บ้านศิวาพร
"ลูกหายไปไหนมาบังอร" ชยพัทธ์ที่ดักรอลูกสาวอยู่ตรงทางเดินทางเข้ามาเป็นเวลาหลายชั่วโมงเอ่ยถามหญิงสาวด้วยน้ำเสียงติดห้วนอยู่กลายๆ
"เก็บค่าเช่าแผงจ้ะพ่อ" บังอรก้มลงต่ำอย่างไม่กล้าสบตาผู้เป็นพ่อที่กำลังจ้องเขม็งมา เธอรู้ว่าพ่อรู้ว่าเธอกำลังโกหก เพียงแค่พ่อได้มองตาเธอพ่อก็รู้ไปเสียหมดทุกอย่างว่าเธอกำลังคิดจะทำอะไร เธอถึงได้พยายามอย่างหนักในการหลบเลี่ยงการสบสายตากับผู้เป็นพ่ออย่างไรละ
"เลิกยุ่งกับมันซะบังอร" คำสั่งนั้นที่ดังขึ้นตามหลังบังอรมาในตอนที่เธอกำลังก้าวขาขึ้นบันไดขั้นที่สาม
"เลิกติดต่อกับมันซะ ต่อจากนี้ไปพ่อจะให้ไอ้เต็งหนึ่งมันเป็นคนไปเก็บค่าเช่าแผง ส่วนลูกก็นอนอยู่ในห้องที่บ้านเหมือนเดิมอย่างที่ลูกเป็นของลูกมาตลอด"
ชยพัทธ์รู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ลูกสาวเลือกที่จะโกหกเขาว่าเธอนั้นไปเก็บค่าเช่าแผง ทั้งที่จริงๆ แล้วตลอดเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมานั้นหญิงสาวไปนั่งขายเสื้อผ้าอยู่ในร้านของพิภู ส่วนค่าเช่าแผงคนที่เก็บก็คือคนขับรถของบังอรที่สมรู้ร่วมคิดกับลูกสาวเพื่อปกปิดเขา ถ้าหากเขาไม่เอะใจและให้เลขาของตัวเองอย่างเต็งหนึ่งสะกดรอยตามไป ลูกสาวของเขาจะโกหกเขาไปอีกนานแค่ไหนกัน...
"ลูกโกหกพ่อทำไมบังอร"
ลูกสาวคนนี้เปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจที่เขาประคบประหงมเธอมาตั้งแต่อ้อนแต่ออก จะอึจะฉี่เขาก็เป็นคนทำเองหมดทุกอย่าง เขารักบังอรมากและเขาก็ให้เธอได้ทุกอย่างเพียงแค่บังอรเอ่ยปากขอ
แต่วันนี้ลูกสาวที่เปรียบเสมือนดวงใจกลับกำลังโกหกเขา เขาเสียใจ...เสียใจมากมายเหลือเกิน
เอามีดมาแทงเขาให้ตายลงไปในตอนนี้เขายังจะเจ็บปวดน้อยกว่าการที่ต้องมารับรู้ว่าลูกสาวสุดที่รักกำลังโกหกเขาอยู่...
"คุณพ่อรู้..." บังอรก็ยังคงยืนหันหลังอยู่ตรงบันได้ขั้นที่สามอยู่เหมือนเดิม
"พ่อรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวลูกบังอร พ่อเป็นพ่อของลูกนะ พ่อเลี้ยงลูกมาบังอร แค่มองตาบังอรพ่อก็รู้แล้วว่าบังอรคิดอะไร พ่อรักลูกมากนะบังอรแต่บังอรก็ยังเลือกที่จะโกหกพ่ออย่างนั้นเหรอลูก ลูกเคยรักพ่อของลูกบ้างไหมบังอร ทำไมถึงทำกับพ่อแบบนี้"
น้ำตาของคนเป็นพ่อไหลรินลงมาด้วยความช้ำใจ เขาเกลียดตัวเองเหลือเกินที่ปล่อยให้ลูกสาวเดินทางไปเก็บค่าเช่าแผงในตลาดวันนั้น ถ้าหากเขาไปเก็บมันเสียเองทั้งตลาดลูกสาวของเขาก็คงจะไม่ต้องไปเจอเด็กผู้ชายคนนั้น...
"บังอรรักพี่ภู..."
"บังอร!" ร่างสูงใหญ่หนึ่งร้อยเก้าสิบแปดเซนติเมตรถึงกับทรุดฮวบลงอย่างไม่อยากจะยอมรับความจริง แค่การที่ลูกสาวเที่ยวไปคลุกคลีกับชายที่มีฐานะต่ำกว่าพ่ออย่างเขาก็เสียใจจนแทบจะเป็นจะตายอยู่แล้ว
นี่ถึงขั้นลูกสาวมาบอกรักผู้ชายคนนั้นต่อหน้าเขา แล้วจะให้เขายืนตรงอยู่ไหวได้อย่างไร...
ฆ่าเขาให้ตายเสียยังดีกว่าการที่จะให้เขายอมรับพ่อค้าในตลาดสดคนนั้นมาเป็นลูกเขย
"บังอรจะขออะไรจากพ่อก็ได้ในชีวิตนี้ พ่อให้บังอรได้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องนี้ที่พ่อตามใจบังอรไม่ได้ เชื่อพ่อเถอะนะบังอร เลิกยุ่งกับมันแล้วไม่ต้องไปติดต่อหาอะไรไปหามันอีก" ชยพัทธ์พยายามอย่างหนักในการใช้น้ำเย็นเข้าลูบเพื่อไท่ให้แก้วตาดวงใจของตัวเองนั้นเตลิดหนีหายไปจากตน
"แต่บังอรรักพี่ภู แล้วเราสองคนก็มีอะไรกันแล้วด้วย! ถ้าคุณพ่อไม่อยากที่จะให้หลานของตัวเองขาดพ่อก็อย่ามาขัดขวางเราเลยค่ะ"
บังอรว่าเสียงแข็งอย่างดื้อดึง เมื่อสัมผัสได้ว่าพ่อกำลังจะบังคับให้เธอเลิกรู้สึกดีกับชายที่เธอรัก
"บังอร! ลูกพูดอะไรออกมาลูกรู้ตัวหรือเปล่า บอกพ่อทีว่าลูกแค่ประชดพ่อและเรื่องที่ลูกพึ่งจะพูดออกมามันไม่ใช่เรื่องจริง!"
หัวใจแกร่งของคนเป็นพ่อแตกสลายจนไม่เหลือชิ้นดีหลังจากที่ได้ยินประโยคนั้นหลุดออกมาจากปากของลูกสาว
เขาเลี้ยงลูกสาวของเขามาเป็นอย่างดี ไม่เคยที่จะปล่อยให้อดอยากหรือลำบากเลยสักครั้ง เจ็บไข้ได้ป่วยเขาก็ดูแลจนเธอหายดี อยากได้อะไรเขาก็รีบจัดหามาให้ อยากไปไหนเขาก็พาเธอไปได้ทุกที่
แล้วเขาผิดอะไร หรือพลาดตรงไหน ทำไมกันนะ...
"ตั้งแต่เล็กจนโตพ่อคิดว่าพ่อให้ลูกได้ทุกอย่างนะบังอร ทั้งเรื่องอาหารการกิน ทั้งเรื่องความสุขสบาย พ่อให้บังอรได้ทุกอย่างเลยนะลูกบังอร แล้วทำไมกันลูก...ทำไมบังอรถึงได้ตอบแทนความรักของพ่อโดยการปล่อยเนื้อปล่อยตัวของตัวเองให้กับคนที่มีฐานะต้อยต่ำพรรค์นั้น ทำไมลูก พ่อผิดพลาดตรงไหนบังอร"
แม้จะรู้สึกโกรธลูกสาวจนข้างในอกคัดแน่นไปเสียหมด แต่ด้วยความรักลูกที่มันมีมากมายเหลือเกินจึงทำให้ชยพัทธ์ไม่มีความกล้าพอแม้กระทั่งจะยกมือขึ้นมาชี้หน้าหรือตบตีลูกสาวของตัวเอง
"ทานยาคุมฉุกเฉินซะบังอร ถือซะว่าเป็นคำขอร้องจากพ่อของลูก"
"พี่ภูเขาไปทำอะไรให้พ่อเหรอคะ? พ่อถึงได้จงเกลียดจงชังพี่เขานัก ทีพี่สะใภ้ เมียของพี่อินทร์เขาก็มีแต่ตัวไม่ต่างไปจากพี่ภู แล้วทำไมพ่อถึงอนุญาติให้สองคนนั้นรักกันได้! แล้วทำไมบังอรกับพี่ภูถึงรักกันไม่ได้ ทำไม!"
บังอรว่าอย่างรู้สึกน้อยใจที่พ่อนั้นรักตัวเองน้อยกว่าพี่ชาย แม้ใครต่อใครอาจจะมองว่าพ่อรักเธอแต่ความเป็นจริงแล้วเธอไม่เคยคิดอย่างนั้น เธอคิดมาเสมอว่าจริงๆ แล้วคนที่พ่อรักก็คือพี่ชายฝาแฝดของเธอต่างหาก
"คุณพ่อลำเอียง คุณพ่อไม่เคยที่จะรักบังอรเลยใช่ไหมคะ?"
"พ่อนะเหรอที่จะไม่รักบังอร พ่อนะเหรอที่จะรักไอ้เสือมากกว่าบังอร พ่อรักลูกยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองอีกนะบังอร! แล้วมันยังไม่มากพอให้บังอรรู้สึกได้จริงๆนะเหรอ บังอรมองไม่เห็นจริงๆใช่ไหมว่าพ่อรักบังอรมากแค่ไหน!" ชยพัทธ์เริ่มตะคอกเสียงดังอย่างยอมรับไม่ได้ในข้อกล่าวหาข้างต้นจากลูกสาว
"ลูกจะดื้อยังไงกับพ่อก็ได้แต่อย่ามาพูดว่าพ่อไม่รักลูกจะได้ไหมบังอร ลูกก็รู้ดีว่ามันไม่จริง!"
"ถ้าพ่อรักหนูจริงพ่อก็ต้องยอมให้หนูรักกับพี่ภูสิ ต้องยอมให้บังอรแต่งงานกับพี่ภูสิ!"
"เลิกเพ้อเจ้อสักทีบังอร!" ชยพัทธ์ตรงเข้าเขย่าไหล่ลูกสาวแสนรักอย่างสติสัมปชัญญะแตกกระเจิงไปชั่วขณะ
"มันจนขนาดนั้นมันจะเอาปัญญาที่ไหนมาเลี้ยงลูก แม้แต่บ้านที่มันซุกหัวนอนก็แม่ของลูกที่เป็นคนซื้อให้ มันไม่มีอะไรด้วยซ้ำนอกจากตัว ลูกจะลดตัวไปอยู่กับคนต้อยต่ำพรรค์นั้นทำซากอะไรบังอร ตั้งสติของตัวเองสักที!"
"บังอรเจ็บ.."
เพียงเท่านั้นสติที่เคยหลุดหายไปก่อนหน้าก็กลับคืนมา ก่อนจะรีบดึงมือของตัวเองออกมาจากไหล่มนของลูกสาวในทันที
"กับไอ้เสือที่พ่อยอมให้มันกับน้ำอบได้ตกลงปลงใจกันมันก็เพราะว่าไอ้เสือมันมีปัญญาที่จะเลี้ยงดูลูกสาวเขาได้ยังไงละบังอร แต่ไอ้เด็กคนนั้นมันไม่มีแม้กระทั่งปัญญาจะเลี้ยงลูกให้สุขสบายด้วยซ้ำบังอร พ่อรับไม่ได้ พ่อรับไม่ได้จริงๆ ลูกบังอร..."
เข้าใจอารมณ์ของคนเป็นพ่อเลยอะ😭😭😭