“นิริน!”
นิรินสะดุ้งตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงของเพื่อนสนิทที่กำลังร้องเรียกในขณะที่กำลังนั่งเหม่อลอยคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
“เรียกทำไมวดี ตกใจหมดเลย”
“ฉันเรียกแกตั้งนานแล้วนะ แกนั่นแหละมัวใจลอยคิดอะไรอยู่” วดีถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นท่าทางของนิรินแปลกไป คล้ายกับคิดอะไรตลอดเวลา
“ฉันติดต่อพี่หิรัญไม่ได้มาสองวันแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง”
“เขาคงติดงานสำคัญอยู่หรือเปล่า อีกหน่อยก็คงโทรกลับเองนั่นแหละ”
“แต่ฉันรู้สึกเป็นห่วงยังไงไม่รู้” คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ เพราะตั้งแต่ที่กลับจากคลับก็ไม่รู้ว่าเผลอไปทำอะไรให้เขาโกรธหรือไม่พอใจหรือเปล่าถึงได้ขาดการติดต่อหายไปแบบนี้
“ถ้าเป็นห่วงก็ไปหาเขาสิ แกรู้จักคอนโดเขาอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“มันจะดีแน่เหรอ ฉันไม่อยากดูวุ่นวายในสายตาเขานะ”
“แต่แกเป็นแฟนเขา แค่ไปหาที่คอนโดทำไมจะทำไม่ได้”
“…..”
“ลองไปหาเขาดู จะได้รู้กันไปเลยว่าทำไมจู่ๆ ถึงหายไป”
“ถึงแล้วครับ” เสียงของลุงแท็กซี่ปลุกให้คนตัวเล็กตื่นจากภวังค์เมื่อรถเคลื่อนตัวมาจอดหน้าคอนโดหรูที่หิรัญอาศัยอยู่
“ขอบคุณค่ะ” เธอหยิบเงินแบงก์ห้าร้อยออกจากกระเป๋าเพื่อจ่ายค่ารถ ก่อนจะเปิดประตูเดินลงมาโดยไม่รอรับเงินทอน
ก๊อก! ก๊อก! ร่างบางยืนเคาะประตูเพื่อส่งสัญญาณเรียกคนที่อยู่ด้านใน ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นบานประตูก็ถูกเปิดออก
“มาหาใคร?”
นิรินหยุดชะงักไปชั่วขณะเมื่อเห็นว่าคนที่เดินมาเปิดประตูไม่ใช่แฟนหนุ่มของเธอ แต่เป็นผู้หญิงสาวสวยที่อยู่ในชุดนักศึกษาเช่นเดียวกับเธอ
“เอ่อ…ขอโทษค่ะ สงสัยมาผิดห้อง” คนตัวเล็กรีบก้มหัวขอโทษอย่างเลิ่กลั่ก เธออาจใจลอยจนไม่ทันมองว่ามาผิดห้อง
“ใครมา”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะพี่หิรัญ เห็นบอกว่าเคาะผิดห้อง”
สองขาเรียวหยุดชะงักเมื่อได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสอง
เธอค่อยๆ หันหลังกลับไปมอง ก่อนจะเห็นว่าเป็นหิรัญที่ยืนอยู่ข้างๆ ผู้หญิงคนนั้น ท่อนล่างของเขามีเพียงแค่ผ้าขนหนูที่พันรอบเอวไว้อย่างหมิ่นเหม่
“พี่หิรัญ” หัวใจดวงน้อยบีบรัดแน่นจนรู้สึกหายใจลำบากเมื่อภาพที่เห็นตรงหน้าคือเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝัน ผู้ชายคนนั้นคือแฟนของเธอ
“…..” ใบหน้าหล่อเหลาไม่แสดงอาการอะไรออกมานอกจากสีหน้าเรียบเฉย เขายืนมองภาพของแฟนสาวอยู่แบบนั้นโดยไม่พูดอะไร
“กำลังจะกลับไม่ใช่เหรอ รีบไปสิ”
“งั้นหลินกลับก่อนนะคะ”
“นี่มันอะไรกันคะ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครแล้วทำไมถึงมาอยู่กับพี่ในห้องนี้!?” นิรินถามเสียงสั่น เมื่อผู้หญิงคนนั้นเดินออกไปแล้ว
เธอพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติมากที่สุด ถึงแม้ว่าภายในใจจะคิดไปเองต่างๆ นานา
“เป็นเพื่อนพี่เอง พอดีว่าเรามีเรื่องงานต้องคุยกันนิดหน่อย พี่เลยให้เขามาหาที่คอนโด”
“นะ…หนูไม่เชื่อ พี่นอกใจหนูเหรอ?”
“อย่ามางี่เง่าไม่เข้าเรื่องนะนิริน แค่พี่ทำงานก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว หนูยังจะมาหาเรื่องพี่อีก”
“พี่กำลังโกหกหนูอยู่หรือเปล่า”
“หนูกำลังจับผิดพี่อยู่นะ”
“ละ…แล้วพี่ทำอะไรผิดหรือเปล่าคะ?” เธอถามทั้งน้ำตา พยายามคิดหาเหตุผลว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง เธอแค่เข้าใจผิด เขาไม่ได้มีคนอื่น เขาไม่ได้นอกใจเธอ
“ถ้ามาแล้วชวนทะเลาะก็กลับไปได้แล้ว ตอนนี้พี่เหนื่อยพี่ไม่อยากทะเลาะกับหนู!”
“ฮึกก…”
“ถ้าหนูยังทำตัวงี่เง่าน่ารำคาญอยู่แบบนี้ พี่ว่าเราเลิกกันเถอะ!”
“ไม่เอา หนูไม่เลิก!” หญิงสาวร้องไห้วิ่งเข้าไปกอดแฟนหนุ่มไว้แน่นไม่ยอมปล่อย บางทีอาจจะเป็นเธอเองที่ทำตัวน่ารำคาญไม่ไว้ใจเขาจนทำให้ทะเลาะกัน “หนูรักพี่ พี่อย่าเลิกกับหนูเลยนะ”
“ถ้าไม่อยากเลิกกับพี่ก็อย่างี่เง่าแบบนี้อีก พี่ไม่ชอบ!”
“นะ…หนูสัญญาว่าจะไม่หาเรื่องพี่อีก พี่อย่าโกรธหนูได้ไหม”
หญิงสาวซุกใบหน้าลงบนแผงอกแกร่ง หิรัญเป็นเหมือนรักแรกของเธอ ยังไม่พร้อมถ้าเกิดว่าจะต้องเสียเขาไปจริงๆ
“พี่ก็รักหนู ไม่ได้อยากเลิกกับหนูเลยสักนิด” มือหนาเลื่อนไปประคองใบหน้าแสนหวานด้วยความหวงแหนก่อนจะโน้มริมฝีปากลงไปจูบเธอเพื่อปลอบโยน
“อื้อออ” เล็บสวยจิกลงบนท่อนแขนแกร่งเมื่อริมฝีปากบางถูกชายหนุ่มจูบอย่างดูดดื่มจนเธอหลงมัวเมาอยู่กับสัมผัสที่เขามอบให้
“ไม่ได้เจอตั้งหลายวัน คิดถึงหนูจนใจจะขาด คืนนี้อยู่กับพี่ได้ไหม?”
“…..” เธอพยักหน้ายอมรับแทนคำตอบ แล้วยอมให้เขาตักตวงความสุขบนร่างกายของเธอจนพอใจ
“เด็กดี~”
หลายสัปดาห์ผ่านไป…
ฟอดดดด สันจมูกโด่งคมกดจูบลงบนแก้มนวลอย่างแรงหลายครั้งด้วยความคิดถึง ยิ่งนานวันดูเหมือนว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อนิรินจะเพิ่มพูนมากขึ้นเรื่อยๆ ต่างจากอีกฝ่ายที่ค่อยๆ ลดน้อยลงไปเพื่อรอวันหมด
“คิดถึงจัง ทำอะไรอยู่ครับ?”
“กำลังนั่งถักตุ๊กตาอยู่ค่ะ พี่ว่าน่ารักไหม?” นิรินยื่นตุ๊กตาหมีสีชมพูที่เธอเป็นคนถักเองกับมือให้ชายหนุ่มดู เธอมักจะใช้เวลาว่างเพื่อทำมัน
“น่ารักเหมือนหนูเลย”
“หนูให้พี่เก็บไว้นะ มันเปรียบเสมือนตัวแทนของหนู ถ้าพี่คิดถึงหนูก็หยิบมันมากอดไว้ค่ะ”
“ทำไมจู่ๆ ถึงพูดแบบนี้ล่ะ” หิรัญถามด้วยความประหลาดใจ เมื่อจู่ๆ เธอก็พูดเหมือนว่าจะไม่อยู่กับเขาอีกแล้ว
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูก็พูดไปเรื่อย…ว่าแต่พี่หายไปไหนมาทั้งวัน หนูโทรไปก็ไม่ยอมรับสาย”
“ติดประชุมอยู่ครับพี่ ขอโทษที่ไม่ได้โทรบอกนะ พอดีแบตหมด”
“อ่อ…ค่ะ” เธอพยักหน้าเข้าใจอย่างไม่เรื่องมาก เพราะไม่ว่าเขาจะออกไปไหน แต่สุดท้ายก็ยังกลับมานอนกอดเธออยู่ทุกคืน “แล้วพี่ทานอะไรมาหรือยังคะ ให้หนูไปทำให้ไหม?”
“พี่กินมาแล้วครับ ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ เสร็จแล้วจะรีบมาอยู่ด้วย”
นิรินได้แต่นั่งมองภาพของชายหนุ่มที่เดินออกไป โดยที่เขาไม่ทันระวังตัวจนทำให้เธอเห็นรอยคริสมาร์กที่ติดอยู่ด้านหลังลำคอ
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่นจนเป็นห้อเลือดเมื่อล้วงไปเจอถุงยางอนามัยจำนวนหลายอันที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของแฟนหนุ่ม
ทุกครั้งที่ผ่านมาหิรัญมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอโดยไม่สวมเครื่องป้องกัน แล้วถุงยางอนามัยพวกนี้มีไว้ทำอะไร…
“ฮึกก~” คนตัวเล็กกลั้นเสียงร้องไห้สะอื้นจนตัวสั่น ที่ผ่านมาเธอรับรู้ว่าเขานอกใจเธอมาโดยตลอด แต่ก็ทำได้แค่เงียบไม่กล้าแม้แต่จะปริปากหรือเอ่ยถาม
‘เธอแค่รอเวลาให้ทำใจได้มากกว่านี้แล้วจะเป็นฝ่ายที่เดินไปจากเขาเอง’