“ก็เออสิวะ ฉันนี่หลอกถามมาแล้ว ไม่เคยมีแฟนเลยตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบเอ็ด น่าสงสารเสียจริง ฉันเลยช่วยสงเคราะห์ให้”
“แกไม่สนใจพรหมจรรย์ของน้องเชยเหรอวะ ผู้หญิงเดี๋ยวนี้หายากนะโว้ยที่ยังจิ้น”
“ก็สนใจสิวะ กะว่าจะฟันก่อนทิ้ง ให้เงินไปสักก้อนไปทำรีแพร์ใหม่” ปราบพูดติดตลก แต่เขาคิดแบบนั้นจริง ๆ ถึงจะเฉิ่มเชยไปหน่อย แต่เขาก็อยากลองมีอะไรกับผู้หญิงเวอร์จิ้นดูบ้าง เพราะที่เคยเจอมาโดนเอามาหมดแล้ว
“พวกแกสองคนนี่ยังไง ฉันนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้ แล้วที่ผู้หญิงไม่เวอร์จิ้นก็เพราะมีผู้ชายอย่างพวกแกนี่แหละ” ดวงขวัญว่าให้
“ซีเรียสไปได้” ปราบพูดกับดวงขวัญขำๆ แต่เธอไม่ขำด้วย
“ถ้าแกเผลอไปมีอะไรกับน้องเชย น้องเขาจะยิ่งรักแก ดีไม่ดีจะตามไปทุกที่ไม่ยอมห่างเลยนะ” ปองภพเอ่ยเตือน
“แล้วตายไปจะไปบอกยมบาลว่ายังไง บอกว่าไม่มีใครเอาเลยยังจิ้นอยู่เหรอวะ” ปราบพูดติดตลกทำปองภพหัวเราะอีก
“แกนี่ก็พูดไปได้”
“อย่าลืมที่แกพนันกับฉันเอาไว้ ถ้าน้องเชยรักฉันเมื่อไหร่แกเตรียมตัวแพ้พนันได้เลย”
“ฉันว่าฉันแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยว่ะ ท่าทางน้องเชยจะรักแกหลงแกจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว ไม่น่าไปพนันกับแกเลย” ปองภพส่ายหน้าไปมา
“ก็ของมันแน่อยู่แล้ว” ความมั่นหน้ามั่นโหนกของเพื่อนทำให้ปองภพหัวเราะร่วน
“หัวเราะอะไรกันเหรอคะ” เสียงทักทายของคนที่อยู่ในหัวข้อสนทนาทำเอาสองหนุ่มสะดุ้ง
แม้จะหัวเราะไม่ดังนักเพราะห้องอาหารก็เป็นส่วนตัวไม่ได้รบกวนคนอื่น เนื่องจากย้ายโต๊ะเพื่อที่จะได้นั่งคุยกันสะดวก แต่พลอยฟ้าก็นึกสงสัยว่าสองหนุ่มหัวเราะอะไรกัน ถึงได้ขบขันเสียขนาดนี้
“เฮ้ย!” สองหนุ่มอุทานพร้อมกัน ตกใจที่เห็นพลอยฟ้าโผล่มาแบบนี้
“ตกใจอะไรกันเหรอคะ”
“น้องพลอยมานานแล้วเหรอคะ” ปราบระล่ำระลักถาม
“พลอยเพิ่งเดินมาถึงค่ะ ได้ยินพวกพี่หัวเราะกันอยู่”
“ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ คุยเรื่องโจ๊กกันอยู่เลยหัวเราะออกมา” ปราบรีบโกหกคำโต ลอบผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก คิดว่าพลอยฟ้าได้ยินที่เขาพูดกับเพื่อน ถ้าเป็นอย่างนั้นเขาซวยแย่เลย เพราะแผนแตก
“น้องพลอยอิ่มหรือยังคะ เราจะได้เข้าบริษัทกัน”
“พลอยอิ่มแล้วค่ะ”
“งั้นแยกย้ายกันตรงนี้เลยนะโว้ย!” ปราบพูดกับเพื่อนทั้งสอง ก่อนจะเอ่ยลาแล้วเขาก็ให้คนขับรถมารับกลับบริษัท
พลอยฟ้าอยากทำงานไม่อยากอยู่นิ่ง ๆ ปราบจึงหางานให้เธอทำ ไม่ว่าจะเป็นพวกเอกสารหรือคำสั่งต่าง ๆ ที่ต้องอนุมัติ เขาก็จัดให้เธอทำตามที่ขอ และปรากฏว่าเธอก็ทำงานได้ดีไม่มีที่ติ ทำให้เขานึกทึ่งในความสามารถของเธออยู่มาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขารักเธอขึ้นมาได้ เขาได้ที่ดินเมื่อไหร่ เขาได้แต่งงานกับเธอเมื่อไหร่ เขาจะเลิกกับเธอทันที เขาคิดแผนการแต่งงานหลอก ๆ เอาไว้แล้ว ให้บิดากับมารดารับรู้เป็นพอ ไม่ต้องจัดงานใหญ่โต พาเจ้าสาวกำมะลอของเขาไปเลี้ยงอาหารบ้านเด็กกำพร้าเป็นการแต่งงานในรูปแบบของการทำบุญทำทาน วางแพลนกันว่าไม่อยากจัดงานให้สิ้นเปลือง เอาเงินจำนวนนั้นไปทำบุญ คิดว่าคงไม่มีใครว่าอะไร
เลิกงานตอนเย็น...
“เดี๋ยวพี่ไปส่งน้องพลอยที่บ้านนะคะ แต่ก่อนกลับบ้านพี่จะพาไปรับประทานอาหารอร่อย ๆ ก่อนกลับนะครับ”
“วันนี้คุณยายทำอาหารไว้รอน่ะค่ะ พลอยขอเชิญพี่ปราบไปรับประทานอาหารที่บ้านของพลอยนะคะ”
“อ้อ... ครับ” ปราบก็เออออ ให้คนขับรถมารอรับเธอในที่ที่นัดหมายกันเอาไว้ กันพนักงานในบริษัทเห็นเช่นเดิม
มาถึงบ้านเรือนไทยของคุณยาย ปราบก็กล่าวสวัสดีอย่างนอบน้อม คุณยายกำลังจัดโต๊ะอาหารรอ ปราบจึงเข้าไปช่วยแสดงความมีน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้คนแก่ตายใจ
“ผมช่วยครับ”
“พ่อปราบนี่มีน้ำใจเสียจริง ไม่ต้องหรอกจ้ะ พลอยพาพี่เขาไปล้างหน้าล้างตา ล้างไม้ล้างมือเถอะจ้ะ ทางนี้เดี๋ยวยายให้แม่สายสมรเขาจัดการเอง”
“ค่ะคุณยาย” พลอยฟ้ารับคำ ก่อนจะพาคู่หมั้นหนุ่มไปจัดการตามที่ยายสั่ง
“น้ำโรยดอกมะลิค่ะพี่ปราบ ดื่มแล้วจะได้สดชื่นนะคะ” เธอนำผ้ามาให้เขาเช็ดหน้าเช็ดตา เช็ดไม้เช็ดมือและเสิร์ฟน้ำเย็น ๆ ให้เขาดื่ม
“หอมชื่นใจจังเลยค่ะ” ปราบรับไปดื่มก่อนจะเอ่ยขึ้น
“กินข้าวกินปลากันก่อนนะจ๊ะ วันนี้ยายทำกับข้าวเยอะแยะเลย” คุณยายพิมพ์จันทร์เอ่ยขึ้น ท่าทีเอ็นดูว่าที่หลานเขยไม่น้อย
“ครับคุณยาย” ปราบรับคำ เขายอมรับว่าอาหารที่บ้านของคุณยายพิมพ์จันทร์อร่อยไม่เป็นสองรองใคร ถ้าทำได้ก็อยากที่จะมาฝากท้องที่นี่ทุกวัน
คุณยายทำอาหารไทยอร่อยมากจริง ๆ แบบที่เขาเองก็ไม่เคยกินอาหารอร่อยเท่านี้มาก่อน หรือถ้าเคยกินอยู่บ้างก็หายากเต็มทีที่จะทั้งหอม ทั้งอร่อย รสชาติกลมกล่อม ละมุนลิ้นขนาดนี้
มัสมั่นเนื้อรสชาติแหลมคม แค่ได้กลิ่นก็รู้สึกหิว ต้องกลืนน้ำลายลงคอติดกันหลายครั้งเพราะมันหอมหวนชวนกินเสียเหลือเกิน เนื้อนุ่มละลายในปาก กินแล้วต้องหลับตาจินตนาการว่าได้ไปเยือนสวรรค์ชั้นเจ็ด
“พอกินได้ไหมล่ะจ๊ะ” ประโยคของคุณยายพิมพ์จันทร์ทำให้ปราบรีบตอบรับด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“อร่อยครับ อร่อยมาก ผมรู้แล้วครับว่าหลานสาวของคุณยายทำอาหารอร่อยเหมือนใคร” เขาได้เคยกินอาหารฝีมือของพลอยฟ้ามาบ้างแล้ว บอกได้คำเดียวว่าอร่อยไม่เป็นสองรองใคร
สายตาที่มองมาของชายหนุ่ม ทำให้พลอยฟ้าถึงกับเขินอายหน้าแดง
“อร่อยก็กินเยอะ ๆ นะ” คุณยายพูดแล้วยิ้มอย่างเอ็นดู มื้อนั้นปราบเจริญอาหารอีกเช่นเคย
ปราบทำตัวดีเสมอต้นเสมอปลาย เขาสามารถเอาชนะใจของสองยายหลานได้ไม่อยาก เช้าถึง เย็นถึง ของฝากติดไม้ติดมือไม่เคยขาด ทำให้ปราบกลายเป็นแขกประจำบ้านคนโปรดของคุณยายไปเสียแล้ว
“พรุ่งนี้เช้าพี่มารับนะคะ” ปราบเอ่ยขึ้นเมื่อหญิงสาวเดินมาส่งเขาที่รถ พลางจับมือของเธอมากุมเอาไว้
“อุ๊ย! พี่ปราบปล่อยก่อนค่ะ เดี๋ยวคุณยายเห็นจะดุเอา” คนหวงเนื้อหวงตัวรีบดึงมือหนี
ปราบยกมือของตัวเองขึ้นมาดม ก่อนจะเอ่ยเสียงหวาน
“หอมจังครับ” เขาปากหวานใส่ ทำเอาพลอยฟ้าถึงกับหน้าแดง
“พี่ปราบน่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้”
“พรุ่งนี้พี่มารับนะคะ”
“รบกวนพี่ปราบเปล่า ๆ ค่ะ พลอยไปเองดีกว่า พี่ปราบจะได้ไม่ต้องเสียเวลาวนรถมารับน่ะค่ะ”
“ไม่รบกวนอะไรเลยค่ะ พี่ยินดีและเต็มใจ ห้ามปฏิเสธพี่นะครับ ไม่งั้นพี่น้อยใจแย่เลย”
“ก็ได้ค่ะ” เธอไม่อยากปฏิเสธให้เขาต้องเสียน้ำใจ แม้จะเกรงใจแค่ไหนก็ตามที