เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ

2724 Words
วันจันทร์อีกแล้ว วรางคณา เบื่อเหลือเกิน ไม่อยากไปทำงานเลย ถึงไม่อยากไปขนาดไหน ก็ต้องไปอยู่ดี ไปทำให้มันเสร็จเรียบร้อย วันเวลา เดี๋ยวนี้เร็วจะตาย เธอปลอบใจตัวเอง รีบลุกขึ้น อาบน้ำ แต่งตัว แม่ห่อข้าวให้แล้ว คนละกล่องกับ น้องชาย สองพี่น้องติดข้าวกล่องของแม่ มาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กนักเรียน พ่อกับแม่จะให้ค่าขนมทุกวัน แต่แม่ก็ห่อข้าวใส่ปิ่นโตให้ไปกินโรงเรียน สองคนพี่น้องมีเงินกลับมาหยอดกระปุกทุกวันๆ ติดนิสัยออมมาตั้งแต่เด็ก “พี่วอย ถ้ามันไม่สบายใจ วันนี้ก็เขียนใบลาออกเลยนะพี่ ครบ 3 เดือน แล้วเขายังไม่หาคนมาแทน ก็ออกเลย” “อื่อ พี่ก็กำลังคิดอยู่ พอคิดว่าจะออก ก็อยากจะออกเลย ใจไม่อยู่ที่ทำงานแล้ว “ สองพี่น้องเดินคุยกันไปรอรถหน้าปากซอย พอมาถึงปากซอย ความโกลาหลก็เริ่มมา ทั้งรถ ทั้งคน วันนี้แม่ไม่ได้ตัดผัก นัดลูกค้าเป็นวันพรุ่งนี้แทน ทำให้ ทั้งสองพี่น้อง ไม่ต้องตื่นเช้ามาก “ไปแล้วนะพี่วอย เดินทางปลอดภัยนะครับ” ที่ทำงานของว่าน ไปคนละทางกับพี่สาว เขาไม่มีปัญหาในการเดินทาง เพราะมีรถรับส่งของบริษัทฯ มารับที่หน้าปากซอย เหลือเพียงวรางคณา ยืนรอรถเมล์คนเดียว เพื่อไปต่อรถไฟฟ้า และ นั่งวินมอเตอร์ไซค์ เข้าบริษัทฯ กว่าจะถึงที่ทำงานในแต่ละวัน เล่นเอาเหนื่อย ถ้าไม่ใช่งานที่รัก คนอย่างวราคณา จะไม่ทำแน่ๆ เฉพาะค่ารถ ในแต่ละเดือนก็หมดหลายบาท นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่วรางคณา เสียดายเงิน ถ้าเงินเดือนไม่ดี และเป็นงานที่รัก เธอคงลาออกนานแล้ว วรางคณา ใช้เวลาเดินทางไปทำงาน ประมาณชั่วโมงครึ่ง ทุกวันเธอจะต้องมาถึงที่ทำงานเช้ากว่าทุกคน สำนักงานเปิด เก้าโมงเช้า เธอมาถึงสองโมงเช้าทุกวัน บางวันห่อข้าวเช้ามานั่งกินที่หน้าสำนักงานเลย เธอกับน้องติดอาหารรสมือแม่ ไม่ค่อยกินข้าวนอกบ้าน “จะออกไปทำอะไรวอย หางานใหมได้แล้วเหรอ “กัญญา หรือ ญา เพื่อนสนิทคนเดียวที่มีอยู่ในที่ทำงาน กัญญา เป็นคนชวนวรางคณามาทำงานด้วยกันที่นี่ แต่คนละแผนกกัน “วอยเบื่อ ญาก็เห็น ไม่เกี่ยงว่างานเยอะนะ ที่นี่ระบบเด็กท่านหลานเธอเยอะเหลือเกิน เงินเดือนดียังไง สวัสดีการดีขนาดไหน ก็อยู่ไม่ได้หรอก ในเมื่อยังใช้ระบบเส้นสาย ต่อให้ทำงานดีขนาดไหน ก็ไม่ได้อยู่ในสายตา อีกอย่างนะ วอยอยากดูแลแม่แบบใกล้ชิด อาการโรคหัวใจของแม่ น่าเป็นห่วง แม่ดื้อชอบทำงาน ถ้าวอยอยู่ด้วย แม่จะได้ทำงานน้อยลง“ “ถ้าวอยออกไป กัญญา ก็ไม่มีเพื่อน เหงาแน่เลย “ “แน่ใจเหรอว่าเหงา แบบกัญญานี่นะเหงา ไม่เป็นไรหรอก วันไหนว่าง ก็ไปหาวอยที่บ้านได้เลย วอยอยู่ตลอด” กัญญา เป็นเพื่อนสนิทของ วรางคณา ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น ถึงจะทำงานคนละแผนก แต่ทั้งสองสนิทกันมาก กัญญาเป็นคนฉลาด บางทีเรียกว่าฉลาดแกมโกง เพื่อนน้อยเหมือนวอย บ้านของกัญญาอยู่ใกล้ที่ทำงาน เดินทางสะดวก ที่สำคัญ กัญญา สวยมาก สวยคนละแบบกับวรางคณา กัญญาช่างพูด แต่งหน้า แต่งตัวสวยตลอดเวลา มีหนุ่มมาชอบเยอะ เพราะบุคลิกของเธอ ยิ้มแย้มแจ่มใส แตกต่างกับ วรางคณาตรงนี้ ชีวิตของกัญญา มีแต่ความสดใส ร่าเริง อาจเป็นเพราะว่า บ้านกัญญาฐานะดี ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร จริงๆ ไม่ต้องทำงานก็ยังได้ แต่ที่ต้องมาทำงาน เพราะเหงาเป็นเหตุ “นี่โอมรู้หรือยัง ว่าวอยจะลาออก” “ยังเลย ยังไม่ได้บอก กะว่าพักเที่ยงนี่จะบอก โอมแวะมารับออกไปกินข้าวข้างนอก ไปด้วยกันนะญา“ “ได้เลย ไปที่ไหนดี ว่าแล้วก็ไม่ได้เจอโอมหลายวันแล้ว วอยกับโอมไม่ค่อยหวานเลยนะ ไม่เหมือนคู่อื่น” “ต้องออกไปหน่อย เดี๋ยวโอมงอน ถ้าวอยลาออกจากที่นี่ คงไม่ค่อยมีเวลาเจอกัน”วรางคณาพูดเรื่อยๆ แต่สายตาก็พยายามสังเกตุเพื่อนสนิท “ถามจริงๆเถอะ ถึงไหนกันแล้ว ยอมรับรักโอมหรือยัง” “ก็คุยๆ กันอยู่นะ แต่คงอีกนาน ถึงเราจะรู้จักกันมานานแล้ว เอาจริงๆ วอยกับโอมเพิ่มเริ่มคบกัน อายุก็ยังน้อยด้วยกันทั้งคู่ ยังไม่ได้รักจนถึงขนาดที่จะ ห่างกันไม่ได้ ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงเรื่องแต่งงาน” “ที่บ้านมีใครรู้ไหม ว่าวอยกำลังคบกับโอม” กัญญาถามต่อ สิ่งที่อยากรู้ “ไม่นะ วอยคิดว่ามันไม่สำคัญ และยังไม่ถึงเวลา ให้มันแน่นอนก่อน ค่อยบอกที่บ้าน” กัญญา ยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม สายตาจ้องอยู่ที่แก้วน้ำ ดวงตาวาววับขึ้นมาทันที เมื่อได้คำตอบสมใจ โดยที่วรางคณา ไม่มีโอกาสได้สังเกตุเห็น กิริยาอาการที่ดูแปลกไปของเพื่อนสนิท อีกสิบนาที่เที่ยง ได้เวลาพักกินข้าวกลางวัน วรางคณาเตรียมเก็บเอกสาร คว้ากระเป๋าใบเล็ก เดินออกจากห้องทำงาน แวะไปหากัญญาที่แผนกการตลาด ทั้งสองเดินออกมารอโอมที่หน้าออฟฟิศ “โอมมาแล้ว เร็วจัง ที่ทำงานอยู่ตั้งไกล ทำไมออกมาได้เร็วมาก “วรางคณาบ่นพึมพำ หลังจากดูนาฬิกาข้อมือ “สวัสดีครับคนสวย สวยทั้งคู่เลย เชิญครับ” โอภาษ หรือโอม เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีมากคนหนึ่ง เขาตามจีบวรางคณา ตั้งแต่มาทำงานที่นี่ เจอกันในงานสัมมนา โอมเป็นลูกหลานไทยเชื้อสายจีน ที่บ้านเคร่งมาก ด้วยความสูงของเขา หล่อแบบดาราเกาหลี ผิวขาวสะอาด เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทั้งหลาย ก่อนที่เขาจะมาตามจีบวรางคณา เขาก็ผ่านผู้หญิงมาหลายคน วรางคณาสวยถูกใจเขามาก แต่ใจแข็งเหลือเกิน เขาตั้งใจแล้ว วรางคณายอมพูดคุยกับเขา แต่ใช่ว่าจะให้แตะเนื้อต้องตัวได้ ยังไม่เคยไปดูหนังกันสองคนเลย ไม่กัญญา ก็วรวิทย์ ไปด้วยเสมอ กว่าวรางคณาจะยอมพูดคุย กว่าจะยอมให้โทรหา กว่าจะยอมออกมากินข้าวด้วย มันยากใช้เวลานานเหลือเกิน แต่เขาก็รอ เขาไม่ยอมปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปง่ายๆหรอก จีบยาก กว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาคบหามา วรางคณา นั่งหน้าคู่กับโอภาษ แน่นอนกัญญานั่งหลัง เป็นแบบนี้ประจำ เวลาที่โอภาษมารับไปกินข้าวข้างนอก ไม่มีแม้แต่สักครั้งที่เธอจะยอมไปกับโอภาษสองต่อสอง ไม่ว่าจะเป็นวันเกิด วันแห่งความรัก หรือวันอะไรก็ตาม “วันนี้ทำไมมาเร็วจังเลย ปกติเกือบสิบนาที “ ขึ้นรถได้วรางคณา ก็ถามทันที ไม่ได้ทันสังเกตว่าคนขับรถสะดุ้งนิดหน่อย “อ้อ...โอมมาธุระแถวนี้พอดี เลยมาเร็ว ไม่อยากให้วอยรอ” “เราไปร้านเดิมดีกว่านะ เป็นส่วนตัวดี หรือกัญญาว่าไง “ โอมถามคนข้างหลัง อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่อยากให้กัญญาคิดว่าเป็นส่วนเกินระหว่างเขากับวรางคณา “ที่ไหนก็ได้ ญาได้หมด ร้านเดิมก็อร่อยดีนะ ใกล้ออฟฟิศด้วย” ระหว่างที่ทั้งสามคนนั่งกินข้าวกลางวันด้วยกัน วรางคณา เริ่มสังเกตจริงจัง กับสิ่งที่ตัวเองแอบสงสัยมานาน “วอยไปสั่งกาแฟแป๊ปนะ โอม กับกัญญา เอาอะไรดี” “ของโอม คาปูชิโน่ เหมือนเดิม กัญญาล่ะ “ “กัญญาขอคาปูชิโน่ เหมือนโอมจ๊ะ เขาจะได้ทำพร้อมกัน ขอบใจนะวอย” “โอเค รอสักครู่นะ กินข้าวกันไปเรื่อยๆ เลย วอยจะแวะเข้าห้องน้ำด้วย ไม่ต้องรอจ๊ะ” วรางคณา เดินเลยร้านกาแฟ ไปเข้าห้องน้ำ เปิดโทรศัพท์ ตาจ้องมองที่ภาพและเสียงในจอโทรศัพท์ ใจเริ่มสั่นกับสิ่งที่เห็นในจอภาพ “กัญญา เป็นอะไร ไม่เอา อย่างอนซิ โอมบอกแล้วไง ว่าให้ใจเย็นๆ” “ถ้าเป็นโอมจะทนได้ไหม ถ้าเห็นกัญญาสนใจคนอื่น ดูแล เอาใจใส่คนอื่น นี่ที่บ้านกัญญาถามแล้วนะ ว่าจะเอายังไง” “ก็นี่ไง รอให้วอยเขาออกก่อน เดี๋ยวก็ค่อยๆห่างกันไปเองนั่นแหละ กัญญาเชื่อโอมนะ อดทนอีกหน่อย เห็นว่าอีก 3 เดือนไม่ใช่เหรอ” “ก็ใช่ แต่สำหรับกัญญาแล้ว มันนานมาก ทรมานมากรู้ไหม ไม่อยากปกปิดใครแล้ว” “น่า เดี๋ยวโอมชดเชยให้ เย็นค่อยคุยกันนะ โอมก็อึดอัด แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ไม่เอาอย่าคิดมากนะ ใจเย็นๆ” วรางคณามือสั่น โทรศัพท์แทบหลุดจากมือ เธอปิดโทรศัพท์ทันที เมื่อได้ยินเสียงคนเดินมาเข้าห้องน้ำ คิดว่าจะนั่งทำใจสักพักแล้วค่อยออกไปสั่งกาแฟให้ทั้งสองคน “ “เธอ เห็นผู้หญิงกับผู้ชาย โต๊ะหัวมุมนั่นไหม ตกลงใครเป็นแฟนผู้ชายกันแน่” “ทำไม เธอจะไปยุ่งอะไรกับเรื่องของลูกค้า” พนักงานอีกคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สงสัย “อ้าว...ก็เธอไม่เห็นเหรอวันก่อน ผู้ชายคนนั้นยังบอกพวกเราเลยว่า ผู้หญิงคนผมยาวเป็นแฟนเขา “ “แต่เมื่อวาน เขาบอกว่าผู้หญิงผมสั้น เป็นแฟนเขา ฉันเลยงงไง แล้ววันนี้ ก็พาผู้หญิงทั้งสองคนมาด้วยกัน “ “เขาหล่อเลือกได้ไงเธอ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ไม่ใช่เรื่องของเรา” “ไม่ให้ยุ่งได้ไง เราเป็นผู้หญิงด้วยกัน พี่คนสวยต้องรู้เรื่องนี้ จะมาให้เพื่อนกับแฟน มากินกันเองได้ยังไง” “แล้วเธอจะกล้าบอกเขาเหรอ แล้วพี่เขาจะเชื่อไหม เราไม่มีหลักฐาน “ พนักงานอีกคนเริ่มคล้อยตามเพื่อน “เอาเถอะถ้าเขายังมากินข้าวที่ร้านเรา ฉันจะพยายามบอกพี่เขา ฉันว่าผู้หญิงเขาต้องมีเซ้นส์ ทุกคนแหละ เชื่อซิ” พนักงานประจำร้านทั้งสองคนออกไปแล้ว วรางคณายังนั่งนิ่ง ใจเต้นรัว คิดไว้ไม่มีผิด นี่แหละผู้ชาย เธอดูคนไม่ผิดจริงๆ วอยเอ้ย เธอโชคดีแล้ว ที่รู้ความจริง “ขอโทษนะ รอนานเลยใช่ไหม พอดีแม่วอยโทรมา วอยเลยคุยนานไปหน่อย นี่จ๊ะ กาแฟ” “ไม่เบื่อรึไงวอย กินแต่อเมริกาโน่ “ โอภาษตกใจเล็กน้อย เขาลืมไปว่ามือของเขายังวางอยู่บนมือของกัญญา โอมขยับเก้าอี้ให้วรางคณานั่งใกล้ๆเขา แต่หญิงสาวเลื่อนเก้าอี้ไปนั่งหัวโต๊ะ โอมนั่งขวามือ กัญญานั่งซ้ายมือ ทำไมเธอจะไม่เห็น ตาไม่ได้บอดสักหน่อย อาการลุกลนของทั้งคู่ ยิ่งทำให้วรางคณาใจเต้นแรง “โอม วอยมีเรื่องจะบอก วอยลาออกจากงานแล้วนะ แม่ไม่ค่อยสบาย จะออกไปดูแลแม่” “ก็ดีนะวอย แม่วอยอายุมากแล้ว เห็นบอกว่าเป็นโรคหัวใจด้วยใช่ไหม” “นี่แหละยิ่งต้องดูแลท่าน ถ้ายังไง กัญญาจะแวะไปหาบ่อยๆนะวอย” “ขอบใจนะ วันนี้คงเป็นมื้อสุดท้ายที่เราจะได้กินข้าวด้วยกัน ลาโอมกับกัญญาตรงนี้เลยล่ะกันนะ” “จะรีบไปไหนวอย พนักงานใหม่ยังไม่มาเลย วอยยังต้องทำงานอยู่ไม่ใช่เหรอ เรายังต้องกินข้าวด้วยกันทุกวันจนกว่าวอยจะไม่อยู่” “อะไรมันก็ไม่แน่นอนหรอกกัญญา ไม่แน่พรุ่งนี้พนักงานใหม่ อาจมาทำเลยก็ได้ งานวอยไม่มีอะไรมาก สอนแบบเดียวก็รู้เรื่องแล้ว” “ถึงวอยไม่ได้ทำงานที่นี่แล้ว โอมจะแวะไปหาที่บ้านนะ” “ไม่เป็นไรหรอก วอยรู้ว่าโอมกับกัญญางานเยอะ ไว้ว่างเมื่อไหร่ค่อยเจอกัน วอยคิดว่าตัวเองคงยุ่งมาก กินข้าวต่อดีกว่า ใกล้ได้เวลาเข้างานแล้ว วันนี้วอยเลี้ยงเองนะ ห้ามจ่าย ทั้งสองคนนั่นแหละ“ ก่อนกลับ วรางคณาให้โอมกับกัญญาไปรอที่รถก่อน เธออ้างว่า จะสั่งกาแฟไปฝากพี่ที่ทำงาน ทั้งสองคนเดินออกไปขึ้นรถแล้ว วรางคณา จัดการเก็บอุปกรณ์ที่แป๊ะติดใต้โต๊ะไว้ออก เธอแอบติดไว้ตั้งแต่มานั่นครั้งแรก กลับบ้านวันนี้ต้องมีของฝากน้องชาย ที่เขาจัดการเรื่องอุปกรณ์ให้เธอ วรางคณารีบหิ้วกาแฟที่สั่งไว้ตามทั้งสองคนไปที่รถ โอภาษมาส่ง วรางคณา และ กัญญา ที่ออฟฟิศ เขาก็ขอตัวกลับไปทำงานเลย “กัญญาไปทำงานก่อนนะวอย ขอบใจมากนะสำหรับอาหารและเครื่องดื่มวันนี้” จริงอย่างที่เธอคิดไว้ กลับมาจากกินข้าว วรางคณานำกาแฟที่ซื้อมา ไปให้เพื่อนร่วมงานทุกคน ที่ทำงานด้วยกัน ผู้หญิงที่นั่งคุยอยู่กับหัวหน้าของเธอ คงเป็นพนักงานใหม่ ที่จะต้องมาทำงานแทนเธอแน่ๆ “อ้าววอย มานี่หน่อย “ พี่อวบ หรือโอบขวัญ เรียกเธอเข้าไปหาที่โต๊ะ พี่อวบเป็นสาวโสด บ้างาน เป็นคนเดียวที่ไม่บ้าอำนาจ และไม่ทำตามใจใคร ที่แผนกของเธอไม่มีเด็กเส้น “กาแฟค่ะพี่อวบ วอยซื้อมาฝาก”หญิงสาววางกาแฟที่โต๊ะทำงานของหัวหน้า “นี่เลี้ยงทุกคนเลยเหรอเนี้ย แหม...ทำยังกะจะออกภายในวันสองวัน จะรีบเลี้ยงไปไหน” “บังเอิญวันนี้วอยไปกินที่ร้านนี้มาค่ะ เลยอยากซื้อมาฝากทุกคน” “ยังไงก็ขอบใจนะวอย เอ้อ...วอย นี่น้องใหม่ พี่รับมาทำงานแทนวอย ยังไงบ่ายนี้สอนงานน้องให้พี่หน่อยนะ” “ได้เลยค่ะพี่อวบ วอยมีเรื่องจะคุยกับพี่อวบหน่อยค่ะ เดี๋ยววอยสอนงานน้องให้ค่ะ ก่อนเลิกงานวอยขอคุยกับพี่อวบสักสิบนาทีนะคะ เรื่องสำคัญค่ะ” “ได้เลย วันนี้พี่ว่าง” “ขอบคุณค่ะพี่อวบ” วรางคณายกมือไหว้ขอบคุณโอบขวัญ ใกล้เลิกงาน วรางคณาเข้าไปคุยกับโอบขวัญที่นั่งรออยู่ที่ห้องประชุม “น้องใหม่เป็นยังบ้าง พี่นัดให้เขามาเริ่มงานพรุ่งนี้ได้เลย วอยไม่มีปัญหานะ” “ดีใจมากค่ะพี่อวบ ไม่มีปัญหาเลย นี่ล่ะค่ะ ที่วอยอยากคุยกับพี่ น้องเก่งค่ะ อาจเป็นเพราะว่าเคยทำมา ทำงานต่อจากวอยได้เลย “ “แล้วมีอะไรจะคุยกับพี่เหรอ” “คือว่า มีน้องมาทำงานแทนวอยแล้ว แบบนี้วอย ขอทำงานแค่สิ้นเดือนนี้ได้ไหมคะ พี่อวบ” “ได้ซิ ได้เลย ที่พี่อยากให้อยู่ถึงสามเดือน เพราะคิดว่าจะหาคนมาทำงานยาก แต่ตอนนี้มีมาแล้ว ทำงานได้ ก็ไม่มีปัญหา” “ขอบคุณมากค่ะพี่อวบ ดีใจจังเลยค่ะ” วรางคณายกมือไหว้ขอบคุณโอบขวัญอีกครั้ง หลังเลิกงาน วรางคณาแวะไปที่ห้องทำงานของกัญญา เหมือนทุกวัน เธอกับกัญญา ถ้าใครเลิกงานก่อน คนนั้นจะมารอ และออกไปขึ้นรถกลับบ้านพร้อมกัน บ้านกัญญาอยู่ใกล้กว่าบ้านของเธอ วันนี้วรวิทย์ไลน์มาบอกว่าทำงานต่อ วรางคณาเลิกงาน เดินทางถึงปากซอยเข้าบ้าน วันนี้ฝนไม่ตก เธอตั้งใจเดินเข้าบ้านเอง เพราะยังไม่มืดมากนัก หกโมงสิบนาที ยังมีเวลาแวะซื้อได้นิดหน่อย หญิงสาวหิ้วขนมรุงรัง ออกจากร้านสะดวกซื้อ ความรีบ ทำให้ไม่ได้สนใจใคร รีบซื้อของ อยากถึงบ้านเร็วๆ “เฮ้ย.....เป็นบ้าอะไรเนี้ย เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่เห็นเหรอว่าคนยืนอยู่ตรงนี้ เหยียบเข้ามาได้ แม่งเอ้ย “ “วรางคณาหันหลังกลับทันที เธอกำลังยืนเลือกดอกบัวหลวงที่มัดกำขาย ข้างร้านสะดวกซื้อ เพื่อที่จะนำไปใส่แจกันหิ้งพระที่บ้าน” แรงผลักเต็มแรง ทำให้เธอเสียหลักล้มลงกองอยู่กับพื้นหน้ากระจาดดอกบัว ข้าวของตกหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD