หลังใช้เวลาช่วงค่ำหมดไปกับร้านหม้อไฟพร้อมกับบอกลาเด็กฝึกงานไฟแรงเรียบร้อยแล้ว สุกัญญาก็เดินเตะเท้ามาที่ป้ายรถเมล์พร้อมกับสรศักดิ์ เธอลอบมองใบหน้าของเพื่อนสนิทอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยทักออกมา
‘เป็นอะไรวันนี้ หน้าตาดูไม่ค่อยสดชื่นเลย’
สรศักดิ์ขมวดคิ้ว ปกติแล้วสุกัญญามักจะต้องเปิดประเด็นเป็นเรื่องชวนทะเลาะเสมอ แต่วันนี้กลับเป็นประโยคที่เจือด้วยความเป็นห่วงแทนเสียอย่างนั้น
‘ผีเข้าเธอเหรอหนิง ถามอะไรเนี่ย’
‘โว้ย ! พอถามดี ๆ ก็ว่าฉันผีเข้า อยากโดนด่ามากนักหรือไง ที่ฉันถามเพราะเห็นว่านายหน้าตาซีด ๆ ไม่ค่อยสู้ดียังไงล่ะ’ สุกัญญาอยากจะเอาเสาที่ป้ายยกขึ้นทุบหัวคนข้าง ๆ เสียจริง ตอบมาแต่ละอย่างน่าโมโหชะมัด
‘เปล่าหรอก แค่รู้สึกไม่ค่อยสบายเฉย ๆ วันนี้งานหนัก หัวหมุนไปหมด’ สรศักดิ์ตอบรับแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน หนุ่มหน้าตี๋หลับตาลง ปล่อยให้ลมกลางคืนพัดผ่านมาปะทะใบหน้าตัวเอง
‘ถ้าไม่สบายพรุ่งนี้ก็ลา อย่าฝืนสังขารมาทำงานล่ะ’
‘เป็นห่วงหรือไง’ เขาถามขึ้นอย่างยียวนทั้งที่ไม่ได้ลืมตา ทำเอาสุกัญญาหน้าแดงจัดขึ้นมาทันที โชคดีที่สรศักดิ์ยังหลับตาอยู่ เธอจึงสะบัดหน้าไปทางอื่นแล้วบ่นออกมาอย่างหงุดหงิด
‘คงไม่ตายง่าย ๆ หรอกดูจากสภาพแล้ว ใครจะไปห่วงนายกันล่ะ’
‘ฉันจะตายง่าย ๆ ได้ยังไงล่ะ ฉันยังไม่มีแฟนเลยนะ เกิดมาหล่อขนาดนี้โสดก่อนตายคงเสียดายแย่’ สรศักดิ์พูดจบก็ผิวปากออกมาทีหนึ่ง สุกัญญาจึงได้แต่กลอกตามองบนด้วยความรำคาญใจ
นั่นสินะ ถ้าโสดก่อนตายคงเสียดายแย่ ยายเหนือก็มีพี่กัณณ์แล้ว ดูทรงก็คงจะสมหวังเหมือนในนิยายรักหลายเรื่องนั่นแหละ แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้ภายในใจของสุกัญญาถึงได้มีลางสังหรณ์บางอย่างว่า กรกัณณ์อาจมีบางอย่างที่เก็บซ่อนไว้ไม่ให้ใครรู้
ขณะนั้นรถเมล์เคลื่อนเข้าจอดเทียบท่าพอดีความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมดจึงลอยออกไปจากหัว สุกัญญาเดินไปขึ้นรถเมล์พร้อมกับสรศักดิ์และเลือกที่จะนั่งข้างกันเหมือนอย่างเคย เธอภาวนาในใจว่า ยังไงก็ขอให้เจอรักดี ๆ แล้วกันนะยายเหนือ ถ้าใครมาทำให้เธอเสียใจละก็ ฉันคนนี้ไม่ยอมแน่
เช้าวันต่อมาไรอันมาถึงบริษัทไวกว่าเวลาเข้างานเหมือนอย่างเคยเพราะได้รู้จากสรศักดิ์ว่า ดาวเหนือเป็นคนมาทำงานเช้า ส่วนมากตอนยังไม่ถึงเวลางานเธอจะแวะไปดื่มกาแฟที่ห้องแพนทรีก่อนเสมอ ฉะนั้นเป้าหมายแรกในวันนี้ของไรอันจึงเป็นการไปดื่มกาแฟเพื่อที่จะได้เจอกับดาวเหนือ
และแล้วก็เป็นอย่างที่คิด เรือนร่างสวยสมส่วนในชุดทำงานเรียบร้อยคุ้นตาของดาวเหนือยืนหันหลังให้เขาอยู่ มือเล็ก ๆ ของเธอกำลังจับหูแก้วเพื่อยกกาแฟขึ้นดื่ม ไรอันเช็กความเรียบร้อยของตนจากเงาในกระจกใกล้ ๆ แล้วเดินตรงเข้าไปตั้งใจว่าจะทักทาย แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเสียงของเธอดังขึ้นมา
‘ฮัลโหลค่ะพี่กัณณ์’ ดาวเหนือหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้มือขึ้นแนบหู ‘อ๋อ ได้สิคะ เดี๋ยวเหนือลงไปหาค่ะไม่ต้องลำบากขึ้นมาหรอก’
พูดจบดาวเหนือก็เดินออกจากห้องแพนทรีมาและสวนกับไรอันไป ชายหนุ่มไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอสักนิดเขามองตามแผ่นหลังบางของเธอไปตาละห้อย
นี่เป็นครั้งแรกที่คนหล่อระดับเขาถูกเมิน !
ทว่าไรอันไม่ย่นย่อความพยายามของตัวเองแค่นั้น เพราะตลอดทั้งวันเขาพยายามเดินผ่าน คอยหยิบจับนั่นนี่ให้กับสุกัญญาเมื่อเธอเดินไปใกล้โต๊ะของดาวเหนือบ่อย ๆ อีกทั้งยังคอยหยิบของให้เวลาที่ดาวเหนือถามหาขึ้นมารวม ๆ เขาพยายามเข้าไปอยู่ในสายตาของดาวเหนือ แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่ได้ทักทายตอบกลับมา มีเพียงคำขอบคุณเวลายื่นของให้เท่านั้น
ช่วงบ่ายไรอันเห็นดาวเหนือเข้าไปชงกาแฟในห้องแพนทรีอีกครั้ง ชายหนุ่มจึงไม่รอช้าที่จะตามเข้าไป คราวนี้เขาเห็นชัดแล้วว่าเธอไม่ได้หยิบโทรศัพท์ไปด้วยและกรกัณณ์ก็เพิ่งลงลิฟต์ไปข้างล่าง ฉะนั้นถ้ามีอุปสรรคอะไรเข้ามาขวางอีกละก็ พ่อจะล็อกห้องแพนทรีคุยเสียให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย !
ไรอันเดินเข้าไปชงกาแฟใกล้ ๆ กับดาวเหนือพร้อมกับส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร เขาหวังว่าตัวเองจะเปล่งออร่าความหล่อออกมาได้มากพอที่จะทำให้หญิงสาวสนใจได้ แต่ดูเหมือนว่าความหล่อของเขาจะไม่ได้เตะตาเธอแม้แต่น้อยเพราะดาวเหนือมัวแต่ก้มหน้าก้มตาปรุงน้ำตาลในถ้วยกาแฟของตน
เอายังไงดี หรือจะแกล้งทำกาแฟหกใส่ตัวให้เธอหันมาสนใจดีนะ ไรอันคิดในใจ หน้าก็ยังคงพยายามดึงยิ้มอยู่ตลอดเวลา
‘เห็นยิ้มให้ฉันตั้งแต่เข้ามาแล้ว มีอะไรหรือเปล่า’ ดาวเหนือทักขึ้นพร้อมกับส่งรอยยิ้มกลับมาให้
ไรอันคล้ายคนหูอื้อตาลายเมื่อได้รับรอยยิ้มนั้น เขาวางซองกาแฟลงขณะที่หันมาตอบกลับเธอ
‘เอ่อ.. ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่อยากหาโอกาสคุยกับคุณดาวเหนือบ้าง ผมมาทำงานเป็นสัปดาห์แล้วแต่ว่ายังไม่เคยทักทายคุณเลยครับ’
ดาวเหนือเลิกคิ้ว แล้วหัวเราะออกมาเบา ๆ
‘ข้อแรกคุณไม่จำเป็นต้องเรียกฉันด้วยชื่อเต็มขนาดนั้นหรอกค่ะ จะเรียกเหนือเฉย ๆ ก็ได้’
‘ครับ.. พี่เหนือ’ ไรอันเติมคำว่าพี่ลงไปข้างหน้าอย่างลืมตัว แต่เมื่อเห็นว่าดาวเหนือไม่ห้าม เขาก็ลิงโลดอยู่ในใจ
‘ข้อสอง พี่เห็นเราในไอจีแล้ว กล้าคอมเมนต์แต่ไม่กล้าทักต่อหน้าเหรอคะ’ ดาวเหนือเปลี่ยนสรรพนามแทนตัวเองทันทีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเรียกเธอว่าพี่ก่อน
พลันใบหน้าของไรอันร้อนขึ้นอีกครั้งเมื่อดาวเหนือพูดถึงคอมเมนต์ของเขาในอินสตาแกรม ก่อนตอบออกไป
‘ก็ผมไม่รู้จะหาเรื่องทักพี่เหนือก่อนยังไงนี่ครับ ก็เลยคอมเมนต์ไปแบบนั้น’
‘แค่เรียกพี่ก็หันแล้ว พี่ไม่ใช่คนถือตัวซะหน่อย’ ดาวเหนืออดยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีของชายหนุ่มตรงหน้า ไรอันเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่าขั้วตรงข้ามกับกรกัณณ์เลยก็ว่าได้ เขาทั้งไม่รุ่มร่าม ไม่ถึงเนื้อถึงตัว พูดตอบรับอะไรมาก็ดูจริงใจไม่ประดิษฐ์คำ นั่นทำให้เธอไม่รู้สึกอึดอัดที่จะสนทนาต่อ ‘แล้วน้อยใจหรือเปล่าที่พี่ไม่ได้ตอบคอมเมนต์ในไอจีน่ะ’
หญิงสาวถามอย่างหยั่งเชิงว่าไรอันมีความคิดเห็นอย่างไรกับการที่เธอเลือกที่จะไม่ตอบคอมเมนต์ของเขาในไอจี
‘น้อยใจ ? มีเหตุผลอะไรให้ต้องน้อยใจด้วยครับ ไม่มีกฎบอกไว้ว่าเราต้องตอบคอมเมนต์ของคนที่มาคอมเมนต์รูปของเราซะหน่อย ผมคอมเมนต์ไปเฉย ๆ เพราะเห็นว่าพี่เหนือเล่นกล้อง ก็เลยอยากเป็นคนที่ยิ้มให้พี่เหนือถ่ายรูปให้ก็แค่นั้นเอง’ เขาตอบพลางยิ้มแฉ่งให้ ทำให้ตอนนี้ดาวเหนือชักจะเห็นภาพโกลเด้นตัวโตซ้อนทับไรอันเสียแล้ว
‘อันที่จริงพี่เห็นคอมเมนต์ของเราแล้วก็ตั้งใจจะตอบนั่นแหละ แต่มีงานเข้ามาพอดีเลยลืมว่าต้องเข้าไปตอบ’ ดาวเหนืออธิบาย เสียงพูดของเธอไพเราะสะกดคนฟัง ไรอันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ถึงได้ขึ้นชื่อลือชาในแผนกการตลาด ‘อ้อ ส่วนเรื่องเล่นกล้อง พี่ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอก ก็แค่พอถ่ายได้ มีกล้องเล็ก ๆ อยู่ไม่กี่ตัว ถ้าเราอยากจะเป็นแบบให้พี่ก็บอกพี่ได้นะ พี่จะลองถ่ายให้’
เธอชวนอย่างเป็นมิตร แต่คำชวนนั้นแทบจะทำให้ไรอันกระโดดตบมือด้วยความดีใจ
‘ครับ ! ขอบคุณมากนะครับพี่เหนือ เอาไว้มีเวลาว่าง ๆ นะครับ ผมจะยิ้มให้พี่เหนือถ่ายรูปจนเหงือกแห้งเลย’ ชายหนุ่มพูดติดตลกไปเล็กน้อยเรียกเสียงขำเบา ๆ จากรุ่นพี่คนสวยได้ ทั้งสองคนยืนคุยกันอยู่ในห้องแพนทรีอย่างไร้กำแพงในใจกันทั้งคู่ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า การเริ่มต้นพัฒนาความสัมพันธ์ครั้งนี้จะต้องเป็นไปด้วยดีอย่างแน่นอน