หลังจากขี้แพ้จนพอแล้ว รามคิรินทร์ขับรถตรงมายังบ้านของตนเพื่อเอาของสำคัญ ลูคัสมองตามลูกชายที่เดินเข้ามาโดยไม่สนใจเสียงเรียกของเขาด้วยความหงุดหงิด
"ให้เวลาลูกหน่อยนะคะ"
"มันจะเอาเวลาสักเท่าไหร่เจ้าขา หนูก็รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าคิรินทร์จะทำอะไรพี่คอยแก้ปัญหาให้ด้านหลังเสมอ แต่ครั้งนี้พี่ไม่อยากทำแล้ว พี่อยากให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งที่ตัวเองทำลงไปบ้าง"
"พี่ลูคัส พี่ไม่รักลูกเหรอคะ"
"เพราะพี่รักไงเจ้าขา เพราะรักพี่ถึงทำแบบนี้"
"แต่เจ้าขาสงสารลูก"
"อดทนนะเชื่อพี่ ให้คิรินทร์แก้ปัญหาของเขาบ้าง อนาคตเขาจะต้องสานต่อธุรกิจที่เหลือของพี่ หากยังเป็นแบบนี้ใครจะยอมรับเขาในฐานะผู้บริหารคนใหม่"
"เฮ้อ" เจ้าขาถอนหายใจหนัก ไม่นานรามก็เดินลงมาจากด้านบน
"นั่นแกจะไปไหน"
"ไปดูแลคนที่พ่อให้ผมดูแลไง"
"อย่ามาประชดนะคิรินทร์!"
"พ่อจะเอาอะไรจากผมอีก"
"อย่าทำเหมือนทุกคนรอบตัวแกผิดไปหมดแล้วแกไม่ผิดอะไรเลย ถ้ารักแฟนแกมากคนที่อยู่ในห้องกับแกตอนนั้นควรเป็นแฟนของแกไม่ใช่หนูน้ำริน"
"ก็เธอเดินมาเสนอให้ผมถึงห้อง แค่วางยามันคงไม่สาแก่จะ...เพี๊ยะ!" หน้าของรามหันไปตามแรงตบ ลูคัสเหลืออดเกินกว่าจะทนฟังลูกชายดูถูกหลานสาวของตัวเอง
"นี่พ่อตบผมเพราะมันเหรอ?"
"ฉันจะทำมากกว่านี้ถ้าแกยังโง่ไม่เลิก"
"พ่อต่างหากที่งะ..."
"คิรินทร์!" เจ้าขาตวาดลั่นก่อนที่ลูกจะพูดอะไรไม่สมควรออกมา เธอมองลูกชายด้วยความผิดหวัง
"ขอโทษครับ" ชายหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกผิด ลูคัสไม่พูดอะไรแต่เลือกจะเดินขึ้นด้านบนไป
"คิรินทร์ มี้จะไม่เข้าไปยุ่งในสิ่งที่ลูกจะทำ เพราะลูกโตแล้ว แต่จำไว้ว่าทุกการกระทำย่อมมีราคาที่ต้องจ่าย เข้าใจใช่มั้ยลูก"
"ครับ"
"จะไปข้างนอกใช่มั้ย งั้นก็ขับรถดี ๆ นะลูก"
"ครับ" เจ้าขาเดินตามลูคัสขึ้นไปอีกคน รามกำหมัดแน่นด้วยความโกรธ เขาโทษน้ำรินทุกอย่างที่ทำให้เรื่องราวเป็นแบบนี้ แต่ก่อนจะได้เอาคืนเขามีบางสิ่งที่ต้องไปทำนั่นก็คือการขายพวงมาลัยอย่างทุกวัน
"วันนี้มาช้านะ"
"อ้าว เฮียลาซ ไหนว่าต้องไปตัดอ้อยที่ต่างจังหวัด"
"ตัดเสร็จแล้ว"
"ได้มาเท่าไหร่ครับ"
"พันหนึ่ง ได้เยอะฉิบหายเดี๋ยวว่าจะไปอีก" สองคนพูดคุยกันในระหว่างที่เดินไปตามสี่แยก เสื้อผ้าที่ทั้งคู่สวมใส่เป็นเพียงเสื้อยืดเก่า ๆ แถมยังมีรอยขาด
"คนขาดบอกผมด้วย"
"บอกให้มาแย่งลูกค้าเฮียหรือไง"
"แค่นี้ก็แบ่งไม่ได้ ขี้งกจัง"
"ไม่ต้องพูด รอบก่อนหนีเฮียไปตัดหญ้าคนเดียว เฮียไม่ลืมนะ" ลาซเอ่ยพลางทำหน้าบึ้งใส่ลูกพี่ลูกน้อง
"รอบหน้าเดี๋ยวผมบอก"
"แล้วนี่ไอ้แฝดมันทำอะไร"
"เห็นว่ากำลังวางแพลนจะเปิดร้านอาหารตามสั่ง"
"เออ ดี ๆ จะได้มีที่กินข้าวไม่แพง" รามเหม่อมองไปยังรถบนถนนจนลาซที่เดินนำหน้าต้องหยุด
"เป็นอะไร?"
"เปล่าครับ"
"มีอะไรไม่คุยกันแล้วเหรอเดี๋ยวนี้?"
"เฮียคงรู้เรื่องจากป๊าเฮียบ้างแล้ว"
"อืม รู้แล้ว" ลาซตอบแบบไม่โกหก และเขาก็ไม่เลือกข้างใคร
"ผมไม่อยากเสียรดาไป"
"ทำไมตอนโดนยาไม่ให้การ์ดมาเรียกรดา?"
"เขายังไม่รู้สถานะของผม และผมก็ยังอยากให้เราเข้าใจกันดีกว่านี้ก่อน"
"ทะเลาะกันก่อนหน้าอยู่แล้วเหรอ?"
"ครับ ผมไม่ค่อยมีเวลา ผมลืมวันครบรอบเจ็ดเดือน ผมเป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่องใช่มั้ย แถมยังนอกกายเขาอีก"
"คิรินทร์ นายรักรดาจริง ๆ ใช่มั้ย?"
"ทำไมเฮียถามแบบนั้น"
"ตอบสิ"
"ครับ ผมรัก"
"แล้วทำไมเขาถึงเป็นคนที่นายปกปิดความจริงล่ะ หรือนายกลัวว่าถ้าเขารู้ว่านายเป็นใครแล้วเขาจะไม่ได้รักนายจากใจจริง"
"...." รามไม่มีคำตอบ แค่นั้นก็ทำให้ลาซได้รู้บางอย่าง
"คิดทบทวนนะคิรินทร์ คนเราน่ะมีโอกาสไม่มากหรอก แล้วก็เรื่องของน้ำริน เฮียรู้ว่านายโกรธ แต่น้องเป็นเหมือนครอบครัวเราคนหนึ่ง นายต้องใช้เหตุผลให้มาก"
"ผมไม่สามารถมองเธอเป็นน้องสาวได้อีกแล้วเฮียลาซ เธอทำให้ผมต้องเสียคนที่รักมากที่สุดไป"
"งั้นก็แล้วแต่นาย เฮียเชื่อว่าสักวันความจริงต้องปรากฏ"
"เฮียจะบอกว่ารินไม่ได้วางยาผม?" ร่างแกร่งพูดพร้อมหัวเราะออกมาเบา ๆ จะให้เขาเชื่อได้ยังไงในเมื่อเด็กเสิร์ฟที่เอาเหล้าแก้วนั้นมาให้เขาก็บอกชื่อชัดเจน
"เฮียไม่รู้และไม่อยากรู้ เพราะมันไม่ใช่เรื่อง แต่เฮียเชื่อว่าถ้ารามอยากรู้มันจะต้องมีทางให้รู้" ลาซพูดแค่นั้นก่อนจะรีบวิ่งไปเพราะมีรถเรียกซื้อพวงมาลัย รามคิดตามก่อนจะเดินไปอีกฝั่งจะได้ไม่แย่งลูกค้ากัน
หลังจากขายพวงมาลัยเสร็จ รามเปลี่ยนชุดเพื่อจะไปรับจ้างล้างจานต่อ ส่วนลาซก็เตรียมกลับบ้านเพราะพรุ่งนี้มี vidio conference เนื่องจากตัวตนของทายาทตระกูลบราวน์เป็นความลับ จึงไม่มีใครเคยเห็นหน้าหลานลัมบาน่าทุกคน
"เถ้าแก่ ผมมาแล้ว"
"เออ ๆ ว่าจะโทรไปตาม มาช้าจริง ๆ มึง"
"ผมเพิ่งขายพวงมาลัยเสร็จ ขอโทษครับ"
"แกมันเด็กขยันจริง ๆ จะเก็บเงินไปขอแฟนล่ะสิ?" คำถามของเจ้าของร้านแทงใจดำรามเหลือเกิน
"อ้าว เงียบไปทำไม หรือเอ็งมีหนี้ ทำไมไม่บอก"
"เปล่าครับ ผมแค่คิดว่าเงินมีเท่าไหร่แล้วน่ะ" รามแสร้งยิ้มและเดินเลี่ยงไปทางที่ล้างจาน
"ถ้าไม่มีญาติผู้ใหญ่ก็บอก เดี๋ยวฉันจะไปเป็นผู้ใหญ่ให้"
"ฮ่า ๆ ขอบคุณครับ ใจดีจริง ๆ" รามชอบชีวิตของตัวเองตอนเป็นแค่ไอ้รามมากที่สุด เพราะทุกคนที่เข้าหาเขาล้วนมีแต่ความจริงใจ
"ฉันเอ็นดูแกเหมือนหลานคนหนึ่งแหละเจ้าราม แกน่ะมันขยัน แฟนคงโชคดีน่าดู" ปกติเถ้าแก่ก็ไม่พูดถึงเรื่องคนรักเขามากเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าอะไรดลจิตดลใจให้วันนี้พูดไม่หยุด มันเหมือนเป็นการซ้ำแผลในใจของเขา
"ครับ"
"เออ ๆ ล้างจานเถอะ เสร็จแล้วก็ออกมากินข้าว"
"ครับ" หลังจากเจ้าของออกไป รามก็ยืนเหม่ออยู่พักหนึ่งและค่อย ๆ เริ่มลงมือทำหน้าที่ของตนเอง เขาได้แต่คิดว่าก่อนหน้าในตอนที่มีปัญหากันระหว่างเขาและรดา มันเกิดข้อผิดพลาดตรงไหน เป็นที่เขาบ้างานจนเกิดเหตุหรือละเลยเธอไปงั้นเหรอ
หากเขาเป็นคนที่ดีขึ้นมากกว่านี้ แฟนสาวพอจะมีโอกาสกลับมารักกันได้ใหม่มั้ย และคำตอบก็ผุดขึ้นมาในหัวว่าไม่ เพราะตอนนี้ปัญหาใหญ่ของเรื่องมันคือน้ำริน ปัญหาที่รามต้องจัดการให้เรียบร้อยและเอาคืนให้สาสมกับความเจ็บช้ำในใจ