคนที่หนีความผิดมา ถึงกับสะดุ้ง แล้วเก็บอาการได้เป็นอย่างดี แล้วเชิ่ดหน้าตอบ “ไม่มีสักหน่อย” “ผมหมายถึงเครื่องดื่มครับ” นี่เป็นงานหนักของตัวเธออีกครั้ง แม้จะมีดนตรีที่ดังคลอเบาๆ แต่เสียงของบาร์เทนเดอร์กลับดังจนหูอึ้ง เพราะตั้งแต่ที่เธอเกิดมา เธอยังไม่เคยสั่งเครื่องดื่มในที่แบบนี้เลย แต่เคยจำได้ว่า มินตราเคยบอกว่าคนมีระดับต้องกินไวน์ราคาแพง “ขอไวน์แดง ที่ดีที่สุดที่ที่นี่จะมีได้” “ครับ พร้อมรับคำสั่งครับมาดาม” เพียงไม่นานไวน์แดงก็ถูกรินใส่แก้ว แล้ววางไว้ตรงหน้าเธอ แม้จะกล้าๆกลัวๆที่จะลองเพราะมินตราสั่งห้ามเธออย่างเด็ดขาด เพราะมันจะทำให้ความสามารถในการควบคุมตัวเองลดลง “แด่วันนี้ฉันไม่มีพี่” เครื่องดื่มในแก้วถูกกระดกใส่ปากรวดเดียวจนหมด แต่มันกลับไม่อร่อยอย่างที่เธอคิด มันทั้งขมปนด้วยรสเปรี้ยว แถมกลิ่นก็ยังแรงมากอีกด้วย “บาร์เทนเดอร์ทำไมมันไม่อร่อย เอามาใหม่” เสียงเล็กๆที่วีนออกมาใส่บาร์เทนเดอร์ ทำเอาเค้างุนงง ก่อนจะรินไวน์แดงที่แพงและดีที่สุดของรีสอร์ตให้สาวที่สวมหมวกปีกกว้างแม้จะไม่มีแดด “นี่คือไวน์แดงจาก Nederburg ผมว่าคุณคงจะพอใจนะครับ” ‘มันคืออะไรอะ ไม่รู้จัก ทุกวันนี่จะกินสปาย พี่มินตรายังไม่ให้กินเลย’ ความคิดในหัว กับท่าทีของเธอ มันช่างสวนทางกันนัก แต่เธอก็รับไวน์ชั้นดีนั่นมา ความร้อนวูบวาบจากไวน์แก้วแรก ทำเอาเธอมองไวน์แก้วที่สองอย่างกล้าๆกลัวๆ “เอาวะ แด่อิสรภาพ” ไวน์แก้วที่สองถูกกระดกพรวดจนหมดแก้วอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันละมุนกว่าอันเก่ามากนัก แต่ความขมของแอลกอฮอล์ ก็ยังมากมายจนกินยากอยู่ดี ตอนนี้เธอคิดถึงนมสดจับใจ ‘ขมแบบนี้ ทนกินเข้าไปได้ยังไงเป็นขวดๆ’ “ขออีกแก้ว มีที่ขมน้อยกว่านี้ไหม” บาร์เทนเดอร์ยิ้มให้สาวน้อย ที่ร้องหาของที่หวานกว่า แล้วก็ลงมือผสมคอกเทลให้สาวน้อยตรงหน้าอย่างชำนาญ “ที่นี่คนน้อยแบบนี้ทุกวันหรอ” เธอมองไปรอบๆร้านที่มีเสี่ยแก่ๆมาเที่ยว แต่ทำไมไม่เห็นมีครอบครับ หรือคู่รัก หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่คนแก่ลามกที่มาทำอนาจารในที่สาธารณะแบบนี้ “ครับ มันก็น้อยแบบนี้ ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาล....มาการิต้า สำหรับคุณผู้หญิงครับ” บาเทนเดอร์วางเครื่องดื่มคล้ายน้ำมะนาว ลงตรงหน้าของเธอ นี่เป็นอีกครั้งที่เธอแก้วเครื่องดื่มมาอย่างกล้าๆกลัวๆ แม้ตอนนี้ร่างกายของเธอจะร้อนรุ่มไปหมด ‘ลองสักหน่อยก็ไม่เสียหาย ทำมาแล้วนิ น้ำมะนาวคงไม่มีอะไรมากหรอกมั้ง’ แล้วมันก็เป็นอย่างที่เธอคิด เพราะกลิ่นจากมะนาว และองุ่นจางๆ มันกลบกลิ่นแอลกอฮอล์จนกินง่าย ไม่เหมือนไวน์ 2 แก้วแรกที่ผ่านมา “มีแบบอื่นอีกมะ อยากลองอะ” หญิงสาวที่เชิ่ดตลอดเริ่มมีรอยยิ้ม แล้วโยกตัวตามเสียงเพลงน้อยๆ “งั้นผมนำเสนออันนี้เลยครับ” บาร์เทนเดอร์รับคำ แล้วนำนั่นใส่นี่แล้วเขย่าแก้วโลหะ ก่อนจะเทเครื่องดื่มใส่แล้วทรงสวยแล้วส่งให้เฟย์ “อันนี้เค้าเรียกอะไร” “สตรอว์เบอร์รี่ ไดคีรี ผมว่าถ้าชอบหวานอมเปรี้ยว อันนี้น่าจะตอบโจทย์คุณ แต่เบาๆหน่อยนะครับ ภายใต้รสของมัน มันยังมีความเป็มรัม” เฟย์รับแก้วที่ไม่ต่างจากน้ำสตรอว์เบอร์รี่จากบาร์เทนเดอร์ด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์หนุ่มอย่างลื่นไหล ความเป็นเฟย์ของเธอมันเริ่มลดลง มันเหลือแค่ตัวเธอที่ได้คุยกับใครสักคนนอกจากมินตรา ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์มันเริ่มมากขึ้นแก้วต่อแก้ว จากคนที่เย่อหยิ่งกลับพูดจ้อ ระบายความในใจ ก่อนฟุบลงไปกับเคาท์เตอร์ แม้จะไม่ได้หลับ แต่ก็ยกหัวไม่ไหว บาร์เทนเดอร์เลยหยุดที่จะส่งเครื่องดื่มให้เธอ เพราะเธอไม่ไหวแล้ว “อาวววมาอีกสิคะ” “จะดีหรือครับ งั้นสุดท้ายแล้วนะ คุณไม่ไหวแล้ว” “ไหวย่ะ แค่หัวหนัก แฮ่...” วายุ Say :: พอผมเดินผ่านเลาจน์ของรีสอร์ต กลับเจอบาร์เทนเดอร์ของผมกำลังหิ้วแขก ออกจากเลาจน์มันทำให้ผมต้องรีบเดินเข้าไปหาทันที เพราะถ้าแขกของคนอื่นมาเห็นมันจะดูไม่ดี ซึ่ถามว่าตอนนี้มีไหม ก็ไม่มี “ทำอะไรไอ้เต” ผมถามบาร์เทนเดอร์ของผม ที่มีสีตกใจเล็กน้อยที่เจอผม “ผมเปล่านะ เธอเมามากเลยครับ ผมจะพาเธอไปส่งที่บ้านพัก” “ฉันจัดการเอง ไปทำงานต่อไป” ผมรับร่างของหญิงสาวมาจากบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อ แต่จังหวะที่ผมรับเธอ หมวกปีกกว้างของเธอมันกลับหลุดออก จนเผยให้เห็นใบหน้าหวานจิ้มลิ้มของเธอชัดเจน คุ้นหน้าจังเลย ผมพยักหน้าให้ไอ้เตเข้าไปทำงาน แล้วรับหญิงสาวที่ตัวเล็กมาไว้ในอ้อมกอดแทน “ใคร ใคร!! คายปิดไฟฉัน อ่ออ..แว่นนนกานแดด แฮะๆ” แล้วมือเล็กๆของเธอก็ถอดแว่นกันแดดของตัวเองออก ผมถึงได้รู้ว่าหญิงสาวที่ผมหอบอยู่นั้น เป็น Idol ชื่อดัง แต่ยัยนี่ชื่ออะไรนะ ผมไม่ใช่พวกติดตามดาราซะด้วยสิ เดี๋ยวค่อยถามแล้วกัน พิกัดปลายทางของผมเปลี่ยนไปทันที จากบ้านพักของเธอ เป็นบ้านของผมเอง “เดินไหวไหม ผมอุ้มดีรึเปล่า” เบาแบบนี้บอกเลยผมอุ้มได้ทั้งคืน คืนนี้กินเนื้อโกเบบ้างก็ดี “ไม่ไหว อุ้ม อุ้มหน่อยนะ ว่าแต่คุณเป็นคายอะ อ่ออออ คุณเจ้าของรีสอร์ต แฮ่ะ ดูแลดีแบบนี้ทิปหนักๆ” ไปถามกันบนเตียงก็แล้วกัน ผมไม่ใช่พวกชอบฉวยโอกาสนะ ผมแค่ชอบสร้างโอกาสให้ตัวเอง ถ้าเธอไม่โอเคผมจะปล่อยเธอไป แต่ถ้ามันสปาร์คบอกเลยใครเจอผมก็ติดใจทุกคน ผมอุ้มช้อนคนตัวเล็กขึ้นมาแล้วตรงกลับไปที่บ้านของผมเอง แม่บ้านทุกคนถูกไล่ออกไปจากบ้านหมด เหลือเพียงแค่ผมกับเธอที่นั่งอยู่ที่โซฟา “คุณอยากดื่มอะไรไหม” “สตรอว์เบอร์รี่ ไดคีรี” คอกเทลที่นี่มันจะไปมีได้ยังไงเล่า!!! ผมไม่ใช่บาร์เทนเดอร์นะ!!! ผมเทไวน์แดงใส่แก้วแล้วส่งให้หญิงสาวที่ตอนนี้เลื้อยหมดสภาพ ก่อนจะเทให้ตัวเองในปริมาณที่มากกว่า ไม่เหลือเลยความขี้เหวี่ยงเมื่อวานเลยแฮะ “อะไรหอบคุณมาที่นี่” “คุณงายยย ก็คุณอุ้มฉ้านนนมา” อันนี้กวนตีนผมใช่ไหม เอาเถอะ...ผมผิดเอง ผมอาจจะถามคนเมาไม่เคลียร์ “ผมอยากรู้ว่า ทำไมคุณถึงมาพักที่นี่คนเดียว” “อย่าบอกคายนะ ฉันหนีมาาาาา ฉันจะไม่กลับไปทนกับโลกโสมมนั่นอีกแล้ว ฉันเบื่อละ ตอนนี้ฉันอยากจะทำอะไรก็ทำ อยากกินอะไรก็กิน แล้วอยากดูอะไรก็ดู” หนีมาจริงๆด้วยแฮะ ดาราหนีกล้องงั้นหรอ หึ เสียงหัวใจของเธออาจจะเต้นเร็วด้วยสุรา แต่สม่ำเสมอ เธอไม่ได้โกหกแน่ๆ “อันนี้ของคุณ บอกผมได้ไหมคุณอยากทำอะไร” ผมถือแก้วไวน์แล้วเนียนไปนั่งข้างเธอ โดยที่เธอเองก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจผมเหมือนตอนแรกที่เจอกัน “คุณหล่อจังเลย แต่บอกเลยหล่อกว่าคุณฉันปฏิเสธมาแล้ว” นั่นนนนน นี่กวนตีนผมจริงจริงใช่ไหม แต่เธอดูตัวเล็กไปไหมนะ อย่างอื่นก็เล็กตามไปด้วย ผู้หญิงหน้าอกเล็กมันก็ไม่เซ็กซี่นะสิ อื้มมมมม แย่จัง เอานะ....ก็ยังดีกว่าไม่มี หน้าของเธอก็น่ารักดี ถูกไถไปก่อนได้ “ตาคุณสวยจัง” ผมก็ชมผู้หญิงแบบนี้ทุกคนอะ แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะทำตาปริบๆใส่ผม โดยไร้ท่าทีเขินอายเหมือนผู้หญิงคนอื่น “จูบฉันหน่อย” “ขอโทษนะ ผมจะไม่จูบ” แต่ดูเหมือนจะไม่ฟัง กลับดึงคอเสื้อผมเข้าไปจูบซะงั้น ผมจะผลักเธอออก แต่เดี๋ยว!!! เธอแค่เอาปากแตะเอาไว้หรอ แค่นี้หรอ????? ได้จูบผมทั้งที ทำแค่เนี้ยะ!!!! “ปกติฉันถูกบังคับให้จูบ ฉันไม่ชอบเลย อ่อออ จูบที่ไม่ต้องถูกคนบังคับมันเป็นแบบนี้นิเอง ภูมิใจไว้เถอะ คุณเป็นคนที่เฟย์จูบด้วย” แล้วเธอก็ยิ้มด้วยสายตาเศร้าๆออกมา พวกนักแสดงเนี่ยเค้าสั่งให้จูบ ก็ต้องจูบสินะ น่าสงสารจริง “แบบนั้นไม่เรียกว่าจูบ เค้าเรียกว่าแตะ” ผมรวบคนตัวเล็กขึ้นมาบนตัก แล้วประกบริมฝีปากเธออีกครั้ง ริมฝีปากเล็กๆที่ไม่ยอมขยับเลย เหมือนเธอจะอึ้งๆนิดๆ ผมจึงต้องขยับนำเธอช้าๆ มันได้ผลเธอขยับตามอย่างเนิบนาบ ง่ายกว่าที่คิดแฮะ อาจจะเพราะเธอเมาด้วย ทุกอย่างมันเลยดูง่ายไปหมด ผมถอนจูบออกมาช้าๆ เพื่อมองดวงตากลมโตข้างหน้า “คุณจูบฉันทำไมอะ” “เค้าเรียกว่าสอน ต้องแบบนี้สิเรียกว่าจูบ” ผมกระดกแก้วไวน์ของตัวเองจนหมด ซี่งเธอก็ทำตามผมด้วย บอกเลยคืนนี้ได้แน่ๆ “ฉันรู้ ฉันจูบผู้ชายมาเป็บสิบแล้วยะ แต่คุณจูบอร่อย แฮ่ะๆ” “ผมชื่อวายุนะ คุณเฟย์ผมเป็นแฟนคลับคุณ” จะไปใช่ได้ไง ผมเพิ่งจะนึกชื่อเธอออกตอนที่เธอบอกชื่อตัวเองเมื่อครู่ ผมยิ้มให้สาวน้อยบนตัก ผมเคยเจอเธอครั้งนึงเมื่อนานมาแล้ว จำได้ว่าตอนนั้นเธอยังเด็กกว่านี้มาก ผ่านมาตั้งนาน ก็ยังไม่ใหญ่ขึ้นเลยแฮะ เดี๋ยวๆ ทำไมเรียกของหัวใจของเธอมันดังขึ้นเรื่อยๆ ชอบผมหรอ ตื่นเต้น หรืออะไรนะ มันเร็วและหน่วง เดี๋ยวๆ คงไม่ใช่ !!!!!! “อุแหวะ อุแหวะ” “คุณควรจะไปห้องน้ำ!!! โธ่ หมดอารมณ์เลย” มันเลอะทั้งผม และเธอ ยังไงก็ต้องล้างอยู่ดี เลอะขนาดนี้แค่เช็ดไม่ไหวหรอกมั้ง แล้วสภาพแบบนี้คงไล่ให้กลับไปไม่ไหว อ้วกแล้วอย่ากอดคนอื่นได้ไหม เธอกอดคอผมแล้วซบลงมาที่ไหล่กว้าง ทิ้งตัวสุดๆ ยัยนี่มันยังไงเนี่ย ผมจำใจอุ้มเธอเข้ามาในห้องน้ำแล้วเปิดฝักบัวฉีดชุดที่เลอะอ้วกของเธอห่างๆ คุณคงไม่คิดว่าผมจะเป็นสุภาพบุรุษ ล้างให้เธอใช่ไหม ผมเอาน้ำฉีดเลยล่ะ กล้ามาที่มาอ้วกใส่ผม “เปียกจัง” สภาพเธอที่นั่งอยู่กับพื้นตอนนี้ดูไม่ได้เลย “เปียกสิคุณอ้วกนิ” ผมฉีดน้ำใส่เธอแบบนั้นนั่นแหละ นึกภาพไม่ออกเหมือนคุณเจอแมลงสาบในห้องน้ำ แล้วใช้ที่ฉีดก้นฉีดให้มันออกไปไกลๆ ภาพของผมตอนนี้ประมาณนั้นเลย แค่เปลี่ยนเป็นผมใช้ฝักบัวแทน แต่สิ่งที่เกินความคาดหมายของผมคือเธอถอดชุดที่เปียกออก เผยให้เห็นชุดชั้นในสีขาวที่เธอใส่ อื้มมม เอาไงต่อดีวะเนี่ย ถอดขนาดนี้แล้ว “คุณก็เลอะ” “อะ..ใช่ อ้วกคุณนั่นแหละ” “อี้...คุณควรจะอาบน้ำ” ยังกล้าาา...มาอี้อีก!!!! นี่มันฝีมือคุณนะ ผมได้แต่สะกดอารมณ์กับความกวนโอ้ยของเธอ จะเอาแบบนี้สินะ จะเอาแบบนี้ใช่มะ ผมล้วงของจากกระเป๋ากางเกงออกวางไว้บนอ่างล้างหน้า แล้วถอดเสื้อเชิ้ตที่เลอะอ้วกออก ก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอที่นั่งพิงกำแพง ผมเก็บฝักบัวให้อยู่ในที่มันควรจะอยู่ ให้น้ำเย็นๆมันสาดลงมาใส่เราทั้งคู่แล้วดึงเธอขึ้นมาให้ลุกขึ้นยืน ริมฝีปากประกบบดขยี้กลีบปากเล็กๆของเธอ พร้อมเร่งเร้าให้ร่างกายของเราร้อนด้วยบทจูบแสนหวาน เธอมีอาการต่อต้านเล็กน้อย เพราะดูเหมือนเธอจะส่างบ้างแล้ว ผมเร่งบทจูบขึ้นอีก มันดีขึ้นการต่อต้านของเธอน้อยลง “เดี๋ยว!!! คุณจะทำอะไร” “อาบน้ำกับคุณไง” ผมไม่ปล่อยให้ริมฝีปากของเธอว่างนาน ปกติผมไม่ใช่คนแบบนี้เลย ผมจะไม่ทำอะไรที่ผู้หญิงไม่เต็มใจ แต่นี่ผมต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว ให้มันรู้ซะบ้างว่าผมเป็นใคร ผมสอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธอในช่วงที่เธอเผลอ แล้วควานตวัดเข้าไปในปากที่มีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์ อาการต่อต้านของเธอแทบไม่เหลือ ผมจึงเริ่มขั้นต่อไปทันที มือซุกซนลูบไล้ผิวขาวผุดผ่องของเธอไม่หยุด หวังกระตุ้นอารมณ์ของเธอ ให้ไม่หยุดอยู่แค่จูบ “อื้ออออ จ๊วบ” เธอครางออกมาเบาๆ โดยที่ปากของเรายังไม่อาจจะถอนออกจากกันได้เลย ผมดันร่างที่อ่อนปวกเปียกชิดกำแพง แล้วไล่ริมฝีปากลงมาจากปากมาที่ซอกคอขาว “อื้อออ” เสียงครางที่ดังขึ้นของเธอ ทำให้ผมรู้ว่าเธอเริ่มมีอารมณ์ ผมใช้มือใหญ่ลููบไปทั่วแผ่นหลัง ก่อนจะเนียนปลดตะขอเสื้อในของเธอออก แล้วดึงมันออกด้วยความเร็วก่อนที่เธอจะคว้ามันไว้ได้ทัน หน้าอกกลมโตกับยอดอกสีชมพูสวย มันตั้งท้าทายสายมากๆแต่เพราะตัวเธอเล็กเหลือเกินไป ทำให้จะก้มไปดูดก็ลำบาก ผมเลยต้องอุ้มเธอขึ้นมา แล้วใช้หลังเธอดันกับผนังเพื่อช่วยผยุงน้ำหนักเอาไว้ ทีนี้ผมถึงจะได้จัดการกับหน้าอกของเธอได้สักที ผมครอบริมฝีปากลงบนปลายยอดสีชมพูสวย เพียงแค่ออกแรงดูดเบาๆ คนตัวเล็กกอดคอผมเอาไว้แน่น “ซี๊ดดดดด อื้มมมมม คุณ” จ๊วบ จ๊วบๆ เสียงดังเมื่อหน้าอกของเธอถูกดูดฟัดสองข้างอย่างเมามัน เสียงครางที่ดังออกมาไม่ขาดมันทำเอาผมทนไม่ไหว จะจัดการเธอซะในห้องน้ำนี้แหละ จะได้จบๆกันไป แต่ยัยนี่ไม่รู้งานเอาซะเลย ให้ผมทำให้ทุกอย่างมันเสียเวลา ผมจัดการปลดเข็มขัดแล้วถอดกางเกงที่เปียกน้ำออกอย่างยากลำบาก ก่อนจะไปจัดการถอดแพนดี้ตัวจิ๋วของเธอออก เธอไม่ได้ให้ความร่วมมือแต่ก็ไม่ได้ขัดขวางใดๆ ได้ยินแต่เสียงหัวใจที่เต้นรัวของเธอ ตื่นเต้น หรือกลัวกันนะ “ที่รัก เราคงต้องไปต่อข้างนอกแล้ว หมวกกันน็อคอยู่ข้างนอก” ผมไม่ได้รอคำตอบจากเธอหรอก ผมอุ้มคนตัวเล็กกลับเข้าไปในห้อง ที่เย็นฉ่ำไปไปด้วยความเย็นจากเครื่องปรับอากาศ ก่อนที่ตัวผมเองจะเปิดลิ้นชักแล้วหยิบถุงยางมาสวมทันที ชักช้าเสียเวลา ตอนนี้เสียงหัวใจของเธอเต้นดังขึ้นอีก แต่ร่างกายเธอกลับนิ่ง มาเปลี่ยนใจตอนนี้ไม่ได้แล้วนะ ผมพร้อมขนาดนี้แล้ว ผมถูเจ้ามังกรตาเดียวของผมกับร่องนุ่มๆแล้วดันพรวดเข้าไปเหมือนทุกที “กรี๊ดดดดดดดดดดดดด” เหี้ยยยยย!!!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD