5

1274 Words
“งั้นพี่ไปก่อนนะคะ” “ขับรถดี ๆ นะคะ” “ครับคนดี” ปราบรับคำ ก่อนจะขับรถออกไปจากบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ พลอยฟ้าเดินเข้าบ้านก็เจอกับคุณยายนั่งเอนหลังอยู่ในห้องรับแขก “คุณยายยังไม่นอนหรือคะ” “เดี๋ยวก็จะนอนแล้วจ้ะ ขอยายเอนหลังอีกสักแป๊บ พ่อปราบกลับไปแล้วเหรอ” “ค่ะคุณยาย” “พ่อปราบนี่น่ารักเสียจริง เราล่ะคิดว่ายังไง” “เอ่อ... พี่ปราบก็เป็นคนน่ารักเอาใจเก่งค่ะ” “แต่ดูท่าจะเจ้าชู้พอตัวเลยนะ” จากสายตาหญิงชรา ปราบก็ดูไม่ธรรมดา จึงเอ่ยเตือนหลานสาวอ้อม ๆ ไม่พูดตรง ๆ หรือพูดจาบังคับ กลัวจะทำให้กดดันหรือเครียด เพราะดูท่าทีแล้วหลานสาวคงมีใจให้คู่หมั้นตัวเองเสียเต็มเปา “คุณยายคิดว่าพี่ปราบเจ้าชู้หรือคะ” “แล้วเราล่ะ คิดว่ายังไง” “หนูไม่เคยเห็นพี่ปราบไปเกาะแกะสาวคนไหนเลยค่ะคุณยาย” “เราก็ไม่ได้อยู่กับเขาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงนี่นา” “ก็จริงค่ะ แต่ถ้าไม่เห็นกับตา หนูก็ไม่อยากคิดไปก่อนน่ะค่ะ ไม่อยากเครียดหรือเอาแต่ระแวง” “คิดแบบนั้นก็ดี แต่ก็ต้องดูกันให้ดี ๆ ถึงจะเป็นคู่หมั้นกัน แต่ยายไม่ได้บังคับหรอกนะ ถ้าหนูคิดว่าอยากแต่งกับเขายายก็ไม่ว่า หรือไม่อยากแต่งยายก็ไม่ว่าอีกนั่นแหละ ยายจะออกหน้าให้เองถ้าวันไหนหนูรู้สึกว่าพี่เขาไม่ใช่และไม่อยากแต่งกับเขา” “ค่ะคุณยาย หนูรักคุณยายที่สุดเลยค่ะ” เธอกอดรัดคุณยายแนบอก แม้ไม่มีบิดามารดา แต่คุณยายของเธอก็เลี้ยงเธอมาอย่างดี “ยายก็รักหนูจ้ะคนดี จะเลือกคู่ครองต้องเลือกให้ดี ๆ ตัดคำว่าคู่หมั้นทิ้งไปเพราะเราไม่ได้เลือกหมั้นกับพี่เขาแต่แรก เป็นเพราะพ่อแม่ แต่ถ้าหนูรักเขา อยากใช้ชีวิตร่วมกับเขา ได้เห็นข้อเสียของกันและกันและรับได้ ยายก็ไม่ว่าอะไร” คุณยายเตือนสติ “ค่ะคุณยาย” “เป็นผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวไปกับผู้ชายง่าย ๆ ถ้าเขารักเราจริงเขาก็ต้องให้เกียรติเราด้วย ไม่ใช่คิดแต่จะล่วงเกินเรา หรือไม่ก็ได้โอกาสก็ลวนลามเรา เราต้องดูข้อนี้ด้วย” “ค่ะคุณยาย” “ถ้าเขาโกรธ เขาโมโห ที่ไม่ได้ลวนลามเราก็แสดงว่าเขาไม่ดีพอ ไม่ได้จริงจังให้เกียรติเราจริง ๆ อย่าไปเสียเวลากับคนแบบนั้นเด็ดขาด หนูเข้าใจไหม” “ค่ะคุณยาย หนูไม่เคยปล่อยเนื้อปล่อยตัวค่ะ แล้วพี่ปราบก็ไม่เคยล่วงเกินหนูมากเกินกว่าจับมือน่ะค่ะ” เธอบอกไปตามตรงแต่ไม่ทั้งหมด เพราะพักหลังปราบมีหอมแก้มเธอด้วย เธอกลัวคุณยายจะไม่สบายใจ คุณยายเป็นคนหัวโบราณ สอนให้เธอให้รักนวลสงวนตัว อย่าชิงสุกก่อนห่าม “ยายน่ะเชื่อใจหนูจ้ะ ไปพักผ่อนเถอะ ยายก็จะพักผ่อนแล้วเหมือนกัน” “หนูพาคุณยายเข้านอนนะคะ” “ไม่ต้องหรอกจ้ะ ยายยังแข็งแรง เดินเองได้ เราน่ะทำงานมาทั้งวัน ไปพักเถอะ” “ค่ะคุณยาย” เธอรับปากแต่ก็ยังเดินไปส่งคุณยายที่หน้าห้องพักของท่าน เมื่อเห็นว่าท่านเข้าห้องไปเรียบร้อยแล้ว เธอก็กลับห้องของตัวเองบ้าง หัวใจของเธอในเวลานี้มันเต้นโครมครามไปหมด เพราะคิดถึงแต่ปราบ เธอยอมรับว่าหลงรักเขาไปเสียแล้ว พลอยฟ้านั่งมองโทรศัพท์อยู่นาน ว่าจะส่งข้อความไปหาเขาดีไหม แต่สุดท้ายก็หักห้ามใจไม่ไหว ต้องส่งข้อความไปหาเขาอยู่ดี - พี่ปราบถึงบ้านหรือยังคะ- ปราบที่นั่งดื่มกับเพื่อนอยู่ในผับถึงกับทำหน้าเซ็ง “เป็นอะไรของแกวะเพื่อน อ่านข้อความแล้วทำหน้าเซ็ง สาวที่ไหนส่งมาไถตังค์หรือไง” ปองภพเอ่ยแซวเพื่อนรัก “ถ้าเป็นสาวสวย ส่งข้อความมาไถตังค์แล้วลีลาเด็ดจัดเต็มคราบบนเตียงเด้งได้ ฉันก็เอาว่ะ” คนพูดกรอกเหล้าเข้าปาก “แล้วใครวะ อย่าบอกว่าน้องพลอยฟ้าคนสวย” “สวยตรงไหน มึงเอาปากกามาวง” “ทุกตรง” “อะไรคือทุกตรง” “ทุกตรงที่ไม่สวย” ปองภพหัวเราะลงลูกคอ “กูเบื่อเต็มกลืน จับมือนิดหน่อยก็อาย หอมแก้มก็ไม่ได้ กอดก็ไม่ได้ กูว่าคู่หมั้นของกูน่าจะไปบวชชีมากกว่าว่ะ” “แกก็ทน ๆ หน่อยเดี๋ยวก็ได้ที่ดินแล้วไม่ใช่เหรอ ท่องเอาไว้ตำแหน่งประธานบริษัทและเงินพนัน แต่ถามจริงสิวะ” “ถามว่า” “มึงเคยเห็นใต้ร่มผ้าน้องเชยบ้างหรือยังวะ” “ขนาดแขนกูแทบจะเห็นนับครั้งได้ คนบ้าอะไรใส่เสื้อนักศึกษาตัวใหญ่เหมือนกับชุดแม่ชี ยังใส่เสื้อแขนขาวปิดแขนอีก สงสัยเป็นผีดิบแวมไพรส์เลยกลัวแสง” “แกก็พูดซะกูเห็นภาพ” ปองภพหัวเราะลงลูกคอ ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “แกไม่ตอบน้องเขาไปล่ะ เขาคงไลน์มาเช็กว่ามึงถึงบ้านหรือยัง” “ไม่เอาว่ะ ขี้เกียจตอบ” “อ่านไม่ตอบเขาไม่กระวนกระวายใจแย่เหรอวะ” “กูก็จะบอกว่ากำลังจะตอบแต่แบ็ตดันหมดซะก่อน แม่งโง่จะตายไม่รู้หรอก” “สงสารน้องเชยเสียจริง แม่งตามมึงไม่ทันหรอก” “ถ้าคุยก็ยาว ถามแต่คำถามปัญญาอ่อน กินข้าวหรือยัง ทำอะไรอยู่ ถึงไหนแล้ว อยู่ไหนแล้ว น่าเบื่อตายห่า” “ยังกับแม่เลยเนอะ ถามคำถามปัญญาอ่อนแบบนี้” ปองภพเออออคล้ายเห็นด้วย “แม่กูยังไม่ถามอะไรไร้สาระแบบนี้เลย ดื่ม ๆ เลิกสนใจ พรุ่งนี้เจอกันกูบอกอะไรก็เชื่อหมดแม่ง มึงเชื่อกู กูบอกขับรถอยู่ แบ็ตหมดพอดี พอกลับถึงบ้านก็ติดคุยเรื่องงานกับพ่อ ลืมชาร์จแบ็ตแม่งก็เชื่อ มึงเชื่อไหม” “เชื่อ ก็ดูจากสายตา น้องเชยหลงมึงยังกับอะไรดี มองมึงนี่ตาหวานหยาดเยิ้มเชียว” “รักกูมากๆ น่ะดี กูจะได้หลอกง่าย ขี้เกียจเอาใจแล้วว่ะ รำคาญโคตร เวลาพาไปไหนมาไหน เดินด้วยก็อายคน อย่างกับกูไปเดินกับแม่ชี มึงคิดดู” ยิ่งเมายิ่งคึกคะนองปาก สองหนุ่มจึงพูดไม่คิด แต่คิดว่าคงไม่มีใครได้ยิน หรือถึงได้ยินก็ไม่รู้ว่าพูดถึงใคร “เฮ้ย! นั่นยายขวัญมาแล้วว่ะ กูถามจริงมึงกับยายขวัญนี่ยังไงวะ” ปองภพกระซิบถามเพื่อน เมื่อเห็นดวงขวัญเดินเข้ามาในร้าน “เพื่อนนอน เบื่อ ๆ ก็เอากันมัน ๆ วิน ๆ ทั้งคู่ว่ะ ขวัญก็ดีไม่งี่เง่า ไม่เคยเรียกร้องอะไร ไม่มีพันธะ” “ก็ให้มันแน่นะโว้ย ไม่ใช่วันดีคืนดีอยากจับมึงทำผัวขึ้นมา ผู้หญิงเป็นเพศที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่กูรู้จักมา” “ไม่หรอก มึงคิดมาก ถ้าขวัญจะจับกูคงจับกูทำผัวนานหลายปีแล้ว” “มึงเอายายขวัญจนพรุนแล้วสิ” “ก็เพื่อนกินเพื่อนเที่ยว” “คืนนี้นัดมาคงไม่เพราะแกจะเอายายขวัญนะ” “ก็ประมาณนั้น” ดวงขวัญเดินมาถึงโต๊ะพอดี ทำให้สองหนุ่มต้องหุบปากฉับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD