เพื่อนสนิท

4984 Words
เอสทีผับ Yeah Oh Foo! Let's go oh! Ooh, the way that you pop girl Makes me go cray, show me what you got, girl You could be my new thang Ooh, the way that you move Makes me go cray, pick it up now drop girl You could be my new thang Aha Aha Aha Get sexy, girl, get sexy Get sexy, girl, get sexy (aha) Get sexy, girl, get sexy ทันทีที่ก้าวเข้ามาในผับเสียงเพลงก็ดังกระหึ่ม หูหื้อไปหมด ดีนะที่ไทด์จองโต๊ะวีไอพีของชั้นสองค่อนข้างเป็นส่วนตัวหน่อย เมื่อฉันเดินมาถึงโต๊ะก็เจอเพื่อนผู้ชายสี่คนกับผู้หญิงสามคนน่าจะเป็นเพื่อนที่คณะของไทด์และหนึ่งในนั้นก็มีไดมอนด์อยู่ด้วย เขากำลังนั่งดื่มเหล้า ที่นั่งด้านข้างทั้งสองข้างก็มีเพื่อนผู้หญิงนั่งประกบซ้ายขวา ฉันเดินไปนั่งโซฟาที่ว่างอยู่แต่มันติดกับเพื่อนผู้ชายของไทด์ ฉันขยับให้เฟย์นั่งด้วยทำให้ชิดเพื่อนผู้ชายกว่าเดิม “พวกมึง นี่ของขวัญเพื่อนรักกูเอง กับเฟย์เพื่อนของขวัญ” ไทด์แนะนำเพื่อนๆ “ชื่อของขวัญเหรอครับ เราชื่อบ๊อบบี้นะ” คนที่นั่งข้างๆ ฉันแนะนำตัว ยิ้มซะตาหวานเชี่ยว ฉันเลยยิ้มบางๆ ไปให้ “เราชื่อแดนนะ” ผู้ชายที่นั่งถัดไปจากบ๊อบบี้บอก “เราชื่อนิค ส่วนไอ้หน้าสวยเนี้ยไดมอนด์” นิคบอก ฉันพยักหน้าให้อย่างเข้าใจ “ไอ้มอนด์ไม่ต้องแนะนำหรอก มันรู้จักของขวัญอยู่แล้ว” ไทด์บอกเพื่อน “นี่มึงมีเพื่อนน่ารักขนาดนี้ไม่ยอมบอกกูเลยนะ ไอ้เชี้ยมอนด์” แดนหันไปพูดกับไดมอนด์ “นั้น เรียกว่าน่ารักแล้วเหรอ ตาถั่วว่ะ” ไดมอนด์บอก นี่เขาแอบด่าฉันเหรอ เชอะ! ฉันจับแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มบ้าง อร๊าย...วูบวาบดีจัง “มึงดิ ตาถั่ว” บ๊อบบี้บอกไดมอนด์ “เราชื่อฟ้านะ แล้วก็นี่เมย์กับโบว์” ผู้หญิงที่นั่งอยู่ด้านซ้ายไดมอนด์บอก คนที่อยู่ด้านขวาชื่อเมย์ ถัดมาก็โบว์ ฉันยิ้มให้พวกเธออย่างเป็นมิตร แต่เหมือนพวกเธอไม่ได้อยากจะเป็นมิตรด้วยเลย แต่ก็ชั่งเหอะ ใครสนล่ะ “นี่ หมั่นไส้ยัยพวกนั้นจัง” เฟย์กระซิบคุยกับฉัน “ทำไมอะ” ฉันถามเพื่อน “ดูยัยพวกนั้นดิ ออเซาะไดมอนด์อยู่ได้” เฟย์พูดอย่างหมั่นใส้ “ชั่งเขาเหอะ อย่าไปสนใจเลย” เขาก็ฮอตในหมู่สาวๆอยู่แล้ว ฉันเห็นมาจนชิน “ลุกขึ้น” ไดมอนด์เดินมาอยู่ตรงหน้าฉันตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เพราะฉันมัวแต่มองไปด้านล่างดูผู้คนโยกย้ายส่ายสะโพกกัน “อะไร” ฉันถามอย่างมึนงง อยู่ดีๆ ก็บอกให้ลุกซะงั้น “ไปเอาเค้กให้ไอ้ไทด์มัน” ไดมอนด์บอก “เดี๋ยวมานะ” ฉันหันไปบอกเฟย์ ซึ่งเธอก็พยักหน้าให้อย่างเข้าใจ ฉันลุกขึ้นเดินตามไดมอนด์ออกมาที่ลานจอดรถ ไดมอนด์ยืนพิงประตูรถแล้วก็หยิบบุรี่ขึ้นมาจุดไฟสูบ “มะเร็งทั้งนั้น” ฉันเลยแขวะเข้าให้ “ใครใช้ให้แต่งตัวแบบนี้” ไดมอนด์ทิ้งบุรี่ลงพื้น ใช้เท้าขยี้จนไฟดับสนิท ทั้ง ๆ ที่พึ่งสูบไปหน่อยเดียวเอง นี่เขาคงไม่ได้ทิ้งเพราะฉันแขวะหรอกนะ “ฉันจะแต่งยังไงมันก็เรื่องของฉันปะ นายเกี่ยวอะไรด้วย” ฉันยืนกอดอกคุยกันเขา นี่เรียกฉันออกมาบ่นรึไงกัน “แล้วอยากเกี่ยวปะล่ะ” ไดมอนด์จ้องหน้าฉันนิ่ง “พูดอะไรของนาย ไม่เห็นจะเข้าใจเลย” พักหลังมานี้รู้สึกว่าจะชอบพูดอะไรแปลกๆ บ่อยนะ จู่ ๆ ไดมอนด์ก็เดินเข้ามาจับข้อมือแล้วก็กระชากอย่างแรงทำให้ตัวฉันเซปะทะกับอกแกร่ง มืออีกข้างก็โอบเอวไว้แน่น “จะทำอะไรน่ะ” ฉันท้วงขึ้นพร้อมกับดิ้นไปมาอยู่ในอ้อมกอดของเขา “ก็อยากให้เกี่ยวไม่ใช่เหรอ” ไดมอนด์พูด มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาล็อกท้ายทอยฉันไว้แน่น “นายอย่าทำอะไรบ้าๆ นะ ไดมอนด์” ฉันใช้มือเล็กทุบอกแกร่งแรงๆ หวังให้เขาปล่อย “เธอไม่รู้ตัวเลยเหรอ ของขวัญ” ไดมอนด์สบตาฉัน เหมือนต้องการจะสื่ออะไร “รู้อะไร” ฉันเผลอจ้องมองดวงตาสีน้ำตาลอ่อนอย่างน่าหลงใหล ใบหน้าเนียนเคลื่อนเข้ามาเรื่อย ๆ จนริมฝีปากหนาทาบแตะลงบนริมฝีปากบาง ฉันหลับตาลงพร้อมรับสัมผัสจากเขาอย่างลืมตัว ลืมว่าควรต้องผลักเขาออกไป มือเล็กก็ยึดเสื้อยืดของเขาไว้แน่นเหมือนไม่อยากให้เขาถอยออกไปซะงั้น ลิ้นชื้นค่อยๆ แทรกเรียวปากเข้ามาเกี่ยวลิ้นเล็กตวัดดึงดูดไปมา รสเหล้าขมๆ กับกลิ่นบุรี่จางๆ ที่เขาพึ่งสูบเข้าไปสร้างความปั่นป่วนชวนหลงใหล ร่างฉันถูกยกขึ้นไปนั่งบนกระโปรงรถโดยฝีมือคนตรงหน้าทั้งทีริมฝีปากยังสัมผัสกันอยู่ ไดมอนด์ดันตัวเข้ามาแทรกตรงกลางทำให้เรียวขาสวยโอบรอบเอวหนาโดยอัตโนมัติ “อื้อ...” ฉันท้วงเขาอยู่ในลำคอ เมื่อมือหนาเริ่มซุกซน ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังด้านในเสื้อยืดของฉัน นิ้วเรียวยาววนเล่นอยู่บริเวณตะขอเสื้อชั้นในสร้างความหวั่นไหวให้ฉันอย่างหนัก เขาถอดริมฝีปากออกเปลี่ยนมาซุกไซ้ซอกคอขาวเนียนแทน ริมฝีปากหนาจูบเม้นแรง ร่างกายสั่นสะท้านไปกับการกระทำของเขา สมองเริ่มพร่าเลือนสติฉางหายไปทีละนิด “ยะ...หยุดเถอะ” ฉันร้องห้ามเมื่อมือหนาปลดตะขอเสื้อชั้นในออกจากกัน ทำให้ฉันได้สติอีกครั้ง “ทำไม” ไดมอนด์หายใจฟึดฟัดเมื่อโดนขัดใจ สายตาจ้องมองอย่างหงุดหงิด “เราต้องเอาเค้กไปให้ไทด์นะ” ฉันเอาไทด์มาอ้าง ถ้าไม่หยุดอาจจะเกินเลยไปกว่านี้แน่ ๆ “...ก็ได้” ไดมอนด์ถอนหายใจแรง แล้วก็ผละตัวออก เดินไปเปิดประตูรถเพื่อเอาเค้กออกมา เฮ้อ... เกือบไปแล้ว นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย แทนที่จะห้ามเขากลับยินยอมให้เขาทำซะงั้น ทำไมใจง่ายแบบนี้นะ ฉันพยายามเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อใส่ตะขอเสื้อชั้นใน แต่ก็ใส่ไม่ได้สักที “อยู่นิ่งๆ” ไดมอนด์ยื่นเค้กมาให้ฉันถือ เขายืนอยู่ด้านหลังดึงเสื้อยืดของฉันขึ้นสูง มือหนาค่อยๆ ดึงตะขอเสื้อให้เกี่ยวกัน เหมือนเขาจงใจดึงแรงๆ ทำให้เสื้อรัดอกฉันแน่น แต่ก็ไม่กล้าว่าอะไรเขาอยู่ดี “อ๊ะ...” ฉันเผลอร้องเสียงน่าเกลียดเมื่อถูกริมฝีปากหนากดจูบแรงที่กลางหลัง “อย่าร้องแบบนี้อีก ไม่งั้นเธอไม่รอดแน่” ไดมอนด์พูดพร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ ฉันถึงกับใบหน้าร้อนผ่าวลามมาถึงใบหู หลุบตาลงต่ำไม่กล้าสบตากับเขา ทำไมเขาร้ายกาจแบบนี้นะ แล้วฉันจะทนไหวไหม เหตุการณ์เมื่อกี้มันก็ทำให้ฉันรู้แล้วว่าไม่สามารถต้านทานเขาได้เลย ฉันรีบเดินกลับเข้ามาหาเพื่อนที่โต๊ะโดยเร็ว อยู่กับไดมอนด์นานๆ รู้สึกว่าจะไม่ค่อยปลอดภัยต่อร่างกายและหัวใจซะเลย “อ้าว เฟย์ไปไหน” เมื่อเดินเข้ามาไม่เจอเฟย์ ฉันก็เลยถามบ๊อบบี้ “สงสัยไปห้องน้ำมั้ง” บ๊อบบี้ตอบ พร้อมกับยื่นมือมารับกล่องเค้กไปปักเทียน “ไปไหนมา” ฉันถามเฟย์ เมื่อเธอเดินมาที่โต๊ะ “อ๋อ ไปห้องน้ำมา” เฟย์ตอบ “แฮปปี้ เบิร์ด เดย์ ทู ยู...แฮปปี้ เบิร์ด เดย์ ทู ยูฯ” เสียงเพื่อนของไทด์ช่วยกันร้องเพลงวันเกิดให้ไทด์ แล้วฉันก็ร้องตาม “ขอบใจนะทุกคน” ไทด์บอกเพื่อนๆ แล้วก็เป่าเทียน “มาชนแก้วกันหน่อย” เสียงนิคบอกทุกคน ฉันกำลังจะจับแก้วเหล้าของตัวเอง แต่ก็ถูกมือหนาจับตัดหน้าไปก่อน “เดี๋ยวก็เมาเละอีก” ไดมอนด์หันมาทำหน้าดุใส่ “ไม่เมาหรอก แค่นี้เอง” ฉันกำลังจะแย่งแก้วกลับคืนมา ไดมอนด์ก็ยกขึ้นดื่มรวดเดียวหมดแก้ว ทำให้ทุกคนในโต๊ะต่างอึ้งกับการกระทำของเขา ฉันก็อึ้งเหมือนกันแก้วตัวเองมีทำไมไม่กิน “มองอะไร” ไดมอนด์หันไปถามเพื่อนๆ “เปล่า ไม่มีไร” แดนตอบพร้อมกับเกาหัว เขาจะรู้ตัวไหม ว่าสิ่งที่เขาทำเมื่อกี้สร้างความไม่พอใจให้กับสองสาวอย่างมากเพราะหล่อนสองคนจ้องจิกฉันจนตาแทบถลนออกมาอยู่แล้ว “ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” พอนั่งได้สักพักฉันก็ขอตัวออกมา จะให้นั่งต่อไปได้ไงในเมื่อโดนสายตาจิกกัดส่งมาให้เป็นระยะจากสองสาว ฟ้ากับเมย์ แล้วไดมอนด์ก็มานั่งข้างฉันด้วยก็เลยทำให้สองสาวไม่พอใจหนักกว่าเดิมอีก “เฮ้อ” ฉันยื่นถอนหายใจอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำ ไม่อยากกลับเข้าไปที่โต๊ะเลย รู้สึกอึดอัดยังไงก็ไม่รู้ “เห็นนิ่งๆ แบบนี้ ร้ายไม่เบาเหมือนกันนะ เธอน่ะ!” ฟ้าพูด เมื่อเธอเดินมาเปิดน้ำล้างมือที่อ่างล้างมือข้างๆ ฉัน “คิดจะควบสอง ไม่เกินไปหน่อยเหรอ” เมย์เดินมาสมทบอยู่ข้างฟ้า “อะไร” ฉันหันหน้าไปถามพวกหล่อนที่ยืนใช้สายตาจิกกัดฉันเป็นว่าเล่น “ยังมาทำไร้เดียงสาอีก” เมย์พูด “ฉันไม่เข้าใจที่พวกเธอพูด” ฉันเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ “งั้นถามตรงๆ เลยแล้วกัน ว่าระหว่างไทด์กับไดมอนด์ เธอสนใครมากกว่ากัน” ฟ้าถาม “ก็สนทั้งสองแหละ ก็พวกนั้นเพื่อนฉันนิ” ฉันตอบตามจริง “เห็นไหมล่ะ ว่ายัยนี่น่ะร้าย” เมย์หันไปพูดกับฟ้า “แล้วแต่จะคิด” ฉันบอกอย่างรำคาญพร้อมกับทำท่าจะเดินออกไป แต่ฟ้ากับเมย์ยืนบังประตูไว้ก่อน “จะไปไหน” ฟ้าถาม “กลับนะสิ ถามได้ แล้วก็ช่วยหลบทางด้วย” ฉันตั้งใจจะเดินเบียดพวกหล่อนไปแต่โดนเมย์ดึงแขนกลับมาอย่างแรง “โอ๊ย จะเอาไง!” ฉันก็เริ่มไม่ไหวเหมือนกัน ดึงแรงขนาดนี้คงออกไปดีๆ ไม่ได้แล้วล่ะ “อย่ายุ่งกับไดมอนด์หรือไทด์ แล้วฉันจะปล่อยเธอไป ถ้าเธอรับปาก” เมย์บอก “คงไม่ได้หรอกนะ เพราะสองคนนั้นเป็นเพื่อนฉัน อีกอย่างนะถึงฉันไม่ยุ่ง พวกนั้นก็มายุ่งกับฉันอยู่ดี” ฉันพูดตามความจริง ยัยพวกนี้เป็นเด็กรึไง ไม่พอใจใครก็เที่ยวสั่งอะไรแบบนี้นะเหรอ ไร้สาระที่สุด “ถ้าเธอไม่อ่อยไม่ยั่วพวกเขาก็ไม่สนใจเธอหรอก” ฟ้าพูด “ฉันเนี่ยนะ ยั่ว! เอาสมองส่วนไหนคิด” ฉันก็เริ่มมีน้ำโฮแล้วล่ะ “นี่ อย่ามาปากดีนะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” เมย์พูดพร้อมกับบีบต้นแขนฉันอย่างแรง ฉันจ้องหน้าเมย์อย่างเอาเรื่อง คิดว่าทำฉันได้คนเดียวรึไง ฉันจับต้นแขนเมย์แล้วก็บีบแรงๆ หมือนที่หล่อนทำแถมจิเล็บลงไปด้วย “โอ๊ย ฉันเจ็บนะยัยบ้า” เมย์ร้องโอดโอย “ปล่อยแขนเพื่อนฉันนะยัยบ้า” ฟ้าเดินเข้ามาจิกเล็บลงบนหลังมือฉันที่บีบแขนเมย์อยู่ ฉันสะบัดมือออกอย่างแรง พร้อมกับที่พวกหล่อนปล่อยมือออกจากต้นแขนของฉันเหมือนกัน “ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าไม่อยากให้ฉันยุ่งกับพวกนั้นก็ไปบอกเขาโน้นไม่ต้องมาสั่งฉัน!” ฉันเหลืออดกับยัยพวกนี้จริงๆ ฉันกำลังจะเดินออกไปก็โดนมือเรียวกระชากผมจากด้านหลังจนหน้าหงายมองขึ้นเห็นเพดาน “จะรีบไปไหน มาให้ตบสั่งสอนซะดีๆ” เมย์นั้นเอง เพี๊ยะ! ฉันหน้าหันไปตามแรงตบจากมือเรียวของเมย์ เพี๊ยะ! ฉันก็ฟาดมือลงบนหน้างามๆ ของหล่อนเหมือนกัน คิดว่ามีมือคนเดียวรึไง “เมย์! แกเป็นไรไหม” ฟ้าทำสีหน้าตกใจเมื่อเห็นเพื่อนโดนตบจากนั้นเธอก็วิ่งมากอดล็อกตัวฉันไว้ “แน่นักเหรอ อีขวัญ!” เพี๊ยะ! เมย์ตบหน้าฉันอีกหนึ่งทีแล้วก็เตรียมจะตบอีกรอบ ฉันยกเท้าขึ้นถีบท้องเมย์เต็มแรง หล่อนหงายหลังล้มลงไปกับพื้นกระเบื้องของห้องน้ำ “เมย์!” ฉันอาศัยจังหวะที่ฟ้าตกใจหันตัวมากระชากผมยัยฟ้ากดลงกับอ่างน้ำเปิดก๊อกน้ำใส่ผมยาวของหล่อนพร้อมกับกดสบู่เหลวที่มีไว้สำหรับล้างมือ สระผมให้ซะเลย จะได้หายหัวร้อน “กรี๊ดดด” ฟ้าร้องลั่นห้อง ทำให้โบว์วิ่งทะเลอทะล่าเข้ามา “ทำไมเสียงดังจัง” โบว์พูด “แกเข้ามาทำไม ไปดูต้นทางเดี๋ยวนิ” เมย์หันไปสั่งโบว์ โบว์ก็บอกง่ายเหลือเกินวิ่งกลับออกไปหน้าห้องน้ำ “แกกล้าทำเพื่อนฉันเหรอ อีบ้า” เมย์ลุกขึ้นมาตั้งท่าจะตบฉันอีกครั้ง “พวกแกไดมอนด์กับไทด์มา” โบว์วิ่งตาตั้งเข้ามาบอก ปัง! ทันทีที่ไดมอนด์เปิดประตูเข้ามา “โอ๊ย! ไดมอนด์ช่วยเมย์ด้วย” เมย์รีบวิ่งไปออเซาะไดมอนด์ทันที พร้อมกับฟ้าที่ตอนนี้ฟองสบู่เต็มหัวเลย “ของขวัญ! แกเป็นอะไรหรือเปล่า” เฟย์วิ่งเข้ามาสำรวจร่างกายฉัน “ฉันไม่เป็นอะไร” ฉันตอบเพื่อน “นี่มันเรื่องอะไรกัน!” ไทด์ตะคอกถามเสียงดังลั่น เมย์ ฟ้า โบว์ ก้มหน้าก้มตาเงียบกริบ “ไม่มีอะไรหรอก แค่เรื่องไม่เป็นเรื่อง” ฉันตอบไทด์ “ไม่มีได้ไง ตบกันขนาดนี้” ไดมอนด์พูดเสียงดุ จะให้ตอบไหมล่ะว่าเพราะนาย ไม่กล้าตอบอยู่ดี “ฉันกลับก่อนนะไทด์” ฉันหันไปบอกไทด์ “มากับฉัน” ไดมอนด์เดินเข้ามาจับมือฉันพาเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว “ฉันไม่ไปกับนาย ปล่อย!” ฉันสะบัดมือออกจากมือหนาอย่างแรง เมื่อเดินมาถึงลานจอดรถ “ทำไม ถ้าเป็นไอ้ไทด์เธอคงไม่ปฏิเสธใช่ไหม!” ไดมอนด์หันกลับมาตะคอกฉันอย่างหงุดหงิด “ใช่!” ฉันตะคอกกลับเหมือนกัน คนยิ่งหงุดหงิดอยู่ด้วยยังจะมาชวนทะเลาะอีก “อ๋อ ที่ตบกับเนี่ย แย่งไอ้ไทด์กันสินะ” ไดมอนด์บีบข้อมือฉันอย่างแรง “แล้วแต่จะคิด เพราะฉันห้ามความคิดใครไม่ได้” เจ็บข้อมือไม่เท่าไร แต่เจ็บใจมากกว่า “ทำไมเธอชอบทำให้ฉันหงุดหงิดอยู่เรื่อยเลยนะ ของขวัญ!” ไดมอนด์พูด พร้อมกับกระชากตัวฉันเข้ามาในอ้อมกอดของเขา “ฉันไปทำอะไรให้นายหงุดหงิดมิทราบ” ฉันดิ้นคลุกคลักไปมาอยู่ในอ้อมแขนของเขา “อยากรู้เหรอ” อยู่ดีๆ ไดมอนด์ก็เปลี่ยนอารมณ์ทันที ฉันตามไม่ทันแล้วนะ “ขึ้นรถแล้วฉันจะบอก” อะไรของเขา แต่สายตาไม่น่าไว้ฉันเอาซะเลย แต่ฉันก็อยากรู้ก็เลยยอมขึ้นรถไปกับเขาง่ายๆ “ทีนี้ บอกได้รึยัง” ฉันถามขึ้นมาเขาขับรถออกมาได้สักพัก ไดมอนด์หันมามองหน้าฉันแวบหนึ่ง แล้วก็หันกลับไปมองทางต่อ “นี่! นายหลอกฉันใช่ไหม” ฉันเบื่อความเจ้าเล่ห์ของเขาที่สุด ได้แต่นั่งหงุดหงิดไปตลอดทาง คอนโด.... “นายพาฉันมาที่นี้ทำไม หอพักฉันไม่ได้อยู่นี่นะ” ฉันเริ่มโวยวายเมื่อไดมอนด์มาจอดรถที่คอนโดตัวเอง “ฉันเมา ขับต่อไม่ไหวแล้ว อยากนอน” ไดมอนด์บอกหน้าตาเฉย “แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก ฉันจะได้ให้ไทด์ไปส่ง” ฉันบ่นอย่างหัวเสีย “ชอบมันเหรอ” ไดมอนด์ถามพร้อมกับจ้องหน้าฉันนิ่ง “จะอยากรู้ไปทำไม” ฉันจ้องหน้าเขากลับเหมือนกัน เอาสิ...มาแข่งจ้องตากัน...ไม่ใช่ล่ะ! “ถ้าไม่ได้ชอบไทด์แล้วเธอชอบใคร” เขาเริ่มถามฉันอย่างจริงจังอีกครั้ง “ฉันยังไม่ได้บอกสักหน่อยว่าไม่ชอบไทด์” นี่เข้าต้องรู้ให้ได้ใช่ไหม “เธอนี่ยังไง โลเลเป็นบ้าเลย” ไดมอนด์พูดอย่างหงุดหงิด “แล้วนายจะมายุ่งอะไรกับฉัน หะ! ไปสนหญิงของนายดีกว่าไหม ที่ฉันโดนตบเนี่ยก็เพราะนาย ยังจะมาว่าฉันอีก!” ฉันพูดอย่างเหลืออดจะมากดดันอะไรฉันนักหนา “ที่ตบกันเนี่ย เพราะฉันเหรอ” นี่ฉันตาฝาดไปใช่ไหม ที่เห็นแววตาดีใจของเขา “เปล่า” ฉันตอบพร้อมกับหลบสายตาเขา “แล้วหลบตาทำไม” ไดมอนด์ถามอย่างจับผิด “เปล่าซะหน่อย” ฉันเบือนหน้าหนีไปมองข้างๆ ไม่กล้ามองหน้าเขา “แล้วเจ็บไหม” ไดมอนด์เอื้อมมือหนามาเงยคางมนของฉันให้หันกลับไปมองหน้าเขา และใช้นิ้วโป้งเขี่ยผิวแก้มข้างที่โดนตบวนไปมาแล้วก็ลากมาลูบไล้ริมฝีปากล่างของฉันอย่างแผ่วเบา ใจฉันเต้นตุบ ๆ ๆ หวั่นไหวกับการกระทำที่อ่อนโยนของคนตรงหน้า ทำไมชอบทำให้ฉันปั่นป่วนอยู่เรื่อยเลย “แล้วนายจะไปส่งฉันไหม ไม่งั้นฉันจะเรียกแท็กซี่กลับ” ฉันชิ่งถามก่อนที่จะเผลอไผลไปกว่านี้ “นอนนี่แหละ” ไดมอนด์บอก พร้อมกับปล่อยมือออกจากคางมน “ทำไมฉันต้องนอนที่นี่ด้วย” “ทำไม กลัวฉันปล้ำเหรอ” ไดมอนด์พูดอย่างขำๆ “กลัวทำไม ไม้กระดานของฉันไม่ทำให้นายมีอารมณ์ได้หรอก” ฉันไม่ใช่สเปกที่เขาชอบสักหน่อย รู้สึกเหมือนน้อยใจเลยเฮะ “ถ้าไม่กลัวก็ขึ้นไป” ไดมอนด์บอก ฉันเปิดประตูลงจากรถ เดินนำหน้าเขาไปยังลิฟต์เพื่อกดชั้น 29 “นี่จำได้ด้วยเหรอ” ไดมอนด์ถามแบบยิ้มๆ “ก็ห้องไทด์อยู่ชั้น 30 แล้วห้องนายก็อยู่ต่ำกว่าห้องไทด์หนึ่งชั้นก็ต้อง 29 ใช่ไหมล่ะ” ฉันอธิบาย “เก่งคำนวณเนอะ” ไดมอนด์พูดแบบขำ ๆ เดินเข้าไปให้ลิฟต์ ทำไมรู้สึกเหมือนโดนล้อเลยอะ “นายแน่ใจนะ ว่าจะไม่มีผู้หญิงมาตามตบฉันถึงห้องนาย” เขานะ หญิงเยอะยิ่งกว่าอะไร “ฉันไม่เคยพาผู้หญิงเข้าห้อง” ไดมอนด์ตอบพร้อมกับล้วงกระเป๋ากางเกงยีนส์ เท่ตายล่ะ “ล้อเล่นใช่ไหม” ฉันถามอย่างแปลกใจ ไม่น่าเชื่อ “มีแต่หญิงพาเข้าห้อง” เหอะ! ว่าแล้วเชี่ยว หงุดหงิดโว้ย ฉันเผลอฟึดฟัดอย่างลืมตัว “หงุดหงิดอะไร” ไดมอนด์ถามอย่างสงสัย “เปล่านิ” ฉันทำไม่รู้ไม่ชี้อย่างกวนๆ ติ่ง! ฉันทำหน้าเชิดเดินผ่านไดมอนด์เข้าไปในห้อง เมื่อเขาเปิดประตูให้ “เธอไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ” ไดมอนด์บอก “ฉันไม่มีชุดเปลี่ยน” ฉันบอกไดมอนด์ “ในตู้เสื้อผ้าฉันไง ชุดไหนใส่ได้ก็เอามาใส่” ไดมอนด์บอก เขาเดินไปที่ครัวเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม ฉันจึงเดินเข้ามาในห้องของไดมอนด์ กำลังจะเปิดตู้เสื้อผ้า “เดี๋ยว!” ฉันสะดุ้งโหยง ตกใจเสียงไดมอนด์ เขาพรวดพลาดเข้ามาแบบไม่ให้ซุ้มให้เสียง “อะไรของนาย ตกใจหมด” ฉันถามอย่างมึนงง ไดมอนด์เดินเข้ามาใช้มือหนาดันประตูตู้เสื้อผ้าให้สนิทเหมือนเดิม ฉันงงกับกิริยาของเขามาก ในตู้นี้ต้องมีอะไรแน่ ๆ “เดี๋ยวฉันหาให้เธอไปรอตรงโน้นก่อน” ไดมอนด์บอกพร้อมกับชี้นิ้วให้ฉันไปยืนที่หน้าประตูห้องน้ำ “ในตู้มีอะไร” ฉันเหล่ตามองอย่างสงสัย “ไม่มีอะไร เดี๋ยวหยิบให้” ไดมอนด์ดูรุกรี้รุกรนแปลกๆ “ต้องมีอะไรแน่” ฉันเดินเข้าไปแย่งเปิดตู้เสื้อผ้า “บอกไม่มีอะไรไง ของขวัญ” เรายื้อแย่งกันไปมา ไดมอนด์ใช้แขนแข็งแรงรัดเอวฉัน แล้วโยนลงเตียงนอนพร้อมกับร่างหนาตามมาทับร่างบางของฉันไว้ “มาสานต่อเหตุการณ์ที่ลานจอดรถของผับดีไหม” ไดมอนด์ถามอย่างเจ้าเลห์ พอนึกขึ้นได้ร่างกายก็ชาวาบทันที ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นอย่างกับมีไข้สูง ไดมอนด์ใช้สายตาจ้องมองอย่างเร่าร้อน เขาจ้องที่ริมฝีปากบางของฉันแล้วก็แลบลิ้นเลียฟันบนที่เรียงอย่างเป็นระเบียบของตัวเอง ฉันรอบกลืนน้ำลายดัง เอื้อก.. ตัวแข็งเหมือนโดนสาบให้เป็นหินน “ฉะ...ฉันจะไปอาบน้ำ” ฉันพูดตะกุกตะกัก “งั้นก็รีบไปเลย ก่อนที่จะไม่ได้อาบ” ไดมอนด์บอกแอบขมขู่มานิดๆ เขาขยับถอยออกไปยืนหน้าตู้เสื้อผ้า พอเห็นดังนั้นฉันก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ฉันยืนพิงประตูห้องน้ำ ใจยังเต้นตุบๆ ไม่หาย อยู่ใกล้ไม่ได้เลยอันตรายจริงๆ ฉันยืนส่องกระจกจับหน้าตัวเอง ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นสีแดงโดยที่ไม่ต้องปัดแก้ม อีมอนด์บ้า... เกือบไปแล้ว! ผมยืนถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อของขวัญเดินเข้าห้องน้ำไป หันไปดูให้แน่ใจว่าของขวัญปิดประตูห้องน้ำสนิท ผมรีบเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วแกะรูปที่ติดไว้กับกระจกด้านในตู้ออกอย่างเร่งรีบ สงสัยล่ะสิ ว่ารูปใคร.. ก็รูปคนที่อยู่ในห้องน้ำนั้นแหละ ของขวัญ ผมแอบถ่ายรูปเธอไว้โดยที่เธอไม่เคยรู้เลย แม้แต่ไอ้ไทด์ก็ไม่รู้ วันแรกที่ได้เจอของขวัญ ใบหน้าหวานๆ กับรอยยิ้มแสนสวยก็เข้ามาตรึงอยู่ในใจตั้งแต่แรกเห็น จากที่ไม่อยากเข้าเรียน ก็เข้าทุกคาบ สาเหตุที่ย้ายโรงเรียนก็เพราะผมกับไอ้ไทด์ขี้เกียจแหละครับ ไม่เข้าห้องเรียนชวนกันโดดเรียนตลอด ผมมักจะโดดเรียนไปจับกลุ่มเล่นดนตรีกับเพื่อนๆ หรือไม่ก็ร้องคาราโอเกะ แต่มันก็บ่อยไปทำให้เสียการเรียนจนพ่อผมกับพ่อของไทด์ปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี เพื่อให้พวกผมยอมเข้าเรียนจะได้เรียนจบพร้อมเพื่อนคนอื่นๆ แล้วพ่อของขวัญก็แนะนำให้มาเข้าเรียนที่เดียวกันกับลูกสาวตัวเอง เพราะเห็นว่าไทด์กับของขวัญเป็นเพื่อนสนิทกัน น่าจะแนะนำอะไรดีๆ พอให้พวกผมสนใจได้บ้าง และมันก็ได้ผล เพราะผมยอมเข้าเรียนทุกวิชายิ่งได้อยู่ห้องเรียนเดียวกันอีก ผมยิ่งไม่อยากโดดเรียนไปไหนเลยล่ะ ไอ้ไทด์ก็ชวนโดดเรียนทุกวันแต่ผมก็ปฏิเสธ พอผมไม่ไปไทด์ก็เลยไม่โดดเรียน ผมแอบถ่ายรูปของขวัญทุกช่วงเวลาที่มีโอกาสโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลย พอใกล้จะจบ ม.6 ผมก็ถูกทาบทามให้ไปเทสเสียงที่ค่ายเพลง LayMusic ผมเข้าตาเฮียเรย์ เขาชอบสไตล์ของผม และก็ได้เซ็นสัญญาเป็นศิลปินในค่ายเฮียเรย์ พอได้เป็นศิลปินผมก็เริ่มห่างๆ เพื่อน แต่ก็ไม่ได้หายขาด ยังติดต่อกันเหมือนเดิม พอเข้ามหาลัยผมก็ตามของขวัญมาอีก ทุกครั้งที่ว่างผมจะแอบตามดูของขวัญ ถึงได้รู้ว่าเธอพักอยู่ไหนกับใคร บางครั้งก็แอบหลอกถามเพื่อนผู้หญิงที่เรียนคณะเดียวกันกับของขวัญ ซึ่งก็แลกมาด้วยการเปลืองตัวนิดๆ ทำยังไงได้ล่ะ มันเป็นสันดานไปแล้ว “ว้าย...” ผมสะดุ้งตกใจกับเสียงร้องของขวัญ เธอนุ่งเพียงผ้าขนหนูผื่นเดียวออกมาจากห้องน้ำ แล้วเจอผมนั่งอยู่ เธอจึงถอยหลังกลับเข้าไปในห้องน้ำ “เป็นอะไร” ผมแกล้งทำเป็นพูดด้วยเสียงราบเรียบให้ดูปกติที่สุด “นายออกไปซิ ฉันจะใส่เสื้อผ้า” ของขวัญตะโกนออกมาจากห้องน้ำ “ฉันวางเสื้อไว้ที่เตียงนะ” ผมบอกของขวัญเสร็จก็รีบเดินออกมา หยิบเสื้อผ้าของตัวเองติดมือมาด้วยเพื่อไปอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านนอก ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่กลัว ฉันก็กลัวใจตัวเองเหมือนกัน กลัวจะห้ามใจไม่อยู่ กลิ่นตัวก็ชั่งยั่วยวนเหลือเกิน พออาบน้ำเสร็จผมก็มานั่งเล่นที่โซฟา “เสร็จแล้ว” ของขวัญเดินออกมาจากห้องนอนของผม เธอใส่เสื้อยืดตัวยาวคลุมเข่าพอดี เสื้อมันตัวใหญ่รึคนมันตัวเล็กว่ะ เห็นแล้วมันน่าขย้ำจริงๆ “แล้วข้างล่างใส่อะไรหรือเปล่านั่น” ผมแกล้งถามแหย่เล่นไปงั้น แต่ของขวัญกับหลุบตาลงต่ำหน้าแดงอย่างเขินอาย เชี้ยแล้วไง ไม่ใส่อะไรด้วย “ฉันจะนอนแล้ว นายห้ามเข้ามาเด็ดขาด เข้าใจไหม” ของขวัญชี้นิ้วสั่งห้ามอย่างกล้าๆ กลัว ๆ “แล้วฉันจะนอนไหนล่ะ” ผมนั่งเอามือค้ำหัวเอียงหน้ามองเล็กน้อย “ก็แล้วแต่นายสิ” ของขวัญบอก “งั้น...นอนกับเธอได้ไหมล่ะ” ผมลองเชิงถาม “ไม่ได้!” รู้คำตอบอยู่แล้วแหละ ถามไปงั้นเผื่อฟลุค “งั้นฉันไปนอนห้องไทด์ก็แล้วกัน ปานนี้มันคงกลับมาแล้ว ล็อกประตูด้วย ฉันไปล่ะ” ผมบอกของขวัญเสร็จก็ลุกขึ้นเดินออกมาเลย ผมก็ไม่ไว้ใจตัวเองเหมือนกัน ไม่กล้าที่จะอยู่ร่วมห้องกับของขวัญ กลัวจะยั้งใจไม่อยู่ ไปนอนห้องไทด์แล้วกันมันมีห้องนอนเยอะ ผมกดลิฟต์ขึ้นมาอีกหนึ่งชั้น ติ่งต่อง! ........... เงียบ ติ่งต่อง! ........... ยังไม่มาอีกเหรอวะ! ผมตั้งท่าจะกดกริ่งอีกรอบบ ผลึก! ประตูถูกเปิดออกซะก่อน “อะไรของมึง มากดกริ่งเล่นทำเชี้ยไร” เปิดประตูออกมาก็ด่ากูซะ ไอ้นี่ “กูนอนด้วย” ผมบอกไทด์ “แล้วห้องมึงล่ะ” ไทด์ถาม คิ้วมันขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย “ของขวัญนอน” ผมตอบ แล้วก็หลบสายตาไทด์ เพราะมันจ้องจับผิดอยู่ ผมเลยเดินเลี่ยงเข้าห้องมัน “นี่มึงไม่ได้ไปส่งของขวัญเหรอ” ไทด์ถามอย่างสงสัย “ก็กูเมา กลัวไปส่งไม่ถึงที่” ผมแกล้งแถไปเรื่อย กรอกตาเซไปทางอื่นไม่กล้าสบตามัน “มึงมีอะไรหรือเปล่า” แล้วมันก็ไม่รอดพ้นสายตาไทด์ไปได้ “ไม่มี” ผมเดินเลี่ยงมันไปที่บาร์ นั่งลงที่เก้าอี้ทรงสูงหยิบเหล้าออกมาเทใส่แก้วยกขึ้นมาดื่ม “มึงไม่เนียน บอกกูมาซะดี ๆ” ไทด์มองอย่างจับผิด “ไม่รู้ว่ะ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน” ผมตอบจากใจจริง ไม่รู้จะเริ่มยังไง “งั้นกูจะถามแล้วมึงก็ตอบตามความจริง” ไทด์บอก “อะไร” เวลามันทำสีหน้าจริงใจทีไร อึดอัดทุกที มันชอบรู้ทันทุกเรื่อง “ทำไมมึงไม่ไปส่งของขวัญ” ไทด์ถาม พร้อมกับเดินมาเทเหล้าใส่แก้วดื่มบ้าง “ไม่รู้ว่ะ กูรู้สึกโกธรตัวเองที่เป็นต้นเหตุทำให้ของขวัญเจ็บตัว ก็เลยพามาที่นี่” ผมกลัวว่ายัยสองคนนั้นจะทำร้ายเธออีก “แล้วมึงมานอนห้องกูทำไม” ไทด์จ้องหน้าผมนิ่ง “กู...” ตอบมันไม่ได้ซะงั้น “มึงคิดอะไรอยู่ก็พูดออกมาตรงๆ ตามความรู้สึกของมึง ไดมอนด์” ไทด์ถามอย่างจริงจัง “กูกลัว...จะห้ามใจตัวเองไม่อยู่ กลัวจะทำอะไรตามใจตัวเอง” ผมไม่กล้าสบตาไทด์เลยตอนนี้ “มึงชอบของขวัญ ใช่ไหม” ไทด์จ้องตาผมเขม็ง “ไม่รู้ดิ ไม่แน่ใจ ของขวัญยังอ่อนต่อโลกมาก กูไม่อยากทำให้ของขวัญต้องแปดเปื้อนเพราะคนเลวๆ อย่างกู มันดูไม่ค่อยจะเหมาะสมหรือคู่ควร” ผมคิดอย่างที่พูดจริงผมไม่ใช่สุภาพบุรุษอย่างที่ผู้หญิงดีๆ ต้องการ “เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม คู่ควรหรือไม่คู่ควรใครเป็นคนกำหนดวะ แต่ถ้าของขวัญรู้สึกเช่นเดียวกับมึงล่ะ มึงจะถอยหรือเดินหน้า” ไทด์ถาม นั่นสินะ ถ้าของขวัญคิดเหมือนกันกับผมล่ะ แต่จะรู้ได้ไง “แล้วกูต้องทำไง” ผมถามไทด์อย่างจริงจัง “ก่อนอื่น มึงก็เลิกเหี้ยได้แล้ว เรื่องผู้หญิงก็เบาๆ ลงหน่อย ของขวัญมันก็เพื่อนกู และกูก็อยากให้ของขวัญเจอคนดีๆ ที่รักจริง ไม่ได้หวังแค่หลอกฟัน เพราะถ้ามึงทำอย่างนั้นก็.... ระวังตีนกูด้วย” ไทด์บอกผมอย่างจริงจังแถมขู่นิดๆ “กูจะทำได้ไหมว่ะ” ผมไม่ค่อยมั่นใจเลย... “มึงก็ไม่ได้เหี้ยไปซะทุกเรื่องหรอก” ไทด์ตบบ่าผมอย่างให้กำลังใจ “ขอบใจ” ผมบอกไทด์ ผมควรจะเลิกลอยไปลอยมาอย่างที่พ่อแม่แล้วก็พี่ไลลาบอกแล้วล่ะ สนุกมาพอแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD