เสียงปรบมือโห่ร้องดังขึ้นเป็นระยะ ๆ สุกัญญายังคงนิ่งฟังพร้อมกับยกค็อกเทลขึ้นจิบ สายตาก็มองไปยังคุณหญิงทิพย์ลดาที่นั่งมองสามีบนเวทีด้วยสายตาภาคภูมิใจ เท่าที่เธอรู้มาคุณผู้หญิงท่าทางมีสง่าราศีคนนี้นั้นในอดีตเคยเป็นนางแบบลูกครึ่งสัญชาติไทย-รัสเซียชื่อดัง ไม่มีใครในยุคนั้นจะไม่รู้จักเธอ
ไม่รู้ว่าเฉิน ห่าวซานไปเจอกับทิพย์ลดาได้อย่างไร จึงได้มาลงเอยเป็นคู่ชีวิตกันมาจนถึงปัจจุบันนี้ ช่างเป็นความรักที่ลงตัวและน่าอิจฉามาก มันเกินคำว่ากิ่งทองใบหยกไปแล้วเสียอีก
“มองอะไรขนาดนั้น" สรศักดิ์เอ่ยขัดขึ้นมาจนสุกัญญาต้องกลอกตามองบนอย่างรำคาญใจ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เธอเองก็หวังว่าสักวันชีวิตจะได้พบกับความรักแบบเดียวกับท่านประธานและภรรยาบ้าง
“เอาละ ผมชักจะพูดพร่ำน่าเบื่อเกินไปแล้ว ก็ตามประสาคนแก่ที่เหมือนได้กลับมาพบลูกหลานละนะ ฮ่า ๆๆ มาถึงตรงนี้ผมต้องขอกล่าวอย่างเป็นทางการว่า ต่อจากนี้ประธานบริษัท W&C pub สาขาประเทศไทยจะเป็นของเฉิน ตง หรือไรอันลูกชายผู้สืบสายโลหิตของผมเพียงคนเดียว ผมเชื่อมั่นว่าลูกชายคนนี้ของผมจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการพัฒนา W&C pub ให้เจริญรุ่งเรืองและก้าวหน้าในตลาดเศรษฐกิจไปได้อีกหลายทศวรรษ ขอเชิญพบกับลูกชายของผมได้เลยครับ…”
มือที่มีรอยเหี่ยวย่นตามกาลเวลาผายไปทางด้านข้างของเวที จากนั้นร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มวัยใกล้เลขสามก็เดินตรงขึ้นมาบนเวทีด้วยท่าทีสง่างาม นิ่งขรึม และดูภูมิฐานสมกับเป็นทายาทของตระกูลเฉิน เส้นผมสีดำเซตเป็นระเบียบเรียบร้อย ใบหน้าหล่อเหลาราวกับปั้นแต่ง ดวงตาสีฟ้าคมดุ จมูกโด่งเป็นสันอย่างคนมีเสี้ยวรัสเซีย และริมฝีปากหนาเป็นกระจับ ทว่าไร้รอยยิ้มใด ๆ มองดูรวม ๆ แล้วหล่อเหลาสมกับคำที่ลือกันหนาหูก่อนหน้านี้ว่าเป็นเทพบุตรเดินดินก็คงไม่ผิดนัก
“เฮ้ย ! นั่นมันเด็กฝึกงานในบริษัทเราไม่ใช่เหรอ !”
“ฉันจำได้ เขาฝึกงานอยู่ฝ่ายการตลาดนี่ เธอเคยถ่ายรูปเขาไว้บ้างไหม"
“อะไรเนี่ย เด็กฝึกงานเมื่อห้าปีก่อนคนนั้นเป็นทายาทของท่านเฉิน ห่าวซานเหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อเลย !”
เสียงฮือฮาของใครหลาย ๆ คนดังกระหึ่มไปทั่วทั้งงานจนสุกัญญาแทบจะเสียประสาทสัมผัสทางหูไปแล้ว เธอจ้องคนที่ยืนอยู่บนเวทีตาไม่กะพริบ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนซีดสั่นราวกับใบ้จะกิน
“สวัสดีครับทุกท่าน ผมไรอัน หรือเฉิน ตงลูกชายคนเดียวของคุณพ่อครับ ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติมากที่ได้กลับมาอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่นอย่างสาขาไทย หลาย ๆ คนคงจะคุ้นหน้าคุ้นตาผมกันดี เพราะเมื่อห้าปีก่อนผมได้มาฝึกงานอยู่ที่นี่ในแผนกการตลาดครับ…” น้ำเสียงเรียบนิ่งนุ่มลึกเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำจนเสียงฮือฮาเงียบสงบลงได้ ไรอันจึงกล่าวถึงเรื่องอื่น ๆ ต่ออย่างฉะฉาน
ขณะนั้นหญิงสาวร่างเพรียวระหงเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่กลางโถง ใบหน้าขาวนวลตกแต่งด้วยเครื่องสำอางเพียงเบาบาง เส้นผมหยักศกสีเดียวกับท้องฟ้าในยามราตรีปล่อยสยายอยู่เต็มแผ่นหลัง พลันดวงตาสีน้ำตาลก็สบเข้ากับคนที่ยืนอยู่บนเวที ทำเอาโลกทั้งใบราวกับหยุดหมุน ดวงตาที่สบกันมีเศษความทรงจำที่ฉายย้อนในหัวราวกับเล่นภาพซ้ำ
“…” ไม่มีเสียงใดหลุดออกมาจากทั้งคนที่อยู่บนเวทีและตัวของเธอที่ยืนนิ่งอยู่ในตอนนี้ มือขาวซีดกำป้ายห้อยคอพนักงานที่มีชื่อเขียนกำกับว่า ดาวเหนือ ภิรมย์ศาสตร์ อย่างทำอะไรไม่ถูก จนกระทั่งสาวแว่นที่อยู่ใกล้ ๆ สะกิดให้เธอไปหาที่นั่ง
เจ้าของชื่อดาวเหนือเดินซวนเซไปนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ตัวอย่างคนที่เพิ่งรวบรวมสติได้ หัวใจดวงน้อย ๆ เจ็บขึ้นมาจนต้องยกมือสั่น ๆ ขึ้นไปกุมเอาไว้
“เรื่องการดำเนินกิจการของ W&C pub ต่อจากคุณพ่อ ผมยังคงยึดแนวทางเหมือนเดิมทุกประการ จะไม่มีการโยกย้าย เปลี่ยนตำแหน่ง หรือบังคับพนักงานเก่าออก…” ไรอันที่อยู่บนเวทีเองก็เหมือนเพิ่งจะรวบรวมสติได้เช่นกัน เขาเอ่ยต่ออย่างคล่องแคล่ว ทำเหมือนว่าการสบตากับหญิงสาวที่ยืนอยู่กลางโถงเมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น
และในที่สุดดาวเหนือก็กลั้นทำนบน้ำตาไว้ไม่ไหว เธอลุกขึ้นเดินออกจากงานทางประตูด้านข้างเพื่อไม่ให้เป็นเป้าสายตาโดยจุดหมายปลายทางคือห้องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด
“ส่วนแผนการบริหารอื่น ๆ ผมขอให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหารที่จะขึ้นมากล่าวต่อจากผมนะครับ ผมขอบคุณทุกท่านมากที่มาร่วมงานต้อนรับผมในวันนี้ ผมจะเป็นผู้นำที่ดี ไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังแน่นอน ขอบคุณครับ" ไรอันยกยิ้มอย่างไร้ความรู้สึกหนึ่งครั้งก่อนจะผละตัวลงเวทีไปด้วยความรวดเร็ว แม้จะมีประกายความสงสัยจากสายตาของผู้อื่นทั่วทั้งโถง แต่ทุกอย่างในงานก็กลับมาเดินต่อได้ด้วยความมืออาชีพของทีมบริหารที่ไรอันเลือกสรรมาอย่างดี
ร่างสูงก้าวเท้าเร็ว ๆ ไปตามทางเดินจนกระทั่งทันได้พบกับร่างของหญิงสาวที่ตนเพิ่งจะสบตาอยู่ตรงทางเลี้ยวก่อนถึงห้องน้ำ
“พี่เหนือ !”
เสียงเรียกนั้นทำให้เท้าที่กำลังเดินชะงักลง ดางเหนือค่อย ๆ หันมาเผชิญหน้ากับผู้ชายที่ทิ้งบาดแผลในใจให้เธออย่างช้า ๆ แต่ก็ไม่มีคำทักทายใดหลุดออกมาจากริมฝีปากสวยอิ่ม
ไรอันคิดว่าน้ำเหนือคงจะลืมเรื่องระหว่างเราไปแล้ว หรือไม่ก็แกล้งทำเป็นจำเขาไม่ได้ ชายหนุ่มจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อได้ข้อสรุปในใจตนเองแล้วว่า
ดาวเหนือจงใจเมินเขา
“ผมหวังว่าคุณคงจะสบายดี" ท่าทีโอนอ่อนของคนที่เพิ่งเรียก ‘พี่เหนือ’ ไปเมื่อครู่หายวับและแทนที่ด้วยความเย็นชาที่แผ่ซ่านซึมลึกถึงผิวเนื้อของคนฟังในบัดดล จากนั้นไรอันก็หันหลังกลับแล้วจ้ำอ้าวออกไปทันที ไม่ทันเห็นใบหน้าที่เจ็บปวดของดาวเหนือเลยแม้แต่น้อย