“เมื่อกี้ฉันเหมือนจะเห็นหลังของยายเหนือไว ๆ นะ…” สุกัญญาที่เพิ่งหายช็อกจากการเปิดตัวประธานบริษัทคนใหม่ซึ่งเคยเป็นเด็กฝึกงานร่วมแผนกกับเธอมาก่อนหันไปบอกสรศักดิ์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “ตอนนี้ยายเหนือต้องไม่โอเคมากแน่ ๆ นายรออยู่นี่นะ ฉันจะออกไปตามยายเหนือเอง"
ไม่รอให้เพื่อนชายเอ่ยตอบรับหรือปฏิเสธ สุกัญญาเดินออกจากโถงประชุมไปทางประตูข้างอย่างรวดเร็ว เธอตรงไปสำรวจห้องน้ำเป็นที่แรก และนั่นทำให้เธอได้พบกับดาวเหนือที่กำลังยืนนิ่งอยู่หน้าอ่างล้างหน้า ความเป็นห่วงเพื่อนทำให้เธอตรงปรี่เข้าไปกอดร่างของดาวเหนือทันที
“เหนือ แกโอเคไหม” สุกัญญาถามพลางผละกอดออกมาแล้วใช้สองมือจับใบหน้าซีดเซียวของเพื่อนรักไว้ “เมื่อกี้ฉันเห็นหลังแกไว ๆ แต่ช็อกกับเรื่องที่หมอนั่นกลับมาซะก่อนก็เลย…”
“ฉันโอเค ไม่เป็นไรหรอกหนิง" ดาวเหนือฝืนยิ้มฝืด ๆให้กับเพื่อนสนิท ถึงแม้จะรู้ว่าไม่สามารถทำให้สุกัญญาเชื่อได้ก็ตาม
“แกไม่ต้องพยายามเข้มแข็งเพื่อใครทั้งนั้นเหนือ ร้องออกมาเถอะ”
“…” พลันน้ำตาหยดหนึ่งไหลอาบลงบนแก้มนวล ดาวเหนือโผเข้ากอดเพื่อนเอาไว้แล้วซุกหน้าร้องไห้ลงบนลาดไหล่
“ไม่เป็นไรนะเหนือ ทุกอย่างจะโอเค แกมีฉันกับบีมอยู่ตรงนี้เสมอนะ ไม่มีใครเข้ามาทำให้แกเจ็บปวดได้อีกแล้ว" สุกัญญาว่า พลางยกมือขึ้นปลอบประโลมเพื่อนสาวที่กำลังหัวใจแตกสลายด้วยความรู้สึกเป็นห่วงจากใจจริง
“ฉันเกือบจะเดินออกมาจากความรู้สึกนั้นได้แล้วนะหนิง ฮึก… ฉันไม่อยากกลับไปเจ็บปวดกับเรื่องเดิมอีกแล้ว” ดาวเหนือผละออกมาพูดกับสุกัญญาด้วยน้ำตานองหน้า ในตอนนี้เธออ่อนแอถึงขีดสุดเพราะบาดแผลที่ยังไม่สมานกันดีในหัวใจกำลังถูกคนที่สร้างมันขึ้นมาสะกิดให้ต้องรู้สึกปวดแปลบขึ้นมาอีก
“หมอนั่นไม่มีทางทำอะไรเธอได้อีกแล้ว เหนือ มองหน้าฉันนะ อยู่กับปัจจุบัน เขาก็แค่กลับมา ยังไงฉันกับบีมจะช่วยดูแลหัวใจแกเอง ไม่เป็นไรนะเหนือ" สุกัญญาล้วงหาทิชชูในกระเป๋าสะพายของตนมาเช็ดน้ำตาให้กับเพื่อนด้วยความรู้สึกเจ็บปวดในใจไม่ต่างกันที่ต้องเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสภาพนี้ซ้ำอีกหน
“เฮ้ ! ฉันเข้าไปไม่ได้ มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า" สรศักดิ์ที่เดินออกจากงานตามมาหยุดยืนอยู่ที่ทางเข้าห้องน้ำหญิงถามขึ้น ดาวเหนือที่เริ่มหยุดร้องไห้แล้วพยายามหันไปยิ้มให้กับเขาเพื่อให้สบายใจ ถึงแม้ว่าจะเป็นยิ้มที่ไม่สดใสเอาเสียเลยก็ตาม
“บีม ช่วยไปรับน้องเรอันที่โรงเรียนหน่อยสิ” สุกัญญาว่าพลางก้มลงมองนาฬิกาสมาร์ตวอชที่ข้อมือของตน “อีกเดี๋ยวก็ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว ถ้าไม่มีคนไปรับตรงเวลาจะลำบากคุณครูต้องคอยด้วยเปล่า ๆ"
“หนิง ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวเราไปรับเองก็ได้" ดาวเหนือเกรงใจเพื่อนทั้งสองที่คอยช่วยเหลือเธอมาตลอด เธอไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีใครจริงใจกับเธอได้มากเท่าสองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้อีกแล้ว
“ไม่เป็นไรได้ยังไง หน้าเธอซีดยิ่งกว่าไก่ต้มที่ฉันเอาไว้ไหว้เจ้าวันตรุษจีนซะอีก ขืนขับรถไปรับน้องเรอันรถได้ลงข้างทางก่อนแน่ กลับบ้านไปพักผ่อนน่ะดีแล้วย่ะ” สุกัญญาว่าติดตลกหวังให้ดาวเหนือผ่อนคลายลงบ้าง
“ถ้าอย่างนั้นพอรับเรอันมาแล้ว พวกแกอยู่กินข้าวที่บ้านเราก่อนนะ" ดาวเหนือเอ่ยชวนด้วยรอยยิ้มที่สดชื่นขึ้นมาบ้าง “อยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันหลาย ๆ คน เรอันจะได้ไม่เหงา"
“ได้สิเหนือ เอ้อ งั้นก่อนถึงบ้านเราขอแวะห้างสักหน่อยนะ" สุกัญญาตอบรับด้วยรอยยิ้มพลางบีบมือให้กำลังใจเพื่อน “อยากซื้อพวกของเล่นไปให้เรอันเพิ่มน่ะ"
“แค่ที่แกกับบีมซื้อมาให้หลานตลอดสี่ปีนี่ก็มากจนเรอันจะเล่นไม่หมดทุกชิ้นอยู่แล้วนะ ยังจะซื้ออีกเหรอ" ดาวเหนือเริ่มหัวเราะออกมาได้บ้างแล้ว
“ไปมือเปล่าเราก็เสียคะแนนแย่สิ ไอ้บีมยิ่งชอบเลี้ยงขนมเรอันทำคะแนนอยู่ด้วย เดี๋ยวหลานไม่รักฉันพอดี" สุกัญญาทำหน้าตาจริงจังมาก ราวกับว่าสรศักดิ์จะมาแย่งหลานไปจริง ๆ อย่างไรอย่างนั้น
“ยายบ๊องเอ๊ย ทำจริงจังไปได้ ไปส่งพี่เหนือได้แล้วไป แล้วอย่าพาพี่เหนือไปเถลไถลที่ไหนล่ะ" สรศักดิ์เอ่ยเย้าแหย่เพื่อนสาวคนสนิทตามนิสัยเหมือนอย่างเคย
“ยังไงก็ช่างเถอะ ถึงโรงเรียนรับหลานขึ้นรถมาแล้วถ่ายรูปรายงานลงในแช็ตกลุ่มด้วย ห้ามพากินของหวานล่ะ เดี๋ยวหลานจะเจ็บท้อง นายยิ่งไม่รู้เรื่องอยู่" สุกัญญาได้ทีเอาคืนใหญ่ สรศักดิ์จึงทำปากขมุบขมิบล้อเลียนกลับมา
“คร้าบ ๆ ทราบแล้วครับคุณแม่"