ข้างเดียว

3805 Words
“สวัสดีค่ะ วันนี้ของขวัญจะมาแนะนำการแต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติกันนะค่ะ ทาครีมกันแดดที่ SPF 50 Pa+++ ใช้ อุทัยทิพย์ ทาหน้าแก้มบางๆ ใช้แป้งฝุ่นเด็ก ปัดให้ทั่วหน้าใช้ eye shadow สีดำ ทาบางๆตามรูปคิ้วเท่านั้น ปัดเศษออก เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เข้มจนเกินไป ดัดขนตา ทาปากด้วยอุทัยทิพย์ ด้านในปากบางๆเท่านั้น เพียงเท่านี้ก็เสร็จแล้ว ได้ลุคเบาๆ ธรรมชาติ และก็ไม่เข้มจนเกินไปด้วยคะ” ฉันชื่อของขวัญ รักการแต่งหน้าเป็นชีวิตจิตใจ เวลาว่างๆ ก็ชอบอัดคลิปแนะนำการแต่งหน้าลงโซเชี่ยวให้กับสาวๆ ที่ติดตามฉัน “นี่แกก็แนะนำธรรมชาติมากเลยเนอะ สมัยนี้ใครเขาใช้อุทัยทิพย์กัน” เสียงเพื่อนฉันเอง เธอชื่อเฟย์ เธอกำลังนั่งดูคลิปแนะนำการแต่งหน้าของฉัน “แกก็ ไม่รู้อะไร อุทัยทิพย์นี่นะ มีสรรพคุณเยอะมาก นอกจากจะเอามาใช้แต่งหน้าได้แล้ว เอาไปผสมกับน้ำดื่มก็ช่วยแก้ร้อนในได้ด้วยนะ” “เหรอ” เหมือนเฟย์ไม่ค่อยจะเชื่อฉันเลยเฮะ “ตอนบ่ายไม่มีเรียน ไปดูหนังกันไหม” “ฉันมีนัดแล้วสิ” “เดี๋ยวนี้มีนงมีนัด กับใคร ผู้ชายปะ” เฟย์ยื่นหน้ามาถามอย่างสนใจ “ค่ะ ผู้ชาย...ที่ไม่แท้” ฉันรับปากกับพี่เอ็มมี่ไว้ว่าจะไปช่วยงานเจ้แกที่สตูถ่ายแบบ ซึ่งพี่เอมมี่ที่ฉันพูดถึงนี้เธอก็คือสาวประเภทสองนั่นเอง “เหอะ! ก็นึกว่าของแท้” เฟย์พูดด้วยน้ำเสียงสุดเซ็ง ฉันกับเฟย์เรารู้จักกันตั้งแต่ปีหนึ่ง จนตอนนี้ฉันอยู่ปีสามแล้ว เราสองคนค่อยข้างสนิทกันเลยล่ะ “แล้วแกจะไปดูหนังปะ” ฉันถามเฟย์กลับบ้าง “ทำไม เปลี่ยนใจจะไปกลับฉันแล้วเหรอ” เฟย์หันมาถามอย่างดีใจเพราะคิดว่าฉันจะไปดูหนังกับเธอด้วย “เปล่า ฉันว่าจะแวะไปซื้อเครื่องสำอางก่อน จะได้ไปพร้อมกัน” “โธ่ ไอ้เราก็นึกว่าจะไปดูหนังด้วย” เฟย์ทำหน้าง้อไม่เลิก “เอาน่า ไว้วันหลังก็แล้วกัน” ฉันลุกขึ้นจากม้านั่งแล้วเกี่ยวแขนเฟย์ให้ลุกตาม ห้างสรรพสินค้า ฉันแยกตัวจากเฟย์เพราะเพื่อนไปดูหนัง ส่วนฉันก็มาเลือกซื้อเครื่องสำอาง เมื่อได้ของครบตามที่ต้องการเรียบร้อย ฉันก็เลยแวะเข้าห้องน้ำสักหน่อย “อ๊ะ...อ๊ะ...” เสียงอะไร! ฉันหันหลังไปจ้องประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทอยู่ ซึ่งห้องอื่นก็ว่างหมด มีเพียงหนึ่งห้องอยู่ด้านในสุดที่ไม่ว่าง “เก่งจังค่ะ...อ๊า...” โอ๊ย..จะบ้าตาย คนพวกนี้ ทำอะไรไม่รู้จักอายฟ้าอายดินกันบ้างเลย ฉันรีบล้างฟองสบู่ออกจากมือให้เร็วที่สุด อยู่นานไม่ได้ แสลงหู ปึก! ประตูห้องน้ำที่มาของเสียงสุดสยิวถูกเปิดออกและฉันก็ต้องชะงักค้างเมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นบุคคลคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากห้องนั้นผ่านกระจกบานใหญ่ เขาเดินตรงมาหาแล้วโอบเอวฉันจากด้านหลังอ้อมมาด้านหน้าเพื่อล้างมือของเขา “กดสบู่ให้หน่อย ของขวัญ” ใช่ ฉันรู้จักเขา แล้วเขาก็รู้จักฉันด้วย “กดเองสิ แล้วก็ช่วยเอามือนายออกจากเอวฉันด้วย ไดมอนด์” เขาคือไดมอนด์ เพื่อนสมัยมัธยมของฉันเองและก็เป็นเพื่อนร่วมมหาลัยด้วย “เร็วๆ” ไดมอนด์ทำหน้าดุ แล้วฉันก็จำใจต้องทำตามที่เขาบอก จะได้ไปพ้นๆ สักที “เปิดน้ำให้ด้วย” เนะ! ยังจะมาใช้ต่ออีก “ทำไมนายต้องมาโอบฉันด้วยเนี่ย อ่างล้างมืออันอื่นก็ว่างอยู่” ฉันเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ กลิ่นกายของเขาแตะจมูกเข้าอย่างจัง ทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้มันทำให้ฉันใจสั่นมากเลยนะ ทั้งที่รู้ว่าคนอย่างเขาร้ายกาจแค่ไหน แต่ก็หยุดความรู้สึกไม่ได้อยู่ดี “ทำไม วันนี้ไม่ทาแป้งเด็ก” นี่เขารู้ได้ไง วันนี้ฉันลองใช้เครื่องสำอางที่ได้มาจากพี่เอ็มมี่ก็เลยไม่ทาแป้งเด็กเหมือนทุกวัน “ยุ่งอะไรด้วย ปล่อย!” ฉันดันตัวไดมอนด์ออกและเขาก็ยอมถอยออกให้แต่โดยดี “แล้วก็...นี่ห้องน้ำผู้หญิงนะ” ฉันบอกเป็นนัยๆ ว่าเขาไม่ควรมาเข้าห้องน้ำหญิง “ก็ผู้หญิงพามา” ไดมอนด์ตอบหน้าตาเฉย “ไดมอนด์ขา...” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกชื่อเขาเมื่อเธอคนนั้นเดินออกมาจากห้องน้ำเดียวกันกับไดมอนด์ หล่อนอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของพนักงานร้านขายนาฬิกาหรู ที่ฉันรู้เพราะบนอกเสื้อมีชื่อร้านอยู่ อีกแล้วเหรอ ไอ้นิสัยกินไม่เลือกเนี่ย เหอะ! แล้วทำไมฉันต้องหงุดหงิดด้วยนะ “จะไปไหน” ไดมอนด์จับข้อมือฉันไว้ก่อนที่ฉันจะเดินหนีเขาไป “ไปทำอะไรที่มันมีไรสาระ” ฉันแอบแขวะซะเลย “เดี๋ยวไปส่ง” พูดจบไดมอนด์ก็จับมือฉันแล้วเดินนำหน้าออกมาจากห้องน้ำ “เดี๋ยว! ไดมอนด์ แล้วฉันล่ะ” ผู้หญิงที่เขาพึ่งเล่นด้วยในห้องน้ำร้องเรียก ฉันหันหลังไปมองก็เห็นใบหน้าแสนสวยบูดบึงจนน่ากลัว เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำฉันก็ถูกผู้หญิงจำนวนไม่น้อยจ้องเขม็ง นี่เขาคงไม่คิดว่าฉันพาไดมอนด์เข้าห้องน้ำหรอกนะ คงไม่ทันล่ะ “เด็กสมัยนี้จริงๆ เลย” เสียงป้าคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อเราสองคนเดินผ่าน “นี่นาย คนอื่นเขาเข้าใจผิดหมดแล้ว” ฉันหันไปโวยใส่ไดมอนด์เมื่อเราเดินมาถึงลานจอดรถของห้างสรรพสินค้า “อยากให้เขาเข้าใจถูกไหมล่ะ” ไดมอนด์หยุดเดินแล้วหันมาถามฉัน “มะ หมายความว่าไง” นี่เขาคงไม่ได้คิดจะทำอะไรฉันใช่ไหม สองมือหนายกขึ้นมาล็อกหน้าฉันไว้ก่อนที่ใบหน้าขาวเนียนเหมือนผิวผู้หญิงจะค่อยๆ โน้มลงมาเลื่อยๆ ฉันหลับตาปี๋เพราะคิดว่าต้องโดนแน่ ๆ พู่~ “ยัยบ๊อง!” ไดมอนด์แค่เป่าลมใส่หน้าฉัน เฮ้อ...โล่งอก นึกว่าจะโดนซะแล้ว รถสปอร์ตสีดำสุดหรูจอดเด่นอยู่ตรงหน้าฉัน นี่เขาเปลี่ยนรถอีกแล้วเหรอ รวยจริง อะไรจริงจังเลยนะ “จะไปไหน” ไดมอนด์หันหน้ามาถามเมื่อฉันรัดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยแล้ว แต่ตัวเขากลับไม่รัดเข็มขัดซะงั้น แต่ก็ชั่งเถอะ ฉันไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขาให้มากเรื่อง “ไปสตูดิโอ M” ฉันตอบโดยไม่หันไปมองหน้าเขาเพราะเหตุการณ์เมื่อกี้ทำฉันใจเต้นแรงไม่หาย รถหรูแล่นบนถนนเพียงไม่กี่นาทีไดมอนด์ก็พาฉันมาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย คลื่น....คลื่น....คลื่น.... “ค่า พี่เอ็มมี่” ‘มาถึงรึยังคะลูก’ “ตอนนี้ของขวัญอยู่หน้าตึกแล้วค่ะ” เมื่อฉันลงจากรถไดมอนด์ก็ขับรถออกไปทันที ฉันได้แต่ยืนมองตามหลังด้วยหัวใจที่วูบโหวง เมื่อไหร่นะ... ก็ได้แต่คิดอยู่คนเดียว ‘พอดีเลย รอรับนางแบบของเรามาด้วยนะ’ เสียงจากปลายสายทำให้ฉันได้สติและละสายตาจากรถหรูนั้นได้ “ได้ค่ะ” ฉันคุยกับพี่เอ็มมี่เสร็จก็เข้าไปนั่งรอในร้านกาแฟหน้าสตูดิโอ นั่งรอสักพักก็เจอนางแบบเหมือนในรูปที่พี่เอ็มมี่ส่งไลน์มาให้ดู “คุณไลลาใช่ไหมคะ” ฉันเข้าไปทักอย่างกล้าๆ กลัวๆ “ไม่ต้องเรียกคุณหรอก เรียกพี่ไลลาก็พอแล้ว” ว้าว..ใจดีจัง เคยเจอแต่นางแบบเหวี่ยงๆ วีน ๆ “ได้เหรอค่ะ คุณ...เอ้ย...พี่ไลลา ใจดีจัง แถมสวยมากๆด้วย” ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีก “จ้ะ พาพี่ไปแต่งตัวได้ละ” ฉันเดินนำพี่ไลลาขึ้นมายังชั้นสองของสตูดิโอ แล้วก็แยกตัวมาเตรียมอุปกรณ์ในการแต่งหน้าและเสื้อผ้ารอพี่เอ็มมี่ สักพักพี่เอ็มมี่กับพี่ไลลาก็เดินเข้ามา “นี่เราชื่ออะไรเหรอ พี่ยังมีรู้ชื่อเราเลย” พี่ไลลาถามฉัน เมื่อเธอกำลังนั่งแต่งหน้า “ของขวัญค่ะ” ฉันหันไปตอบอย่างกระตือรือร้นเพราะไม่บ่อยนักที่นางแบบจะสนใจหรือทักทายฉัน “ชื่อน่ารักจัง” “ลูกสาวพี่เองแหละ ปั้นมากับมือ เขาเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ด้วยนะ มาคอยเป็นลูกมือพี่หาวิชาเพิ่มเติม เด็กคนนี้ขยันดีนะ” พี่เอ็มมี่เอ่ยชม “ไม่ขนาดนั้นหรอกค่า ชมของขวัญจนตัวจะลอยแล้วนะ” ฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้นสักหน่อย “จ้า คุณลูกสาว” พี่เอ็มมี่หันมาตอบ ฉันยิ้มหวานกลับไปให้ พี่เอ็มมี่เอ็นดูฉันมากและฉันก็ซึ้งในน้ำใจของพี่เอ็มมี่ที่สุด ฉันนั่งดูพี่ไลลาถ่ายแบบ เขาดูมืออาชีพมาก มองมุมไหนก็สวยไปหมด เมื่อเสร็จงานฉันก็ช่วยพี่ๆ ทีมงานเก็บของเพราะงานในส่วนของฉันเก็บเรียบร้อยแล้ว “นี่ๆ ของขวัญ ไปเปลี่ยนชุดไป๊” พี่เอ็มมี่เดินมาบอกฉัน “ทำไมละคะ” “ก็เขาจะไปกินข้าวกัน พอกินข้าวเสร็จก็จะไปดื่มต่อสักหน่อย” พี่เอ็มมี่อธิบาย “แต่ขวัญไม่มีชุดเปลี่ยนเลยค่ะ” ฉันไม่ได้เตรียมมา เรียนเสร็จก็มาในชุดนักศึกษาเลย “ไม่ใช่ปัญหาจ๊ะ ในห้องแต่งตัวเลือกเอาเลย คุณลูกจะใส่ชุดไหน” พี่เอ็มมี่บอก ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ เดินไปค้นเสื้อผ้าที่ราวผ้าเพื่อหาชุดที่ตัวเองพอจะใส่ได้ ฉันหยิบเสื้อยืดสีเหลืองกับกางเกงยีนส์ขาสั้นสีดำออกมาเปลี่ยน “พร้อมค่ะ” เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จฉันก็เดินออกมาร่วมกับพี่ทีมงานคนอื่นๆ ST ผับ ตืด ๆ ๆ ตืด ๆ ๆ เสียงเพลงฮิตเบสหนักๆ ทำให้ผู้คนที่เข้ามายังสถานที่แห่งนี้ได้ปลดปล่อยและวาดรวดลายกันอย่างสนุก “เอา ชน...” ฉันยื่นแก้วของตัวเองไปชนกับแก้วของพี่ๆ ตอนนี้เริ่มตึงๆ แล้วล่ะ ฉันดื่มไปตั้งสามแก้ว ปกติก็ไม่ใช่คนคอแข็งซะด้วยสิ “พี่ๆ ของขวัญว่าเรามาเล่นเกมส์กันดีกว่า” ฉันชวนพวกพี่ทีมงานเล่นเกมส์กัน ดีกว่าปล่อยให้ตั้งท่าดื่มกันอย่างเดียว “เกมส์อะไรย่ะ” พี่เอ็มมี่ถาม “ก็ตั้งคำถามแล้วมาโหวตกัน ใครถูกเลือกมากที่สุดต้องดื่มเหล้าหมดแก้ว” อธิบายเสร็จฉันก็ชงเหล้าใส่แก้วไว้ “มา ใครเริ่มก่อนดี ให้บอสตั้งคำถามก่อนเลย” ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอคำถามอย่างตื่นเต้น “ใคร...หล่อที่สุดในโต๊ะ” คนหล่อเหรอก็...พี่มิโน่ไงหล่อสุดละ ฉันชี้ไปที่พี่มิโน่ ซึ่งพี่มิโน่ก็จับแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มรวดเดียวหมดแก้ว “จะไม่ปฏิเสธหน่อยเหรอวะ” บอสของพวกฉันท้วงพี่มิโน่ “ก็เห็นๆ กันอยู่” พี่เขาก็หล่อจริงๆ ฉันยังแอบมองเลย สงสัยจะเมาแล้วล่ะ “อะ คุณมิโน่ตั้งคำถามต่อเลยครับ” พี่ตากล้องบอก “คิดว่าใคร...ไม่โสด” ก็ต้องเป็นคนสวยๆ อยู่แล้ว และในนี้พี่ไลลาสวยสุด ฉันชี้ไปที่พี่ไลลา “ฉันยังไม่มีแฟนสักหน่อย^-^” ไม่น่าเชื่อ คนสวยไม่มีแฟน “จริงเหรอเนี่ย น้องไลลายังโสดเหรอครับ” เสียงพี่ทีมงานคนหนึ่งถามขึ้น “ก็มีคุยๆ อยู่ค่ะ แต่ไม่ได้จริงจังอะไร” นั่นสินะ ก็ต้องมีคนคุยอยู่แล้วล่ะ สวยขนาดนี้ “ได้ไงครับน้องไลลา ต้องหมดแก้ว” เสียงพี่ตากล้องบอกพี่ไลลาเมื่อเห็นว่าพี่ไลลาแค่จิบเหล้า “อุ๊ย...ชอบเพลงนี้ไปแดนซ์กัน” จู่ ๆ พี่เอ็มมี่ก็ลากทุกคนออกไปเต้น เอาว่ะ มาเที่ยวทั้งที สนุกให้สุดเหวี่ยงไปเลยดีกว่า ฉันออกไปเต้นกับพวกพี่ทีมงานอย่างสนุกสนาน ไม่ได้ปลดปล่อยมานานแล้วเต็มที่หน่อยแล้วกัน “ว้าย...เริดมากค่ะลูกสาว” พี่เอ็มมี่ชม เมื่อฉันออกสเต็ปโดนใจเจ้ด้วยท่าเต้นทเวิร์ค “สุดเหวี่ยงเลยครับ ของขวัญ” ฉันไม่รู้ว่าใครพูด แต่ฉันก็ทำตาม เดินขึ้นไปบนฟลอร์ออกสเต็ปยั่วยวนตามอารมณ์ที่มีแอลกอฮอร์เป็นตัวกระตุ้นโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาหนึ่งจ้องทุกกิริยาการกระทำของฉัน พอจบเพลงก็พากันเดินกลับมาที่โต๊ะ ต่างนั่งหอบหายใจกันยกใหญ่ “ไม่น่าเชื่อว่าของขวัญจะเต้นเก่งขนาดนี้” พี่ทีมงานคนหนึ่งเอ่ยชม “นี่ลูกสาวใครคะ ลูกสาวคุณแม่เอ็มมี่ซะอย่าง เอา ชนแก้ว” พี่เอ็มมี่ออกรับให้เพราะตอนนี้ฉันเหนื่อยมาก ไม่เคยสุดเหวี่ยงแบบนี้มาก่อนเลย “มิโน่! ปล่อย!” ฉันหันไปตามเสียงของพี่ไลลาก็เห็นพี่มิโน่กำลังจับหน้าพี่ไลลาไว้ นี่พวกเขารู้จักกันเหรอ ก็ไม่แปลกหรอกพี่ไลลาสวยขนาดนั้น คงจะฮอตในหมู่หนุ่มๆ น่าดูเลย จากนั้นก็มีผู้หญิงหน้าตาน่ารักเดินเข้ามอาละวาดทำให้วงแตก ดูจากสถานะการณ์แล้วเขาน่าจะเป็นเมียพี่มิโน่ เห็นเขาประกาศความเป็นเจ้าของซะขนาดนั้น “พอได้แล้ว เฌอรีน” ฉันหันไปตามเสียงนั่นเพราะคุ้นหู ไดมอนด์นิ “ไดมอนด์ มาได้ไง” พี่ไลลาถามเขา นี่ก็รู้จักกันด้วยเหรอ “พี่พาเมียพี่กลับไปเหอะ ที่นี้เขาวุ่นวายกันพอแล้ว” ฉันไม่เคยเห็นไดมอนด์ในโหมดนี้เลยเหะ พี่ไลลาคงจะสำคัญกับเขาจริงๆ อยู่ดีๆ ใจมันก็เจ็บจี๊ดขึ้นมาซะงั้น ฉันก้มหน้าลงมองที่มือตัวเองก็เห็นเหล้าเหลืออยู่ค่อนแก้ว กระดกมันหมดนี่แหละ เหมือนเหตุการณ์จะไม่ยอมสงบง่ายๆ แต่เมื่อผู้ชายผิวขาวเวอร์แถมหล่อมากด้วย เข้ามาเคลียร์สถานะการณ์ก็สงบลงอย่างไม่น่าเชื่อ คนอะไรหล๊อหล่อแถมยังแมนอีก ชอบอะ “เฮ้ออ ลำบากเนอะ เกิดมาสวยเนี่ย” ไดมอนด์พูดคุยกับพี่ไลลาด้วยท่าทางน่ารักซึ่งฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย โอ๊ยเจ็บ...เจ็บอะไรของฉันเนี่ย “นั้นสินะ ทำไงดีอะ” พี่ไลลาตอบพร้อมทำหน้าแบ๊ว “ฮ่า ๆ อารมณ์ดีแล้วนิ จะกลับยังล่ะ” “อือ กลับเลยดีกว่า” “งั้นไลลากลับก่อนนะค่ะ” พี่ไลลาหันมาบอกพวกฉัน ทำไมพวกเขาดูสนิทกันจังเลย ปวดใจจัง... ไดมอนด์หันมาสบตาฉันแวบหนึ่งแล้วเขาก็ไปคุยกับพี่ไลลาต่อ “เค้าขอกลับด้วยนะตะเอง เขามิได้เอารถมาอะ” “ได้สิค๊า...” “โอ๊ะ โอ๊ยย เค้าเจ็บนะ” พี่ไลลาหยิกแก้มไดมอนด์อย่างหยอกล้อ พวกเขาเหมือนคนรักกันเลย ทำไมฉันต้องมาเห็นอะไรแบบนี้ด้วย แต่ว่าเขาจะทำอะไรมันก็ไม่เกี่ยวกับฉันสักหน่อยนิ ฉันสะบัดหัวแรงๆ ไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป หันไปชงเหล้าใหม่แล้วยกดื่มต่อ รู้สึกร้อนวูบวาบดีจัง อร๊าย...สดชื่น “ของขวัญ หนักไปแล้วค่ะลูก เดี๋ยวกลับบ้านไม่ได้นะ” พี่เอ็มมี่เตือน ตอนนี้ฉันไม่สนอะไรแล้ว ในหัวก็ฉายแต่ภาพไดมอนด์กับพี่ไลลากำลังหยอกล้อกันอย่างสนิทสนม “ขวัญอยากลืม อยากเมาค่ะ” ฉันพูดไปหัวเหราะไป เหมือนคนบ้าเลยตอนนี้ ไม่ว่าดีเจจะเปิดเพลงอะไรมา ของขวัญคนนี้เต้นได้หมดค่ะ “วู้ ๆ ๆ” เสียงผู้ชายโห่ร้องให้ฉัน อย่างกะเสียงกระทิงเลยเหะ พวกนี้หน้าตาตลกชะมัด “ของขวัญ!” หือ..ใครเรียก ฉันค่อยๆ หันไปมองตามเสียงที่มาจากด้านหลัง “อ้าว ไทด์ มาได้ไงอะ” เพื่อนฉันเอง “ก็แบบที่เห็นแหละ ไทด์ พี่ก็ห้ามแล้วนะ” เสียงพี่เอ็มมี่บอก สงสัยเจ้เอ็มมี่โทรไปบอกไทด์แน่เลย “แกมาก็ดีละ มาๆ ชนแก้วกันหน่อย” ฉันกำลังจะกลับไปที่โต๊ะเพื่อเอาแก้วเหล้าของตัวเอง “ผมลาละครับ พี่เอ็มมี่” หื้อ ใครลาใคร แล้วใครจะไปไหน อยู่ดีๆ ก็รู้สึกตัวลอยขึ้น เท้าไม่แตะพื้น นี่ฉันลอยได้เหรอ อเมซิ่ง! “ยัยขวัญนะยัยขวัญ ทำไมเมาเละเทะขนาดนี้” ใครเรียกชื่อฉัน? แล้วร่างของฉันก็สัมผัสกับเบาะนิ่มๆ “ฮ่า...นิ่มจัง” ฉันเอาหน้าถูกับที่เบาะไปมา “หนักล่ะ” เสียงใครบ่นอะไร แต่ก็ชั่งเหอะ! ตอนนี้ฉันได้นอนบนปุยเมฆแสนนุ่มนิ่ม มีความสุขจัง คลื่น.......คลื่น.....คลื่น...... ไอ้ไทด์ มันโทรมาทำไมวะ “ว่าไง” “มึงอยู่ไหน รีบมาที่ ST ผับเดี๋ยวนี้เลย ตอนนี้ของขวัญเมาเละเทะเลยว่ะ” ไทด์บอก เป็นอะไรอีกล่ะ ยัยบ๊องนั่น “เดี๋ยวจะรีบไป” ผมกดวางสายก่อนจะลงจากรถพี่ไลลาแล้วเดินไปที่รถของตัวเองหยิบคี่การ์ดออมา ผมยื่นคีการ์ดให้พี่ไลลา “มีอะไร” พี่ไลลาถามด้วยความสงสัย “มอนด์มีธุระด่วนอะ พี่ไลลาช่วยเข้าไปในตึกแล้วเอาถุงกระดาษสีดำมาให้หน่อย มันอยู่ในห้องสุดทางเดินของชั้นสอง เอาไปไว้ที่คอนโดพี่นะ” ผมสั่งพี่สาวเสร็จก็กลับมาขึ้นรถตัวเองแล้วเหยียบคันเร่งออกมาทันที “เป็นบ้าอะไรของเธอนะ ตอนออกมาก็ยังดีๆ อยู่เลย” ผมบ่นอยู่คนเดียวอย่างหงุดหงิด พอผมขับรถมาถึงก็เห็นไอ้ไทด์ มันยืนสูบบุรี่พิงรถตัวเองอยู่ “สักหน่อยไหม” มันยื่นซองบุรี่ให้ ผมรับมาจุดไฟสูบทันที พ่นควันสีขาวขุ่นออกมาอย่างระบาย ผมมองเข้าไปในรถของไทด์ก็เห็นตัวปัญหานอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเบาะ “ทำไม เมาเละขนาดนี้วะ” ผมหันมาพูดกับไทด์พร้อมกับพ่นควันลูกใหญ่ “จะไปรู้เหรอ กูกำลังจะล่อหญิงสักหน่อย พี่เอ็มมี่ก็โทรมา บอกว่าของขวัญเมาเละ แถมตอนที่กูเดินเข้าไป พวกผู้ชายนี้ห่อมรอบยัยขวัญเต็มเลย” ไทด์พูดจบมันก็พ่นควันออกมา “เดี๋ยวกูจัดการเอง” ผมทิ้งบุรี่ลงพื้นใช้เท้าขยี่ให้ไฟบุรี่ดับสนิท ผมเปิดประตูรถไทด์ออก เข้าไปอุ้มของขวัญออกมาขึ้นรถตัวเองซึ่งไทด์ก็เดินมาเปิดประตูรถผมรอ “ขอบใจ” ผมบอกเพื่อนเมื่อจัดการคนตัวเล็กให้นอนในรถเรียบร้อยแล้ว “อื้อ ของขวัญมันก็เพื่อนกู” ไทด์เดินมาตบบ่าผมสองที แล้วมันก็ขับรถออกไป ผมกลับเข้ามาในรถของตัวเองแล้วจ้องมองใบหน้าหวานที่กำลังหลับพริ้มไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร “เธอกำลังทำให้ฉันคิดเข้าตัวเองอยู่นะ รู้ตัวไหม” ผมพูดกับร่างที่หลับไหลไม่ได้สติ ผมแอบคิดว่าที่ของขวัญเป็นแบบนี้เพราะเธอกำลังหึงผมอยู่ พอคิดได้ดังนั้นก็เผลอยิ้มอยู่คนเดียว “อื้อ...ยิ้มให้ขวัญแบบนั้นบ้างสิ ได...” ร่างบางนอนละเมอ ผมโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้หวังว่าจะได้ยินชื่อตัวเอง แต่ขวัญข้าวกลับหลับใส่ซะงั้น ใจผมเต้นระรั่วสั่นไหวแปลกๆ ตอนที่เธอคล้ายจะเอ่ยชื่อผม แก้มเนียนที่ขาวใสในตอนนี้เป็นสีแดงจัดเห็นแล้วมันน่าขย้ำนัก แค่มองใบหน้าของขวัญก็ทำเอาผมปวดหนึบที่กลางกาย ไม่ได้ล่ะอันตราย ผมสะบัดหน้าหนีทันที ผมขับรถพาของขวัญมาที่คอนโดของผม ค่อยๆ ช้อนตัวเธอขึ้นมาชิดกับอกแกร่งพาเธอเดินเข้ามาในลิฟท์เพื่อไปยังห้องนอนแล้ววางร่างของขวัญลงบนเตียงกว้างอย่างระมัดระวังกลัวว่าจะทำเธอตื่น “นี่ก็หลับลึกจัง ถ้าพาไปข่มขืนจะรู้ตัวไหมเนี่ย” พอคิดได้ดังนั้น ร่างกายก็ตอบสนองทันที อ่า...เผลอคิดไม่ได้เลย “นอนเถอะ ฉันจะไม่ทำอะไรเธอ ถ้าเธอไม่เต็มใจ” ผมก้มลงจูบที่หน้าผากมนแล้วหันหลังให้ของขวัญรีบเดินอกจากนอนทันที ตอนนี้ผมต้องการระบาย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาไทด์ “ว่า” ไทด์รับโทรศัพท์ “มึงอยู่ไหน” ตอนนี้ผมได้ยินเสียงเพลงกับผู้หญิงเต็มไปหมด “ห้องกู อยากมาแจมปะล่ะ” ไทด์พูดอย่างรู้ใจ “แน่นอน” ผมกดวางสาย ยิ้มอย่างพอใจ ไทด์อยู่คอนโดเดียวกับผมนี่แหละแต่อยู่คนล่ะชั้น ห้องมันต้องขึ้นไปอีก ติ่ง! ผมกดกริ่งหน้าห้องไทด์ สักพักประตูก็ถูกเปิดออกด้วยฝ่ามือเรียวบางของหญิงสาวคนหนึ่ง เธอส่งสายตายั่วยวนมาให้ผม “น่ากินจัง” เธอเดินมาพูดกระซิบที่หูของผม “ก็กินสิ รออะไร” ผมบอกเธอเมื่อเดินเข้ามาให้ห้องแล้ว ภายในห้องตอนนี้ เต็มไปด้วยผู้หญิงห้าคน ในห้องของไทด์มีบาร์ขนาดเล็กซึ่งหลังบาร์นั้นก็มีสาวสวยคอยชงเหล้าให้อยู่ อีกสองคนก็นั่งประกบไทด์ซ้ายขวา และอีกสองกำลังยั่วผมอยู่ “เครื่องดื่มไหม” ไทด์ถามผม “ไม่ กูจะกินเลย” ผมบอกเพื่อน “อดมาจากไหนวะ รีบจัง” ไทด์แขวะ ผมโอบสองสาวเข้ามาในห้องนอนฝั่งขวา ห้องของไทด์มีสามห้องนอน เพราะมันชอบทำกิจกรรมแบบนี้ ก็เลยมีหลายห้องนอน ด้วยนิสัยที่เหมือนๆ กันก็เลยไปกันได้ และมันกับผมก็เพื่อนกันตั้งแต่อนุบาล แค่มองตาก็รู้ใจแล้ว “เธอสองคน เข้ามาพร้อมกันเลย” ตอนนี้ผมกำลังนั่งพิงหัวเตียงปล่อยให้สองสาวสร้างความสยิวกับร่างกายผมเล่น “ห้ามทำรอย และฉันไม่จูบ” พวกนี้เป็นงานดีจริง รู้สึกผ่อนคลายจัง หลังจากที่เครียดกับใบหน้าหวานๆ ของใครบางคน ซึ่งตอนนี้คงนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ใบหน้าของขวัญก็ลอยเข้ามา... ปั่นหัวฉันเล่นดีจัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD