"คุณ เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ" พิภูที่สังเกตเห็นได้ว่าเสื้อผ้าของบังอรเปียกชุ่มไปด้วยน้ำส้มเต็มไปหมดก็รีบสลัดแขนเด็กสาวแรกรุ่นคนนั้นที่กำลังเกาะแกะต้นแขนตนอยู่ให้ออกห่างและเดินเข้าไปถามไถ่หญิงสาวด้วยความเป็นห่วงในทันที
"บังอรเปล่าเป็นอะไรสักหน่อย" ท่าทางเชิดจมูกหน้าตั้งนั้นของบังอรทำให้เพื่อนสาวอย่างพิ้งค์เพิร์ลเกือบจะหลุดหัวเราะออกมาให้กับอาการหึงหวงพี่ชายของเธอจนปิดเอาไว้แทบจะไม่มิดของบังอร
"ขอโทษนะครับ" พิภูเอื้อมมือไปหยิบผ้าสีขาวสะอาดผืนบางที่อยู่ใกล้กันก่อนจะนำมาซับคราบน้ำส้มที่เปียกชุ่มไปทั่วทั้งตัวให้กับหญิงสาว
บังอรแอบคว่ำปากใส่เด็กหญิงวัยรุ่นคนก่อนหน้าที่กำลังยืนมองการกระทำของพิภูตาปริบๆ หากจะเทียบกันแล้วอย่างเด็กคนนั้นนะหรือจะมาเทียบเคียงความสวยที่เธอมีได้ ถึงเธอจะอายุมากกว่าเด็กหญิงคนนั้นอยู่ร่วมสิบปีด้วยกันก็ตามทีแต่ถ้าหากได้ประชันความสวยกันคนที่ชนะจะต้องเป็นเธอ บังอรเชื่ออย่างนั้น
แหมะ!
"ขอบคุณค่ะ" เพราะการกระทำมักจะไวกว่าความคิดอยู่เสมอบังอรจึงได้คว้าหมับทับลงบนมือใหญ่นั้นอีกทีเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ และเด็กหญิงคนนั้นก็รีบเดินออกไปจากร้านของพิภูในทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย
"พี่ภู นี่ยัยอรเพื่อนของเพิร์ลเอง"
"อะไรนะ!" พัชรพลที่พึ่งจะกลับมาจากเข้าห้องน้ำถามย้ำในสิ่งที่ลูกสาวของตัวเองพูดเมื่อก่อนหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองพึ่งจะได้ยิน
"คุณพ่อ เสียงดังทำไมคะ" พิ้งค์เพิร์ลว่าพลางยกมือขึ้นลูบอกเพื่อเรียกขวัญให้กับตัวเอง
"เพิร์ลบอกว่านี่ยัยอร เพื่อนของเพิร์ลเองค่ะพ่อ"
"ยัยลูกสาวคนนี้นี่! ตบปากตัวเองเดี๋ยวนี้เลยนะเพิร์ล รู้ไหมเขาเป็นใครแล้วเราเป็นใคร ลูกต้องเรียกคุณหนูบังอรว่าคุณเข้าใจไหม แล้วอย่าให้พ่อได้ยินอีกนะว่าลูกไปเรียกคุณหนูบังอรเขาแบบนั้น พ่อไม่ชอบ!"
หัวใจของคนเป็นพ่อถึงกับเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้รับรู้ว่าเจ้าโลกบ้าใบนี้มันกลมเสียจนจะนำพาความซวยมาสู่ครอบครัวเขาอีกแล้ว
เมื่อครั้งยังเรียนหนังสือ เขาก็ต้องคอยมาประสาทเสียกับชยพัทธ์ พ่อของบังอร ที่หวงภรรยาซึ่งเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของเขาเสียยิ่งกว่าอะไรดี
แล้วมาวันนี้เขายังจะต้องมาปวดหัวกับการที่ลูกสาวคนเล็กของตัวเองไปสนิทชิดเชื้อกับลูกสาวของชยพัทธ์ ซ้ำลูกชายคนโตยังดูเหมือนจะมีใจรักชอบบังอรอีกอย่างนั้นนะหรือ
พัชรพลอยากจะบ้า จะได้บ้าตายจริงๆก็คราวนี้แหละ....
"คุณหนูบังอรเขาเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณชยพัทธ์และคุณชัยรัมภา เพื่อนสนิทของพ่อที่เป็นเจ้าของตลาดเลยนะเพิร์ล ลูกรู้ใช่ไหมว่าตัวเองต้องปฏิบัติตัวเองต่อคุณหนูบังอรยังไง"
เมื่อได้ยินดังนั้นพิ้งค์เพิร์ลก็รีบถอยห่างจากบังอรอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวในทันที ยอมรับว่าเธอรู้สึกตกใจอยู่ไม่น้อยกับสิ่งที่บิดาพึ่งจะกล่าวมา ด้วยว่าเธอรู้จักกับบังอรผ่านกลุ่มคนโสดในแอปพลิเคชั่นหนึ่ง ไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าเพื่อนที่ตัวเองรักจะกลายมาเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของไฮโซชื่อดังระดับทวีปเอเชียไปเสียได้
"ยัยเพิร์ล" คุณหนูผู้ที่มีพิ้งค์เพิร์ลเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวก็ถึงกับเบะปากด้วยความรู้สึกน้อยใจในท่าทีตีตัวออกห่างของเพื่อนสาว
"เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอยัยเพิร์ล หรือฉันแค่คิดมันไปเอง"
"ฉันแค่ไม่อยากให้ใครมองว่าฉันเข้าหาแกเพราะเงิน"
พิ้งค์เพิร์ลเลือกที่จะบอกออกไปตามที่ข้างในหัวใจคิด ขอเพียงได้รู้สักนิดว่าบังอรนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เธอรับรองได้ว่าจะไม่เอาตัวเองเข้ามาเกี่ยวพันกับหล่อนให้ตัวเองต้องตกเป็นที่ครหาว่าเกาะเพื่อนกินอย่างแน่นอน
"ฉันรู้ว่าแกไม่เคยคิดแบบนั้นกับฉัน" บังอรว่าอย่างยังคงรู้สึกน้อยใจในท่าทีที่เหมือนอยากจะตัดขาดกับเธอของเพื่อนสาว
"แกเป็นเพื่อนฉัน ฉันรักแกมากนะเพิร์ล แกเองก็รักฉันไม่ใช่หรือไง" บังอรโผเข้าสวมกอดร่างสูงโปร่งนั้นอย่างไม่ยอมให้หล่อนถอยห่างไปจากเธออีกแล้ว
"เปลี่ยนเสื้อหน่อยไหม เสื้อแกเปียกนะยัยอร"
พัชรพลที่เห็นว่าเด็กทั้งสองคนรักกันฉันท์เพื่อนมากจริงๆจึงเลือกที่จะไม่เข้ามาก้าวก่ายอีก ก่อนจะหันไปหยิบเสื้อตัวใหม่ให้บังอรได้สวมใส่แทนตัวเดิมที่เปียกไปหมด
ครูต่อมาบังอรก็ออกมาจากห้องลองเสื้อของร้านในชุดเสื้อสีขาวสะอาดและกางเกงยีนส์ขาสั้นของพิ้งค์เพิร์ลพร้อมด้วยผมที่ปล่อยให้ยาวประบ่าแทนที่จะรวบตึงอย่างทุกที
"น้ำลายหกแล้วพี่ภู" พิ้งค์เพิร์ลหัวเราะคิกคักให้กับพี่ชายที่เสียอาการไปแล้วเป็นรอบที่สิบเห็นจะได้นับตั้งแต่บังอรก้าวเท้าเข้ามาในร้าน
"กางเกงแกสั้นไปไหมเพิร์ล" เมื่อได้เห็นเนื้อนางขาวผ่องดั่งแตงร่มใบที่โผล่พ้นขากางเกง พิภูก็เกิดอาการสั่นไหวขึ้นมาที่เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันคืออะไร
"พี่ภู นี่พี่หวงเพื่อนเพิร์ลเหรอ" พิ้งค์เพิร์ลยกมือขึ้นป้องปากอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าบังอรนั้นจะมีผลต่อหัวใจผู้ชายใสซื่ออย่างพี่ชายของเธอได้มากถึงขนาดนี้
"พี่เปล่าสักหน่อยเพิร์ล เพ้อเจ้ออะไรของเรา" แม้ปากจะพูดอย่างนั้นหากแต่สองมือสองตากลับเสาะเลือกสรรหาเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับหญิงสาว
"ได้แล้ว" ค้นไปจนเจอเสื้อฮูชตัวโคร่งของตัวเองจึงยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจก่อนจะนำมันไปยื่นให้กับบังอรเพื่อหวังให้หญิงสาวใส่เสื้อตัวนี้ทับร่างไปอีกชั้นนั่นเอง
"ไอ้พี่ภู ผู้ร้ายปากแข็ง!"
หวงน้องแต่ไม่รู้ว่าอาการที่ตัวเองกำลังเป็นเขาเรียกว่าหวง เอ็นดูพี่ภู🤣