บทที่3
ถูกหลอกมาดูตัว
วันต่อมา...
เพียงฝันถูกคุณพ่อพามาร้านอาหารบนโรงแรมหรู เพื่อคุยเรื่องงานกับลูกค้าคนสำคัญ เพียงฝันเลยหมดโอกาสที่จะได้บอกเรื่องการถือหุ้นของบริษัทแม้คุณพ่อของเธอจะมีหุ้นอยู่บ้างแถมยังได้นั่งเป็นประธานบริษัทแต่ถ้าเธอเปิดเผยว่าหุ้นส่วนของเธอที่ได้รับมาจากคุณแม่มีมากกว่าคุณพ่อ6% เธอก็จะกลายเป็นผู้บริหารKBในทันที
“คุณพ่อคะนี่มันอะไรกันคะ” ใช่นี่มันอะไรกันฉันเห็นน้าทิพย์นั่งอยู่กับผู้ชายคนนึงที่มีสีหน้าไม่พอใจน้าทิพย์เอาซะเลย
“มาเถอะเพียง น้าทิพย์รออยู่”
เพียงฝันถูกพามาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เธอยกมือไหว้น้าทิพย์เพื่อนรักของคุณแม่กับชายหนุ่มที่น่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับคุณอชิระ
“สวัสดีค่ะ”
“หนูเพียงไม่เจอกันตั้งนานดูสวยขึ้นนะลูก มานี่มาน้าจะแนะนำให้หนูรู้จักลูกชายของน้า หนูเคยเจอกันตอนเด็กๆ แต่พี่เขาไปเรียนเมืองนอกพึ่งจะกลับมาได้ปีเดียว พี่ปฐพีเรียกพี่ดินก็ได้ลูก” ทิพย์วรรณหน้าบานเป็นจานดาวเทียมเพราะหนูเพียงฝันทั้งสวยทั้งเรียบร้อย หมายปองจะให้เกี่ยวดองกันเพื่อที่พิสุทธิ์นั้นจะได้ไปไหนไม่ได้
“สวัสดีค่ะพี่ดิน”
“อืม” ปฐพีเบนหน้าหนีเพราะรู้สึกไม่ชอบหน้าพ่อของเพียงฝันจนอาหารมื้อนี้กร่อยไปเลย เพียงฝันเองก็รู้สึกอึดอัดไม่ต่างกัน เธอจึงขอตัวมาเข้าห้องน้ำออกมาก็เจอปฐพียืนล้วงกระเป๋าพิงกำแพงรอเธออยู่
“อุ๊ย! พี่ดินมาทำอะไรตรงนี้คะ”
“แม่ฉันให้มาดูเธอ ไหน ๆ ก็ได้ออกมาแล้วเธอรู้เรื่องใช่ไหมว่าพ่อเธอกับแม่ฉันต้องการอะไร”
เพียงฝันทำท่าครุ่นคิดเพราะเธอยังไม่รู้เรื่องอะไร ที่เธอมาวันนี้ก็เพราะพ่อของเธอบอกว่าจะพาเธอมาพบลูกค้าเท่านั้น
“เพียงไม่รู้ค่ะ คุณพ่อไม่ได้บอกอะไรเลยบอกแค่จะพามาพบลูกค้า”
“เฮ้ออ พ่อเธออยากให้เธอกับฉันแต่งงานกัน”
เพียงฝันทำท่าตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน เธอไม่คิดว่าคุณพ่อของเธอจะมีความคิดอะไรแบบนี้ด้วย
“เพียงจะเข้าไปคุยกับคุณพ่อเองค่ะ!!”
ปฐพีปล่อยให้เพียงฝันออกโรงไปคนเดียวส่วนตัวเองเดินหนีออกมาจากวงจรอุบาท ด้านเพียงฝันเธอเดินกลับมาที่โต๊ะอาหารก็รีบถามถึงเรื่องราวที่ได้ยินมาจากปฐพีทำเอาทิพย์วรรณโกรธแค้นลูกชายเหลือเกินที่ทิ้งบอมเอาไว้แล้วหายตัวเข้ากลีบเมฆ
“เพียงฟังพ่อกับน้าทิพย์ก่อนะ พ่อไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ ทุกวันนี้ที่เรามีกินมีใช้ก็เพราะน้าทิพย์นะลูก ที่พ่อยอมให้เพียงแต่งงานกับพี่ดินก็เพราะพ่อมั่นใจว่าพี่ดินเขาจะดูแลเพียงได้ อย่างน้อยพวกเราก็ได้ปลดหนี้บ้าน ที่แม่ของลูกบอกให้รักษาไว้จนสุดชีวิต บ้านหลังนี้ลูกก็รู้ไม่ใช่เหรอว่ามันมีความทรงจำมากมาย” พิสุทธิ์พยายามเกลี้ยกล่อมลูกสาวที่หัวอ่อนเหมือนแม่ของเธอให้ยอมตกปากรับคำแต่ดูเหมือนว่าเพียงฝันจะไม่ยอมง่ายๆ
“หนูเพียงคิดดูดีๆ นะลูก บริษัทของพ่อหนูกำลังถูกฟ้องล้มละลายอยู่ ไหนจะบ้านที่จะโดนธนาคารยึดอีก หนี้นอกระบบพ่อหนูก็ต้องเธรดหุ้นมาจ่าย พอไม่มีพวกมันก็ขู่ฆ่า น้าช่วยจนตัวน้าเองก็แทบหมดตัว มีทางเดียวที่จะผ่อนหนักให้กลายเป็นเบาได้คือหนูต้องแต่งงานกับพี่ดิน เงินสินสอดน้าจะให้พ่อของหนูนำไปปลดหนี้สิน ดีไหมลูก” ทิพย์วรรณช่วยเกลี้ยกล่อมเพียงฝันจนเธอเริ่มมีสีหน้าวิตกกังวล
ด้านปฐพีที่พยายามเก็บเรื่องนี้เอาไว้เพราะไม่อยากให้น้ำเหนือมารับรู้เรื่องนี้ แผนที่ปฐพีวางเอาไว้คือยอมแต่งงานเพื่อขึ้นมาเป็นประธานอย่างเต็มตัวผู้เป็นแม่จะได้เหลือเพียงเงินเดือนไม่ใช่นำเงินกำไรของบริษัทไปปรนเปรอผู้ชายหน้าด้านอย่างพิสุทธิ์อีก
“คุณปฐพีครับ จะเอายังไงต่อดีครับ”
“กูต้องแต่ง แต่เป็นการแต่งเพื่อยึดอำนาจจากแม่กูเท่านั้น ให้เสร็จเรื่องกูค่อยหย่า แต่ติดที่น้ำเหนือนี่แหละกูไม่รู้จะพูดยังไงเลย” ผมมองรูปหน้าจอโทรศัพท์ที่เป็นรูปของน้ำเหนือสุดน่ารักของผม เห็นแล้วก็คิดถึง อยากไปหาจัง
ด้านเพียงฝันเธอนำเรื่องวันนี้กลับมาคิดทบทวน หากเธอแต่งงานไปอย่างน้อยเธอก็อาจจะพลิกวิกฤตในครั้งนี้ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เธอจึงนัดคุยกับอชิระทนายความของคุณแม่ เพื่อหาทางออกให้กลับปัญหาที่เธอกำลังเจออยู่ตอนนี้
เมื่ออชิระได้รับรู้ก็ถึงกับจิตใจห่อเหี่ยวแต่จะให้ตนยื่นมือเข้าไปช่วยก็คงไม่เหมาะเพราะตนเก่งด้านกฎหมายไม่เก่งเรื่องบริหารอาจจะเข้าไปเป็นตัวถ่วงให้เพียงฝันเปล่าๆ
“น้องเพียงแน่ใจเหรอครับว่าจะแต่งงานกับคุณปฐพี ผมเคยทำเป็นทนายให้กับคุณปฐพีครั้งนึงรู้สึกว่าคุณปฐพีจะมีแฟนแล้วนะครับ”
“เพียงว่าเพียงต้องลองคุยกับเขาดูก่อน บางทีมันอาจจะมีทางออกก็ได้นะคะ” ทางออกที่ดีที่สุดหากต้องแต่งงานแล้วหย่าทีหลังเธอจะดูเป็นคนหน้าเงินหรือเปล่า แต่เธอไม่ได้รักและไม่เคยคิดจะรักคนอย่างเขาด้วย
“น้องเพียงคิดอะไรอยู่ครับบอกผมได้ไหม” อชิระเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะใบหน้าของเพียงฝันบ่งบอกว่าเธอกำลังเครียดกับการตัดสินใจในครั้งนี้
“เพียงจะดูเป็นคนเลวไหมคะถ้าเพียงเลือกที่จะแต่งงานเพื่อนำเงินมาใช้หนี้” เพียงฝันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ อชิระจึงกุมมือเธอไว้เพื่อให้กำลังใจเธอ
“ผมว่าเราลองไปคุยกับคุณปฐพีตรงๆ ดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมจะไปเป็นเพื่อนน้องเพียงเองดีไหม” รอยยิ้มที่ทำให้เพียงฝันหัวใจพองโตเพราะอชิระเป็นผู้ชายที่อบอุ่น สุภาพ คอยช่วยเหลือคุณแม่หาหลักฐานเกี่ยวกับการคบชู้ แต่สุดท้ายคุณแม่เพียงฝันก็มาเสียชีวิตอย่างกะทันหันเสียก่อน
“ก็ได้ค่ะงั้นเราไปกันเลยดีไหมคะ”
“ครับ”
เพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มของเพียงฝันอชิระก็เบาใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของเธอ มันดีกว่าที่เธอทำหน้าบึ้งตึงเสียอีก ทั้งสองนั่งรถมาด้วยกันโดยที่อชิระเป็นคนขับรถให้เธอเอง
“น้องเพียงจะเข้าหาคุณปฐพีต้องระวังนิดนึงนะครับ คุณปฐพีค่อนข้างเป็นคนพูดจาไม่ไว้หน้าใคร อย่าแสดงความอ่อนแอออกมาให้เขาเห็นเด็ดขาด”
“เรื่องนั้นเพียงทราบดีค่ะ ของคุณมากนะคะที่คอยอยู่ข้างๆ เพียง”