แอบคิด

3393 Words
ทำไมรู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวขนาดนี้นะ ไม่น่าเลยของขวัญเอ้ย เผลอดื่มหนักไปหน่อยแล้วก็มาทรมานในตอนเช้า โอะ โอ๊ย! กำลังจะเอี้ยวตัวลงจากเตียงถึงกลับชะงักเมื่อร่างกายขยับไม่ได้เหมือนมีอะไรมารั้งเอวไว้ ฉันเลื่อนสายตาลงต่ำเพื่อมองที่เอวของตัวเองก็เจอแขนหนาของใครบางคนกำลังกอดรัดอยู่ “กรี๊ดดด” ฉันหลับหูหลับตาร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ ไม่นะ! เวอร์จิ้นน้อยๆ ของฉัน “จะร้องทำไม ฮะ! ยัยบ๊อง!” เอะเสียงนี้มัน ไดมอนด์นิ ฉันหันขวับ ไปมองหน้าร่างหนาที่ยังกอดเอวฉันอยู่ ไดมอนด์ไม่ใส่เสื้อแต่เขายังใส่กางเกงแล้วฉันก็มองสำรวจร่างกายตัวเองยังอยู่ในชุดเมื่อวานแสดงว่ายังปลอดภัยดี “ฉันมาอยู่นี่ได้ไง” ฉันถามไดมอนด์ ที่ตอนนี้เขายังฟุบหน้าอยู่กับหมอนใบใหญ่ “นี่เมาจนจำอะไรไม่ได้เลยรึไง” ไดมอนด์ตอบเสียงอู๋อี้อยู่กับหมอน “ฉันจำได้แค่ว่ากำลังเต้นอยู่บนฟอร์...” แล้วอะไรต่อ...จำไม่ได้แล้ว “จำไม่ได้แม้กระทั้งตอนที่ไอ้ไทด์ไปรับด้วยล่ะสิ” ฮะ ไทด์มารับฉันด้วยเหรอ ไม่เห็นจะรู้ตัวเลย สงสัยจะหนักจริงๆ “ก็มันจำไม่ได้นิ แล้วฉันมาอยู่ห้องนายได้ไง ถ้าไทด์มารับ ฉันก็ต้องไปนอนห้องไทด์สิ” “ก็ห้องไอ้ไทด์มันเต็ม มันก็เลยให้มานอนห้องฉันแทน” ไดมอนด์ตอบอย่างรำคาญ “เหรอ แล้วเมื่อไรนายจะเอาแขนออกจากเอวฉัน หะ!” ทำเป็นเนียน “ฉันง่วง” ไดมอนด์ตอบแต่ก็ยังไม่เอาแขนออกเหมือนเดิม “ไดมอนด์!” ฉันพยายามจับแขนเขาออก แต่แล้วจังหวะที่ไม่ทันตั้งตัวฉันก็โดนไดมอนด์จับพลิกตัวให้ไปนอนใต้ร่างหนาแทน “ก็บอกว่าง่วงไง” ตอนนี้ร่างบางของฉันถูกร่างหนาคร่อมตัวอยู่ “นี่! จะทำอะไร ถอยออกไปเลยนะ” ฉันใช้มือเล็กดันอกแกร่งไว้ เสื้อก็ไม่ใส่มันล่อแหลมเกิดไปแล้วนะ “ก็เธอไม่ยอมให้ฉันนอนนิ” ไดมอนด์พูดพร้อมกับทิ้งตัวลงมาทับร่างบางของฉัน “ไดมอนด์ ฉันหนักนะ!” ตึก ๆ ๆ โอ๊ยใจเต้นแรงอีกแล้ว หวังว่าเขาจะไม่ได้ยินนะ “อยู่นิ่งๆ” เสียงไดมอนด์พูดชิดริมหู ลมหายใจอุ่น ๆ เป่ารดยิ่งทำให้สติฉันกระเจิดกระเจิงขึ้นไปอีก “ดะ ไดมอนด์” ฉันเผลอหันไปสบตาเข้ากับไดมอนด์อย่างจัง ตึก ๆ ๆ ใจเต้นอีกแล้ว ไดมอนด์โน้มริมฝีปากลงมาทาบทับกับริมฝีปากบางของฉัน ลิ้นชื้นเข้ามาตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กอย่างช่ำชอง สติของฉันเริ่มพร่าเลือนหายไปทีล่ะนิด ติ่งต่อง! เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น แต่ไดมอนด์กลับไม่ยอมหยุด “อื้อ...” ฉันจึงต้องร้องประท้วงอยู่ในลำคอ เขาถึงยอมถอดริมฝีปากออก ฉันรีบหายใจเข้าปอดทันทีที่เป็นอิสระ ไดมอนด์สบตาฉันนิ่งยากจะเดาใจออก ติ่งต่อง! “ใครวะ!” ไดมอนด์พูดอย่างอารมณ์เสีย เขาผละออกจากตัวฉัน ตรงไปที่ประตูเพื่อเปิดให้ผู้มาเยือน “ทำอะไรอยู่วะ ช้าจัง” ไทด์นั่นเอง “เรื่องของกู” ไดมอนด์ตอบไปอย่างหงุดหงิด “อะไรวะ ไอ้นี่ ของขวัญมากินโจ๊กมา ไทด์ซื้อมาฝาก” ไทด์บ่นไดมอนด์อย่างเซ็งๆ แล้วก็เรียกฉันไปกินโจ๊ก “ขอบใจนะ” ฉันหยิบถุงโจ๊กไปเกะเทใส่ถ้วย ไทด์ซื้อมาสามถุงฉันก็เลยเกะใส่ถ้วยหมดเลย เตรียมเผื่อพวกเขาด้วย “มากินข้าวเร็วเลยมึง” ไทด์หันไปบอกไดมอนด์เมื่อเขาเดินออกมาจากห้องนอนด้วยสภาพไม่ใส่เสื้อเหมือนเดิม ไรผมเปี้ยกน้ำนิดๆ สงสัยไปล้างหน้ามา “แล้วเธอไม่แปลงฟันรึไง สกปรกจัง” หะ นี่เขาว่าฉันสกปรกเหรอ แล้วเมื่อกี้มันอะไรย่ะ! ฉันเดินปึงปังไปที่ห้องนอนของไดมอนด์เพื่อไปล้างหน้า จังหวะที่เดินไปเหมือนจะเห็นเขายิ้มด้วย นี่ฉันคงตาฝาดไปแล้วแน่ ๆ ฉันเดินเข้าในห้องน้ำก็เจอกับแปรงฟันอันใหม่ พร้อมกับยาสีฟันที่บีบใส่แปรงไว้เรียบร้อยแล้ว นี่เขาเตรียมไว้ให้ฉันเหรอ แปลกจัง... จู่ ๆ ก็รู้สึกเห่อร้อนขึ้นที่ใบหน้า มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกน่า ของขวัญ มีสติหน่อยสิ แต่อีกใจมันก็อดคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้อะ.... ก๊อก ๆ ๆ ใครมาเคาะประตูนะ? ฉันล้างหน้าเสร็จพอดี เดินไปเปิดประตูก็เจอกับไดมอนด์ ซึ่งยืนเท้าเอวทำหน้าดุอยู่ และที่สำคัญเขานุ่งเพียงผ้าขนหนูผื่นเดียว “หลับรึไง ยัยบ๊อง!” ไดมอนด์พูดเสียงดุ “เปล่าซะหน่อย” ฉันไม่กล้ามองเขาเลย สภาพล่อแหลมมากอะ “แล้วพูดกับฉันนะ ช่วยมองหน้าด้วย ไม่มีมารยาท” นั้นไง มาว่าฉันอีกแหละ “สภาพนายน่ามองนักรึไง ทำไม ไม่ใส่เสื้อผ้า ย่ะ!” ชอบว่าฉันดีนัก “ไม่น่ามอง หรือ ไม่กล้ามองกันแน่” ไดมอนด์เดินเข้ามาหา ฉันรีบก้าวถอยหลังชนเข้ากับอ่างล้างหน้า “นี่ ถอยไปเลยนะ” ฉันชี้ห้ามเขาไว้ “ทำไม กลัวเหรอ” แต่ไดมอนด์ก็ไม่หยุด เขาเดินเข้ามาชิดตัว มือหนาเอื้อมมาจับขอบอ่างล้างหน้ากักตัวฉันไว้ในอ้อมแขน ทำให้ใบหน้าขาวเนียนของไดมอนด์เกือบจะโดนแก้มฉันอยู่แล้ว “เล่นบ้าอะไรเนี่ย ถอยไปเลย” ฉันพยายามพูดให้ดูปกติ ทั้งที่ในใจมันเต้นโครมครามแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว “คิดว่าฉันเล่นเหรอ...” ไดมอนด์แกล้งหายใจแรง ๆให้โดนผิวแก้มฉัน นัยน์ตาจ้องมองอย่างมีเลศนัย เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากบนของตัวเองอย่างเชิญชวน ฉันถึงกับใบหน้าร้อนผ่าวเหมือนคนเป็นไข้ ใจก็เต้นแรงทั้งที่เขายังไม่ได้แตะต้องตัวด้วยซ้ำ เขามันร้ายจริงๆ “ฉะ... ฉันหิวข้าวแล้ว ชะ...ช่วยหลบไปหน่อย” ฉันเอ่ยปากพูดอย่างตะกุกตะกัก “ฮึ ๆ กลัวฉันขนาดนั้นเลยเหรอ” ไดมอนด์พูดอย่างขำขัน นี่ เขาแกล้งฉันอยู่ใช่ไหม บ้าที่สุด “อย่างนายนะเหรอ ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย” พอรู้ตัวว่าโดนแกล้งก็ทำปากดีใส่ซะเลย “แน่ใจนะ ของขวัญ” ไดมอนด์ขยับตัวเข้ามาชิดไปอีก ทำให้หน้าอกของฉันชนกับอกแกร่งที่ไร้ซึ่งเสื้อผ้าปิดบัง ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนก็จ้องฉันอย่างเจ้าเล่ห์ ฉันยกสองแขนดันอกแกร่งไว้ ไม่ให้เขาเข้ามาใกล้มากกว่านี้ แค่นี้อากาศก็แทบที่ผ่านไม่ได้อยู่ล่ะ “นะ...นี่ เลิกแกล้งฉันได้แล้ว” ฉันเบือนหน้าไปอีกทางเมื่อไดมอนด์ทำท่าจะโฉบริมฝีปากลงมาหาแก้มฉัน ไดมอนด์เกยคางแหลมไว้ที่บ่าข้างซ้ายของฉันแทน “ทำไมตัวเธอถึงหอมขนาดนี้ ของขวัญ” เสียงไดมอนด์พึงพำอยู่บริเวณลำคอ พร้อมกับลมหายใจอุ่นเป่าโดนผิวเนื้อสร้างความวูบวาบใจสั่น ฉันแทบจะละลายอยู่แล้ว “เฮ้ย! เมื่อไรจะมากินข้าวว่ะ” เสียงไทด์เรียกทำให้ฉันตกใจเผลอผลักไดมอนด์อย่างแรงทำให้หลุดออกจากอ้อมแขนของเขาได้ พอเป็นอิสระฉันก็วิ่งออกมาจากห้องไดมอนด์ทันที “ทำไม แปรงฟันนานจัง” ไทด์บ่นอย่างหงุดหงิด “ก็หาแปรงอยู่อะ” ฉันเลยโกหกซะ “เออนี่ เพื่อนแกที่ชื่อเฟย์อะ โทรมา แกลืมไว้บนรถฉัน” ไทด์ยื่นโทรศัพท์ของฉันมาให้ ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ แสดงว่าเมื่อคืนไทด์เป็นคนรับฉันจริงๆ “เฟย์” ฉันโทรกลับไปหาเพื่อน ตอนนี้คงเป็นห่วงฉันแย่แล้วละ ที่ฉันไม่กลับไปนอนที่หอพัก ‘ยัยขวัญ เมื่อคืนแกไปไหนมา ย่ะ! ห้องก็ไม่ยอมกลับ บอกไปช่วยงานเจ้เอ็มมี่ แต่ทำไมถึงไม่กลับห้องย่ะ’ ฉันโดนยัยเฟย์บ่นเป็นชุดเลย “พอดีว่าเมื่อคืนไปดื่มกับพวกพี่ ๆ มาอะ ก็เลยมานอนที่คอนโดเพื่อนฉัน” ฉันไม่บอกเฟย์หรอก ว่าเพื่อนที่พูดถึงนั้น...เป็นผู้ชาย ถ้ายัยเฟย์รู้นะ ได้สักถามทั้งเดือนก็ไม่จบ ‘แล้วแกไม่มาเรียนเหรอวันนี้’ ฉันมีเรียนเช้าซะด้วยสิ หันไปดูนาฬิกา 09:15 ฉันมีเรียนตอนสี่โมงตรง ยังทันอยู่ “ไปสิ เดี๋ยวจะเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่” ฉันวางสายจากเฟย์ก็หันมาคุยกับไทด์ “ไทด์ ไปส่งขวัญหน่อยสิ” “อื้อ...ได้” ไทด์ตอบ “เดี๋ยวฉันไปส่งเธอเอง” เสียงไดมอนด์บอก เขายืนพิงประตูห้องนอน กำลังผับแขนเสื้อนักศึกษาขึ้นมาถึงข้อศอกโชว์รอยสักรูปลูกกระสุน “นี่ มึงจะไปเรียนเหรอ” ไทด์ถามอย่างแปลกใจ “เออ!” ไดมอนด์เลิกคิ้วตอบแบบกวนๆ “ฉันจะรอที่รถ รีบๆ กินเข้า” พอสั่งฉันเสร็จก็เดินออกไปทันที “สงสัยพายุจะเข้าล่ะ ว่าไหม” ไทด์หันมาถามความเห็นฉัน ฉันพยักหน้าหงึก ๆ เห็นด้วยกับไทด์และรีบกินโจ๊กอย่างที่ไดมอนด์สั่งขืนปล่อยให้เขารอนาน โดนโวยวายบ้านแตกแน่ พอฉันเข้ามานั่งในรถคาดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย ไดมอนด์ก็ออกรถทันที ตลอดทางเขาไม่พูดอะไรสักคำ ฉันเองก็ไม่กล้าชวนคุยด้วย ยิ่งอารมณ์เขาไม่ค่อยคงที่ด้วย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายอย่างกับผู้หญิงเนะ “นายรู้ได้ไง ว่าฉันพักอยู่หอนี้” ฉันเลิกคิ้วถามไดมอนด์อย่างแปลกใจ เพราะเขาไม่ถามทางฉันสักคำแต่กลับมาส่งฉันถูกที่โดยที่ฉันไม่ได้บอกอะไรเลย “รีบๆ ไปเปลี่ยนชุดเหอะ ฉันให้เวลาสามสิบนาที ไม่งั้นจะขึ้นไปตามเอง” ไดมอนด์สั่ง “นี่นายจะรอฉันเหรอ” ฉันถามด้วยความแปลกใจ “เริ่มจับเวลา” ไดมอนด์ไม่ตอบคำถามของฉัน แต่เขายกนาฬิกาที่ข้อมือขึ้นมาดูแทน พอได้ยินแบบนั้น ฉันก็กู่รีกู่จอวิ่งลงจากรถทันที “มาแล้วเหรอ” เฟย์ทักขึ้นเมื่อเห็นฉันเดินเข้าในห้อง “อื้อ นี่แกแต่งตัวเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” ปากถามเพื่อนแต่มือกู่รีกู่จอถอดเสื้อผ้าออก เพื่อไปอาบน้ำให้เร็วที่สุด “ทำไมแกไม่ไปถอดในห้องน้ำย่ะ” เฟย์ถาม “ก็ฉันรีบอะ” ฉันถอดเหลือแต่ชุดชั้นใน คว้าผ้าขนหนูได้ก็วิ่งเข้าห้องน้ำทันที พออาบน้ำเสร็จฉันก็แต่งตัวอย่างรีบๆ หน้าก็ทาแค่แป้งเด็กกับลิปปาล์ม “ปะ แก” สำรวจตัวเองเรียบร้อยแล้วฉันก็หันไปเร่งเพื่อน “จะรีบไปไหน” เฟย์โวยยกใหญ่ที่ฉันลากเธอลงมาจากห้องอย่างเร่งรีบ “ขึ้นรถ” ฉันบอกเพื่อนเสร็จก็เปิดประตูไปนั่งด้านหน้าข้างคนขับ เฟย์ก็เปิดประตูมานั่งด้านหลังฉันอย่างมึนงง “เรียบร้อยแล้วใช่ไหม” ไดมอนด์ถามขึ้น “อื้อ” ฉันตอบไดมอนด์เสร็จก็นั่งหอบหายใจยกใหญ่ “ฮึ ๆ ๆ” ไดมอนด์ขำ “ขำอะไร มิทราบ” ฉันถามอย่างหาเรื่อง “คงจะรีบน่าดู จนติดกระดุมผิดเม็ด ฮ่า ๆ ๆ” ฉันหันมาตามสายตาของไดมอนด์ก็เจอกับเสื้อนักศึกษาของตัวเองที่ติดกระดุมผิดเม็ด เผยให้เห็นบราสีเนื้ออย่างชัดเจน ฉันรีบตะปบหน้าอกอย่ารวดเร็ว ตายแล้วของขวัญ น่าอายที่สุด “ไม่ต้องอายหรอก แค่ไม้กระดานไม่พอทำให้ฉันมีอารมณ์ได้หรอก” ไดมอนด์บอก ฉันแทบปี๊ดแตก บังอาจมาว่าซาลาเปาฉันเป็นไม้กระดานหยาบคายที่สุด “ถึงจะไม้กระดาน แต่มันก็ของแท้ย่ะ! ที่นายเจอตู้ม ๆใหญ่ๆ น่ะของแท้หรือเปล่าก็ไม่รู้” แขวะซะเลย หมั่นไส้ “งั้นเหรอ น่าสนใจจัง” ไดมอนด์พูดพร้อมกับเอามือลูบคางทำท่าคุ้นคิด พอถึงมหาลัยฉันก็รีบลากเฟย์ลงจากรถทันที ไม่อยากคุยกับเขานานๆเสียสุขภาพจิตเปล่าๆ “ของขวัญ” เฟย์หยุดเดินแล้วดึงมือฉันให้หยุดตาม “อะไร” ฉันยังหงุดหงิดไม่หายเลยเผลอชักสีหน้าใส่เฟย์ “โทษที” พอรู้ตัวก็ขอโทษเพื่อนไป “แกรู้จักกับไดมอนด์ได้ไง” เฟย์ถามอย่างสงสัย “รู้จักตั้งแต่เรียนมัธยมล่ะ” ฉันเดินช้าลงเพื่อคุยกับเฟย์ “เพื่อนที่แกไปนอนด้วย คือ ไดมอนด์เหรอ” เฟย์ถามอย่างตื่นเต้น “อื้อ แต่ไม่ได้มีแค่ไดมอนด์ ฉันยังมีเพื่อนผู้ชายอีกคน พวกเราสนิทกันนะ” ฉันไม่กล้าบอกเฟย์หรอกว่าเมื่อคืนนี้อยู่สองต่อสองกับไดมอมด์ “แกนี่ ร้ายไม่เบาเลยนะ มีเพื่อนเป็นศิลปินชื่อดังไม่ยอมบอกกันสักคำ” เฟย์พูดยิ้มๆ “จะไปรู้เหรอว่าแกอย่างรู้ อีกอย่างไดมอนด์ก็ไม่ค่อยเข้าเรียนด้วย ก็เลยไม่มีเรื่องอะไรให้พูดถึง” ก็ไม่รู้จะเล่าไปทำไม กะอีแค่มีเพื่อนเป็นศิลปิน “แล้วแกชอบไดมอนด์ปะ” จู่ ๆ เฟย์ก็ถาม “ไม่! นายนั้นน่ะ เปลี่ยนหญิงเป็นว่าเล่น” เวลาเจอเขาที่ไหนก็ไม่พ้นเห็นเขาอยู่กับผู้หญิง นึกแล้วเจ็บใจชะมัด “นั้นแหละ สเป็กฉันเลย ผู้ชายแบดบอย” เฟย์พูดจบก็เดินเข้าห้องเรียนไป อยู่ดีๆ ใจฉันมันก็ไหววูบยังไงก็ไม่รู้ เราสามคนเข้าเรียนมหาลัยเดียวกัน แต่คนละคณะ ไทด์กับไดมอนด์เรียนนิเทศส่วนฉันเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์ ช่วงเรียนปีหนึ่งปีสองไม่ค่อยได้เจอกันสักเท่าไรเพราะฉันมาอยู่หอ ส่วนไทด์อยู่คอนโด นานทีจะเจอกันทีเวลากลับบ้านช่วงวันหยุด ฉันกับไทด์เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วก็เป็นเพื่อนบ้านกันด้วย แต่เราเรียนคนล่ะที่จนเมื่อขึ้นมัธยมปลายไทด์ก็ย้ายมาเรียนที่เดียวกับฉันพร้อมไดมอนด์ และนั้นก็ทำให้ฉันได้รู้จักกับไดมอนด์เพราะเขาชอบมาค้างที่บ้านไทด์บ่อยๆ ฉันรู้สึกว่าช่วงหลังมานี้ ไดมอนด์ชอบทำตัวแปลก ๆ ตั้งแต่วันนั้น วันเกิดของไทด์ สมัยมัธยม... “แฮปปี้ เบิร์ดเดย์ นะ ไทด์” ฉันยื่นเค้กก้อนโตไปตรงหน้าไทด์ ให้เขาอธิษฐานแล้วก็เป่าเทียน “ขอบคุณนะ” ไทด์บอกขอบคุณทุกคน พร้อมกับเป่าเทียนให้ดับ จังหวะที่เทียนบนเค้กดับหมด ฉันก็รู้สึกว่ามีปากนิ่ม ๆ กับจมูกโด่ง ๆ ของใครบ้างคนกดลงบนผิวแก้มฉันอย่างหนักหนึ่งครั้ง ฉันยื่นตัวแข็งทื่อนิ่งเป็นหินไม่กล้าขยับตัว พอไฟสว่างวาบขึ้นฉันก็ได้รู้ว่าใครเป็นคนขโมยหอมแก้ม ไดมอนด์ เขาจ้องหน้าฉันนิ่งดวงตาสีน้ำตาลอ่อนมีแววสั่นระริกอย่างขำขัน เขาขโมยหอมแก้มฉัน “ยัยขวัญ!” เสียงเฟย์ตะโกน จนฉันสะดุ้งโหย่ง “นี่ แกจะตะโกนทำไม” ฉันหันไปถามเฟย์ “ก็ฉันเรียกแกตั้งนาน นั่งเหมออยู่ได้ คิดอะไรอยู่” เฟย์บ่น ไม่เห็นจะได้ยินเสียงเฟย์เรียกเลย “ก็คิดอะไรไปเรื่อย...” ตอนนี้ฉันกำลังนั่งเล่นอยู่ที่ม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าคณะ “คิดซะลึกเลยนะ ฉันเรียกตั้งนานก็ไม่ได้ยิน” เฟย์บ่นไม่เลิก “แล้วแก เรียกฉันมีไร” ฉันถามเฟย์ นิ้วชี้ก็สไลด์หน้าจอดูความเคลือนไหวโลกโชเชี่ยว “ฉันอยากรู้ว่าไดมอนด์ เขามีแฟนรึยัง” ฉันชะงักนิ้วหันไปมองหน้าเพื่อนซึ่งตอนนี้กำลังนั่งบิดไปมาอย่างเขินอาย “ถามทำไม” ฉันขมวดคิ้วอย่างสงสัย “ก็...” “ของขวัญ” เฟย์ยังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงเรียกชื่อฉันจากด้านหลังขึ้น ฉันหันไปตามเสียง “ว่าไง ไทด์” เพื่อนฉันเอง ไทด์เดินมานั่งลงข้างฉัน “เรียนเสร็จยัง” ไทด์ถามฉัน “อื้อ เสร็จแล้ว” ฉันบอกไทด์ “เออ...” ฉันหันมาเฟย์ซึ่งกำลังนั่งทำหน้าเอ๋ออยู่ “อ๋อ นี่เฟย์เพื่อนฉัน แล้วนี่ก็ไทด์เพื่อนสมัยเด็กจนถึงปัจุบัน” ฉันแนะนำให้เพื่อนทั้งสองรู้จักกัน “หวัดดี” ไทด์ทักทาย เฟย์พยักหน้ายิ้มให้ไทด์ “แล้วลมอะไรหอบแกมาหาฉันถึงคณะได้ล่ะ” ฉันถามไทด์ “นี่ แกลืมอะไรไปหรือเปล่า” ไทด์เริ่มทำหน้าหมุ่ยทันที “วันเกิดแกนะเหรอ” ไม่ได้ลืมสักหน่อย ไทด์ยิ้มหวานอย่างดีใจ “นึกว่าลืมซะแล้ว” ไทด์พูดพร้อมกับเอามือเท้าคางเอียงคอมองหน้าฉัน “แล้วจะจัดที่ไหนล่ะ” วันเกิดไทด์ที่ไรปาร์ตี้หนักทุกปี “ST ผับ” ไทด์ตอบพร้อมกับยิ้มขำๆ ฉันยิ้มแห้งกลับไปทันที ก็พึ่งเมาเละกลับมาจะไปอีกล่ะ “อย่าดื่มเยอะล่ะ ฉันขี้เกียจแบกแกกลับ ตัวหนักเป็นบ้าเลย” ไทด์บ่นอย่างขำๆ “พอดีมันเพลินไปหน่อย แกก็...แซวอยู่ได้” ฉันใช้ศอกกระทุ้งเพื่อนไปหนึ่งที “พวกเธอสองคนนี่ ดูสนิทกันจังเลยเนอะ” เฟย์ท้วงขึ้น พร้อมกับเหล่ตามอง “คิดอะไรอยู่ ยัยเฟย์” ฉันเอื้อมมือไปตีแขนเฟย์หนึ่งที แต่เฟย์รู้ทันทีขยับหนีไปก่อน “เพื่อนผู้หญิงที่สนิท ฉันก็มีแค่ของขวัญคนเดียว เพราะคนอื่นไม่ค่อยคิดกับฉันแค่เพื่อน” ไทด์พูดพร้อมกับเก๊กหล่อ “จ้า...พ่อรูปหล่อ” ฉันเลยแขวะเข้าให้ “เออนี่ เฟย์ก็ไปด้วยกันนะ เดี๋ยวตอนหนึ่งทุ่มฉันจะไปรับที่หน้าหอ” ไทด์บอก “อื้อ ได้” ฉันตอบไทด์ คุยกันเสร็จไทด์ก็เดินจากไปทันที “นี่ ยัยขวัญ ทำไมเพื่อนผู้ชายแกมีแต่ฮอต ๆ ทั้งนั้นเลยอะ” เฟย์พูดอย่างตื่นเต้น “ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว” ใครจะไปรู้ว่าโตขึ้นมาเพื่อนฉันจะฮอตในหมู่สาว ๆ ขนาดนี้ “แกรู้ไหมว่าไทด์กับไดมอนด์นี่ ฮอตที่สุดในคณะเลยนะ แก...” ยัยนี่ก็ตื่นเต้นไม่เลิก ฉันได้แต่ส่ายหัวไปมาให้เพื่อน หนึ่งทุ่มตรง ฉันกับเฟย์แต่งตัวเสร็จก็มารอไทด์ที่หน้าหอพัก “นี่ฉันดูเป็นไงบ้างแก โอเครไหม” เฟย์ยืนหันไปหันมาสิบรอบได้แล้วมั่ง แล้วก็ถามเหมือนเดิม เฟย์ใส่เสื้อสีครีมยาวถึงหน้าขาอ่อนเปิดไหล่หนึ่งข้างโชว์ เนินอกนิดๆ กับกางเกงขาสั้นสีดำซ่อนข้างในสไตล์หวานๆ ส่วนฉันใส่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนสีดำขาดๆ รัดรูป แลดูเปรี้ยวใช่ย่อยเลย “แกสวยแล้ว เลิกหมุนได้แล้วเวียนหัว” ฉันจับเพื่อนไว้ให้หยุดหมุน พอดีกับที่รถของไทด์มาจอดตรงหน้าพวกเราพอดี “ไงสาวๆ” ไทด์ลดกระจกลด ชะโงกหน้ามาทักทาย ฉันกับเฟย์จึงเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ “แกนี้ก็เปรี้ยวใช้ได้เลยนะ” ไทด์ทักขึ้น “แค่นี้เอง เฟี้ยวๆ” ฉันตอบไทด์พร้อมกับโพสต์ท่าเซ็กซี่ “ยัยบ้า” ไทด์บอก แล้วเราก็ขำกันยกใหญ่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD