การกลับมาของคนในอดีต #1
“น้องลูกปลาจ๋า มาช่วยพี่ทางนี้หน่อยจ้ะ"
เสียงออกคำสั่งของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้นภายในโถงขนาดใหญ่ของ W&C pub บริษัทผลิตแอลกอฮอล์ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีบริษัทแม่อยู่ในจีน มีการเติบโตและขยายฐานการผลิตออกไปในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นแถบทวีปเอเชียหรือทางโซนยุโรป W&C pub ก็สามารถลงหลักปักฐานทำการค้าได้อย่างเจริญรุ่งเรือง
สาขาที่เปิดกิจการอยู่ในประเทศไทยทำผลประกอบการได้ดีไม่ต่างจากที่จีนเลยแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าแทบจะตีคู่สูสีกับทางบริษัทแม่เลยด้วยซ้ำไป พนักงานที่ทำงานอยู่ในบริษัททุกคนล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มีความสามารถและถูกคัดกรองเข้ามาเป็นอย่างดีแล้วทั้งนั้น ปัจจัยหลาย ๆ อย่างจึงส่งผลให้บริษัท W&C pub เติบโตอย่างก้าวกระโดดและขึ้นแท่นบริษัทผลิตน้ำเมาอันดับหนึ่งของไทยและอาเซียนได้ไม่ยาก
“ป้ายไวนิลที่จะติดบนเวทีกลางกับของกำนัลมาส่งแล้ว คนส่งบอกว่าขนขึ้นมาไม่ไหว ยังไงพี่ฝากลูกปลาหาน้อง ๆ ลงไปช่วยขนขึ้นมาทีนะ" สาวหน้าเฉี่ยวสวยเก๋แบบฉบับหญิงวัยทำงานออกคำสั่งอย่างชัดเจนด้วยรอยยิ้มที่ไม่ได้เต็มหน้าเท่าไรนัก มือของเธอยกขึ้นเสยผมที่ตกลงมาปรกตาตนเองขึ้น เผยให้เห็นเม็ดเหงื่อไหลซึมทั่วกรอบหน้าทั้งที่ยืนอยู่กลางห้องแอร์เย็นเฉียบ
“เอาไงดีล่ะทีนี้ นั่นก็ยังไม่เสร็จ นี่ก็ยังไม่เริ่ม โอ๊ย ! หัวจะปวด"
“บ่นเป็นยายแก่อีกแล้วนะเหนือ" สุกัญญาหรือหนิงเพื่อนสนิทของคนที่กำลังบ่นอยู่เอ่ยขึ้นมา
“จะไม่ให้บ่นได้ยังไง งานพรุ่งนี้สำคัญมากนะแก พวกแกสองคนมาก็ดีแล้ว รีบมาช่วยกันจะได้เสร็จทัน” ดาวเหนือหันไปตามเสียงเห็นเพื่อนสนิททั้งสองเดินมาพอดี
“ใกล้เสร็จยังครับพี่เหนือ” ชายหนุ่มคนหนึ่งยกกล่องลังน้ำเปล่าบรรจุแก้วใสกิ๊งมาวางบนโต๊ะใกล้ ๆ แล้วเอ่ยถามขึ้นมา
“อื้อ ใกล้แล้ว นายไปช่วยตรงนั้นที บริษัทออร์กาไนเซอร์ที่เราจ้างมาจัดงานช่วยได้มากเลย” ดาวเหนือก้มดูเอกสารแผนงานในมือเพื่อเช็กความเรียบร้อย
“ผมว่าให้พี่หนิงออกแรงบ้างก็ดีนะครับ เห็นเอาแต่เดินไปเดินมาไม่เห็นช่วยอะไรพี่เหนือเลย”
สุกัญญายกฝ่ามือของตนขึ้นหมายจะฟาดลงบนไหล่ของเพื่อนหนุ่มทันที ทว่ามือหนาที่เคลื่อนไหวได้ไวกว่าก็คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเรียวได้เสียก่อน
“แหนะ แหนะ บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าใช้กำลังในที่ทำงาน รู้ไหม ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา พี่ตีผมจนไหล่แทบหลุดออกมาแล้ว" สรศักดิ์บ่นออกมาอย่างไม่จริงจัง
“ก็ให้มันหลุดออกมาซะสิ ฉันยิ่งเครียด ๆ กับงานอยู่ ยังจะมีอารมณ์มาแซวเล่นอีกนะไอ้บีม" สุกัญญาทำตาขวางค้อนใส่เพื่อนร่วมงานของตนไปอีกหนึ่งที ก่อนจะพยายามบิดข้อมือของตนออกจากการเกาะกุม “ปล่อยนะ ฉันจะรีบทำงานต่อ"
“ก็พูดเพราะ ๆ หน่อยสิ" ชายหนุ่มหน้าตี๋ยังคงเซ้าซี้ไม่เลิก เพื่อนของสุกัญญาคนนี้เป็นคนผิวขาวจั๊วะ ตาตี่ แต่โครงหน้าพอดิบพอดี ไม่ได้หล่อตามพิมพ์นิยมของสังคมจนต้องออกปากชม แต่ก็ดูดีและสะอาดสะอ้านในแบบของหนุ่มออฟฟิศ
“ปล่อยดิฉันเดี๋ยวนี้ค่ะ คุณสรศักดิ์"
“คร้าบ ๆ คุณสุกัญญา ไม่กวนแล้วคร้าบ" เจ้าของชื่อสรศักดิ์หัวเราะร่วนอย่างร่าเริงเมื่อได้แกล้งเพื่อนสาวข้างกายสมใจอยาก “แล้วนี่มีอะไรให้ช่วยบ้างครับ"
“เหลือติดป้ายไวนิลแล้วก็จัดกิฟต์บ็อกซ์ให้มันเรียบร้อย เวลาแจกจะได้ไม่ต้องมัวงมซ้ายทีขวาที ถามจริงเถอะ แผนกการตลาดอย่างเรามีหน้าที่มาจัดสถานที่อย่างนี้ด้วยหรือไง" สุกัญญาบ่นกระปอดกระแปดตามนิสัยของตน
“ก็นี่มันบริษัทในไทยนี่นา มีเรื่องทำงานไม่ตรงฝ่ายบ้างเป็นเรื่องปกติแหละน่า” สรศักดิ์เอาน้ำเย็นเข้าลูบ “มาเถอะ เดี๋ยวเรื่องป้ายไวนิลผมจะช่วยดูให้ รวมถึงพวกจัดกิฟต์บ็อกซ์ด้วย"
“แล้วงานส่วนของนายล่ะเสร็จแล้วหรือไง อย่าให้เสียงานเสียการเชียวนะ”
“ก็ต้องเสร็จแล้วสิ ไม่งั้นจะมีเวลามากวนใจเธอได้ยังไงล่ะยายบ๊องขี้บ่นเอ๊ย"